22nd June 2017้






จองหางแดงไว้ตั้งแต่ 10 เมษา หลังรู้ว่าการเที่ยวครั้งนี้จะมีคนจ่ายให้ทั้งหมด 

ถามว่าอยากมาไหม... ไม่นะ จริง ๆ เพราะส่วนตัวแล้วไม่ชอบทะเลเอาซะเลย ร้อน เหนียวตัว มันสวนความเป็นตัวของตัวเองอย่างมาก...  คงเป็นเพราะอากาศมากกว่าที่ไม่ชอบ ไม่ใช่ไม่ชอบทะเล ไม่ใช่เพราะไม่ชอบคลื่น แต่ไม่ชอบอากาศร้อน ๆ ทางตอนใต้ของไทยเลย และไม่ชอบแดดแรง ๆ เลยพาลไม่ชอบเที่ยวทะเลตั้งแต่เด็ก


แต่ด้วยความเป็นมนุษย์แม่แหล่ะเนาะ... ที่ปีนึงแพลนว่าต้องพาโมเสสเที่ยวทะเลสักหนแม้แม่จะต้องทนก็ตาม หึ ๆ ๆ
จังหวะดีที่อ้าง... น้องชายของสามีที่ไม่เจอกันนานมากกกกก มาแวะหาที่บ้านพร้อมออกปากชวนไปพักที่ภูเก็ตในเครือของเขา บอกจะพักที่ไหนก็ได้ กี่คืนก็เอาเลย พอดีกะที่แพลนจะพาโมเสสไปทะเลทางหัวหินเลยได้เบนเข็มไปภูเก็ตแทน เรามีที่พักฟรีในลิตส์แล้ว เหลือแต่ตั๋วที่ยังต้องหา... จังหวะเดียวกันนั้นแค่ข้ามวัน น้องสาวสามีที่อยู่เมกาโทรมาบอกช่วยแพลนไปทะเลช่วงที่แกกลับไทยให้หน่อยจะพาหลาน ๆ ไปเที่ยว.. เพราะทะเลที่เมกา หนาว ไม่น่าเล่น มันคือจังหวะสินะ เราเลยบอกแกว่าไปด้วยกันไหม... กลายเป็นแกตกลงพร้อมออกตั๋วเครื่องบิน และอาหารทุกมื้อให้ คือ... "เกินคาด"


ปล. บล๊อกนี้รวบเขตเมืองเก่าไว้ในบล๊อกเดียวกันเลยค่ะ แต่ไปทุกวัน 3 วัน เพราะงั้น... อย่าแปลกใจชุดนะคะ ^^

 คำว่า ภูเก็ต คาดว่าน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า บูกิต[3] (ในภาษามลายูแปลว่าภูเขา)
หรือที่เคยรู้จักแต่โบราณในนาม เมืองถลาง

  เดิมคำว่าภูเก็ตนั้นสะกดว่า ภูเก็จ ซึ่งแปลได้ว่า เมืองแก้ว จึงใช้ตราเป็นรูปภูเขา (ภู) มีประกายแก้ว (เก็จ) เปล่งออกเป็นรัศมี (ดูตราที่ผ้าผูกคอลูกเสือ) ตรงกับความหมายเดิมซึ่งชาวทมิฬเรียก มณิครัม ตามหลักฐาน พ.ศ. 1568 ภูเก็ตเป็นที่รู้จักของนักเดินเรือที่ใช้เส้นทางระหว่างจีนกับอินเดีย โดยผ่านแหลมมลายู หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดก็คือ หนังสือภูมิศาสตร์และแผนที่เดินเรือของคลอดิอุส ปโตเลมี เมื่อประมาณ พ.ศ. 700 กล่าวถึงการเดินทางจากแหลมสุวรรณภูมิลงมาจนถึงแหลมมลายู ซึ่งต้องผ่านแหลม จังซีลอน หรือเกาะภูเก็ต (เกาะถลาง) นั่นเอง

จากประวัติศาสตร์ไทย ภูเก็ตเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรตามพรลิงก์ อาณาจักรศรีวิชัย สืบต่อมาจนถึงสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราชเรียกเกาะภูเก็ตว่า เมืองตะกั่วถลาง เป็นเมืองที่ 11 ใน 12 เมืองนักษัตร โดยใช้ตราเป็นรูปสุนัข จนถึงสมัยสุโขทัย เมืองถลางไปขึ้นกับเมืองตะกั่วป่า ในสมัยอยุธยา ชาวฮอลันดา ชาวโปรตุเกส และชาวฝรั่งเศส ได้สร้างสถานที่เก็บสินค้าเพื่อรับซื้อแร่ดีบุกจากเมืองภูเก็ต (ถลาง)


ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้เกิดสงครามเก้าทัพขึ้น พระเจ้าปดุง กษัตริย์ของประเทศพม่าในสมัยนั้น ได้ให้แม่ทัพยกทัพมาตีหัวเมืองปักษ์ใต้ เช่น ไชยา นครศรีธรรมราช และให้ยี่หวุ่นนำกำลังทัพเรือพล 3,000 คนเข้าตีเมืองตะกั่วป่า เมืองตะกั่วทุ่ง และเมืองถลาง ซึ่งขณะนั้นเจ้าเมืองถลาง (พญาพิมลอัยาขัน) เพิ่งถึงแก่อนิจกรรม ท่านผู้หญิงจัน ภรรยา และคุณมุก น้องสาว จึงรวบรวมกำลังต่อสู้กับพม่าจนชนะเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2328 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงจันเป็น ท้าวเทพกระษัตรี และคุณมุกเป็นท้าวศรีสุนทร

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รวบรวมหัวเมืองชายทะเลตะวันตกตั้งเป็น มณฑลภูเก็ต และเมื่อปี พ.ศ. 2476 ได้ยกเลิกระบบมณฑลเทศาภิบาล เปลี่ยนมาเป็นจังหวัดภูเก็ต 
   เครดิต : wikipedia


.

.

.

 

 

 


 

 

 

2009 เคยมาครั้งนึงแบบมั่ว ๆ ไม่ทั่ว แต่ก็เมาน่ะ 555 คงเพราะกลางวันเมาแดด เมาคลื่น เมาปลาตีน ตกกลางคืนเมาแอ๋ เลยทำให้ชีวิต นนท.ที่ภูเก็ตหนนั้นได้แต่ความแฮงค์กลับเชียงใหม่ .... ไม่ถึงภูเก็ตเล้ย... นอกจากเกาะต่าง ๆ แล้วในเมือง "ฉันจำอะไรไม่ได้เลย"

หลัง ๆ พอได้อ่านบล๊อกภูเก็ตของเพื่อน ๆ หลายบล๊อกแล้วอยากไปนะ.. ไม่ได้อยากไปทะเลหรอก ที่อยากไปคือเขตเมืองเก่า.. ไปดูสถาปัตย์สวย ๆ ไปหามุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ซะมากกว่า... เพราะงั้น... ที่แรกที่หมายมั่นว่าจะต้องไปเยือนให้ได้รอบนี้คือ เขตเมืองเก่าของเขาล่ะ "ภูเก็ต"

 

การเดินทางครั้งนี้

ไม่ค่อยคล่องตัวนักเพราะเด็ก 3 สว. 1 ผู้ใหญ่ 3  รวม 7 ชีวิต

 เราเริ่มกันที่ซอยรมณีย์ตามที่พี่เต้ย... คนขับรถหรือไกด์ 2 in 1ที่น้องชายสามีเตรียมไว้ให้

 


 

 

 

 

 

 

 

 

เริ่มแรกที่ก้าวเดินไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นเมืองเก่าที่น่าสนใจดีนะ

ตึกสีลูกกวาดหวาน ๆ เต็มไปหมด

 

 

 

เดิน ๆ ไป เริ่มเจอ street art ประปราย แต่ยังไม่ใช่ที่ฮิต ๆ ที่เคย ๆ เห็น


 

 

ป้า ลุง คู่นี้อยู่แถวศาลเจ้า กะ ร้านตู้กับข้าวค่ะ

 

คนนี้ก็ "ป้า" ขอคนใต้หวันถ่ายให้ค่ะ

เราลุยเดี่ยว เขาก็ลุยเดี่ยว หัวอกเดียวกันไม่มีใครถ่ายรูปให้ "แลกกัน"

 

 

 

ภาพเขียนผนังมีอยู่ทั่ว ประปราย กระจัดกระจาย มันทำให้คิดถึงปีนังที่จะไปเยือน (เร็ว ๆ)


.

.

.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตึกสีลูกกวาด ถาปัตย์ตะวันตกอย่างนี้.. เดินกี่ทีก็อยากให้หนาว ๆ พอคิดว่าอยากให้หนาว มีเมือง ๆ นึงแว๊บเข้ามาในหัว  "มาเก๊า" มันคือ มาเก๊ามินิของ จขบ.เลยแหล่ะ พอคิดได้ ก็ได้แต่ "อ๋อ" ถึงว่ามันคุ้น ๆ ความรู้สึกนี้ที่ไหนนะ

ก็นะ... ไซนีส ที่ถูกปกครองด้วย โปรตุเกส เอาสักหน่อย "อ๋อ" อยู่คนเดียว แต่ที่ไม่อ๋อเนี่ย คือ ตรูร้อน !!!


 

 

 

 

 

 

 

ที่เก่า ๆ มีเรื่องเล่า
ที่เก่า ๆ มีตำนาน
ที่เก่า ๆ มีความเป็นมา  และมีเรื่องให้น่าจดจำ

 

 

 


 

 

 

ร้านรวง โรงแรม ที่พัก และศาลเจ้า อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ในศาลเจ้า...มีต้นหลิว (หรือเปล่า) สวยดีค่ะ รูปข้างล่างเครดิตโมเสส

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สักพักฝนลง... จริง ๆ ก็ลงมันซะทุกวันนั่นแหล่ะ เพียงแต่วันแรกที่เยือนนั้น.. อย่างแรง อย่างกะเปิดม่านพายุเข้าเกาะ รอการเยือนของเรา

 

 

 

 

 

ฝนตกก็ดีนะ .... มุดตัวไปตามร่มชายคา โผล่โน่น นี่ นั่น ได้ภาพที่แปลก ๆ มาเพียบ

 

 

 

 

 แวะซื้อของฝาก "เต้าส้อ" ก่อนกลับ

 

...............................

 

 

มาภูเก็ตรอบนี้ "ถึง" ละนะ

......

 

 

 

 

 

ขอบคุณที่แวะมา

www.mariabamboo.bloggang.com