ภูผาดัก หนองคาย

                                                                           "The world is a book and those 
                                                                       who do not travel read only one page."
                                                      โลกใบนี้เปรียบเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง และคนที่ไม่เคยเดินทางเลย 
                                                                       ก็เปรียบเหมือนคนที่อ่านหนังสือเพียงหน้าเดียว

จุดเริ่มต้นของทริปนี้ คือการว่างจากไม่มีเรียนและไม่รู้จะไปใหน งานก็ไม่ได้ทำ เรื่องเที่ยวจึงผุดขึ้นมาในหัวฮ่าๆ และหนาวๆแบบนี้ที่เที่ยวคงไม่พ้นภูเขา ทริปนี้จึงเกิดขึ้น และด้วยความที่ผมยังไม่เคยเที่ยวจังหวัดตัวเองแบบจริงๆจังๆสักที่ ด้วยวันเเละเวลาจำกัด ครั้งนี้จึงขอเอาของดีจังหวัดตัวเองมานำเสนอสักหน่อย บอกเลยว่าคุณจะหลงรัก หนองคายมากขึ้น


ภูผาดัก ตั้งอยู่ ต.บ้านม่วง อ. สังคม จ.หนองคาย เพราะฉะนั้นแล้วหากใครจะไปขึ้นภู ไม่ว่าจะภูผาดัก ภูหนอง ภุห้วยอีสัน ทุกคนล้วนก็ต้องไปพักที่อ.สังคม เพราะต้องขึ้นภูแต่เช้า และสถานที่สะดวกสุด ก็ต้องเป็นตำบลบ้านม่วงนี่แหละครับ 

10/12/59
วันแรกผมเริ่มผมเริ่มต้นจาก อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ตอนเวลา 14.00 น. เพื่อนมารับจาก จ.บึงกาฬไหล และเข้าไปรับน้องที่ อ.เมื่องและ อ.ท่าบ่ตามลำดับไปตามทางกันเลยทีเดียว ด้วยความที่ไม่รีบเพราะวันแรกกะไปแค่นั่งกินปาร์ตี้ปิ้งย่างทั่วไป เลยออกสายกันหน่อย(แต่เสบี่ยงพร้อมมาก) มาเที่ยวทั้งทีจะไม่มีรูปทุกวันก็ยังไงอยู่ ผมจึงพยายามมองข้างทางหาสถานที่ถ่ายรูปกัน ฮ่าๆ

และนี่ก็เป็นสถานที่ที่เราลงไปถ่ายรูปกัน  ไร่ยาสูบ ฮ่าๆ ผมนี่พยายามจำลองมันให้เป็นไร่กระหล่ำเลยที่เดียว พิกัดก่อนเข้าตัวเมืองอำเภอสังคม อยู่ฝั่งขวา ถ้าจะจอดแถวนั้นระวังรถบรรทุกขนทรายเข้าออกด้วยนะครับ พอจอดรถพวกเราก็ไม่รอช้า ถ่ายรูปรัวๆกันเลยทีเดียว
 

และนี่ก็คือสี่คนที่ร่วมชตากรรมกับผมในทริปนี้

 

ก่อนจะไปขึ้นรถหันไปเจอแสงพอดี จึงบังคับน้องทั้งสองไปยืนเป็นแบบ ฮ่าๆบอกเลยว่าคุ้มกับการบังคับพวกมันจริงๆ เพราะผมเชื่อมาเสมอว่าแสงดวงอาทิตย์น่าหนาวคือแสงที่สวยที่สุด...

จากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่ต.บ้านม่วง ที่พักที่เราจองไว้ ชื่อ ริมโขงชมเขา โฮมสเตย์ เบอร์โทรติดต่อ 0857779207 เป็นลานกว้างมีต้นมะขามไว้บดบังแสงแดด และเต็มไปด้วยเต้นเล็กใหญ่สลับกัน มี่ร้านขายของชำ และตอนเช้ามีร้านกาแฟและโจ้ก ก๋วยจับขาย(แต่คนหนองคายเรียกข้าวเปียกนะครับฮ่าๆ) ราคาที่พักเป็นเต้น จะมีสามราคาคือ เล็ก 300 กลาง 400 และใหญ่ 450 
*สิ่งที่ที่พักมีให้
-ที่นอนหมอนผ้าห่มเพียงพอสำหรับต้านลมหนาวแน่นอน
-อุปกรณ์ปิ้งย่าง
-ห้องน้ำรวมมีประมานสี่ห้องถ้าผมจำไม่ผิด แต่สะอาดมากครับ
-ห้องอาบน้ำพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นสองห้อง
*ส่วนพวกจานที่โฮมสเตย์มีให้ยืมครับ แต่ถ่านและแก้ว ต้องซื้อเอานะครับฮ่าๆ ถ่านถุงละ 30 แก้วใบละ 5 บาท(พวกผมพลาดที่ลืมซื้อตอนซื้อเครื่องดื่นฮ่า)
พวกเรานอนเต้นเล็ก สามเต้น ราคาเต้นละ 300 บาท พอมาถึงก็ไม่รอช้าครับ เก็บข้าวเก็บของ จุดเตาทันทีไม่ค่อยหิวกันเท่าไหร่เล๊ยยยย

11/12/59 
มัวแต่กินจนลืมเก็บภาพบรรยากาศ ตัดภาพมาอีกที ก็ ตีสี่ตรงครับตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว เพราะนัดกับพี่เอกไว้(ไกด์สุดหล่อของพวกเรา)  อยากบอกว่าหนาวมากๆๆๆๆๆๆ เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไปจนสุดก็ยังไม่รู้สึกว่าร้อนเลย อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็รอพี่เอกมากเรียกเพราะแกนัดไว้ 04.30 ฮ่าๆการเที่ยวทุกครั้งย่อมมีอุปสรรค์ ครั้งนี้ก็เช่นกัน สมาชิกของผมอีกสองคนปลุกไม่ตื่นครับผม ได้ยินแต่เสียงงัวเงีย เอาวะไม่เป็นไร พาสมาชิกเพิ่มข้างหน้าก็ได้เพราะตอนนี้เหลือกันแค่สามคน
เบอร์โทรติดต่อพี่เอกนะครับ 0910452493
ราคาการขึ้นภูรายระเอียดดังนี้นะครับ
-ถ้าเป็นกลุ่มไม่ถึง 5 คนจะคิดเหมาในราคา 500 บาท
-ถ้าเกิน 5 คน จะคิดเป็นรายบุคคล ตกที่คนละ 100 บาท


นี่คือบรรยากาศตอน 04.30 ครับ หมอกหนามาก พี่เอกบอกว่า หมอกพึ่งมาหนาก่อนพวกผมมาหนึ่งวัน ถือว่าโชคดีมากครับ เราจะเดินทางไปขึ้นภูโดยสายการบินกระบะวีโก้ของพี่เอก ตามภาพที่สี่ด้านล่างเลยครับ ก่อนรถจะออกขอเก็บภาพแข่งกันหล่อกับน้องชายสักภาพ บรรยกาศนี่ได้ฟิลเลยครับ หนาวนะครับเเต่ผมกลัวร้อนตอนเดินเลยใส่แขนสั้นฮ่าๆ แต่ก็เอาเสื้อแขนยาวไปด้วยอยู่


จากนั้นเราก็นั่งรถไปยังภู นั่งรถไม่นานครับ ทางขึ้นสองข้างทางเป็นสวยยาง พอไปถึงลานกว้างที่จอดรถพี่เอกบอกว่ามันคือวัด เราสามารถบริจากค่าน้ำค่าไฟให้กับวัดได้เลย เเต่พวกผมลงมาเเล้วลืมทุกอย่างไปเลยครับ เพราะมันเหนื่อยมา
**เกือบลืมครับ ใครที่จะไปพกน้ำเปล่าและไฟฉายไปด้วยนะครับ เพราะตอนขึ้นไปมืดมาก แต่แฟลตมือถือก็พอช่วยได้ พอพร้อมกันเเล้วก็ลุยเลยครับ

ทางขึ้นชันและมืดแบบนี้เลยครับ ต้องเดินเกาะกลุ่มไปพร้อมกัน ตลอดการเดินเราสมารถขอพักได้ กลุ่มพวกเราไปด้วยกันทั้งหมด 7 คน พักอยู่ประมานสามสี่รอบนี่แหละครับฮ่าๆ เห็นทางเดินแล้ว ตัดภาพมาที่หน้าน้องผมครับ โอ้โหเหมือนมันไปออกรบมาสามยุคสามสมัย จะเหนื่อยอะไรเบอร์นั้น


เดินมาสักพักใหญ่ ใช้เวลาประมาน 45-50 นาที เราก็ถึงยอดภู ระยะทางประมาน 1.5-2 กิโลได้ เหตุผลที่เราต้องรีบขึ้นมาเพราะต้องมาจับจองที่นะครับ ขนาดว่ามาเช้าเเล้วยังมีคนมาเช้ากว่า ฮ่าๆ และก็เป็นอย่างที่หวังครับ ได้ที่เหมาะมาก ระหว่างนั่งรอแสงดวงอาทิตย์ ผมเลยนั่งถ่ายดาวเล่น อยากบอกว่าข้างบนดาวสวยมาก เห็นหมอกกำลังเคลื่อนลอยผ่านภูเขาเป็นระยะระยะ

รูปนี้ใช้ Gopro ถ่าย ครับ
พอแสงดวงอาทิตย์เริ่มมา ผมก็เริ่มเตรียมพร้อมครับ ลองแสงลองกล้องรอ ฮ่าๆ กระทู้นี้ขออภัยด้วยนะครับ ถ้าเกิดรัวรูปจนเกินไป

ท้องฟ้าเปลี่ยนสีอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เราเห็นความแตกต่างได้ชัด

ระหว่างนั่งรอแสงดวงอาทิตย์ ก็นั่งจิบกาแฟรอ นั่นคือความโชคดีของพวกเราสามพี่น้อง ที่ลืมหยิบน้ำเปล่าขึ้นมา ฮ่าๆ ต้องขอบคุณพี่คนขายกาแฟด้วย ช่วยชีวิตพวกเราได้เยอะเลย ราคาแก้วละ 20 บาท

ดวงอาทิตย์เริ่มโผล่ขึ้นมาจากหลังภุเขา อยากบอกว่าเป็นภาพที่สวยมาก ผมนี่ดูไม่คลาดสายตาเลยทีเดียว

อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ครับ ว่าท้องฟ้าเปลี่ยนสีเร็วมาก แสงที่ได้อาจแตกต่างกันออกไป พอเริ่มมีเเสงสว่าง ผู้คนก้ต่างเก็บภาพกันแบบรัวๆกันเลยทีเดียว 

ผมจะแอบถ่ายนักท่องเที่ยวแถวนั้นไว้เยอะมาก หากใครที่ไปวันเดียวกับผม สามารถทักมาขอรูปได้นะครับและขออนุญาตด้วยที่เอารูปมาลง

และนี่เป็นที่ที่วิวสวยที่สุดและน้อยคนที่จะกล้าออกไปตรงนั้นเพราะมันต้องก้าวขาและปีนไปยังหินก้อนนั้น ข้างหลังหินเหวดีๆนี่เอง เเละนี่คือคนแรกของวันนั้นที่ก้าวออกไป เป็นไกด์ของอีกกลุ่ม ผมก็ไม่รอช้าครับ รัวชัตเตอร์เก็บรูปทันที อยากบอกว่าสวยมากกกกกก

หลากหลายคนที่คนมาหลากหลายสไตล์ แต่ผมชอบพี่กลุ่มนี้มากครับ ฮ่าๆพกพร๊อบมาเอง ชงแกแฟสดๆร้อนๆเลยทีเดียว เสียดายผมถ่ายไม่เห็นควัน แต่โคดเข้ากับบรรยากาศ พูดเลย

แสงเริ่มสว่างมากขึ้น คนเริ่มเยอะขึ้น

บนนั้นวิวประมาน 3-4 ด้านให้เราได้เก็บบรรยากาศ แต่ละโซนสวยแตกต่างกันออกไป มีทั้งโซนเขา โซนเมฆ โซนพระอาทิตย์

รูปต่อไปนี้คือรูปที่พวกผมโดนแอบถ่ายจ่ายพี่เอกไกด์สุดหล่อของเรา อยากบอกว่าโชคดีมากครับที่ได้ไกด์ที่เล่นกล้องด้วย เพราะเท่าที่เห็นไกด์กลุ่มอื่นไม่มีคนพกกล้อง แถมยังถ่ายสวยอีกนะครับพี่เอก ขอบคุณคร๊าบบบบ

ไกด์ส่วนมากที่นี่จะติดคำพูดของนักข่าวช่อง7 ที่ว่า อนุวัต จัดให้ ฮ่าๆ ตามรอยกันใหณ่เลย ต้องมาให้พี่เอกถ่ายให้ ผมเลยแอบถ่ายด้วยซ๊เลย

นอกจากฝนที่ทำให้คนเหงาแล้ว ผมว่าแสงอาทิตย์ก็ไม่แพ้กัน ไม่เชื่อดูหน้าน้องผมสิฮ่าๆ

จะมีความสนุกไม่ได้เลยถ้าไม่มีน้องสองคนนี้ในทริป ขอบใจมากที่มาเป็นเพื่อน

ความงดงามของธรรมชาติมากเกินจะบรรยายได้ รูปนี้เป็นรุปที่ผมชอบมาก

จากที่บอกไปว่ามีแค่พี่ไกด์เป็นคนแรกที่กล้าออกไป และผมเป็นคนที่สองและวันนั้นมีแค่สองคนครับที่กล้าออกไป ฮ่าๆก็อยากได้รูปสวยทำไงได้ละครับ พร้อมเเล้วลุย

ที่นั่งนิ่งๆไม่ใช่อะไรนะครับ กลัวววววววมาก

เเต่ผมไม่กล้าที่จะยืนและหันหน้าไปทางผานะครับ ตลอดเวลาที่นั่งตรงนั้นขอบคุณพี่ไกด์มากที่คอยนั่งเฝ้าระวังความปลอดภัยให้ผม คุ้มค่าที่ออกไปมากครับ

เที่ยวจนจะกลับแล้วจะไม่มีรูปพี่เอกไกด์สุดหล่อของเราก็ไม่ใช่ นี่ครับพี่เอก รูปนี้เป็นรูปที่พี่แกกำลังแอบถ่ายผมมั้ง แล้วน้องผมแอบถ่ายแกอีกที

ก่อนจะลงมา ขอสักรูปกับภูเขา

พอเราถ่ายรูปจนพอใจก็ได้เวลาเดินทางกลับลงมายังข้างล่าง บอกเลยว่า ทำใจก่อนเดินอยู่นานเพราะตอนลงเป็นทางชันลง แรงโน้มถ่วงพร้อมไหลตลอดเวลา ถ้าเดินไม่ดีก็จะล้มแบบน้องผมครับ เพราะฉะนั้นระมัดระวังกันด้วยนะครับ เพราะซ้ายมือนั้นเป็นหน้าผาใช้เวลาไม่นานเหมือนตอนขึ้น


ลงมาถึงฝั่งขานี่สั่นพรับๆเลยครับ นะตอนนั้นไม่สนใจอะไรละ กลับอย่างเดียว เหนื่อยมาก และพอถึงที่พักก็มานั่งกินข้าวเปียกอันที่จริงคือมารอเอารูปจากพี่เอกครับฮ่าๆ แต่ดูอีกมุมก็เหมือนเป็นกลยุธทของพี่แกที่หลอกล่อพวกผมไปอุดหนุนร้านพี่แก ถามว่าพวกผมยอมมั้ย ยอมครับ พอกินเสร็จก็แยกย้ายไปนอนต่อ เพราะง่วงมาก พอนอนพักผ่อนจนเพียงพอก็ได้เวลาเก็บของกลับบ้าน แต่ก่อนจะกลับขอถ่ายรูปกับเต้นไว้เป็นที่ละลึกกันสักหน่อย

งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา สิ้นสุดการเดินทางครับ ทุกคนในทริปกลับสู่โลกความจริง ไปทำหน้าที่ของตัวเอง ไปเรียน  ไปทำงาน
แน่นอนครับกลับไปก็สภาพแวดล้อมเดิมๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือแปลกตาไปกว่าเดิม
แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือความคิดของผมครับ ผมรู้สึกโลกของผมกว้างขึ้น ทุกครั้งที่เดินทางผมเหมือนได้รับพลังบางอย่าง
เหมือนกลับมาแล้วมุมมอง ทัศนคติเราเปลี่ยนไปจากเดิม  สำหรับผมแล้วการได้ก้าวขาออกไปยังสถานที่ใหม่ๆเป็นการให้ของขวัญกับตัวเองครับ  บางคนอาจคิดว่ามันไร้สาระ สิ้นเปลือง แต่ผมมองว่าเกิดมาครั้งนึงควรใช้ชีวิต20,000วันบนโลกให้คุ้มค่าครับ ทำไปเถอะครับอะไรที่เราสบายใจ และคนอื่นไม่เดือดร้อน
สำหรับทริปนี้ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ
ขอบคุณมากๆถ้าคุณอ่านทุกบรรทัดของผม
ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปของผมทั่งสี่คน
ขอบคุณคำติชม
ขอบคุณที่ดูรูปพวกผมทุกรุป

ขอบคุณคนขับรถตลอดการเดินทาง


และที่ขาดไม่ได้ที่ต้องขอบคุณในฐานะผมเป็นเจ้าบ้าน คือ สถานีโทรทัสน์ช่อง 7 สีที่ได้มาทำข่าว ทำให้คนรู้จักสถานที่แห่งนี้มากขึ้น จนชาวบ้านพูดติดปากแล้วว่า อนุวัตจัดให้ ขอบคุณครับ

https://www.youtube.com/watch?v=WrEv-PIFroQ&pbjreload=10
เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ
***สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าน้ำมัน 1000 บาทหาร 5 ตกคนละ 200 บาท
ค่าที่พัก คนละ 180 บาท
ค่าอาหารเครื่องดื่นคนละ 300 บาท
ค่าไกด์พี่เอก 100
รวมคนละประมาณ 780 บาท