ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
สองมื้ออร่อย The Bridge & Henry J. Bean’s @ อมารี ดอนเมือง ที่นี่มีมากกว่าโรงแรม Amari Don Muang Airport Bangkok จ.กรุงเทพมหานคร
    • โพสต์-1
    นายสองสามก้าว •  กันยายน 17 , 2558

    สองมื้ออร่อย The Bridge & Henry J. Bean’s @ อมารี ดอนเมือง ที่นี่มีมากกว่าโรงแรม

    อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต เป่าเค้กวันเกิดครบรอบ 32 ขวบ เมื่อวันที่เก้าเดือนเก้าที่ผ่านมา ซึ่งคงไม่เกี่ยวอะไรกับผมหรอกครับ หากไม่บังเอิญมิตรสหายจากอมารีพิมพ์ข้อความอิเล็คโทรนิคส์มาหาบอกว่าอยากมีรีวิวพิเศษฉลองวันเกิดสักหน่อย ผมสนใจมาทานมื้ออร่อยที่ห้องอาหารของโรงแรมหรือเปล่า (พาคุณนายมาด้วยได้นะ) แหม... ของฟรีแบบนี้ใครจะปฏิเสธ จิ้มดีดก๊อกแก๊กตอบกลับไปว่าขอเบิกค่าเดินทางได้ไหม มิตรสหายบอกว่าไม่มีปัญหาถ้าโชเฟอร์รถตู้สายรังสิต-วิภาวดี-ลาดพร้าว ยอมเขียนใบเสร็จให้!

    ความจริง อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต คงเป็นโรงแรมคุ้นชินสำหรับคนบินบ่อยๆ เพราะอยู่คู่สนามบินดอนเมืองมานานกว่าสามทศวรรษ แถมทำเลดีที่สุดในย่านนั้น ตรงข้ามอาคาร 1 ของสนามบิน หลังสถานีรถไฟดอนเมือง มีทางเดินเชื่อมต่อจากภายในสนามบินสู่โรงแรม แต่ถึงอย่างนั้นผมเพิ่งรู้เอาคราวนี้แหละว่าที่นี่ไม่ได้มีบริการแค่ห้องพัก ยังมีห้องอาหารแจ่มแหล่มซึ่งเปิดสำหรับแขกคนนอกด้วย และนั่นเป็นเป้าหมายหลักของการไปเยือนคราวนี้ครับ

    คงไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงเรื่องการเดินทางให้เสียเวลา ไปกินอิ่มนอนสบายกันดีกว่า

    แบกกระเป๋าเป้ทำท่าเหมือนเพิ่งลงเครื่อง แต่จริงๆ คือลงรถตู้ ถึงหน้าโรงแรมราวสิบโมงครึ่ง เป็นวันแดดดีมาก โรงแรมหาไม่ยากเลยเพราะมองจากสถานีรถไฟก็เห็นป้ายเด่นอยู่ด้านหลังใกล้ๆ ถ้ามองไม่เจอนี่ต้องพิจารณาสายตาแล้วล่ะ (ฮา...)

    เข้ามาภายในเห็นชัดว่าบรรยากาศของ อมารี ดอนเมือง เป็นโรงแรมสำหรับคนเดินทาง มาติดต่อธุรกิจ ประชุมสัมมนา หรืออะไรที่เป็นเรื่องการงานมากกว่าเที่ยวพักผ่อน ตัวเลานจ์กับล็อบบี้กว้างขวางหรูหราดีไม่ทิ้งมาตรฐานโรงแรมสี่ดาว

    ฝากกระเป๋าไว้กับคอนเซียชก่อนครับ หามุมเก็บภาพสักพักแล้วขึ้นบันไดเลื่อนสู่ชั้นสอง ได้เวลาลันช์บุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหาร เดอะ บริดจ์ (The Bridge) ชื่อแปลตรงความหมายเป๊ะ เพราะตั้งอยู่บนสะพานลอยซึ่งใช้เดินข้ามไปสนามบินดอนเมือง หรือจะใช้แค่ข้ามถนนก็เอาตามสบายใจ โดยในส่วนสะพานที่เชื่อมระหว่างโรงแรมกับสนามบินเขาจัดทำอย่างดี ไม่ใช่อยู่ในสภาพเหมือนสะพานลอยคนข้ามนะ

    ห้องอาหารเดอะ บริดจ์ เปิดทุกวัน 7.00-20.00 น. ใครแวะมาทานที่นี่ก็ได้ไม่จำเป็นต้องพักโรงแรม เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือคนทั่วไปนี่แหละ คนมาใช้สนามบิน รอขึ้นเครื่อง รับส่งญาติเพื่อนฝูง และพิเศษคือเวลา 11.00-14.30 น. ของทุกวัน เขามีบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน ราคาต่อหัว 170 บาท พูดตรงๆ สำหรับบุฟเฟ่ต์ระดับอมารีถือว่าถูกมาก เท่าที่สังเกตลูกค้าจีนเยอะที่สุด รองลงมาคือคนไทยกับฝรั่งไล่เรียงกัน

    อาหารคาวหวานจัดเต็ม ทั้งแบบไทยและเทศ วันที่ผมไปกิน ขนมจีนมีน้ำเงี้ยวกับแกงเขียวหวานไก่ รสชาติไม่ผิดหวัง กับข้าวมีลาบหมูวุ้นเส้น เนื้อซอสพริกไทยดำ ไก่ซอสเห็ด หอยแมลงภู่อบสมุนไพร ปลาทอดสามรส ต้มยำปลา นี่แต่ยกตัวอย่างนะเนี่ย อืม... ยังมีซุปครีมเห็ดไว้กินกับขนมปังด้วย

    แบบเบาๆ มีสลัดผัก ฟรุตสลัด ผลไม้ แก้วมังกร แคนตาลูป องุ่น ขนมหวานอีกหลายอย่าง เอาเป็นว่ายังไงก็เต็มอิ่มพุงกางแน่นอน

    หากอยากสั่งเค้ก กาแฟ เครื่องดื่มอื่น นอกจากน้ำเปล่ากับน้ำอัดลมเสียตังค์เพิ่มตามสบายครับ ส่วนนอกเวลาบุฟเฟ่ต์เขาเสิร์ฟอาหารตามออร์เดอร์ ราคาไม่หนัก ถูกกว่าหลายร้านในสนามบินเสียอีก ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนถึงเดินมากินกันที่นี่เพียบ

    เอาล่ะ โม้มามากพอ ขอเวลาผมกินบ้างนะ

    หลังอิ่มหนำแรกผ่านพ้นจึงได้เวลาเข้าห้องพัก เช็คอินปุ๊บขึ้นลิฟต์ตัวปลิวเข้าห้องพักชั้นห้าบนสุด สัมภาระกับขาตั้งกล้องรออยู่ที่ห้อง พอเปิดประตูเห็นสภาพห้องแล้วหนักใจจริงๆ ... จะใช้พื้นที่ยังไงหมดล่ะเนี่ย เขา เล่นจัดห้องแกรนด์ ดีลักซ์ ให้เลย

    อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ พร้อมอยู่ เก๋ไก๋ขึ้นด้วยการมีเตารีดกับโต๊ะรีดผ้าให้ ชัดเจนว่ากลุ่มลูกค้าเป็นแบบไหน ห้องน้ำกว้างสบายมากมีอ่างอาบน้ำให้แช่ด้วย แปลกใจนิดหน่อยตรงไม่มีสายฉีดชำระ สอบถามได้ความว่าเฉพาะห้องประเภทนี้ ด้วยตำแหน่งการวางสุขภัณฑ์ต่างๆ แต่ห้องแบบอื่นมีปกติ

    และอย่างที่บอกครับว่า อมารี ดอนเมืองมีทั้งหมดห้าชั้น แต่เฉพาะชั้นห้าเท่านั้นนะที่มีระเบียง

    รูปแบบโรงแรมเห็นชัดว่าเป็นอาคารสมัยเก่าเพราะสร้างมาตั้งนานนี่นะ ทว่าผ่านการรีโนเวทเสียใหม่สะอาดสะอ้านน่าพักไม่น้อย การันตีด้วยการมีละครหลายเรื่องมาใช้เป็นโลเกชั่นถ่ายทำ วันที่ผมไปมีถ่ายกันในห้องชั้นห้านี่ด้วย ไม่รู้เรื่องอะไรแต่จากเสียงพอเดาไว้ว่าน่าจะเป็นฉากตัวร้ายพยายามปล้ำนางเอกประมาณนั้น รวมแค่ห้าชั้นนี้เชื่อหรือเปล่าว่ามีมากกว่าสี่ร้อยห้อง แต่ละชั้นเดินไม่จำทิศอาจมีหลงทาง (ฮา..)

    มีเวลาขอดูห้องแบบอื่นสักนิด เขาเปิดให้ชมทั้งหมดสามห้องคือ ดีลักซ์ พูลวิว ดีลักซ์ แฟมิลี่ และห้องใหญ่สุดหรูสุดของโรงแรมคือ วัน เบดรูม สวีท มีห้องนอนแยกจากห้องนั่งเล่น เป็นห้องสำหรับคู่รักที่มาจัดงานแต่งงานในโรงแรม แต่แขกทั่วไปถ้าบังเอิญห้องพักเต็ม แล้วพร้อมยอมจ่ายเขาก็เปิดให้นะ (แหงสิ!)

    เพลินเดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยครับ กลุ่มลูกค้าหลักที่นี่เป็นผู้มาใช้บริการสนามบิน เจ้าหน้าที่สายการบิน ทำงานเกี่ยวกับการบิน หรือกรุ๊ปสัมมนาทั้งจากกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยเฉพาะหน่วยงานราชการ เพราะเขามีห้องประชุมใหญ่โตโอ่อ่า กับอีกกลุ่มคือพวกมาจัดงานเลี้ยง งานแต่งงาน ลักษณะของโรงแรมจึงไม่เหมือนโรงแรมเพื่อการพักผ่อนท่องเที่ยวเท่าไหร่ ตอนไปดูห้องจัดเลี้ยงเขากำลังเตรียมงานแต่งงานด้วย

    ฟิตเนสก็มีนะ ส่วนมากคนมาเล่นจะเป็นกลุ่มที่มาประชุม อบรม หรือสัมมนากันหลายวัน

    เดินมาถึงบริเวณสระว่ายน้ำซึ่งอยู่ชั้นสอง หามุมถ่ายภาพสักหน่อย ตัวอาคารข้างนอกถึงจะดูรูปแบบสมัยเก่า แต่ด้านในรับรองว่าใหม่กิ๊ก

    ตอนเช็คอินได้บัตรแลกเครื่องดื่มฟรีที่เลานจ์มาสองใบเลยไปนั่งชิลสักนิด สามารถแลกเบียร์ขวดเล็ก น้ำอัดลม หรือกาแฟเย็น คิดเรื่องราคาเบียร์ย่อมคุ้มที่สุด แต่ในเวลานี้ขอแค่โค้กเย็นฉ่ำก็เหลือๆ

    เอ้อระเหยลอยชายถ่ายรูปริมสระน้ำ แล้วค่อยขึ้นไปนอนตากแอร์สักพัก ก็ถึงเวลาอีกหนึ่งมื้ออร่อยตอนเย็น (เหมือนของกลางวันยังย่อยไม่หมดเลยแฮะ) ที่ห้องอาหาร เฮนรี่ เจ. บีนส์ บาร์ แอนด์ กริลล์ (Henry J.Bean’s Bar and Grill) สไตล์เท็กซัสอเมริกันมาเน้นๆ

    ที่นี่เป็นอีกห้องอาหารของ อมารี ดอนเมือง ซึ่งเปิดให้คนทั่วไปมาใช้บริการโดยไม่จำเป็นต้องเป็นแขกเข้าพักครับ เปิดทุกวันตั้งแต่ 17.00 น. วันธรรมดาปิดตีหนึ่ง ศุกร์กับเสาร์ปิดตีสอง ด้วยเพราะโลเกชั่นตั้งอยู่ภายในตัวโรงแรม (หน้าห้องจัดเลี้ยง) คนเลยไม่ค่อยรู้ว่าเราสามารถเข้ามาทานอาหารที่นี่ได้ ทั้งที่เป็นอีกออปชั่นน่าสนใจมากหากใครมองหาร้านอาหารดินเนอร์อร่อยๆ กับบรรยากาศเก๋ๆ ย่านดอนเมือง

    ร้านนี้สไตล์เท็กซัสอเมริกันจัดเต็ม เป็นเชนจากสหรัฐที่มีหลายสาขาในหลายทวีป ส่วนมากจะอยู่ในโรงแรมใกล้สนามบินแบบที่นี่แหละ อาหารหลากหลายดี ตะวันตก อเมริกัน เม็กซิกัน หรือแม้แต่ญี่ปุ่น ขอให้เข้าค่ายปิ้งๆ ย่างๆ เถอะ ส่วนเครื่องดื่มวิสกี้ เบียร์สด จัดหนักกันได้เลย

    โต๊ะของเราจองไว้เรียบร้อย เมนูมีสี่อย่าง ออร์เดิร์ฟคือ แฮ็คส์ สแน็ค ในจานมีแป้งนาโช่ ปีกไก่ซอสบาร์บีคิว กับหอมชุบแป้งทอดชิ้นโต ขอกระซิบให้ฟังว่าไก่อร่อยมาก ส่วนนาโช่กินเพลินๆ สำหรับจานหลักเป็นซี่โครงหมูบาร์บีคิวพร้อมมันฝรั่งทอด เมนูนี้อร่อยเด็ดเช่นกันแลกกับความลำบากในการเลาะซี่โครง (ฮา...) และ ปลาหิมะซอสเทอริยากิพร้อมข้าวญี่ปุ่น รสชาติเยี่ยมยอดทีเดียว

    แต่เด็ดสุดคือ ฟาฮิตา (Fajita) อาหารเท็กซัส-เม็กซิกัน เป็นเนื้อไก่กระทะร้อน (เลือกได้ว่าจะเอาเนื้อวัวหรือไก่) เสิร์ฟพร้อมแผ่นแป้งตอร์ตีย่ากลมๆ เครื่องเคียง และซอสหลากชนิด วิธีกินก็นำผัก ซอส เนื้อไก่ เครื่องเคียงตักใส่บนแป้งตามใจชอบ จากนั้นม้วนให้หน้าตาออกมาเหมือนเคบับ เป็นอะไรที่เลิศมากสำหรับผม เพราะชอบกินอาหารประเภทนี้อยู่แล้ว

    ช่วงเวลาราวทุ่มถึงสามทุ่ม ยังมีดนตรีสดสไตล์สบายๆ ให้ฟังด้วย เขามีเล่นทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ หรือจะมานั่งดูบอลเชียร์บอลที่นี่ก็ไม่เลว

    อาหารอร่อย บรรยากาศดี ดนตรีเพราะ เพอร์เฟกต์มากสำหรับดินเนอร์มื้อนี้ครับ เป็นบุญปากของผมกับคุณนายอีกครั้งหนึ่ง กินอิ่มนอนหลับสบายมีความสุขกับวันดีๆ

    ที่จริง อมารี ดอนเมือง ยังมีห้องอาหารอีกแห่งคือ เซพพลิน (Zeppelin) เป็นทั้งห้องอาหารเช้า และลันช์บุฟเฟ่ต์เช่นเดียวกับ เดอะ บริดจ์ แต่ไลน์อาหารจะโก้หรูกว่าและขยับราคาขึ้นอีกระดับ กลุ่มลูกค้ามักเป็นคนเข้าพักโรงแรม หรือกรุ๊ปประชุมสัมมนา ผมเลยขอแค่เก็บภาพมาให้ชมพอหอมปากหอมคอแล้วกัน ทริปนี้เน้นห้องอาหารที่คนนอกไม่ได้พักโรงแรมเข้ามากินอย่างสะดวกใจอย่าง เดอะ บริดจ์ กับ เฮนรี่ เจ. บีนส์ จะดีกว่า

    แม้เป็นเพียงการเข้าพักช่วงสั้นๆ แต่ช่วยให้ผมเห็นมุมมองแตกต่างของ อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต ได้รู้ว่าที่นี่ไม่ได้ต้อนรับเฉพาะผู้เข้าพักเท่านั้นนะ ยังมีห้องอาหารอร่อยที่เราสามารถแวะมากินได้ทุกเมื่อ คุยกับคุณนายว่าหากมีโอกาสแวบมาแถวนี้ ต้องบินที่ดอนเมืองหรือขึ้นลงรถไฟที่นี่ ว่าจะกลับมาเป็นลูกค้าเต็มตัวสักที ยังติดใจอยู่ครับกับอาหารที่ขอบอกว่ารสชาติช่างบังเอิญถูกปากผมพอดีเหลือเกิน

    ----------------------------------------------------------------------------------

    อยากคุยเรื่อยเปื่อยเรื่องท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล (ถ้าผมมีให้นะ) หรือชวนเที่ยว ยินดียิ่งนะครับ

    www.facebook.com/alifeatraveller

    หรือ

    alifeatraveller.wordpress.com

    ----------------------------------------------------------------------------------

    • โพสต์-2
    Jaturaporn •  กันยายน 18 , 2558

    รีวิว

    อยากรีวิว ทำไม่เป็น

    • นายสองสามก้าว  @Jaturaporn เขียนในนี้ไม่ยากครับ เขามีอุปกรณ์ให้พร้อม
      หากอยากเริ่มเขียนง่ายๆ ก็นึกในลักษณะใช้ภาพเล่าเรื่อง แล้วเขียนบรรยายจากภาพว่าในภาพคืออะไร ที่ไหน น่ะครับ ^^
      18 กันยายน 2558 12:37:56