Luxury Life / ชีวิตติดหรู @ อมารี พัทยา

“อย่าปฏิเสธโอกาสในการใช้ชีวิต” ถ้าไม่ใช่เคยอ่านเจอหรือฟังจากใคร ก็คงเป็นสิ่งที่ผมคิดเออเองและพยายามทำเอง โอกาสแบบไหนก็ตามแต่ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตซึ่งเราควรเก็บเกี่ยวระหว่างยังมีแรงโลดแล่นบนโลกกว้าง แถมหากเป็นเรื่องการท่องเที่ยวยิ่งห้ามปฏิเสธเด็ดขาด

คงเพราะเวิ่นเว้อในรีวิวโรงแรมอมารี หัวหิน ครั้งก่อนไว้เยอะ (ตามไปดูคลิกโลด >>> www.thetrippacker.com/th/review/หัวหินHuaHin/7716) ทางอมารีเลยตกหลุมพรางสะกิดชวนให้ผมลองมาพักที่ อมารี พัทยา ดูบ้างสิ อัพเกรดความหรูหราไฮไซขึ้นอีกหนึ่งระดับ แน่นอนครับว่าโอกาสหล่นลงตรงหน้าขนาดนี้ใครจะบอกปัดกันเล่า

เห็นใกล้แค่พัทยาเลยวางแผนพักผ่อนสบายๆ สักสองวันหนึ่งคืน เดินทางกับคุณนายประจำกาย อาทิตย์-จันทร์ 26-27 ก.ค. ไปเที่ยวพัทยาง่ายดายไม่ต้องขับรถเองก็ได้ มีรถตู้จากเมืองกรุงตั้งหลายคิวให้เลือก อมารีอยู่ตรงหัวมุมโค้งเลียบหาดพัทยาเหนือ ใกล้วงเวียนปลาโลมา จะลงแยกเข้าพัทยาเหนือหรือทางเข้าตลาดนาเกลือ ถนนสว่างฟ้า ก็ตามสะดวก แล้วค่อยต่อสองแถวแป๊บเดียวถึงโรงแรมแล้ว

ถึงพัทยาท้องฟ้าสดใสแดดแรงใช้ได้เลย ส่วนสภาพท้องทะเลคงไม่ต้องบรรยาย ว่ากันว่าวิธีถ่ายภาพหาดพัทยาให้สวยมีอยู่หนึ่งวิธีครับ คือให้เห็นหาดน้อยที่สุด (ฮา...)

ทุกวันอาทิตย์ ที่มันตรา เรสเตอรองต์ แอนด์ บาร์ ห้องอาหารของอมารี (ได้รับการโหวตให้เป็นอันดับสี่ ทราเวลเลอร์ส ช้อยส์ สำหรับห้องอาหารในประเทศไทยจากเว็บไซต์ทริปแอดไวเซอร์) เขามีบุฟเฟ่ต์บรันช์สุดอลังการ 11.00-15.00 น. ราคาเริ่มต้น 1,690++ นับเป็นบุญของผมกับคุณนายแล้วล่ะที่ได้ลิ้มลองโดยไม่เสียสตางค์ พอถ่ายรูปเล่นใกล้ได้เวลาก็แบกเป้ไปฝากไว้ที่ล็อบบี้แล้วนั่งรถกอล์ฟไปห้องอาหารมันตราซึ่งอยู่ริมถนนกัน

เปิดประตูเข้ามาแล้วเล่นเอาตะลึง... ตึง... ตึง เลยทีเดียว บรรยากาศข้างในหรูหรามาก สต๊าฟฟ์บอกว่าเป็นการตกแต่งผสมผสานระหว่างสไตล์เอเชีย ใช้สีแดงกับดำเป็นธีมหลัก ที่นั่งมีให้เลือกหลายแบบ ผมเข้ามาตอนสิบเอ็ดโมงพอดี ลูกค้าเริ่มทยอยกันมาบ้างแล้ว ส่วนมากเป็นต่างชาติ คนไทยมีแค่หลักสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น

เรื่องอาหารบอกเลยว่าเพียบตามสมควรกับราคาที่เราจ่ายไปนั่นแหละ ปรุงสดทุกอย่าง เขาแยกทั้งหมดเจ็ดครัว ญี่ปุ่น จีน อินเดีย ตะวันตก เมอดิเตอเรเนียน อาหารทะเลสด และ อาหารปิ้งย่าง ละลานตาชนิดเรียกว่าไม่รู้จะกินอะไรก่อนหลังดีเลยล่ะ เห็นบอกว่ามีเมนูสักราวสามร้อยชนิด นอกจากนี้บริเวณบาร์ด้านหน้ายังปรับเป็นโซนอาหารหวาน เลือกหยิบตามใจชอบ ใครอยากลิ้มไวน์หลากหลายยี่ห้อ เขามีบุฟเฟ่ต์ไวน์ด้วยแต่ต้องเสียเงินเพิ่มนะ คนละ 1,490++

มาสำรวจแต่ละครัวดีกว่าเป็นยังไงบ้าง อันนี้ครัวจีน เขาว่า ติ่มซำ เป็ดปักกิ่ง แล้วก็ชุดเป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ เด็ดมากถึงมากที่สุด เพราะฉะนั้นเดี๋ยวเจอกัน

ถัดมาเป็นสเต็กของโปรดผมเลย แค่มองผ่านๆ ก็เล็งไว้แล้วหลายชิ้นแล้ว ต่อด้วยครัวกริลล์ หรือพวกปิ้งย่าง มีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน

ใกล้กันเป็นอาหารอินเดียครับ ใครชอบกลิ่นหอมฉุนของเครื่องเทศ ต้องมาครัวนี้เลย แกงไก่เข้มข้นทานคู่กับนานหลากสูตร อย่าทำเป็นเล่นเชียวเพราะอร่อยจนทำให้ติดใจได้ง่ายๆ

วนไปดูครัวอาหารอิตาเลียน เรียกให้เก๋ก็ว่าเมอร์ดิเตอเรเนียน ผมว่าทีเด็ดอยู่ที่ชีสหลายประเภทซึ่งหาทานไม่ง่าย กินเปล่าๆ ยังอร่อยเลย ส่วนพิซซ่าทำกันเห็นๆ สไตล์อิตาเลียนแท้ รสชาติเข้าถึงต้นตับรับกว่าพิซซ่าตามห้างเยอะ

ส่วนโซนไฮไลท์ทุกคนจ้องตาเป็นมันที่สุดย่อมหนีไม่พ้นซีฟู้ดนั่นแหละครับ กุ้ง กั้ง ปูม้า ปูอะลาสก้า หอยนางรม หอยแมลงภู่ จัดมาเต็ม รับประกันความสด ของลงปุ๊บอีกแป๊บเดียวเกลี้ยง ลงใหม่พักเดียวหายแว้บอีกแล้ว เหนื่อยแทนพนักงานต้องเอามาเติมตลอดเลยแฮะ

ปิดท้ายที่ครัวอาหารญี่ปุ่น ของโปรดของใครหลายคนเช่นกัน ฝีมือเชฟระดับเซียน แต่ละชิ้นนี่น่าเขมือบเหลือเกิน

ทานบุฟเฟ่ตฟ์ที่ห้องอาหารมันตราเลือกโต๊ะตามสบาย แต่ละโต๊ะมีบัตรหมายเลขอยู่ สั่งอาหารแล้วให้บัตรกับพนักงาน เดี๋ยวเขายกมาเสิร์ฟถึงที่ไม่ต้องยืนรอ หรือหากอยากสั่งอะไรพิเศษซึ่งไม่มีอยู่ตรงหน้าก็บอกเชฟแต่ละครัวได้เลย เขาทำให้ทันที การันตีว่าบริการทุกระดับประทับใจ

เอาล่ะ เพ่งเล็งกันมานานพอตัวได้เวลาสวาปามของผมกับคุณนายแล้ว ก็มีสั่งโน่น สั่งนี่ สั่งนั่น สั่งนู่น เยอะแยะจนจำไม่ไหวถ่ายรูปมาไม่หมดเชียว ให้ผมได้นั่งกินสบายๆ หน่อยเถอะครับ ขอร้อง (ฮา...)

ลูบพุงอิ่มแปล้เป็นบุญปากเหลือเกิน อุ้มท้องออกจากห้องอาหารมันตราประมาณบ่ายสอง ได้เวลาเดินเล่นสำรวจและทำความรู้จักกับ อมารี พัทยา เสียหน่อย

มารู้เอาว่าโรงแรมที่นี่แบ่งเป็นสองโซนคือการ์เด้นวิง หรือ อมารี การ์เด้น เป็นอาคารเก่าแก่ดั้งเดิมสูงแค่สี่ชั้น ใช้งานนานมาหลายทศวรรษรีโนเวทมาหลายหน กับโอเชียน ทาวเวอร์ ตึกใหม่สูงตระหง่านโดดเด่น แม้จะเป็นโรงแรมเดียวกันสามารถใช้พื้นที่ส่วนรวมและบริการต่างๆ อย่างคิดส์คลับ ฟิตเนส หรือ สปา ร่วมกัน ทว่าเขามีการแยกล็อบบี้เช็คอินและห้องอาหารเช้าเป็นสัดส่วนครับ และยังมีอีกหนึ่งโซนคือ เอ็กเซ็กคูทีฟ ฟลอร์ อยู่บนสามชั้นสูงสุดของตึกโอเชียนคือ 18-20 มีส่วนต้อนรับกับ ฮอไรซัน คลับ เลาจ์ เพิ่มพิเศษขึ้นต่างหาก

นี่แหละตึกโอเชียน ทาวเวอร์ ปัจจุบันถือเป็นอาคารหลักเชิดหน้าชูตา ใครผ่านไปผ่านมาก็สะดุดตา ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำเก๋ไก๋ให้เล่นด้วยครับ

ส่วนตรงนี้คืออาคารการ์เด้นวิง กับสระว่ายน้ำใหม่ เป็นสระเกลืออยู่ใกล้โซนการ์เด้นมากกว่า แต่เราเลือกมาเล่นน้ำได้ทั้งสองสระ รวมถึงบรรยากาศล็อบบี้และห้องอาหารออร์คิด เทอร์เรซ ของที่พักโซนนี้

ห้องพักของผมกับคุณนายอยู่ที่โอเชียน ทาวเวอร์ ชั้น 18 เอ็กเซ็กคูทีฟ ฟลอร์ (หรูพอไหมล่ะ!) ก่อนเช็คอินมีโอกาสชมห้องอื่นนิดหน่อย มีหลายแบบครับ ดีลักซ์ - แฟมิลี่ - จูเนียร์ สวีท - เอ็กเซ็กคูทีฟ สวีท - ดูเพล็กซ์ ทุกห้องจะเหมือนกันคือมีอ่างอาบน้ำโอเพ่นไม่ได้อยู่ในห้องอาบน้ำ ให้อารมณ์สวีทและสยิวกิ้วพร้อมกันทีเดียวเชียว ยกเว้นแต่ห้องแฟมิลี่นะที่อ่างอาบน้ำอยู่ภายในห้องอาบน้ำ

ตะลึงกับความไฮโซของโรงแรมหอมปากหอมคอแล้วมาถึงคิวของเราสักที ฮอไรซัน คลับ เลาจ์ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 19 เอ็กเซ็กคูทีฟ ฟลอร์ เป็นทั้งที่ต้อนรับส่วนหน้า เช็คอิน ให้แขกนั่งเล่นชมวิวพักผ่อนตามสบาย สุดยอดมาก เรายังสามารถมาทานของว่างและซอฟดริงค์ (เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์) ตลอดทั้งวัน และไม่ต้องถามนะครับเพราะขอบอกเลยว่าทั้งหมดนี้ไม่เสียตังค์เพิ่ม

เช็คอินเรียบร้อยก็เข้าห้องพัก ดีลักซ์ โอเชียน วิว ห้องในฟลอร์นี้แตกต่างจากโซนธรรมดาตรงสีสันของสิ่งของตกแต่งจะเปลี่ยนจากแดง-ขาว เป็น ม่วง-น้ำตาล ส่วนพื้นห้องธรรมดาที่เป็นกระเบื้องจะเปลี่ยนเป็นพื้นไม้ขัดเงาวับ ให้อารมณ์ละมุนละไมมีระดับขึ้นเล็กน้อย ส่วนเรื่องอ่างอาบน้ำแบบโอเพ่นนี่ก็ได้แต่ส่งสายตาให้คุณนายเธออย่างมีเลศนัย (ฮา...)

อีกความพิเศษของเอ็กเซ็คคูทีฟ ฟลอร์ คือทุกวัน 17.30 – 19.30 น. เขาจัดช่วงเวลา Happy Hour ชั่วโมงแห่งความสุข มีอาหารพิเศษเสิร์ฟเพิ่มเติม พร้อมบริการเบียร์ วิสกี้ ไวน์ ค็อกเทล ฟรีตลอดสองชั่วโมง สามารถกินเอาอิ่มไม่ต้องไปหาทานข้าวเย็นที่ไหนต่อเลยเชียวแหละ

วันนี้กินจนท้องไม่รู้สึกหิวเลย ฟาดเรียบทั้งบรันช์ที่มันตรา และแฮปปี้อาวร์ที่ฮอไรซัน คลับ เล้าจ์

โพล้เพล้ค่อยลงมาเดินเล่นที่ริมหาดพัทยาสักพัก รู้สึกว่าไม่มีอะไรเตะตาเท่าไหร่เลยแวบไปห้องอาหารมันตราอีกรอบดีกว่า อิ่มท้องแบบนี้ไม่ได้มาทานอาหารครับ แต่อยากมานั่งฟังเพลงจิบเครื่องดื่มที่บาร์ พาคุณนายมาเปลี่ยนบรรยากาศโรแมนติกสักหน่อย โอกาสใช้ชีวิตหรูหราเช่นนี้มีไม่มากนัก

เก็บภาพห้องอาหารมันตราตอนค่ำมาฝากกันเล็กน้อย เผื่อใครสนใจอยากดินเนอร์ ช่วงตอนเย็นเขาจะเปิดบริการชั้นสองด้วย บรรยากาศเยี่ยมยอดมาก

ห้องไวน์ครับ เข้าไปถ่ายรูปแป๊บเดียวเกือบ (ตัว) แข็ง

มาผ่อนคลายสบายๆ ที่บาร์กัน อยากจะใช้บริการสั่งเครื่องดื่มสักหน่อยแต่เขาคะยั้นคะยอให้ฟรีมาเสียอย่างนั้น (ฮา...) ผมแนะนำให้สามแก้ว สีแดงกับเชอรี่คือมันตราตินี่ เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ รสเปรี้ยวของราสเบอร์รี่และแครนเบอร์รี่ ติดขมนิดหน่อยจากว็อดก้ากำลังดี แก้วสีฟ้าเป็นสวัสดีมันตรา โดดเด่นด้วยการผสมเหล้าไทยหรือแสงโสมนี่เอง ถูกใจผมตรงนี้แหละ สุดท้ายแก้วสีแดงกับชมพู่ชื่อโรสแอปเปิ้ล ส่วนตัวผมชอบแก้วนี้ที่สุด หอมผลไม้ทั้งชมพู่ แอบเปิ้ล ลิ้นจี่ ผสมว็อดก้า รสชาติเปรี้ยวฝาดติดลิ้นแบบกลมกล่อม

ลองคิดดูสิครับ นั่งอยู่กับคนรัก ในบาร์ของโรงแรมห้าดาว ซึ่งได้รับการการันตีว่าสุดยอดติดอันดับต้นๆ ของประเทศ บรรยากาศสบาย มีดนตรีบรรเลงขับกล่อม สถานที่ดูดีมีชาติตระกูล ชีวิตหรูหรามันมีดีแบบนี้สินะ

ตื่นตอนเช้ากระปรี้กระเปร่าเสียจริง เปิดม่านรับแสงชมทะเลพัทยา แต่ไม่เอ้อระเหยมากเดี๋ยวห้องอาหารเช้าคนเยอะ เบรกฟาสต์ของแขกชั้นเอ็กเซ็กคูทีฟ ฟลอร์ มีให้เลือกคือทานที่ฮอไรซัน คลับ เลาจ์ หรือที่ห้องอาหารเอสเซ้นส์ชั้นล่างก็ได้ ผมเลือกข้างล่างเพราะอยากรู้ว่าบรรยากาศและไลน์อาหารปกติเป็นอย่างไร

สมกับระดับอมารี มีทุกสิ่งทุกอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไลน์อาหารไทย ข้าวผัด ข้าวสวย กับข้าว ไลน์ข้าวต้ม ไลน์อเมริกันเบรกฟาสต์ ไส้กรอกเบคอนหลากชนิด เมนูไข่ทั้งหลาย ไลน์สลัดบาร์ ผักผลไม้ โยเกิร์ต ไลน์อาหารญี่ปุ่นซูชิ ข้าวปั้น มิโสะซุป ไลน์ขนมปัง และมีกระทั่งก๋วยเตี๋ยวกับติ่มซำด้วยนะเอ้อ

อิ่มแล้วเดินเล่นถ่ายรูปริมสระว่ายน้ำสักพักก็กลับขึ้นไปชมวิวจิบเครื่อง ดื่มเย็นๆ ที่เล้าจ์ เป็นการรอเวลาในตัว... รออะไรน่ะหรือ? ก็คุณนายเธอมีนัดนวดน้ำมันที่บรีซ สปา ตอนสิบเอ็ดโมงน่ะสิ มาหรูหราแบบนี้ทั้งที่ต้องให้ครบสูตร

จำได้ไหมเอ่ยว่าคราวก่อนผมกับคุณนายใช้บริการบรีซ สปา ที่หัวหินมาแล้ว คราวนี้ขอลองที่พัทยาดูบ้าง แต่ผมขอบายให้คุณนายเธอคนเดียวพอ

บรรยากาศภายในสปา โล่งสบาย หอมกลิ่นสมุนไพร ผ่อนคลายดีนะ

การนวดน้ำมัน Signature Mood Massage ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครับ นวดตามอารมณ์ของลูกค้า มีนวดผ่อนคลาย นวดให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า หรือนวดแก้อาการปวดล้า ครั้งนี้คุณนายเธอเลือกแบบหนักนิดหน่อย คือไม่ถึงกับนวดแผนไทยเต็มสูตรแต่ก็ลงแรงหนักกว่าการนวดผ่อนคลาย ฟินกันไป

แม้จะเป็นเพียงเวลาเพียงสั้นๆ ที่อมารี พัทยา แต่ว่าช่างสบายใจเหลือเกิน ได้สัมผัสการท่องเที่ยวพักผ่อนในอีกแบบหนึ่ง ประทับใจกับโรงแรม ห้องอาหารมันตรา ฮอไรซัน คลับ สปา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับ หากใครกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนแบบลักซ์เชอรีมีระดับขึ้นมาสักหน่อย สามารถใช้เวลาตลอดทั้งวันในโรงแรมโดยไม่ต้องไปไหน หรือชื่นชอบสไตล์นี้เป็นการส่วนตัว มีกำลังทรัพย์ไม่เดือดร้อน ผมว่าที่อมารี พัทยา เป็นตัวเลือกที่ดีมากเลยนะ ใกล้กรุงเทพด้วย เที่ยวสองวันหนึ่งคืน หยุดเสาร์-อาทิตย์ สบายๆ

ครั้งนี้โรงแรมยังใจดีให้วอยเชอร์เข้าชม เท็ดดี้ ไอส์แลนด์ จาก เท็ดดี้แบร์ มิวเซียม ให้อีกสองใบ ปกติคนละตั้ง 250 บาท เพราะฉะนั้นว่าแล้วรออะไรกันอยู่ล่ะ ถือกล้องแล้วไปเที่ยวต่อสิครับ!

เท็ดดี้ ไอส์แลนด์ หรือพิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้จากเกาหลีตั้งอยู่ชั้นบนสุดของมาร์คแลนด์ วิลเลจ พัทยาเหนือ ห่างจากอมารี พัทยา ไม่กี่ร้อยเมตร เดินแป๊บเดียว หลังจากเช็คเอาต์ฝากกระเป๋า ผมก็จูงมือคุณนายกันไป แน่นอนว่าสนุกสนานกับการถ่ายรูปมากๆ

ข้างในเขาจัดแสดงตุ๊กตาหมีน่ารักเชียว เดินผ่านโซนต่างๆ หลากหลายไปเรื่อย ขอใช้ภาพบรรยายเลยแล้วกัน เก๋ไก๋ที่สุดผมยกให้เป็นโซนโลกใต้น้ำ โดยรวมผมว่าเป็นที่เที่ยวน่ารักน่าถ่ายรูปเล่นมาก เสียอย่างเดียวคือค่าเข้านี่แหละ ค่อนข้างโหดไม่น้อย จ่ายเองคงเหงื่อตก แต่ถ้าใครทุนทรัพย์มากพอขอบอกว่าไม่ผิดหวัง

ขากลับผมกับคุณนายนั่งสองแถวที่วิ่งกันอยู่เพียบไปพัทยาใต้เพื่อขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพ จบทริปสั้นๆ ซึ่ง... เราทั้งสองฝันเฟื่องว่าจะได้กลับมาใช้ชีวิตเช่นนี้อีกสักครั้งเพราะชักติดใจเสียแล้วสิ แบกเป้นอนเต็นท์บ้าง นอนโรงแรมหรูหราไฮโซโก้เก๋บ้าง เสพรสชาติการเดินทางให้สนุกหลากหลายเป็นประสบการณ์ของชีวิต และหากโอกาสเวียนมาหาอีกเมื่อไหร่ รับรองว่าผมไม่ปฏิเสธที่จะใช้มันแน่นอน

----------------------------------------------------------------------------------

อยากคุยเรื่อยเปื่อยเรื่องท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล (ถ้าผมมีให้นะ) หรือชวนเที่ยว ยินดียิ่งนะครับ

www.facebook.com/alifeatraveller

หรือ

alifeatraveller.wordpress.com

----------------------------------------------------------------------------------