ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง 3วัน 1คืน เกาะช้าง (Koh Chang) จ.ตราด
    • โพสต์-1
    Padict •  กรกฎาคม 27 , 2558

    เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง PART1

    **นี่เป็นรีวิวแรกของผม ผิดพลาดประการใเขออภัยด้วยนะครับ**

    ผมเคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวคนเดียวก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนั้นไปเที่ยวเชียงใหม่รู้สึกว่าการเที่ยวคนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร หนำซ้ำยังรู้สึกติดใจซะอีก เลยสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่า "ในปีนี้จะต้องหาโอกาสไปเที่ยวคนเดียวให้ได้อีกครั้ง"

    “อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ไกลๆ” “อยากลองเที่ยวแบบไม่ต้องมีแบบแผน” ประโยคเหล่านี้มันวนเวียนอยู่ในหัวผมมาตลอดแต่ใจก็ยังกล้ากลัวๆอยู่ ไม่กล้าที่จะ”เริ่ม”ออกเดินทางสักที จนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเหมือน ”ทุกข์” ทุกอย่างมันเป็นใจครับ ความวิตกกังวล ความไม่มั่นใจ อยู่ๆมันหายไป.. “ไม่ไหวแล้วนะ ต้องไปจริงๆแล้วล่ะ”

    หยิบแลปท็อปขึ้นมาลองเสิร์จหาข้อมูล หาแรงบรรดาลใจ 

    “เห้ย ไปที่นี่แหละ” อ่านเจอรีวิวหนึ่งรู้สึกประทับใจมากๆ จึงเป็นต้นเหตุของการ"ตามลอย" ออกไปฉายเดี่ยวแบบไม่มีแบบแผน ซึ่งจุดหมายปลายทางที่ผมจะไปก็คือ "เกาะช้าง" ครับ

     

    -จากบ้าน-

    อ่านกระทู้จบก็รู้สึกได้เลยว่าใจเราไปรออยู่บนเกาะเรียบร้อยแล้ว

    “แล้วจะรออะไรล่ะ?” โทรศัพท์ไปที่ขนส่งเอกมัยเพื่อสอบถามการเดินทาง ทีแรกตั้งใจจะเดินทางวัน พ.15 แต่มาเปลี่ยนใจเอาตอนวันอังคาร “ไปเลยแล้วกัน” ออกคืนนี้เลยเนี่ยแหละ มีรอบดึกสุด 23.30 น. เดินทางไปถึงที่นั้นก็คงเช้าพอดีจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ

    พอตัดสินใจเปลี่ยนแผนแบบปุ้บปั้บ จากที่กำลัง “slow life“ ทำอะไรเอื่อยเฉื่อย ทุกอย่างเลยกลายเป็น”นาทีเร่งด่วน”ทันที 

    “จะไปกี่วันดี? ถือ..ไปดีมั้ย? สายชาร์ตอยู่ไหน? ฯลฯ”

    วุ่นวายอยู่พักใหญ่ก็จัดกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย ถึงตอนนี้เวลา 22.00 น. ใกล้จะถึงเวลาแล้ว

    งั้น“ออกเดินทางกันเลยดีกว่า”

    -ขนส่งเอกมัย-

    นั่งแท็คซี่ ต่อบีทีเอส ถึงขนส่งเอกมัยก็เกือบจะ 5ทุ่มแล้ว

    ผมซื้อตั๋วแบบไป-กลับ ของเชิดชัยทัวร์ ราคา 480 บ. ขากลับเราจะกลับวันไหนก็ได้ในใบจะแม็ครอบรถติดมาด้วย ถ้าอยากอยู่ต่อก็สามารถเช็คเวลาและโทรไปสำรองที่นั่งได้ตลอดครับ

    ได้ตั๋วมาเรียบร้อยแวะ ซื้อน้ำ ปัสสะวะ (หืม) สักหน่อยแล้วเดินไปนั่งรอที่ชานชาลา

    มองดูนาฬิกาเกือบๆ 5ทุ่ม รถมาจอดรอได้สักพักแล้ว พอใกล้ถึงเวลาคนขับรถก็เรียกให้ผู้โดยสารขึ้นรถ

    ส่วนกระเป๋าจะเอาไว้ใต้รถหรือกับตัวก็ได้นะครับแล้วแต่ความพึงพอใจ

    ตอนซื้อตั๋วคนขายตั๋วบอกว่า “วันนี้มีคนขึ้นเต็มเลย ทั้งต่างชาติฝรั่ง คนจีน มาเยอะแยะเลย”

    ซึ่งก็เยอะแยะจริงๆครับ ชาวต่างชาติทั้งฝรั่ง และคนจีนมาจากไหนไม่รู้เต็มเลย รวมๆแล้วน่าจะเกินครึ่งคันได้ (นึกว่าอยู่เมืองนอก)

    23.30 น. รถออกแล้วครับ ตรงต่อเวลามากๆ ข่มตานอนพักผ่อนกลัวจะไม่มีแรง ราตรีสวัสดิ์เจอกันตอนเช้าครับ

    -ขนส่งตราด-

    “โอ้ยย ปวดคอ” สงสัยจะนอนคอพับคอหักมาตลอดทาง ดูนาฬืกาตี 4.00 น. ก็มาถึงแล้วครับ "จังหวัดตราด” จัดว่าไวกว่าที่คิดไว้มาก(ยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย)

    เดินลงจากรถมาด้วยความงัวเงีย แวะเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเรียกความสดชื่น พอเดินออกมา ด้านหน้าขนส่งจะมีรถสองแถวจอดรอรับผู้โดยสารอยู่ประมาณ 4-5 คัน ผมก็เดินเงอะงะๆ เข้าไปบอกพี่คนขับว่าจะไป “Lonely beach ครับ” คนขับก็บอกให้ผมรีบขึ้นรถได้เลย ค่าโดยสารราคา 70 บาท

    เดินขึ้นมาบนรถ มองซ้ายมองขวา “ไม่มีคนไทยเลย” อโลนจริงๆครับ ด้านนึงก็แก๊งค์คนจีนอีกข้างนึงก็แก๊งค์ฝรั่ง ฝั่งตรงข้ามก็คู่รักเยอรมัน จะคุยกับใครดีล่ะ “นั่งเงียบๆก็ได้วะ - -”

    -ซื้อตั๋วเรือ-

    ผ่านไป 40นาที รถก็มาจอดอยู่ที่ จุดๆหนึ่ง ทีแรกนึกว่าจะพาไปที่ท่าเรือเลย แต่ปล่าวครับต้องแวะซื้อตั๋วเรือก่อน ก็ซื้อตั๋วเรือไป-กลับมาครับ 160 บาท นั่งรอเวลาไปเรื่อยจนกว่าสองแถวจะเรียกเพราะเดี๋ยวเขาต้องพาเราไปส่งที่ท่าเรือต่อ

    ระหว่างที่นั่งรออย่างเบื่อหน่าย บังเอิญเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่คนเดียว ดูทรงแล้วน่าจะเป็นคนไทย ผมเลยลองเดินเข้าไปทักทายดู

    “คนไทยหรือเปล่าครับ?” สวมวิญญาณเพื่อชีวิตเข้าไปถาม

    “ครับ คนไทยครับ” เท่านั้นแหละจ้า รู้สึกดีใจกว่า ลิเวอร์พูลได้แชมป์ พรีเมียร์ลีคอีก (หืม)

    เลยถือโอกาสผูกมิตรกันซะหน่อย ทราบความว่า พี่เขาชื่อ พี่แบงค์ครับ มีเวลาว่างจากการทำงานเลยหนีมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน เลยยิ่งคุยกันหนักเลยครับทีนี้ มาครั้งแรกเหมือนกันด้วย “ขอเม้าส์หน่อยเถอะ”

    ไม่เคยคิดว่าจะได้มิตรภาพใหม่ๆจากการเดินทางเลย เคยอ่านเจอหลายๆรีวิว ไม่คิดว่าจะได้เจอกับตัว รู้สึกดีและประทับใจมากจริงๆครับ

    นั่งฝอยกันซะเพลิน ก็ได้เวลาไปต่อแล้วครับ งานนี้ไม่เหงาแล้วเพราะมีเพื่อนร่วมทาง(ชะตากรรม)แล้ว ผมกับพี่แบงค์เลยไปไหนไปด้วยกันครับ มีอะไรจะได้พึ่งพาอาศัยกัน “แยกหมู่เราตาย” 

     

     


     
    • Cake  จริงๆแล้วที่นี่เป็นบริษัททัวร์ที่ ตกลงกับคิวรถโดยสารไว้ว่าให้นำลูกค้ามาส่งกับเค้าก่อนครับ แล้วเค้าจะแบ่ง % ให้รถโดยสาร ตั๋วเรือจริงๆซื้อที่ท่าเรือได้เลย แต่ว่าเค้าก็ไม่ได้โก่งราคานะครับ ราคาขายของเค้าก็เท่ากับตั๋วเรือที่ท่าเรือ หรือราคารีสอร์ท ดำน้ำก็ตาม ก็ราคาพอๆ กับบนเกาะ แต่มันแค่ขัดใจว่าต้องไปที่เค้าก่อนแค่นั้นครับ จริงๆควรตรงไปที่ท่าเรือเลย 06 สิงหาคม 2558 09:32:22
    • โพสต์-2
    Padict •  กรกฎาคม 28 , 2558

    เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง PART2

    -ท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อย-

    เดินทางไปถึงท่าเรือประมาณ ตี 5.45 น. อากาศตอนนี้ถือว่าโอเคเลยครับ เย็นสบาย ลมแรงใช้ได้ แต่ฟ้าแอบครึ้มหน่อยๆ หวั่นอยู่เหมือนกันว่าไปถึงที่เกาะแล้วฝนจะตกมั้ย

     

    พอจะมีเวลาเหลืออยู่บ้างระหว่างรอเรือออกเลยถือโอกาสเก็บภาพไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย..ระลึกสักหน่อย ผมเองพกมือถือมาเพียงอย่างเดียวสำหรับเก็บภาพทริปนี้ แต่ accessories ก็ถือว่า "มาเต็ม" อยู่ในระดับหนึ่ง เพราะเตรียมทั้ง ไม้เซลฟี่, ขาตั้งกล้อง, รีโมทชัตเตอร์ มาด้วย(เที่ยวคนเดียวก็ลำบากหน่อยนะ) อย่างรูปนี้ก็ตั้งขาตั้งกล้องถ่าย..ลมค่อนข้างแรงครับ สาหร่ายบนหัวนี่พริ้วตามลมเลย - -

     

    -เรือออก-

    “เรือออกแล้ว” ถึงตอนนี้ หกโมงเช้าครับ เรือออกเที่ยวแรกเลย รู้สึกตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยขึ้นเรือเฟอรรี่มาก่อน เดินไปเดินมาถ่ายภาพอยู่พักใหญ่ เริ่มรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตจากหลายๆดวงตาที่นั่งอยู่ เลยค่อยๆทำเนียนเดินไปนั่งกับพี่แบงค์เงียบๆ

     

    ระหว่างนั่งรอก็ไม่มีอะไรทำ ก็มองดูวิว เมาส์มอยกับพี่แบงค์ไปเรื่อยเปื่อย จนเริ่มรู้สึกถูกคอ ต่างคนต่างแชร์ข้อมูลที่หามา พี่แบงค์เล่าแพลนทริปของเขาให้ฟังว่า แกดูที่พักไว้แล้ว ไปถึงจะไปที่บางเบ้าก่อน แวะกินกาแฟบางเบ้า ดีไลท์ แล้วไปต่อที่น้ำตกคลองพูล.. ฯลฯ

    “หึหึ” แต่ละที่ บางเบ้าคือตรงไหน? น้ำตกคลองพูลอยู่ตรงไหน? ข้อมูลที่มีอยู่ก็มาจากกระทู้เดียวนี่แหละ จำได้แค่ “โลนลี่ บีช” กับ “กะหลกกะลา โฮสเทล” รู้จักแค่นั้นจริงๆ

     

    -เกาะช้าง-

    “ถึงแล้ว ถึงแล้ว” ถึงเกาะช้างแล้วครับ ใช้เวลาประมาณ 40-50 นาที พอลงมาข้างล่างจะพบกับ “แทคซี่ สองแถว” จอดรอรับผู้โดยสารอยู่เรียงราย

     

    ผมเดินไปขึ้นรถบอกเป้าหมาย”ไปโลนลี่ บีช” ค่าโดยสาร 100 บาท ไม่แปลกใจเลยทำไมเรียก "แท็คซี่" ในใจลึกๆก็แอบเสียดายที่ต้องแยกทางกับพี่แบงค์แล้ว (แอบฮัมเพลงทิ้งไว้กลางทางอยู่ในใจ)

     

    แต่เหมือนเบื้องบนจะ”ได้ยิน”คำตัดพ้อของผมครับ พี่แบงค์เปลี่ยนแผนจะไปที่ โลนลี่ บีชด้วย! 

     

    “บ๊ะแหล่ว บ๊ะแหล่ว!” เยี่ยมไปเลยครับ นึกว่าจะต้องถูกทิ้งไว้กลางทางซะแล้ว

    พี่แบงค์บอกว่า คนขับรถไม่แนะนำให้ไปพักในย่านที่พี่เขาจะไป (น่าจะหาดทรายขาว) เพราะที่พักค่อนข้างแพง ให้ไปที่ โลนลี่ บีช ดีกว่าที่พักถูกกว่าเยอะ เพราะเป็นย่านของเหล่า "backpacker"

     

    ถนนหนทางที่นี้ยอมรับว่าโหดจริงๆ มีทั้งชัน ทั้งโค้ง น่ามาถ่ายทำ Fast8 มากๆครับ ทำเป็นภาค “Chang Drift” กันไปเลย คนขับแท็คซี่ก็ขับไม่ได้เกรงใจ ตับ ไต ใส้พุงกันเลย จะรวมกันเป็นช็อคบอลอยู่แล้ว

     

    • Sirichatr  55555 รอติดตามอยุ่นะคะ 28 กรกฎาคม 2558 00:26:41
    • โพสต์-3
    Padict •  กรกฎาคม 28 , 2558

    เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง PART3

    -โลนลี่ บีช-

    “เกือบตาย” เดินลงจากรถมาด้วยสภาพสะบักสะบอม ตอนนี้เราอยู่กันที่ “โลนลี่ บีช” แล้วครับ

    พี่คนขับแนะนำให้เราเดินไปในซอย เทียนไชย ๑ เพราะซอยนี้มีที่พักอยู่ค่อนข้างเยอะ

    ผมกับพี่แบ้งค์ก็เดินเข้าไปดูในซอยตามที่บอก แต่ที่รู้สึกคือซอยนี้น่าจะเป็น”ซอยแสงสี” มากกว่า”ซอยที่พัก”เสียอีก ตลอดสองข้างทางเห็นแต่ร้านเหล้ากับร้านสักเต็มไปหมดเลย

    เดินเข้ามาจนสุดซอยก็เจอรีสอร์ท มีอยู่ทั้งหมด 3 รีสอร์ทด้วยกัน ผมเลือกพักที่ Sea flower resort เพราะมีห้องพักติดทะเล

     

    ห้องพักที่นี่มีแบบห้องแอร์ คืนละ 600 บ.และห้องพัดลม 250 บ. ราคานี้เฉพาะช่วง low นะครับ รีสอร์ทและโรงแรมแทบทั้งเกาะลดราคากันเป็นว่าเล่นเลยครับ น่าจะครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว แถมมีห้องว่างแน่นอนครับ

     

    ผมเลือกพักเป็นห้องแอร์ครับ ส่วนพี่แบงค์ก็เอาด้วย สุดท้ายเลยได้ห้องติดกันเป็นบ้านแฝดมีห้องติดกัน2ห้อง อยู่ติดทะเลเลย ชิลๆไป

     

    เช็คอิน เสร็จเรียบร้อย วางค่ามัดจำกุญแจห้องละ 500 บาท ต่างคนต่างแยกย้ายเข้าห้องพักตัวเองไปพักผ่อน ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง “ของีบสักหน่อยนะ” ตั้งเวลาปลุก วางกระเป๋าปิดผ้าม่านกระโดดขึ้นเตียง หัวถึงหมอนปุ้บภาพตัดทันที

     

    สะดุ้งตื่นอีกที ตอนเที่ยงกว่าๆ “ซวยแล้ว สายแล้วว” รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวออกจากที่พักครับ กลัวจะไม่มีเวลาเที่ยว มองไปห้องข้างๆพี่แบงค์ไม่อยู่คงออกไปเที่ยวนานแล้ว “ไม่ได้กาลล่ะ” รีบเดินไปเช่ามอไซต์ร้านใกล้ๆที่พัก ราคา 150 บาท มัดจำบัตรประชาชน ที่แรกจะขอพาสปอร์ตแต่ผมไม่มี พี่เจ้าของร้านก็หยวนๆให้ ได้รถมาลองสตาร์ทดู มองที่หน้าปัดน้ำมันจะหมดครับ ต้องเติมจากร้านอีก 40 บาท เป็นนำมันใส่ขวดเหล้าไว้ แทบทุกร้านบนเกาะจะมีแบบนี้เหมือนกันหมดเพราะปั๊มอยู่ค่อนข้างไกล เจ้าของร้านแนะนำว่า ถ้าจะเติมน้ำมันให้ไปเติมที่หาดเพิร์ล จะมีปั๊มหลอดอยู่ โลโก้ปั๊มเชลล์วางอยู่ที่พื้น ถ้าอยากได้แผนที่ก็ไปขอที่ปั๊มได้ครับ

     

    ดังนั้นเป้าหมายแรกของผมในทริปนี้คือการไป “เติมน้ำมันครับ” ออกจากซอยมาเลี้ยวขวาเป็นทางไปบางเบ้า เลี้ยวซายไปหาดเพิร์ล ผมก็เลี้ยวซ้ายสิครับรออะไร

     

    • โพสต์-4
    Padict •  กรกฎาคม 28 , 2558

    เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง PART4

    -ระหว่างทาง-

     

    ทีแรกก็แอบกลัวอยู่บ้างว่าทางแบบนี้เราจะขับรอดมั้ย ไม่ได้ขับมอไซต์นานแล้วด้วยเลยค่อยๆขับไป พอขับไปสักพักเริ่ม "ชิน" ครับ ขับคล่องแล้วทีนี้สนุกเลยครับ 555 นึกว่าเล่นรถไฟเหาะอยู่

     

    ขับรถดูวิวไปเรื่อย “จ๊อก จ๊อก” เสียงท้องก็ร้องทะลุหูฟังออกมา เลยแวะเติมพลังให้คนก่อนดีกว่า ก็ไปจอดรถที่ Lotus express จะเดินไปสั่งข้าวกินที่ร้านตามสั่งข้างๆ ก็บังเอิญเจอกับพี่แบงค์อีกแล้วครับ เลยทักทายกันนิดหน่อย พี่เขากำลังจะไปน้ำตกคลองพูลต่อครับ(ผมยังไม่ไปไหนเลย555) พูดคุยกันเสร็จก็แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง

     

    มาทะเลทั้งที ต้องกินอาหารทะเลสิ “กระเพราปลาหมึก ไข่ดาวจานนึงครับ”

    ราคาเบ็ดเสร็จ 50+10 = 60 บาท ราคาไม่ต่างจากกรุงเทพฯ เลย

     

    อิ่มราคา เอ้ย..อิ่มท้องแล้วเริ่มมีเรี่ยวแรง ไปกันต่อเลยครับ ตามหาปั๊มน้ำมัน

     

    พอไปถึงปั๊ม แวะเติมน้ำมันอีก 60 บ. อิ่มทั้งคนทั้งรถ ที่นี้พร้อมลุยเต็มที่ครับ สถานีต่อไป คือ “หาดทรายขาว”

    ขอแผนที่จากที่ปั๊มมาแผ่นค่อนข้างใหญ่ เลยยังไม่ได้ใช้ พึ่งเทคโนโลยี เปิด Google map นำทางเอา เสียบหูฟังสตาร์ทรถ ล้อหมุนไปกันต่อครับ ขับไปก็คอยฟังมันบอกทาง

     

    ขับมาได้สักพัก “ยังไม่ถึงอีกหรอวะ??” ลองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ปรากฏว่าเลยครับ เลยมาไกลมากด้วย ต้องตีรถกลับ แต่ก็ยังเชื่อใจ Google map อยู่นะ ก็ขับตามที่ GPS บอกต่อ

     

    ปรากฏว่า มันพาผมมาหยุดบนเขาเป็นจุดที่น่าจะกำลังสร้างใหม่สำหรับชมวิวครับ “พอ พอ” เลิกพึ่งเทคโนโลยี แล้วขับไปตามป้ายบอกทางเอาเนี่ยแหละ !@#$%

     

    “ถึงสักที” หาดทรายขาว ทรายที่นี่ขาวดีครับ แต่ฝรั่งที่นอนอาบแดดอยู่ขาวกว่า(หืม) วันธรรมดาแบบนี้ไม่มีคนเลย หาดเงียบมาก น้ำก็ใสดีครับแต่ไม่ได้เป็นสีฟ้าเหมือนช่วง High season ต้องทำใจนิดนึงนะ

     

    เดินเล่นชิลๆ ถ่ายเอ็มวีอยู่สักพัก ลมเริ่มแรงครับฟ้าก็ครึ้มเหมือนฝนจะตก เลยรีบออกมา เดินทางกลับไปที่พักดีกว่า

     

    ขับรถมาระหว่างทางบังเอิญเห็นป้ายเขียนว่า จุดชมวิว เลยแวะเข้าไปสักหน่อยปรากฏว่าที่นี่คือ "จุดชมวิวไก่แบ้" ครับ วิวที่นี้สวยมากครับ น่าจะเป็นจุดที่วิวสวยที่สุดในเกาะแล้ว แต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะ ฝนตกซะก่อนเสียดายมาก “เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่แล้วกัน” ตัดใจเดินกลับไปสตาร์ทรถรีบแว้นกลับที่พักโดยด่วน

     

    “เปียกหมดแล้วว” ตัดสินใจผิดชีวิตเปลี่ยนจริงๆ ขับรถออกมาคิดว่าจะรอดจากฝนแต่เปล่าเลยครับ ฝนเทลงมาหนักสุดๆ เปียกไปทั้งตัวเลย พอไปถึงห้องก็เจอพี่แบงค์อยู่ในสภาพไม่ต่างกันนัก เลยแยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย "ไม่ไหวแล้ว หนาวว"

    • โพสต์-5
    Padict •  กรกฎาคม 28 , 2558

    เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง PART5

    "อ่าา สดชื่น" อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลา “ชิล” แล้วครับ ตอนนี้ก็เย็นแล้ว ฝนหยุดตกแล้วด้วย “ขอจัดสักขวดเถอะ”

    ลืมบอกไปว่าตอนขับกลับมาผมแวะไปหลบฝนที่ร้านขายของชำ เลยอุดหนุนเขาหน่อยสักขวด 2ขวด

     

    “อะ ป้อนๆ”มีน้องหมามาขอหนมกิน ดูจากทรงน่าจะพันธุ์ผสม(ทาง) น้องเชื่องดีครับ ถ้ามีโอกาสมาพักก็เล่นกับน้องได้ครับ

     

    ดื่มเบียร์ทีไรรู้สึกเจริญอาหารทุกที กลับแก้มก็เอาไม่อยู่แล้ว  เลยถือโอกาส "ออกไปหาอะไรกินดีกว่า"

    ระหว่างทางก็เดินเล่นชิลๆ เก็บภาพบรรยากาศไปด้วย

     

    ตอนเย็นๆ ร้านค้าต่างๆก็ทะยอยตั้งร้านกันแล้ว "คืนนี้ขออยู่ยาวๆ" แล้วกัน

     

    “กินร้านนี้แหละ” ร้านอาหารตามสั่งเล็กๆที่อยู่ตรงข้ามจากซอย เทียนไชย ๑ ชื่อ 'ร้านไทรงาม' ครับ ขายอาหารตามสั่งแล้วก็อาหาารอีสาน

     

    สั่งหมูทอดกระเทียมมากิน เมนูสิ้นคิดที่กินกันทั่วบ้านทั่วเมือง รสชาติก็ทั่วๆไปแหละครับ ราคา 60 บ.

    อิ่มแล้ว ออกมาเดินเล่นดูบรรยากาศรอบๆ ค่อนข้างเงียบเหงาทีเดียวครับ "หวังว่าดึกๆ คงจะครึกครื้นกว่านี้นะ"

    ไม่มีอะไรทำกลับมานอนพักเอาแรงดีกว่าไหนๆก็ตั้งใจจะอยู่ยาวๆแล้ว ก็เดินกลับมาพักผ่อนที่ห้อง สักพักฝนก็ตกอีกครับ ตกอีกประมาณ 2-3 รอบ แถมตกหนักอีกตางหาก "จะได้ออกไปซ่ามั้ยละคืนนี้"

     

    "กาโว กาโว กาโว" เสียงตั้งปลุกผมเองครับ(กลัวลืมเที่ยวอ่ะ) ตั้งปลุกไว้ประมาณเกือบ4ทุ่ม ตื่นมาก้อแต่งตัวเสริมหล่อกันหน่อย พอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย "พร้อมแล้ว"ครับ กระดี๊กระด๊าสุดๆ หยิบเบียร์ขวดเล็กอีกขวดในตู้เย็นเปิดแล้วเดินไปดกไป ชิลๆ (ทำเป็นเท่) เดินไปในซอยพร้อมกับความคาดหวังลึกๆว่า "คนต้องเยอะแน่นอน"

     

    • โพสต์-6
    Padict •  กรกฎาคม 28 , 2558

    เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง PART6

    -โลนลี่ บีช ยามวิกาล-

    "โอ้โห.." เดินเข้ามาในซอยถึงกับต้องอุทานเพราะความตกใจ ไม่ใช่เพราะคนเยอะนะแต่เพราะ "คนอยู่ไหนน?"

    "hey you, com'on we have new promotion very cheap you ต้องลองนะ(หืม)" เด็กร้านเหล้ายืนกันเต็มถนน แข่งกันเรียกลูกค้าเข้าร้าน เพราะแทบจะไม่มีใครเดินเข้ามาในซอยเลยครับ แต่ละร้านมีคนนั่งอยู่แค่ 2-3 โต๊ะ บางร้านก็ไม่มีคนเลย "เห็นแล้วเหนื่อยใจ"   

    แต่ก็ยังไม่ละความพยายามนะยังเชื่อว่า"มันต้องมีแหล่งสิวะ" ย่านนี้เป็น1ในย่านที่ครึกครื้นที่สุดบนเกาะ อาจเป็นเพราะเรายังเดินไม่ทั่วถึง(โลกสวย) เลยลองเดินต่อครับออกจากปากซอยมาเลี้ยวขวาไปทางบางเบ้าดู "เผื่อจะเจออะไรดีดีบ้าง"

    "เจอแล้วว!!" ไม่ใช่ร้านนั่งนะครับ แต่เป็น 7-11 ปลอมที่เขาเล่าขานกัน ชื่อ"7 Day" สงสัยจะเปิดบริการทุกวัน

    เดินตรงมาเรื่อยๆ 2ข้างทางก็เจอร้านเยอะนะครับแต่บรรยากาศรู้สึกว่ากลับจะเงียบเหงากว่าในซอยซะอีก "ตัดใจ" แล้วครับเดินกลับที่พักแบบหงอยๆ ถ้าใครกะมาเที่ยวตื้ดๆ ไม่แนะนำให้มาช่วง low season เลยครับ เพราะมันเงียบจริงๆ เจอแต่คนบนเกาะเนี่ยแหละ

    "เซ็ง! เครียด! กินข้าว" กันดีกว่าครับ เจอร้านหน้าปากซอยร้านหนึ่งคนนั่งเยอะเลยแวะไปลองชิมดูหน่อย เมนูนี้ขอเสนอ "ปลาหมึกผัดไข่เค็มราดข้าวครับ"

    พี่เจ้าของร้าน ร้านนี้ดีครับเฟรนลี่มากๆ พี่แกก็ชวนผมคุยครับ แกเล่าว่า "ช่วง low season ก็แบบนี้แหละคนน้อยมาก ยิ่งเดือนสิงหาฯนะเงียบอย่างกับป่าช้า ขนาดคนบนเกาะยังออกจากเกาะเลยเพราะอยู่ไม่ได้จริงๆ ไม่มีคน"

    "ที่โลนลี่ บีช จริงๆเป็นอีกย่านหนึ่งที่คนครึกครื้นมากๆ อยากเมาได้เมาแน่ๆเพราะที่นี่กว่าเขาจะปิดร้านก็สว่างเลย"

    ได้ยินแบบนี้ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดครับ "คราวหน้า มาช่วง high ไม่พลาดแน่ๆ" 

    กินเสร็จทักแชทเฟสไปหาพี่แบงค์ครับ กะจะชวนพี่แกดื่มกันสักหน่อย ตอนนี้พี่แบงค์อยู่ข้างนอกครับเดี๋ยวสักพักก็กลับ ถึงตอนนี้ 5ทุ่มกว่าแล้ว "ยังไม่เมาเลยย" ผมก็แวะซื้อเบียร์เพิ่มก่อนค่อยกลับกะว่าคืนนี้จะเมากับพี่แบงค์เนี่ยแหละ อยู่กันยาวๆ

    กลับมาถึงห้องก็นั่งจิบเบียร์รับลมทะเลไปพราง ถึงจะมืดมองไม่เห็นทะเลแล้ว แต่แค่มีเพียงเสียง "คลื่น" กระทบฝั่งกับลมทะเลความแรงระดับพัดลมเบอร์3 ก็ทำให้ผมติดลมได้ง่ายๆแล้วครับ

    ไม่นานนักพี่แบงค์ก็กลับมาถึง ผมก็ลากพี่แบงค์นั่งชิลด้วยกันต่อเลย เสวนากันไปเรื่อย คิดอะไรได้ก็พูดละครับ "เริ่มกึ่มๆๆ"

    ไม่นานนักพี่แบงค์ก็ขอตัวไปนอนครับเพราะพรุ่งนี้พี่แบงค์มีโปรแกรมจะเที่ยวแต่เช้าเลย เราก็ไม่ขัดขืนอะไร เพราะเราเองก็ลืมไปว่า "พรุ่งนี้จะตื่นแต่เช้า" เหมือนกัน แย่ละครับเหลืออีก2ขวด เริ่มเมาแล้วด้วย "เอาวะ กินให้หมดเนี่ยแหละ" ดื่มหมดก็หมดสติ "พรุ่งนี้จะตื่นไหวมั้ยเนี่ยย?" ราตรีสวัสดิ์ครับเจอกันตอนเช้า.. 

    • โพสต์-7
    Padict •  กรกฎาคม 28 , 2558

    เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง PART7

    "ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย.." เสียงเพลงชาติดังมาจากทีวีที่เปิดทิ้งไว้ทั้งคืน คงไม่ต้องเดาก็รู้ว่าตอนนี้ 8 โมงเช้าครับ รู้สึกตัวก็ไม่รอช้าลุกมาทำ ธุระส่วนตัว เสร็จกิจเรียบร้อยก็ออกมาเดินเล่นหน้าหาด (จะเรียกหาดดีมั้ยมันมีแต่หินอ่ะ)

    "ต้องอัพรูปแล้วล่ะ" บรรยากาศตอนเช้าดีมากเลยครับ ฟ้าเปิด แดดอ่อนๆ เห็นแล้วอดใจไม่ไหวเลยหยิบมือถือมาถ่ายรูปเล่นเก็บภาพลงโซเชียลหน่อยดีกว่า  

    บรรยากาศดี้ดี วิวก็ดี้ดี แต่นายแบบม้ายค่อยดี 
    ถ่ายรูปเล่นอยู่นานถึงประมาณ 9 โมง ก็ตัดสินใจกลับมาเก็บกระเป๋าครับ กะว่าจะเช็คเอ้าท์ออกเลยแล้วก็เที่ยวต่อทั้งวัน ตอนเย็นๆค่อยกลับ มองไปที่ห้องพี่แบงค์รองเท้ายังกองอยู่หน้าห้อง "สงสัยจะยังไม่ตื่น" เราก็ไม่รบกวนครับกลับเข้าห้องไปเก็บกระเป๋าเสร็จ ทีนี้พร้อมลุยแล้วครับ "ออกจริงๆแล้วนะ"

    "อ่าว น้อง" เสียงพี่แบงค์ทักมา ผมนี่หันควับเลยครับ พี่แกเดินออกมาจากห้องพอดี แล้วก็เป็นไปอย่างที่คิดครับ พี่แบงค์ตื่นสาย แพลนที่วางไว้เลยผิดแผนไปหมดเลย 

    เป้าหมายของผมวันนี้คือไปที่บางเบ้าครับ ซึ่งพี่แบงค์ไปมาแล้ว ก็เลยขอข้อมูลจากพี่แบงค์ พี่เขาแนะนำให้ไปที่ประภาคารครับ ซึ่งอยู่ลึกสุดเลยของท่าเรือบางเบ้า เป็นอีกแลนมาร์คหนึ่งที่คนไปถ่ายรูปกันเยอะ 

    "โอเคครับ" ได้ข้อมูลแล้วทีนี้ถึงคราวแยกทางกันจริงๆแล้วครับ "โชคดีครับพี่แบงค์" ผมบอกลาพี่แบงค์ ความรู้สึกเหมือนต้องจากอะไรไปสักอย่าง แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ "สักวันเราจะมาพบกันใหม่"

    -จุดชมวิว ไก่แบ้-

    เช็คเอ้าท์แล้ว แวะไปเช่ามอไซค์ต่ออีกหนึ่งวัน เสียตังค์เพิ่มอีก 150 บาท แล้วก็ออกเดินทางกันต่อครับ ผมแวะไปที่ "จุดชมวิวไก่แบ้"ก่อน หลังจากที่เมื่อวานพลาดโอกาสไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ เลยย้อนกลับมาตามสัญญา  

    ฝีมือการถ่ายภาพของผมไม่ค่อยเท่าไหร่ภาพเลยออกมาไม่ค่อยสวย แต่ขอบอกเลยนะครับว่า "ภาพที่เห็นด้วยตาเปล่าสวยกว่าภาพที่เห็นเป็นรูปถ่าย" เยอะครับ "เซลฟี่กะเขาหน่อย" มาเที่ยวตั้งนาน เพิ่งหยิบไม้เซลฟี่ขึ้นมาใช้    ที่นี่มีมุมให้ขึ้นมาชมวิวอีกมุมนึงครับซึ่งหลายคนไม่สังเกต เดินเข้ามาด้านในสุดของลานจอดรถมองมาทางซ้ายจะเห็นบรรไดครับ เดินขึ้นมาบอกเลยว่า"วิวแจ่มกว่าด้านล่างมาก" (ไม่ได้ถ่ายภาพไว้ครับขออภัย) 
    • โพสต์-8
    Padict •  กรกฎาคม 28 , 2558

    เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง PART8

    -สถานีต่อไป บางเบ้า-

    มาต่อกันที่สถานีต่อไปดีกว่าเป้าหมายต่อไปของผม คือ "บางเบ้า" ครับ หลังจากชมวิวทิวทัศน์ที่ไก่แบ้จนพอใจแล้ว ก็ได้เวลาจับแฮนด์บิดคันเร่งแล้วไปกันต่อ

    "หินใช่เล่น" ทางไปบางเบ้านี่ขับยากเหมือนกันครับ เดี๋ยวขึ้นเนินเดี๋ยวลงเขา แถมชันอีกตางหาก ไม่บอกนี่คิดว่าเล่นเวฟอยู่เลยแหละ ต้องค่อยๆขับไปครับ ตลอดทางก็จะมีป้ายเตือน "ระวังดินถล่ม" อยู่เป็นระยะ(จะรอดไหมนี่)

    พอขับมาจนถึง "ถนนคอนกรีต" ก็ชะลอความเร็วครับเพราะใกล้ถึงแล้ว พี่ร้านเช่ามอไซค์บอกว่าให้สังเกตทางซ้ายจะมีวัดอยู่ ทางเข้าท่าเรือจะอยู่ตรงข้าม ผมก็เห็นแล้วครับแต่ยัง "ไม่มั่นใจ" ว่าใช่ทางไปท่าเรือหรือเปล่า ความรู้สึกแรกเหมือนเป็นหมู่บ้านหรือชุมชนอะไรสักอย่างเลยขับเลยไป แต่พอเลยไปก็ไม่เจออะไรเลยเปลี่ยนใจครับ "ลองเข้าไปดูก็ได้"

    ปรากฏว่าถูกแล้วครับที่นี่คือท่าเรือบางเบ้า เลี้ยวเข้ามาในซอยขับเข้ามาหน่อยเจอเลยครับ ถือว่าเจริญอยู่เหมือนกัน ผมเอารถไปจอดอยู่ตรงแถวๆเซเว่นเพราะอยู่ใกล้กับทางเข้าท่าเรือ

    "หนูๆจอดรถ 20 บาท" ยายเฒ่าคนหนึ่งเดินมาเก็บค่าที่จอดผม "อ่าว พลาดแล้วไง" ก็เลยหยวนๆยอมจ่ายไปครับเพราะไหนๆก็จอดรถเรียบร้อยแล้ว ถ้าใครอยากจอดฟรีแนะนำให้จอดที่วัดนะครับไม่เสียเงิน เดินเข้ามาหน่อยประมาณ200 เมตรก็ถึงครับ

    ถึงตอนนี้ก็ประมาณ 11 โมงกว่าๆแล้วครับ เดินเข้ามาด้านใน มีร้านค้าเต็มไปหมดเลยสองข้างทาง ทั้งขายของกิน ของฝาก เสื้อผ้า ฯลฯ แต่ว่ายังไม่ค่อยเปิดกันนะครับ(หรือปิดก็ไม่รู้) รู้สึกได้ว่า"เราเป็นนักท่องเที่ยวคนเดียว" ในนั้นครับนอกนั้นคือพ่อค้าแม่ค้าหมด เดินไปก็กดดันไป เพราะแต่ละร้านก็ส่งสายตาปริบๆมาตลอดทาง อยากอุดหนุนนะครับแต่สินค้าก็ทั่วๆไป และที่สำคัญ "ตังค์ไม่พออ่ะ - -"

    "เห้ย มันใช่อ่ะ" เดินมาจนสุดทางก็ถึงท่าเทียบเรือครับ บอกเลยว่าชอบโลเคชั่นที่นี่มากๆ หยิบขาตั้งกล้องมาตั้งมือถือถ่ายรูปแบบไม่ต้องเก้อเขิ้ลอะไรเลยครับ สบายใจมาก เพราะเวลานี้ไม่มีคนเลยครับ 

    "แชะ" งานเผลอก็มาครับ จะแอคเป็นร้อยท่าก็ไม่มีใครว่าครับเพราะไม่มีคนเลย ไม่ต้องแคร์สายตาใคร จัดว่าเป็นข้อดีของการเที่ยวช่วง low season อย่างหนึ่ง เดินเข้ามาด้านในสุดจะเจอ "ประภาคาร" ที่พี่แบงค์บอกครับ ตอนเย็นๆคงถ่ายรูปสวยน่าดู
    • โพสต์-9
    Padict •  กรกฎาคม 28 , 2558

    เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง PART9

    "หวิ้วววว" เสียงลมพัดแรงมากๆครับ ดูทรงแล้วฝนกำลังจะตกเลยรีบเก็บของวิ่งกลับเข้าไปในตลาด ตอนเดินข้ามสะพานหวาดเสียวมากครับ เสียวลมจะพัดเราตกทะเลซะก่อนต้องค่อยๆเดินข้ามไป

    "ยังไม่ได้กินข้าวเลยนิหว่า" เพิ่งนึกได้ครับ เลยเดินย้อนกลับไปในตลาดจำได้ว่ามีร้านอาหารอยู่ เลยได้แวะทานอาหารที่ร้าน 'เรือนไทยซีฟู้ด'ครับ ร้านนี้อาหารใช้ได้ครับ แต่ด้วยงบที่มีอยู่อย่างจำกัด เลยสั่งได้เพียงอาหารจานเดียวเท่านั้นครับ สำหรับบมื้อนี้ก็ "กระเพราทะเลไข่ดาว" ครับ จานนี้ค่าเสียหาย 75 บาท

    "ตบของหวานหน่อยดีกว่า" จำได้ว่าพี่แบงค์เคยมาชิมกาแฟที่ร้าน 'บางเบ้า Delight' เลยถือโอกาสแวะเวียนไปบ้าง

    บรรยากาศร้านสวยดีครับ แต่แอบ "ร้อนอบอ้าว" ไปหน่อย อาจเป็นเพราะฝนจะตกด้วย ส่วนราคาก็สูงเหมือนกัน แต่ไม่ลองไม่รู้ครับ

    "เอา ช้อคโกแล็คร้อนครับ" เมนูที่ถูกที่สุดราคา 55 บาท สั่งเสร็จเหลือบเห็นที่นั่งด้านนอก เป็นระเบียงติดทะเล เลยเดินไปนั่งตรงนั้นครับ วิวสวยดี (เปลี่ยนเป็นเบียร์จะดีมาก555)

    ช้อคโกแลคร้อนๆ มาแล้วครับ ผมอาจจะรสนิยมในการดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ไม่ดีเท่าไหร่เลยบอกไม่ถูกว่ารสชาติมันเป็นยังไง แต่ความรู้สึกส่วนตัวยังถือว่า"ไม่ผ่าน" สำหรับผมครับ 

    "แบตจะหมดแล้ว" เอายังไงดีล่ะ ฝนก็ตกไปไหนไม่ได้ ทีแรกว่าจะไปน้ำตกคลองพูลแต่คงไม่ไปแล้วครับ อยู่ชาร์ตแบตโทรศัพท์ก่อน นั่งเล่นอยู่ในร้านถึงประมาณเกือบๆ บ่าย3 ฝนหยุดตกแล้วครับ "กลับเลยดีกว่า" กลัวฝนตกอีกรอบไหนจะต้องเผื่อเวลาไปรอแท็คซี่อีก รอเรืออีก นานครับ

    -รอรถที่ โลนลี่บีช-

    ขับรถออกมาเอามอไซค์ไปคืน ถึงโลนลี่ บีชก็ประมาณ 15.30 น. คืนรถเสร็จ เดินไปรอรถที่หน้าปากซอยถามคนแถวนั้นเขาบอกว่ารถจะมาถึงก็ประมาณ4โมงครึ่ง "อีกตั้ง ชม.นึง" เลยเดินเล่นครับเข้าไปดูในซอย เทียนไชย๒ ดูซิว่าจะมีอะไร

    เดินเข้ามาในซอยก็คล้ายๆซอยเทียนไชย๑ ครับแต่ดูจะเงียบสงบกว่า และที่สำคัญผม "เจอแล้วครับ" 'กะโหลกกะลา โฮสเทล' ดูใหญ่โตมโหฬาลมากและดูใหม่สุดในย่านนั้นด้วย "คราวหน้ามาพักที่นี่แหละ"(ไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะครับ)

    เดินกลับออกจากซอย เจอร้านขายโรตีร้านหนึ่ง แม่ค้าดูยังวัยรุ่น "อุดหนุนหน่อยแล้วกัน"(อุดหนุนแบบมีเป้าหมาย)

    สั่ง "โรตีใส่ไข่กับกล้วยปั่น" มาครับรวมแล้วราคา 60 บาท กินหมดก็นั่งเล่นรอเวลาแม่ค้าก็ไม่ว่าอะไรเลยชวนคุยซะเลย(อะแฮ่ม) น้องเขาเล่าให้ฟังว่า ช่วงนี้นักท่องเที่ยวน้อยมากๆ แถมอุบัติเหตุก็บ่อยด้วย มีฝรั่งจมน้ำอาทิตย์นึง3-4ครั้ง ไหนจะมอไซค์ล้มอีกมีทุกวัน หลายคนขับรถประมาทถึงขั้นเสียชีวิตก็หลายคนแล้ว ได้ยินแล้วก็รู้สึกหดหู่ใจครับ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีอยู่เหมือนกัน ที่ไม่เกิดอุบัติเหตุหรือไม่ติดประมาทเกินไป "ทำอะไรต้องไม่ประมาทครับ"

    "นู่น รถมาแล้วค่ะ" น้องแม่ค้าบอก ถึงเวลาต้องไปแล้วสิ รถมาถึง 16.20 น. ค่ารถก็ราคาเดิมครับ 100 บาท "ลาก่อนนะ โลนลี่บีช" โอกาสหน้าเดี๋ยวมาใหม่

    ชอบทางตรงนี้มากครับเป็นทางลงเขา รูปตัว S เลยแหละ ขับยากมากๆ ว่าจะถ่ายรูปตั้งแต่ขามาแล้วแต่ลืม "ถ่ายขากลับก็ได้' 

    ลักษณะของถนหนทางที่นี่พอสังเขปครับ

    • โพสต์-10
    Padict •  กรกฎาคม 29 , 2558

    เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง PART10 (จบ)

    -ท่าเรือเฟอรี่เซ็นทรัลพ้อย (เกาะช้าง)-

    "ต้องกลับจริงๆแล้วหรอเนี่ย" แอบเสียดายเหมือนกันใจจริงก็อยากอยู่นานกว่านี้ ถึงท่าเรือประมาณ 17.00 น. รอเรือออกรอบ 17.30 น. คนน้อยครับ ตอนประมาณบ่าย4 พี่แบงค์ทักแชทมาว่าขึ้นเรือกลับแล้ว ป่านนี้คงจะถึงฝั่งแล้ว

    เดินขึ้นมารอบนเรือคนเดียว บรรยากาศเหงาๆดีครับ เปิดเพลงเศร้าๆ บิ้วท์อารมณ์ทีแทบจะกระโจนลงทะเล

    บังเอิญเหลือบไปเห็นอะไรตลกๆบนเรือครับ "ห้ามสูบบุหรี่" มีสติ้กเกอร์ห้ามสูบแปะอยู่บนเรือแต่ว่าข้างๆดันตั้งที่เขี่ยบุหรี่เอาไว้ (หมายความว่างาย)

    17.30 น. เรือออกจากท่ามุ่งหน้ากลับฝั่งเมืองครับ "หมดเวลาสนุกแล้วสิ" 

    ตอนขามานั่งคุยกับพี่แบงค์เพลิน ไม่ได้มองวิวเลย พึ่งรู้ว่า"มันสวย"ขนาดนี้

    -ถึงฝั่ง-

    "6 โมงแล้วหรอเนี่ย" ใช้เวลาเดินทางนานกว่าที่คิดครับ นี่ขนาดเผื่อเวลาจากบนเกาะมาแล้วนะ

    รอบนี้มีสองแถวมารอเหมือนเคยครับ แต่รอบนี้คนน้อย สองแถวเลยคิดราคาเพิ่มเป็น 80 บาท 

    -ขนส่งตราด "อีกครั้ง"-

    "กลับกรุงเทพฯครับ" ถึงที่ขนส่งก็ วอร์ค-อิน เข้าไปจองตั๋วครับ คราวนี้พิเศษหน่อยสามารถเลือกที่นั่งได้ครับ(ทำไมตอนมาเขาบอกเลือกไม่ได้หว่า) 

    จองที่นั่งเสร็จออกมาหาอะไรกินรองท้องที่โรงอาหารข้างๆขนส่งครับ มีร้านข้าวแกงเปิดอยู่ก็เดินไปสั่งอาหารมากิน และถือโอกาสขอเขาชาร์ตแบตโทรศัพท์ด้วยครับ นาทีนี้ พาวเวอร์แบงค์แบตเป็นหมื่นก็เท่านั้นครับหมดเกลี้ยงเลย 19.30 น. ถึงเวลาเดินทางกลับแล้วครับ กว่าจะไปถึงเอกมัยก็ประมาณตี1 นู่น(งีบยาวๆ) มีความสุขมากๆที่ได้เดินทางในทริปนี้ ถึงแม้ว่าหลายๆอย่างจะไม่เป็นใจ ทั้งสภาพอากาศ งบที่เตรียมมา และอะไรต่างๆทีดูจะไม่ค่อยเป็นใจ แต่ก็ไม่ถือว่าเสียเที่ยวเลยครับ อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ชีวิตเพิ่มขึ้นได้เรียนรู้จากการพึ่งพาตัวเองหลายอย่าง ไม่มีคำว่า"ขาดทุน"เลยจริงๆครับ 

     

    "จบทริปแล้ว" เรื่องค่อนข้างยาวหน่อยแต่เพราะใส่ใจรายละเอียดเลยพยายามเล่าให้เห็นภาพมากที่สุด(เก็บทุกเม็ด) ไว้เป็นข้อมูลประกอบการเดินทางด้วย หากมีข้อผิดพลาดประการใดน้อมรับทุกคำติชมครับ 

    หากมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ไหนอีก ไว้จะกลับมาเขียนรีวิวให้ได้อ่านกันนะครับ "ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ"

     

    -สรุปรายจ่าย-

    ตั๋วไป-กลับ โชคชัยทัวร์ 480 บาท

    สองแถวไปท่าเรือ 70 บาท

    ตั๋วเรือไป-กลับ 160 บาท

    แท็คซี่สองแถว ไปโลนลี่บีช 100 บาท

    ที่พัก 600 บาท

    เช่ามอเตอร์ไซค์ 150x2 = 300 บาท

    ค่าน้ำมัน 100 บาท

    ค่าที่จอด(บางเบ้า) 20 บาท

    แท็คซี่สองแถวกลับท่าเรือ 100 บาท

    สองแถวกลับขนส่งตราด 80 บาท

    รวม 2,010 บาท (ไม่รวมค่าอาหารนะครับเพราะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

     

    ปล.ยังไงขอฝากติดตามด้วยนะครับ พูดคุยกันได้ตามข้างล่างนี้ครับผม ^^

    FB :  ศุภดิตถ์ จิตติรัตน์วัฒนา
    IG : supadit.jt

    • はじめまして  อ่านแล้วสนุกมั๊กๆเลยครับน่าไปๆเงียบๆไม่วุ่นวาย ^^ 05 สิงหาคม 2558 20:36:54
    • Capikon  น่าไปจัง 05 สิงหาคม 2558 16:26:56
    • ArNas  ชอบครับชอบ เห็นอะไรๆหลายๆอย่างเยอะเลย อธิบายละเอียดมากอย่างกับไปด้วยกันเลย ผมไม่เคยมีประสบการณ์เที่ยวคนเดียว อยากรู้มานานแล้วว่าจะเป็นยังไง ตอนนี้รู้แล้วครับ แบบที่คิดไว้เลย แต่เห็นภาพดีกว่าเยอะเลยครับ ขอบคุณมากที่เล่าประสบการณ์ดีๆที่ผมไม่เคยเจอให้ฟัง (อยากจะลองสักครั้ง) 05 สิงหาคม 2558 15:24:32
  1. โหลดเพิ่ม