ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
ม่อนแจ่ม แคมปิ้ง รีสอร์ท โอบกอดสายหมอก แอบอิงพิงกายแนบขุนเขา ม่อนแจ่ม (Mon Cham) จ.เชียงใหม่
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  ตุลาคม 03 , 2556

    อากาศหนาวเริ่มถามหาแล้ว แถมเรายังอยู่ใกล้เชียงใหม่ซะด้วย แบบนี้คงต้องหาโอกาสขึ้นภูขึ้นดอยไปสูดอากาศเย็นๆ ให้ฉ่ำปอดดูซักหน่อย แต่จะให้แบกเป้เดินขึ้นดอยไกลๆ ก็คงจะไม่ไหว ขอแบบเดินทางสะดวกๆ หน่อยคงจะดีกว่า หลังจากหาไปหามาก็ได้พบกับ “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย” ที่อำเภอแม่ริม ซึ่งห่างจากตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่เพียง 40 นาที และหากเลยขึ้นไปอีกนิดก็จะเป็น “ม่อนแจ่ม แคมปิ้ง รีสอร์ท” ส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาฯ แห่งนี้นั่นเอง ซึ่งหลายๆ คนมักจะเรียกกันสั้นๆ ว่า “ม่อนแจ่ม” สำหรับชื่อนี้แล้วอาจจะไม่คุ้นหูหรือไม่เป็นที่รู้จักกันเท่าไหร่นัก เนื่องจากม่อนแจ่มเพิ่งจะเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมื่อปี พ.ศ.2552 นี่เอง เรียกได้ว่ายังเป็นที่เที่ยวใหม่อยู่พอสมควรเลยทีเดียว อย่าได้รอช้า...รีบไปกันเลยดีกว่า


    • โพสต์-2
    theTripPacker •  ตุลาคม 03 , 2556

    หลังจากขับรถผ่านเส้นทางอันคดเคี้ยวและลาดชันมาจนถึงบริเวณสันเขา นั่นก็หมายความว่าเรามาถึง “ม่อนแจ่ม แคมปิ้ง รีสอร์ท” เรียบร้อยแล้ว เมื่อหมุนตัวมองไปรอบๆ ทิวทัศน์ที่เห็นก็ทำเอาเราเกือบจะลืมหายใจ เพราะขนาดว่าเรามาในช่วงที่ฝนยังไม่ทันจะสั่งลาดี แต่ลมเย็นๆ และไอหมอกก็พัดผ่านมาทักทายเราอยู่เกือบจะตลอดเวลา เราจึงต้องขอเดินสำรวจให้รอบๆ พื้นที่ซักหน่อย เนื่องจากบนนี้เป็นพื้นที่บนสันเขา จึงทำให้เรามองเห็นวิวกว้างไกลทั้งสองฝั่ง และด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,350 เมตร จึงทำให้ที่ม่อนแจ่มมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แต่ถ้าจะให้สวยที่สุดแนะนำให้มาในช่วงฤดูฝน เพราะจะมีทะเลหมอกหนาๆ ให้ได้ชมกันบ่อยๆ ส่วนในช่วงหน้าหนาวก็สวยไปอีกแบบเพราะจะได้วิวท้องฟ้าใสๆ มองเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวนู่นแน่ะ

    • โพสต์-3
    theTripPacker •  ตุลาคม 03, 2556
    • โพสต์-4
    theTripPacker •  ตุลาคม 03 , 2556

    สำหรับเรื่องที่พักนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะที่ม่อนแจ่มมีบริการที่พักให้เราได้อิงแอบแนบธรรมชาติตั้งลดหลั่นกันไป บนหน้าเขา ซึ่งเต้นท์แต่ละหลังจะมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากพอที่จะไม่ทำให้เรารู้สึก ว่าการนอนเต้นท์นั้นเป็นเรื่องลำบากแต่อย่างใด เพราะในเต้นท์มีทั้งที่นอน หมอน ผ้าห่มอุ่นๆ ไว้กันหนาว ผ้าขนหนู และน้ำดื่ม ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ ตะเกียงและไฟฉาย ข้างๆ กันกับที่ตั้งของเต้นท์จะเป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำพร้อมเครื่องทำน้ำร้อนที่ แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้เรียบร้อย ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้อาบน้ำหรือกลัวว่าจะต้องไปแย่งห้องน้ำกับใครเพราะมี ห้องอาบน้ำส่วนตัวแทบจะทุกเต้นท์เลยก็ว่าได้ และอาณาบริเวณของแต่ละเต้นท์นั้นก็กว้างขวางพอสมควรแถมยังถูกจัดวางไว้ให้ อยู่ห่างกันอย่างพอดิบพอดี จึงทำให้มีบริเวณและศาลานั่งเล่นส่วนตัวที่หน้าเต้นท์ ทีนี้ถ้าใครบอกว่ามาม่อนแจ่มแล้วรู้สึกลำบากขาดความสะดวกสบาย เราคนหนึ่งล่ะที่ต้องของค้านความคิดนี้

    • โพสต์-5
    theTripPacker •  ตุลาคม 03, 2556
    • โพสต์-6
    theTripPacker •  ตุลาคม 03 , 2556

    มาถึงเรื่องปากเรื่องท้องกันบ้าง ได้นอนเต็มอิ่มแล้วก็ต้องเติมท้องให้อิ่มด้วยเช่นกัน แต่ถ้าใครคิดว่าเราจะต้องหอบหิ้วเอาเสบียงอาหารมาให้พะรุงพะรังล่ะก็คง ต้องบอกให้หยุดคิดซะก่อน เพราะที่ม่อนแจ่ม แคมปิ้ง รีสอร์ท มีร้านอาหารไว้คอยบริการเรียบร้อย ที่สำคัญอาหารแต่ละจานยังใช้วัตถุดิบจากโครงการหลวงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นพืช ผัก ผลไม้ กาแฟ ดังนั้นอาหารแต่ละจานจึงสด สะอาด และอร่อยอย่าบอกใคร และแน่นอนเราก็ต้องมีเมนูเด็ดๆ มาแนะนำกันพอให้น้ำลายไหล เช่น น้ำพริกป่าหลัดฉ่อง เมี่ยงม่อนแจ่ม ขาหมูม่อนแจ่ม ต้มยำหมูกรอบใบซอเรล สลัดผักสดๆ จากโครงการหลวงที่มีน้ำสลัดเป็นสูตรเด็ดเฉพาะ ส่วนเมนูอาหารเช้าก็ไม่น้อยหน้า มีให้เลือกมากมายหลายแบบ เช่น ข้าวต้มหมู โจ๊กกะเหรี่ยง วาฟเฟิลอาหารเช้า หรือจะเป็น กาแฟสด ที่เลือกได้ตามใจชอบเลย แต่ถ้าอยากเพิ่มความสดชื่นต้องอย่าลืมสั่ง น้ำลูกฟิกซ์ปั่น รสหวานๆ เย็นๆ คงทำให้ชื่นใจได้ดีทีเดียว อาหารก็อร่อยบวกกับบรรยากาศที่นั่งรอบๆ บริเวณยังมีวิวที่สวยสุดยอด นั่งชมสายหมอกลอยเอื่อยๆ ไปมา สลับกับการละเลียดอาหารไปเรื่อยๆ แค่นี้ความสุขก็อยู่แค่เอื้อมแล้ว

    • โพสต์-7
    theTripPacker •  ตุลาคม 03, 2556
    • โพสต์-8
    theTripPacker •  ตุลาคม 03 , 2556

    หลังจากอิ่มท้องเรียบร้อยแล้ว ก็คงมาถึงเรื่องออกแรงเที่ยวกันบ้าง ในบริเวณของม่อนแจ่ม แคมปิ้ง รีสอร์ท นั้น ได้ถูกจัดตกแต่งเป็นสวนสวย ซึ่งมีปลูกทั้งดอกไม้ พืชผัก ผลไม้ สมุนไพรไม้เมืองหนาวไว้อย่างเป็นสัดส่วน ส่วนหนึ่งก็ปลูกไว้ให้เราได้ชื่นชมความงามและภูมิใจกับความสำเร็จของโครงการ หลวงที่ได้ช่วยเหลือให้เกษตรกรและชาวเขาในไทยได้มีอาชีพสร้างรายได้เลี้ยง ครอบครัว และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นวัตถุดิบที่นำมาใช้ปรุงอาหารขายในร้านอาหารของม่อน แจ่มนั่นเอง และถ้าหากใครมาในช่วงฤดูหนาวก็จะได้ชมความสวยงามของดอกไม้นานาชนิดที่แข่ง กันอวดสีสันของดอก ที่สำคัญจะได้เที่ยวชมไร่สตรอเบอรี่ ในพื้นที่ โครงการหลวงด้วย แต่ถ้าหากยังไม่จุใจหรืออยากจะไปเที่ยวชมแปลงทดลองปลูกผักของศูนย์พัฒนา โครงการหลวงหนองหอยก็ได้ ที่ตั้งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยนั่นอยู่ไม่ไกลจากม่อนแจ่ม แคมปิ้ง รีสอร์ทมากนัก ซึ่งภายในศูนย์ฯ จะมีพืชผักนานาชนิดที่อยู่ในการทดลองของโครงการหลวงปลูกเรียงรายจนเกือบเต็ม บริเวณ และหลังจากที่พืชเหล่านี้ผ่านการทดลองปลูกจนแน่ใจแล้วว่าสามารถให้ผลผลิตที่ สม่ำเสมอและมีราคาต้นทุนสมเหตุสมผลกับราคาตลาด ทางโครงการหลวงจึงจะแนะนำให้เกษตรกรและชาวบ้านในพื้นที่นำไปปลูกต่อไป และนี่คืองานหลักของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยแห่งนี้

    • โพสต์-9
    theTripPacker •  ตุลาคม 03, 2556
    • โพสต์-10
    theTripPacker •  ตุลาคม 03 , 2556

    นอกจากบริเวณของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยที่เปิดให้แวะถ่ายรูปได้โดย ไม่หวงห้ามแล้ว บริเวณใกล้ๆ ม่อนแจ่มยังมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกแห่ง นั่นก็คือบริเวณ “ม่อนล่อง” ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปจากบริเวณรีสอร์ทเล็กน้อย สำหรับใครที่จะขึ้นไปที่จุดนี้แนะนำว่า ควรจะใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อน่าจะดีกว่าเพราะเส้นทางลาดชันอยู่มากพอสมควร แต่ถ้าหากไม่อยากขับรถขึ้นไปเอง ที่หน้ารีสอร์ทก็มีรถกระบะของชาวบ้านมาคอยให้บริการอยู่ ซึ่งที่บริเวณจุดชมวิวม่อนล่องนั้นจัดว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม อีกจุดหนึ่งเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่เช้าวันที่เราอยู่ที่ม่อนแจ่มนั้น พระอาทิตย์เอาแต่หลบอยู่หลังหมอกหนาไม่ยอมออกมาทักทายกัน เลยทำให้เราอดได้ภาพสวยๆ มาฝาก แต่ภาพหมอกหนาๆ ก็ทำให้ได้บรรยากาศไปอีกแบบ แถมอากาศก็ยังหนาวเย็นได้ใจดีจริงๆ เราเลยถือโอกาสสูดไอเย็นให้ฉ่ำปอด ก่อนจะต้องกลับลงไปอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยมลภาวะอีกครั้ง

    ก่อนกลับเราไม่ลืมที่จะแวะซื้องานฝีมือ และพืชผักจากชาวบ้านที่นำมาวางขายอยู่บริเวณหน้าร้านอาหาร อ้อ แอบกระซิบกันนิดนึง ถ้าหากใครเห็นชาวบ้านนำสตรอเบอรี่สดๆ มาวางขายล่ะก็ แนะนำว่าให้ลองซื้อมากินกันดู เพราะสตรอเบอรี่ที่นี่สีแดงสดและหวานมากๆ อร่อยเสียจนเราอยากจะแอบเก็บไว้กินคนเดียวเลยล่ะ... และแล้ว “ม่อนแจ่ม” ก็ถูกจัดเก็บให้เป็นที่หมายสุดประทับใจของเราอีกแห่ง เพราะทุกภาพความงามและทุกความทรงจำยังคงแจ่มชัดอยู่ในใจเราตลอดเวลา

  1. โหลดเพิ่ม