ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
ปารีฮัท เกาะสวรรค์ของคนเดินดิน ณ ท้องทะเลแห่งอ่าวไทย “เกาะสีชัง” ปารีฮัท (Paree Hut) จ.ชลบุรี
    • โพสต์-1
    Namee •  เมษายน 12 , 2559

    เที่ยวเกาะสีชัง เที่ยวกันมันส์ 2 วัน 1 คืน

    พอเข้าสู่หน้าร้อนสถานที่ท่องเที่ยวแดนสยาม คงไม่มีใครที่ไม่นึกถึงทะเล

    มหาสมุทรน้ำเค็มที่กว้างใหญ่ไพรศาลมองไปสุดลูกหูลูกตาก็ไม่สามารถเห็นจุดสิ้นสุดของท้องทะเลกันได้

    โดยเฉพาะท้องทะเลแห่งอันดามันเป็นอีกหนึ่งสถานที่

    ที่ผู้คนนิยมแห่ไปเที่ยวกันช่วงเทศกาลหน้าร้อนเช่นนี้ เพื่อไปพักผ่อน

    ไปสัมผัสกับเม็ดทรายสีขาวที่ละเอียดนุ่มดังปุยฝ้าย น้ำทะเลสีเขียวใสลายคาม

    พร้อมทั้งออกเรือเที่ยวสู่เกาะต่างๆ เพื่อดำน้ำดูปะการัง จึงทำให้คนส่วนใหญ่หลงรักการไปเที่ยวทะเล

     

    แต่ถ้าหากใครหลายๆ คนมองหาที่เที่ยวทะเลใกล้กรุงฯ แห่งฝั่งท้องทะเลอ่าวไทยนั้น

    ก็มีให้เลือกเที่ยวหลายที่ไม่แพ้ฝั่งทะเลอันดามันอย่างแน่นอน

    โดยเฉพาะทะเลแถบฝั่งภาคตะวันออกของไทย ที่สวยงามไม่แพ้ท้องทะเลฝั่งภาคใต้

    ทริปนี้จึงจะขอแนะนำสถานที่เที่ยวทะเลอ่าวไทย นั้นคือ “เกาะสีชัง”

     

    ด้วยการเดินทาง คือ นั่งรถ และก็ลงเรือ

    ท่าเรือเกาะลอยศรีราชา

     

    ด้วยราคาค่าตั๋ว 50 บาท

     

    ใช้ระยะเวลาประมาณ 40 นาที

     

    "หมู่เกาะสีชัง" 

    เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่บริเวณก้นอ่าวไทย

    มีระยะทางห่างจาก ชายฝั่งอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ไปทางทิศตะวันตก

    ประมาณ 12 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะสีชัง และเกาะ บริวารน้อยใหญ่อีก 8 เกาะ คือ

    เกาะยายท้าว เกาะค้างคาวเกาะท้ายตาหมื่น เกาะขามใหญ่ เกาะขามน้อย

     เกาะสัมปันยื้อ เกาะปรง และเกาะร้านดอกไม้

    แผนที่ประกอบ 8 หมู่เกาะ และ ปารีฮัท รีสอร์ท

     

    ณ เกาะสีชัง

     

    อัษฎางค์ประภาคาร
    อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีศิลาอยู่ใต้น้ำอยู่ตรงปากช่องทางเรือ
    ทั้งนี้เพื่อเป็นที่ สังเกต แก่เรือที่จะเดินเข้าออก

    ก่อนเข้าถึงท่าเรือจะพบกับ "อัษฎางค์ประภาคาร"

     

    ต่อด้วยเหมารถสกายแลบ เพื่อนั่งไปยังรีสอร์ท (ราคาเดินทางไปรีสอร์ท อยู่ที่ 150 บาท)

    การเดินทางเที่ยวรอบเกาะส่วนใหญ่จะมี บริการรถสกายแลบ  รถสองแถว และมอเตอร์ไซต์ (เช่าแว๊นได้)

     

    รายระเอียดการเดินทาง

    กรุงเทพ - เกาะลอย ศรีราชา

    รถยนต์ส่วนตัว สามารถขับตรงไปที่ท่าเรือเกาะลอยและสามารถจอดรถไว้ที่ลานจอดรถข้างศูนย์ประชาสัมพันธ์เกาะลอยข้างบริเวณศาลเจ้าแม่กวนอิมได้ฟรี หรือ ฝากรถในตัวเมืองศรีราชาได้ที่  AP PARKING (เสียค่าจอด สอบถาม 038-325652)
    รถโดยสารประจำทาง ขึ้นรถจากสถานีขนส่งเอกมัยไปศรีราชา ลงรถที่หน้าห้างโรบินสันศรีราชาแล้วต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือสามล้อเครื่องมายังท่าเรือเกาะลอย

     

    เกาะลอย ศรีราชา - เกาะสีชัง 
    ขึ้นเรือโดยสารจากท่าเรือเกาะลอยศรีราชาไปเกาะสีชัง มีเรือบริการทุกวันระหว่างเวลา 07.00-20.00 น. โดยจะออกทุก ๆ ต้นชั่วโมง ใช้ระยะเวลาประมาณ 40 นาที อัตราค่าโดยสาร คนละ 50 บาท เมื่อถึงเกาะสีชังแล้วต่อรถสกายแล็ปไปที่ ปารีฮัท ค่ารถประมาณ 150 บาท นั่งได้ 4 -5 คน 

     

    เกาะสีชัง - เกาะลอย ศรีราชา
    ขึ้นเรือโดยสารที่ท่าเรือเทศบาลหน้าเกาะ มีเรือโดยสารบริการตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00-18.00 น. โดยเรือออกทุก ๆ  ต้นชั่วโมง

     

    สอบถามรายละเอียดเรื่องเรือข้ามเกาะเพิ่มเติมได้ที่
    เรือสีชังพาเลซโทร. 038-216276-82 หรือ 
    เรือแสงประทีปบริการ โทร. 038-313687

     

    แหล่งที่มา : http://www.pareehut.com/

                        http://www.paiduaykan.com/76_province/east/chonburi/sichang.html

    • โพสต์-2
    Namee •  เมษายน 12 , 2559

    ร้อนนี้ที่ ปารีฮัท ณ เกาะสีชัง กระท่อมริมผาที่มีน้ำกับฟ้าเป็นเพื่อน

    จากที่ได้ยินคนพูดถึงกันหลายต่อหลายคน

    บวกกับเพื่อนอยากไปสัมผัสกับบรรยากาศ (เน้นแค่บรรยากาศและวิว) ของสถานที่แห่งนี้

    ที่อยู่บนเกาะสีชัง ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจากละครดังหลายๆ เรื่องที่ไปถ่ายทำกันที่นั้น

    จนกลายเป็นสถานที่ ที่คนรู้จักกัน นั้นก็คือ “ปารีฮัท รีสอร์ท”

    ..กระท่อมริมผาที่มีน้ำกับฟ้าเป็นเพื่อน..

    ถึงราคาจะค่อนข้างแพง แต่ก็ถือเป็นรีสอร์ทที่สวยงาม และวิวดีมากๆ บนเกาะแห่งนี้ก็ว่าได้

    ----------------------------------------

     

    บรรยากาศระหว่างทาง (ดูภาพแล้วเหมือนร้อนเนอะ 555++) บรรยากาศตามภาพเลย ทางเข้าค่อนข้างแห้งแล้ง

    --------------------------------------

     

    ปารีฮัท ที่พักสุดฮิบ สไตล์ธรรมชาตินิยม ริมทะเลกว้าง ฟังเสียงคลื่นกระทบผา  

    ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า  กระโดดผาว่ายน้ำ หรือพายเรือคายัค  ตกปลา  

    และเที่ยวชมผาประกาศรัก กับกิจกรรมที่จะทำให้พวกเราได้พบกับความสุข

    ความสนุกสนาน ความสงบ และความเป็นส่วนตัวในแนวที่แตกต่าง...

     

    ราคาแพ็คเกจ

    *เที่ยววันเสาร์ และวันหยุดพิเศษเป็นราคาแพ็คเกจ  **แพ็คเกจประกอบด้วย อาหารทะเล 3 มื้อ + บาร์บีคิวซีฟู้ด

    *เที่ยววันธรรมดา อาทิตย์ - ศุกร์ (แพ็คเกจ) 
                    กระท่อมพัดลม 2,500 บ. / 1 ท่าน 
                    กระท่อมแอร์  2,700 บ. / 1 ท่าน

    *เที่ยววันเสาร์ และ วันหยุดพิเศษ 
                    กระท่อมพัดลม 2,900 บ. / 1 ท่าน 
                    กระท่อมแอร์ 3,100 บ. / 1 ท่าน

     

    ปล. ที่นี่มีรายการแพ็คเกจให้เลือกเข้าพักกันหลายแพ็คเกจจากที่ทางรีสอร์ทได้แจ้งแพ็คเกจมาให้ทราบ หากอยากสัมผัสสถานที่สวยๆ ในบางครั้งเราก็ต้องรู้จักที่จะลงทุน (มันอาจจะคุ้มหรือไม่คุ้ม) พวกเราจึงซื้อแพ็คเกจกันนะจ๊ะ พร้อมด้วยอาหาร 3 มื้อ ต่อแพ็คเกจ/ต่อคน (เลือกได้ว่าจะเอามื้อไหนบ้าง) ในส่วนของอาหาร และภายในที่พักไม่ขอพูดถึง พวกเราเลือกมาที่นี่เพราะทิวทัศน์ล้วนๆ ส่วนในด้านอื่นๆ มาตารฐานของแต่ละคนไม่เท่ากันจ๊ะ

    เมื่อก่อนอาจให้บุคคลอื่นเข้ามาถ่ายรูปกันได้ แต่ ณ ปัจจุบันนี้ห้ามแล้วจ๊ะ

    การที่คนๆ หนึ่ง ลงทุนเสียเงินมาที่นี่ อาจจะเพราะว่าพวกเขาต้องการความเป็นส่วนตัว... บรรยากาศ และวิว

     

    เส้นทางเดินเข้า-ออกสู่ที่พักและห้องอาหาร

     

    หนึ่งหลังในนั้นคือที่พักของพวกเรา

     

    บรรยากาศภายในกระท่อม ไม่ได้หรูหราอะไรมากมาย ที่ราคาค่อนข้างแพงอาจเป็นเพราะทำเลที่ตั้งดี และวิวสวย

     

    นั้นคือ ห้องอาหาร (วิวสวย)

    ห้องอาหารเปิดให้บริการสำหรับแขกที่มาพัก

    ตั้งแต่เวลา 7.30 น. ถึง 22.00 น. (ครัวปิดเวลา 21.00 น.)

    อาหารมื้อแรกของพวกเรา มื้อบ่ายๆ (อาหารสามารถรีฟิลได้ เช่น แกงส้ม กับ ไข่เจียว)

    สำหรับผู้ที่ซื้อแพ็คเกจของ ปารีฮัท อาหารในแพ็คเกจจะมี  3 มื้อ

    การเสิร์ฟอาจเป็นเซ็ตสำหรับบุคคล

     

    ณ แถวนี้ คือ จุดกระโดดน้ำจากหน้าผา

    (จุ๊ๆ ถ้าจะโดดน้ำเล่นกันต้องแจ้งเจ้าหน้าเพื่อมาดูแลความปลอดภัยด้วยนะจ๊ะ)

     

    บรรยากาศยามบ่าย (ร้อนดีมากๆ) แต่ด้วยความสวยทำให้พวกเราลืมร้อนไปชั่วคู่ (แลกมาด้วยความดำ)

     

    จุดท่าเรือคายัค (จะไปพายเรือเล่นกันก็อย่าลืมเช็คสภาพคลื่นและลมกันด้วยนะจ๊ะ)

     

    สระน้ำเค็ม (พึ่งเคยเห็นว่ามีสระน้ำแบบนี้ด้วย น้ำเค็มถือว่าได้เล่นน้ำทะเลละ)

    ขอแนะนำว่าควรเล่นเช้ากับตอนกลางคืนจะดีมากๆ  (ไม่หนาวจ๊ะ ถึงลมจะพัดแรงแค่ไหน น้ำก็ยังคงอุ่น)

    พวกเราลงเล่นกันตอน 3 ทุ่ม บรรยากาศดีสุดๆ ลมพัดเย็นมากๆ พร้อมด้วยเสียงคลื่นของทะเล ฟินนน

     

    บริเวณโดยรอบของรีสอร์ท

     

    บรรยากาศยามเย็น นั่งชมพระอาทิตย์ตก แบบชิลๆ

     

    อาหารมื้อเย็น + บาร์บีคิวซีฟู้ด (อาหารรีฟิลได้ 2 อย่างจำไม่ได้ว่าอะไรบ้าง?)

     

    • โพสต์-3
    Namee •  เมษายน 12 , 2559

    ออกไปบอกรัก ณ ผาประกาศรัก

    อีกหนึ่งจุดชมวิวของรีสอร์ท นั้นก็คือ ผาประกาศรัก ซึ่งจะอยู่ด้านหลังของรีสอร์ท

    เป็นจุดชมวิวริมหน้าผา และถ้ำที่อยู่บนนั้นสามารถเข้าไปดูได้

    ขอแนะนำว่าหากอยากฟินกับบรรยากาศ ควรเลือกเดินขึ้นไปตอนเช้า (ไม่ร้อนและอากาศกำลังดี) 

    หรือ ตอนเย็น (อย่าให้เย็นมาก ตอนกลางคืนจะมีแพะภูเขาออกมานอนที่นั้นกัน)

     

    อาหารเช้ามื้อที่ 3 ก็แบบง่ายๆ สบายๆ ทางรีสอร์ทจะจัดไว้ให้เป็นชุดต่อ 1 คน

     

    ทางขึ้นไปผาประกาศรัก


    พวกเราขึ้นมาชมวิวกันตอนช่วงเช้า ก่อนออกจากที่พักเพื่อไปเที่ยวที่อื่นบนเกาะสีชังกัน

    • โพสต์-4
    Namee •  เมษายน 12 , 2559

    สถานที่ท่องเที่ยวรอบเกาะสีชัง

    บนเกาะแห่งนี้มีสถานเที่ยวอีกหลายสถานที่ให้สามารถมาเที่ยวชมกันได้

    แบบไปเช้าเย็นกลับหากไม่อยากค้างคืนบนเกาะ อาทิ พระจุฑาธุชราชฐาน, ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่,

    มณฑปรอยพระพุทธบาท, ช่องเขาขาด,  หาดถ้ำเขาพัง, แหลมจักรพงษ์ เป็นต้น

     

    ทริปนี้วางแผนเที่ยวบนเกาะ 4 ที่ด้วยกัน หลังจากออกจากรีสอร์ทช่วงสายๆ สถานที่แรก ที่ไปกันคือ

    พระจุฑาธุชราชฐาน  แต่ด้วยอากาศช่วงนี้ไม่เป็นใจเอามากๆ ร้อนมากถึงมากที่สุด

    ทำให้พวกเราตัดสินใจเที่ยวแค่ที่นี่เท่านั้น

     

    พระจุฑาธุชราชฐาน
    เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะสีชัง ห่างจากท่าเทววงศ์ลงมาทางใต้ของเกาะ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน มีสิ่งก่อสร้างตั้งอยู่ตามชั้นเนินเขาที่สูงต่ำลดหลั่นกันอย่างงดงามประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์ พระตำหนัก 14 หลัง ศาลา 1 หลัง มีสวนดอกไม้ สระ ธารน้ำ น้ำพุ ถ้ำและหน้าผา ภายในบริเวณมีสภาพ ภูมิทัศน์ที่งดงามตกแต่งตามลักษณะอุทยานในพระราชวังของ ประเทศตะวันตก ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างดังต่อไปนี้

     

    สะพานอัษฎางค์
    อยู่ในบริเวณพระตำหนัก เป็นสะพานที่รัชกาลที่ 5 ท่านทรงใช้เป็นท่าขื้นเทียบเรือหลังจากที่เสด็จประพาสฝรั่งเศส ที่เห็นนี่คือบูรณะใหม่ทั้งหมดแล้ว แต่ว่ายังคงรูปแบบสภาพเดิมทั้งหมด

     

    ฐานพระที่นั่งมันธาตุรัตน์โรจน์

    ซึ่งถูกรื้อลงเพื่อนำไปสร้างพระที่นั่งวิมานเมฆในพระราชวังดุสิตแทน

     

    เรือนไม้ริมน้ำ (เรือนเขียว)
    ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเสด็จมายังเกาะสีชังเป็นประจำโดยเรือกลไฟ และประทับแรมบนเรือ พระที่นั่งโดย มิได้สร้างพลับพลาที่ ประทับ แต่ในเวลานั้นก็มีเรือนไม้พักผ่อนริมทะเล ปลูกสร้างอยู่แล้วหลังหนึ่ง คือ "เรือนเขียว" ปัจจุบันยังอยู่และมีสภาพที่เรียบร้อย สมบูรณ์และได้จัดตกแต่งเป็นร้านกาแฟสำหรับบริการนักท่องเที่ยว

     

    เรือนผ่องศรี
    จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและประวัติบุคคลผู้ที่มีบทบาทสำคัญกับเกาะสีชังในอดีต

     

    พระบรมรูปรัชกาลที่ 5

    พวกเราเดินทางกลับกันในช่วงบ่าย ถือว่าคุ้มค่าแล้วที่มา

    เพราะจุดมุ่งหมายหลักของพวกเราคือ ปารีฮัท กระท่อมริมผา 

     

    ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมนะจ๊ะ

    By Namee Be Bear

    ขอฝากเพจน้องใหม่ของเจ้าของรีวิวด้วยนะจ๊ะ ถ้าชอบให้กดไลน์ ถ้าถูกใจช่วยกดแชร์

    Fanpage : https://www.facebook.com/KanXengStudio/

    • โพสต์-5
    theTripPacker •  เมษายน 29, 2559