ลั้ลลา ลั้ลลา...^^
หลังจากไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่เมืองกาญจนบุรีหลาย ๆ รอบ ทั้งไปคนเดียว ไปกะแก๊ง ไปกะคนที่รู้ใจ รู้ตับไตไส้พุง และไปกะใครก็ไม่รู้ 5555 พบว่า ไปกี่รอบก็ยังเที่ยวไม่หมดซ้ากกกที
แต่ทุกรอบที่ไป เราจะไม่ไปเที่ยวที่เดียว แน่นอน !!! ก็เมืองไทยมีแหล่งท่องเที่ยวเยอะขนาด และสถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่มีเฉพาะในเมืองกาญจน์ ใครเล่าจะอดใจไหว
มีเวลาสำหรับสะพายเป้ แบกกล้องเล็กๆ คู่ใจกะรองเท้าผ้าใบเก่าๆ พร้อมกะตังค์เล็กน้อยในกระเป๋า ก็ออกเดินทางได้แล้ว เพราะถือสโลแกน "อยากไป ต้องได้ไป" ^^
ตั้งต้นเวลาดีเดย์คือ 6 โมงเช้า ตระเวนทัวร์ก็เกิดขึ้น จุดมุ่งหมายของทริปคือการไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับโจทย์คือ ต้องเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับการพาคณะวัยรุ่นตอนปลาย (ปลายไม้) ไปท่องเที่ยว 55555
เราปักเข็มทิศ จุดมุ่งหมายคือเขื่อนศรีนครืนทร์ สถานที่แรกของเราคือ "มีนาคาเฟ่" ตั้งอยู่ในอำเภอท่าม่วง อยู่ริมทุ่งนา เห็นวัดถ้ำเสือเป็นฉากหลัง ช่วงเวลาที่คณะไปถึงประมาณเกือบ 9 โมง ทุกอย่างเลยดูยังไม่คึกคัก ยกเว้น พวกเราที่คึกคักกันตั้งแต่ขึ้นรถและแวะทุกปั้มน้ำมันเหมือนจะแวะไปดูกิจการที่มีหุ้นส่วนไว้ 5555
เสียดายในช่วงเวลาที่มา ทางร้านกำลังปรับปรุง ตกแต่งเพิ่มเติม และกำลังทำการหว่านไถยกแปลงนาใหม่ เลยได้บรรยากาศที่สวยแปลกตาไปอีกแบบ ^^ 
ไปต่อกัน >>>>
เราแวะที่ "มีนาคาเฟ่" ประมาณครึ่งชั่วโมง สถานีต่อไป ... ไปที่ไหนดี??? เราวางแผนกันมาแล้วก่อนจะออกเดินทาง แต่พอมาเจอสถานการณ์จริง เห้ย!!! ต้องปรับเปลี่ยนอ่ะ ไปไหนต่อดี??? เร่งหาข้อมูลค้นกันในรถ ถกเถียงออกไอเดียกันอย่างสนุกสนาน จนถึงช่วงที่ต้องตัดสินใจแบบเผด็จการ >>>> พี่ว่า...พี่จะไป...วัด...ถ้ำพุหว้า...<<<<
---- เงียบ ---- กันทั้งรถ เหอะ เหอะ ตามนั้น ไม่มีใครกล้าออกความคิดเห็นใดใด เมื่อเจ้ใหญ่ดำริออกมา ^^
งั้น วี อาร์ โก ทู วัดถ้ำพุหว้า >>> ปักหลักหาหมุดต่อไปทางตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี กับระยะทางประมาณ 34 กิโลเมตร ไปมันเรื่อยๆ ไม่รีบไม่ร้อน ตุเลงตุเลง ฉึกฉักกันไป
>>>เพ่คร้าบ ข้างหน้ามีสถานที่ท่องเที่ยว คือ "ต้นจามจุรียักษ์" จะแวะไหมคร้าบบบ <<<<
>>>แวะสิ มาแล้วก็แวะ จัดไปอย่าให้เสีย >>> เจ้ใหญ่บัญชา 555 รถขับตรงเข้าไปในกรมการสัตว์ทหารบก อยู่ในตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมืองกาญจนบุรี เมื่อเข้าไปข้างในกรมจะมีทางแยกซ้ายขวา ให้เลี้ยวขวา แล้วตรงไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกตลอดทาง ไม่มีค่าเข้าชม
อื้อหือ!!! ใหญ่จริงไรจริง แวะจุดนี้ประมาณครึ่งชั่วโมง ได้ภาพมาเกือบ 40 รูป เหอะ เหอะ นิดส์หน่อยเอง 55555
>>>ล้อหมุน...ไปต่อจุดหมายเราคือ "วัดถ้ำพุหว้า" ฉึกฉักสายหวานเย็นกันต่อ นั่งรถประมาณ 20 นาที ถึงบริเวณวัด
โอ้ มาย ก๊อต!!! สวยจริงไรจริง บริเวณวัดเงียบสงบ อาจเป็นเพราะไม่ใช่เป็นวันหยุด มีนักท่องเที่ยวไม่เยอะทำให้เดินเล่นสบายๆ ด้านนอกเป็นปราสาทหินทรายรูปแบบขอม เป็นประตูก่อนเข้าถ้ำที่มีความสวยงาม อลังการงานสร้างมาก
ภายในโถงของถ้ำมีมุมให้ถ่ายรูปและไหว้พระ เดินไปเดินมา ลุ้นๆ บรรยากาศเหมือนตัวเองเป็นเจ้าแม่นาคียังไงยังงั้น งานมโนก็มา 55555
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง คณะแวะร้านอาหารที่วางแผนไว้แล้วคือ ร้านคีรีมันตรา
บรรยากาศดีมากมาย ถูกใจนักเซลฟี่จิงจิ๊ง ทุกมุมถ่ายได้หมด แม้นางแบบจะไม่อยู่ในขั้นนางงามรอบสุดท้าย ก็สามารถมีรูปไปอวดชาวบ้านได้ อิอิ
ท้องอิ่มแล้วไปกันต่อ สถานีต่อไปคือ เลคเอฟเว่น ที่ได้รับฉายา "มัลดีฟเมืองไทย" ตั้งหน้าบุกตะลุยกันต่อไป
เมื่อล้างเนื้อล้างตัวเสร็จสรรพ ไม่รอช้าคณะตระเวนทัวร์รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลงเล่นน้ำ ที่สำคัญจะไปเล่นน้ำในแพเปียกและดื่มด่ำบรรยากาศพระอาทิตย์ตกขอบฟ้ากัน ถึงแม้ท้องฟ้าจะไม่ค่อยเต็มใจเปิดทาง แต่ก็เป็นอีกมุมที่ยอมปล่อยให้แสงเล็ดลอดก้อนเมฆ สวยแปลกตาไปอีกมุม ^^ 
เอร็ดอร่อยกะบรรยากาศและอาหารที่จัดได้ว่าอร่อยใช้ได้และราคาไม่แพง ล้อหมุนต่อไปยังจุดมุ่งหมายปลายทางสุดท้ายของทริปคือ วู๊ดแลนด์ เมืองไม้ อยู่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ผ่านโรงพยาบาลโคกสำโรง จะมีป้ายบอกทาง ขอบอกอลังการงานศิลปะ สวยงามมากกกก 
เป็นแหล่งสะสมไม้หายากและสูงค่าจากทั้งในและต่างประเทศนับหมื่นชิ้น มีพื้นที่ 142 ไร่ แบ่งเป็น 4 โซน เสียดายที่คณะตระเวนทัวร์มาเสียเย็นย่ำจะมืดค่ำแล้วจึงต้องรีบเดินก่อนที่จะปิด มีค่าเข้าชมคนไทยผู้ใหญ่ 300 / เด็ก 100 คนต่างชาติผู้ใหญ่ 650 / เด็ก 300 และเด็กต่ำกว่า 5 ขวบเข้าชมฟรี แต่ขึ้นกับโปรโมชั่นในแต่ละช่วงเวลาด้วยนะคร้า ^^
จบทริปด้วยความอลังการ ประทับใจกับหลายๆ สถานที่ เมืองไทยยังคงเป็นประเทศที่น่าอิจฉา เพราะจะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน จะให้เล่าเรื่องราวการท่องเที่ยว 365 วันคงไม่จบ แล้วจะไม่ ท่อง เที่ยว ไทย ได้ไง จริงป่ะคร้า ^-^