เล่าประสบการณ์ ฉายเดี่ยวที่เกาะช้าง PART1
**นี่เป็นรีวิวแรกของผม ผิดพลาดประการใเขออภัยด้วยนะครับ**
ผมเคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวคนเดียวก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนั้นไปเที่ยวเชียงใหม่รู้สึกว่าการเที่ยวคนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร หนำซ้ำยังรู้สึกติดใจซะอีก เลยสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่า "ในปีนี้จะต้องหาโอกาสไปเที่ยวคนเดียวให้ได้อีกครั้ง"
“อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ไกลๆ” “อยากลองเที่ยวแบบไม่ต้องมีแบบแผน” ประโยคเหล่านี้มันวนเวียนอยู่ในหัวผมมาตลอดแต่ใจก็ยังกล้ากลัวๆอยู่ ไม่กล้าที่จะ”เริ่ม”ออกเดินทางสักที จนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเหมือน ”ทุกข์” ทุกอย่างมันเป็นใจครับ ความวิตกกังวล ความไม่มั่นใจ อยู่ๆมันหายไป.. “ไม่ไหวแล้วนะ ต้องไปจริงๆแล้วล่ะ”
หยิบแลปท็อปขึ้นมาลองเสิร์จหาข้อมูล หาแรงบรรดาลใจ
“เห้ย ไปที่นี่แหละ” อ่านเจอรีวิวหนึ่งรู้สึกประทับใจมากๆ จึงเป็นต้นเหตุของการ"ตามลอย" ออกไปฉายเดี่ยวแบบไม่มีแบบแผน ซึ่งจุดหมายปลายทางที่ผมจะไปก็คือ "เกาะช้าง" ครับ
-จากบ้าน-
อ่านกระทู้จบก็รู้สึกได้เลยว่าใจเราไปรออยู่บนเกาะเรียบร้อยแล้ว
“แล้วจะรออะไรล่ะ?” โทรศัพท์ไปที่ขนส่งเอกมัยเพื่อสอบถามการเดินทาง ทีแรกตั้งใจจะเดินทางวัน พ.15 แต่มาเปลี่ยนใจเอาตอนวันอังคาร “ไปเลยแล้วกัน” ออกคืนนี้เลยเนี่ยแหละ มีรอบดึกสุด 23.30 น. เดินทางไปถึงที่นั้นก็คงเช้าพอดีจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ
พอตัดสินใจเปลี่ยนแผนแบบปุ้บปั้บ จากที่กำลัง “slow life“ ทำอะไรเอื่อยเฉื่อย ทุกอย่างเลยกลายเป็น”นาทีเร่งด่วน”ทันที
“จะไปกี่วันดี? ถือ..ไปดีมั้ย? สายชาร์ตอยู่ไหน? ฯลฯ”
วุ่นวายอยู่พักใหญ่ก็จัดกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย ถึงตอนนี้เวลา 22.00 น. ใกล้จะถึงเวลาแล้ว
งั้น“ออกเดินทางกันเลยดีกว่า”
-ขนส่งเอกมัย-
นั่งแท็คซี่ ต่อบีทีเอส ถึงขนส่งเอกมัยก็เกือบจะ 5ทุ่มแล้ว
ผมซื้อตั๋วแบบไป-กลับ ของเชิดชัยทัวร์ ราคา 480 บ. ขากลับเราจะกลับวันไหนก็ได้ในใบจะแม็ครอบรถติดมาด้วย ถ้าอยากอยู่ต่อก็สามารถเช็คเวลาและโทรไปสำรองที่นั่งได้ตลอดครับ
ได้ตั๋วมาเรียบร้อยแวะ ซื้อน้ำ ปัสสะวะ (หืม) สักหน่อยแล้วเดินไปนั่งรอที่ชานชาลา
มองดูนาฬิกาเกือบๆ 5ทุ่ม รถมาจอดรอได้สักพักแล้ว พอใกล้ถึงเวลาคนขับรถก็เรียกให้ผู้โดยสารขึ้นรถ
ส่วนกระเป๋าจะเอาไว้ใต้รถหรือกับตัวก็ได้นะครับแล้วแต่ความพึงพอใจ
ตอนซื้อตั๋วคนขายตั๋วบอกว่า “วันนี้มีคนขึ้นเต็มเลย ทั้งต่างชาติฝรั่ง คนจีน มาเยอะแยะเลย”
ซึ่งก็เยอะแยะจริงๆครับ ชาวต่างชาติทั้งฝรั่ง และคนจีนมาจากไหนไม่รู้เต็มเลย รวมๆแล้วน่าจะเกินครึ่งคันได้ (นึกว่าอยู่เมืองนอก)
23.30 น. รถออกแล้วครับ ตรงต่อเวลามากๆ ข่มตานอนพักผ่อนกลัวจะไม่มีแรง ราตรีสวัสดิ์เจอกันตอนเช้าครับ
-ขนส่งตราด-
“โอ้ยย ปวดคอ” สงสัยจะนอนคอพับคอหักมาตลอดทาง ดูนาฬืกาตี 4.00 น. ก็มาถึงแล้วครับ "จังหวัดตราด” จัดว่าไวกว่าที่คิดไว้มาก(ยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย)
เดินลงจากรถมาด้วยความงัวเงีย แวะเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเรียกความสดชื่น พอเดินออกมา ด้านหน้าขนส่งจะมีรถสองแถวจอดรอรับผู้โดยสารอยู่ประมาณ 4-5 คัน ผมก็เดินเงอะงะๆ เข้าไปบอกพี่คนขับว่าจะไป “Lonely beach ครับ” คนขับก็บอกให้ผมรีบขึ้นรถได้เลย ค่าโดยสารราคา 70 บาท
เดินขึ้นมาบนรถ มองซ้ายมองขวา “ไม่มีคนไทยเลย” อโลนจริงๆครับ ด้านนึงก็แก๊งค์คนจีนอีกข้างนึงก็แก๊งค์ฝรั่ง ฝั่งตรงข้ามก็คู่รักเยอรมัน จะคุยกับใครดีล่ะ “นั่งเงียบๆก็ได้วะ - -”
-ซื้อตั๋วเรือ-
ผ่านไป 40นาที รถก็มาจอดอยู่ที่ จุดๆหนึ่ง ทีแรกนึกว่าจะพาไปที่ท่าเรือเลย แต่ปล่าวครับต้องแวะซื้อตั๋วเรือก่อน ก็ซื้อตั๋วเรือไป-กลับมาครับ 160 บาท นั่งรอเวลาไปเรื่อยจนกว่าสองแถวจะเรียกเพราะเดี๋ยวเขาต้องพาเราไปส่งที่ท่าเรือต่อ
ระหว่างที่นั่งรออย่างเบื่อหน่าย บังเอิญเหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่คนเดียว ดูทรงแล้วน่าจะเป็นคนไทย ผมเลยลองเดินเข้าไปทักทายดู
“คนไทยหรือเปล่าครับ?” สวมวิญญาณเพื่อชีวิตเข้าไปถาม
“ครับ คนไทยครับ” เท่านั้นแหละจ้า รู้สึกดีใจกว่า ลิเวอร์พูลได้แชมป์ พรีเมียร์ลีคอีก (หืม)
เลยถือโอกาสผูกมิตรกันซะหน่อย ทราบความว่า พี่เขาชื่อ พี่แบงค์ครับ มีเวลาว่างจากการทำงานเลยหนีมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน เลยยิ่งคุยกันหนักเลยครับทีนี้ มาครั้งแรกเหมือนกันด้วย “ขอเม้าส์หน่อยเถอะ”
ไม่เคยคิดว่าจะได้มิตรภาพใหม่ๆจากการเดินทางเลย เคยอ่านเจอหลายๆรีวิว ไม่คิดว่าจะได้เจอกับตัว รู้สึกดีและประทับใจมากจริงๆครับ
นั่งฝอยกันซะเพลิน ก็ได้เวลาไปต่อแล้วครับ งานนี้ไม่เหงาแล้วเพราะมีเพื่อนร่วมทาง(ชะตากรรม)แล้ว ผมกับพี่แบงค์เลยไปไหนไปด้วยกันครับ มีอะไรจะได้พึ่งพาอาศัยกัน “แยกหมู่เราตาย”