ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
3เกลอควบ2ล้อ ออกผจญภัยในกาญนะจ๊ะบุรี (กาญจนบุรีทริป1) จังหวัดกาญจนบุรี (Kanchanaburi) จ.กาญจนบุรี
    • โพสต์-1
    Kantakan •  มีนาคม 18 , 2559

    3เกลอควบ2ล้อ ออกผจญภัยในกาญนะจ๊ะบุรี (กาญจนบุรีทริป1)

     

    เมื่อ3เกลอออกเดินทาง

    สวัสดีคะรีวิวนี้เป็นรีวิวแรกที่เกิดจากความบ้าระห่ำ ควาบ้ายอของทั้ง3คนที่มีความคิดตรงกันว่า "อยากไปเที่ยววะ"  ทริปนี้เกิดขึ้นหลังจากเปิดเทอมไม่นาน พวกเราอยากออกไปเที่ยวพักผ่อน หาที่ชิวๆ ไปสัมผัสธรรมชาติ และที่สำคัญคือไปยังไงให้ประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด เราจึงเลือกที่จะขับรถเครื่องไปเอง 55555 ลืมบอกไปทริปนี้เราแอบหนีแม่เที่ยวด้วยแหละ 5555  เนื่องจากทริปนี้เป็นทริปแรกและเป็นทริปประหยัด เราจึงเลือกไปที่ใกล้ๆละกัน นั่นคือ จังหวัดกาญจนบุรี เราวางแผนกันว่าจะไปหลายๆที่ แต่ด้วยเวลาและความไม่ชินเส้นทางจึงสรุปออกมาว่าที่จะไปหลักๆเลยคือ สะพาข้ามแม่น้ำแควและวัดถ้ำเสือแต่ก็มีผลพลอยได้แวะระหว่างทางเหมือนกัน  เราออกเดินทางจากบ้านมาถึงจุดนัดพบคือ ม.เกษตร กำแพงแสนในราวๆตี5 จากนั้นก้ไม่พูดพล่ามทำเพลง ควบรถออกไปเลย เพื่อมุ่งหน้าไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว เราขับไปเรื่อยๆเหนื่อยเราก็พักตามจุดพักรถต่างๆ จนประมาณ7โมงกว่าๆเราก็มาถึงที่สะพานแล้ววววว    เย่ๆๆๆถึงแล้ว มาถึงก็มาชักภาพเก็บไว้หน่อยแต่แหม่ตากล้องของเราสงสัคงเมื่อยล้าจากการขับรถ ตั้งท่าถ่ายรูปไม่ได้นัดกันเลย ออกมาเลยไม่สวยเลย

    เรามาถึงตอน7โมงกว่า เช้ามาก คนจึงยังไม่ค่อยมี พวกเราไม่รอช้าหยิบกล้องละรีบเดินเก็บภาพบรรยากาศ แหม่เราก็อยากถ่ายคนเดียวสวยๆแต่ดันมีชัตเตอร์ติดมาซะงั้น 555555 เดินไป ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ ก็บ้าๆบอๆกันไป 555555 และก็มาพบกับโฉมหน้าของพลขับของเราและตากล้องผู้เลื่องชื่อในหมูเพื่อน 5555555 เสียงกระซิบจากตากล้องก่อนจะได้รูปนี้คือ เฮ้ยๆๆๆมึงมาถ่ายให้กูบ้างกูอยากอัพตัส 5555555

    ก็เพลินกันไปกับการถ่ายภาพให้ตากล้องของเรา แต่แอ๊ะ!! เรามากัน3คนนี่นา มาๆๆจะเผยโฉมพ่อหนุ่มรูปงามอีกคนบ้าง หมอนี่เขาไม่ค่อยสนใจในบรรยากาศแต่เค้ากับไปสนใจโครงสร้างของสะพาน ไปงัด ไปจับ ไปก้มดูว่ามันเป็นยังไง อ่อลืมบอก เพื่อนเราคนนี้เค้าเรียนวิศวโยธา นางก็เลยสนใจเป็นพิเศษ

    นี่เลยมุมเผลอของพ่อหนุ่มวิศวะรูปงาม 5555555 เพื่อนโสดโปรดจีบในขณะที่ถ่ายรูปให้พ่อหนุ่มวิศวะเสร็จนางก็เดินจากเพื่อนไป งั้นก็มาพบกับความเพลิดเพลินในการถ่ายรูปเล่นของเราดีกว่า 5555555นั่งสมาธิเรียกพลังกันหน่อยยยยย รับแสงอรุณยามเช้า  นั่งสมาธิรับแสงอรุณยามเช้าสักหน่อยยย เรียกพลังในขณะที่กล้องอยู่ในมือเราภาพอาจจะไม่สวยเท่าไหร่ ทันใดนั้นพ่อตากล้องของเราก็ยังคงเดินทางไปตามสะพานเรื่อยๆ จริงๆคือเดินตามเพื่อนอีกคนไปซึ่งมันเดินไปไกลมาก เดินตามจนเหนื่อย
      กลับมาได้แล้วโว้ยยยยย เพื่อนให้อภัยแล้วววววว    เนื่องจากเราเดินกันมาไกลมากๆ และในขณะกำลังจะเดินกลับ ทันใดนั้นก็มีเสียงสัญญาณเตือนว่ารถไฟกำลังมา ณจุดๆนี้รีบวิ่งกลับมาแทบไม่ทัน หอบกันเลยทีเดียว สำหรับรถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟท่องเที่ยว มาจากสถานีธนบุรี เพื่อมุ่งหน้าไปน้ำตกนั่นเอง  เย่ๆๆๆๆๆ รถไฟมาแล้ววววว ปู๊นนนน ปู๊นนนนน ฉึกฉักฉึกฉัก  เราตื่นเต้นมากกับการอยู่ใกล้ๆรถไฟครั้งแรก อารมณ์แบบหึ้ยยยมันจะเขามาชนเราแล้วววว  รถไฟไปแล้วก็ยังคงเก็บภาพกันต่อไ พอเริ่มสายคนก็ยิ่งเยอะมากขึ้น ทำให้รู้เลยว่าที่นี่เป็นแลนมาร์คที่ยอดนิยมของจังหวัดกาญจนบุรีเลยก็ว่าได้      
    • โพสต์-2
    Kantakan •  มีนาคม 18 , 2559

    เดินเก็บภาพไปเรื่อยๆก่อนจะออกเดินทางไปยังที่หมายใหม่ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวสะพานวิวทางฝั่งซ้ายของสะพาน มองไปจะเห็นแม่น้ำแควที่ทอดตัวยาวขนาบไปกับธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นั่นรูปสุดท้ายก่อนจะเดินทางไปยังจุดหมายใหม่ ซึ่งความจริงแล้วบริเวณใกล้ๆกับกับสะพานก็ยังมีที่ท่องเที่ยวให้เข้าชมอีก นั่นคือ พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่2 แต่เราไม่ได้เข้าไปเพราะได้เป้าหมายใหม่ที่อยุ่ไม่ไกลจากตัวสะพาน เดินทางไปอีกประมาณ15กิโลเมตรไปตามถนนเลียบแม่น้ำ  ระยะทางอาจจะดูไกลแต่ถ้าได้สัมผัสกับธรรมชาติสองข้างทางแล้วก็จะลืมไปเลยว่าไกล แถมยังเพลิดเพลินอีกด้วยได้กินลมชมวิว    และแล้วเราก็มาถึงที่หมายต่อไป นั้นคือ วัดบ้านถ้ำ เป็นวัดโบราณเก่าแก่ด้านหลังจรดเขาด้านหน้าจรดแม่น้ำแม่กลองจากที่ถามๆคนดูแลวัดเขาก็เล่าให้ฟังว่า หน้าวัดมีชายหาดสวยงามอยู่หน้าวัดภูเขาที่ตั้งวัดสูงราวๆ 200 เมตรภูเขาลูกนี้เป็นเทือกเดียวติดต่อกันหลายยอดเป็นพืดไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือสุดปลายเขาที่เขาแหลมและเขาตกถ้ำมังกรทองปากบริเวณถ้ำจะเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อใหญ่ชินราชหินงอกแม่นางบัวคลี่และถ้ำต่างๆ   มาถึงแล้วก็มาเซลฟี่กันหน่อย จากทางเข้าหน้าวัดจะมองเห็นด้สานบนของภูเขามีเจดีย์สีทองอร่ามตั้งอยู่ นั่นแหละคือเป้าหมายของพวกเราที่จะต้องขึ้นไปให้ถึง  ยกสองมือพนมขึ้นท่วมหัว ขอให้ลูกช้างขึ้นไปถึงโดยที่ไม่เป็นลมระหว่าทางทีเถอะเจ้าคะ สาธุ เมื่อขอพรเสร็จก็เริ่มกันเลย เป้าหมายแรกคือการไปให้ถึงปากมังกร มองดูอาจจะไมสูง แต่ความจริงสูงนะ ชันด้วย พร้อมแล้วก็ไปกันเลย
      ผ่านไปสักพักนี่ยังเดินกันแบบชิวๆๆ ก็ใกล้จะถึงปากมังกรเข้าไปทุกที เอ้า เดินต่อไป​เย่ๆๆๆใกล้ถึงปากมังกรแล้ว ขาก้เริ่มล้าๆนิดนึง แต่ยังสู้ไหวจ้าาา ไปต่อกันเลย ไอคนข้างหน้านี่ก้เดินไม่สนใจผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเราเลย ณจุดๆนี้ต้องสตรองงงค่าาา ถึงแล้วปากมังกร ใช้เวลาไปประมาณ15นาที แล้วก็เดินต่อเข้าไปในตัวมังกร สำหรับเจ้ามังกรนี่ไม่ได้ยาวขึ้นไปจนถึงยอดเจดีย์นะคะ แต่น่าจะมีระยะทางๆรวมๆปรมาณ200เมตรก็ว่าได้  ภายในตัวมังกร เมื่อเดินเข้ามาสัมผัสได้ถึงความเย็นมาก มีบันไดให้เดินขึ้นไปจนสุดตัวมังกร ที่ปลายตัวมังกรจะมีจุดพักให้เราได้พักเหนื่อย มีจุดแวะไหว้พระทำบุญ มีจุดบริการน้ำเย็นและมีร้านค้าด้วย  วิวบริเวณจุดพักแรก แถบหน้าวัด  ในใจคิดนะว่าแบบไม่เห็นสูงเลย แต่ขานี่สั่นเลยจ้าพร้อมกับเสียงหอบเบาๆ หายเหนื่อยแล้วก็ยังคงเดินต่อไป และก็มาถึงจุดพักที่2 จุดพีกนี้จะมีศาลาให้นั่งพักและชมวิว พร้อมกับมีน้ำดื่มเย็นไว้บริการ ณจุดนี้เราสามารถไหว้พระทำบุญได้ เพราะมีพระพุทธรุปประดิษฐานอยู่ หายเหนื่อยแล้วก็เดินต่อไป ยิ่งเดินขึ้นไปเรื่อยๆทางยิ่งชัน เอ้า สู้โว้ยยยย!!
      จุดพักสุดท้าย จุดนี้ไม่มีน้ำดื่มแต่มีบริการห้องน้ำให้เข้าได้ฟรี ใครที่กลัวว่าจะเป้นทุกข์กลางทางหมดห่วงไปได้เลย วิวสวย ห้องน้ำสะอาด ใกล้ชิดธรรมชาติ อีกประมาร200กว่าเมตรก็ใกล้จะถึงด้านบนแล้วว สู้ต่อไปปปป ในที่สุดเราก็มาถึง ไม่ทำไรเลย นั่งพักสักแปปก็มาเซลฟี่ อีกคนนะหรอ หลบไปพักหอบ 555555 ขึ้นมาแล้วก้มองลงไปข้างล่าง เฮ้ยเราขึ้นมาถึงจุดๆนี้ได้ไงวะเนี่ย ​อย่างที่บอกไว้ว่าด้านบนมีเจดีย์สีทองอร่มประดิษฐานอยู่ ตอนอยู่ข้างล่างมองไม่ค่อยชัด แตพอขึ้นมาถึง หืมมมม สวยมาก ข้างบนนีี้ไม่ได้มีแต่เจดีย์สีทอง มีรูปปั้น มีพระพุทธรูป มีพระพิฆเนศ และมีสาลาเล็กๆให้นั่งพัก ด้านบนน้มีท่านเจ้าอาวาสละลูกศิาย์คอยตอนรับ ท่านสามารถทำบุญถวายสังฆทานได้ มีบริการน้ำดื่มเย็นไว้ให้เราได้ดื่มจนหายเหนื่อย เราอยู่บนนี้กันสักพักก็เดินลงเพื่อไปเป้าหมายต่อไป  ชื่อก็บอกอยู่ว่าวัดบ้านถ้ำ มีคำว่าถ้ำ แสดงว่าต้องมีถ้ำ อ่อ ลืมบอกไปก่อนทางที่จะถึงทางขึ้นเจดีย์ เราแอบไปเห็นป้ายบอกทางเข้าถ้ำ ดังนั้นมาแล้วจะพลาดได้ไง ไปกันเลย เมื่อมาถึงปากทางเข้าถ้ำก็พบกับนี้เลย หินซึ่งกลายเป็นรูปเศียรพ่อปู่ให้เราได้กราบไหว้ก่อนเดินเข้าไปภายในถ้ำ ซึ่งมีหลวงพ่อใหญ่ชินราชประดิษฐานอยู่ถัดจากหินเศียรพ่อปู่ ก็เป็นหินรูปช้างขนาดใหญ่ ให้เราได้เดินลอดท้องช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล          

    • โพสต์-3
    Kantakan •  มีนาคม 18 , 2559

    อ่อลืมบอกไป ตรงใกล้กับหินรูปช้างจะมีบันไดทางขึ้นให้เราได้ไปกราบไหว้นางบัวคลี่ เพื่อขอพร เดินชมไปเรื่อยๆ ที่นี่เป็นถ้ำโถงใหญ่ มีหลายห้องให้เราดู มีหินงอกหินย้อยสวยงามมากๆ ไม่ต้องกลัวความมืดเพราะที่นี่มีไฟเปิดให้เป็นระยะ 

    • โพสต์-4
    Kantakan •  มีนาคม 18 , 2559

    เดินชมมาได้สักพักก่อนจะจากที่นี่ไปก็ขอมา กราบสักการะบูชาองค์หลวงพ่อใหญ่ชินราชเพื่อความเป็นสิริมงคลและขอพรให้เดินทางปลอดภัย ออกเดินทางต่อไป นี่ไม่ใช่เป้าหมายแต่เป็นทางผ่านเลยเผลอแวะเข้าไป  ทางเข้าวัดเป็นทางขึ้นเขาค่อนข้างชันรถสามารถขับขึ้นไปได้จนถึงตัววัด และสูงพอสมควร วัดถ้ำแก้วกาญจนาภิเษกจะอยู่ด้านบนสุด มีศาลาทำบุญ มีจุดชมวิว แต่น่าเสียดาย กลับมาแล้วพึ่งรู้ว่าที่นี้มีถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยมาก แต่เราพลาดเพราะไม่ได้ศึกษาก่อน จึงได้แค่เดินชมบริเวณรอบนอกเท่านั้น นี่คือโฉมหน้าพลขับและพาหนะสองล้อของพวกเรา เดินชมไปรอบๆก็มาถึงยังจุดชมวิว ที่นี่ลมเย็นมากๆๆ มองไปเห็นทุ่งนาที่เก็บเกี่ยวแล้ว อาจจะมองดูแห้งแล้งแต่ที่จริงมันเป็นความสมบูรณ์อีกแบบนึง เห็นแม่น้ำทอดตัวยาวไป ดูแล้วช่างสดชื่นดีจิงหลังจากกลับมาแล้วมานั่งดูรูป จึงได้สันณิฐานกันว่านี่อาจจะเป็นทางเข้าไปชมถ้ำก็เป้นได้ โดยรวมๆแล้วที่นี่เงียบสงบ ลมเย็น และเป็นธรรมชาติมากๆ สิ้นสุดการชื่นชมก็ออกเดินทางสู่เป้าหมายสุดท้าย นั่นคือวัดถ้ำเสือ

    • โพสต์-5
    Kantakan •  มีนาคม 18 , 2559

    ออกเดินทางจากวัดถ้ำแก้วกาญจนาภิเษกมาไม่กี่น่าที ก็มาถึงยังจุดหมายต่อไปของเราคือ วัดถ้ำเสือ  ถึงแล้ววววววววมาวัดถ้ำเสือก็ต้องมีเสือสินะ 555555 นี่ไง เสือจริงงงงง​ไม่รอช้ารีบขึ้นไปข้าบนกันเถอะ นี่คือบันไดทางขึ้นไปด้านบน  เรามาพิชิตกันเถอะ มองดูแค่นี้เอง จิ๊บๆแต่กว่าจะขึ้นถึงก็เล่นเอาหอบอยู่ หากใครไม่อยากเดินขึ้น หรือพาผู้สูงอายุ เด็กเล็กๆไปไม่อยากเหนื่อยเดินขึ้นให้เมื่อยขาที่นี่ก็มีบริการ รถรางขึ้นไป ไม่แน่ใจว่าค่าบริการใช่5บาททั้งขึ้นทั้งลงรึป่าวถึงแล้ว ข้างบนสวยมาก ขึ้นมาถึงก็มาสักการะองค์หลวงพ่อชินประทานพร เพื่อเป็นสิริมงคล ความเหนื่อยหายไปทันทีเป็นความสุขใจเจดีย์พระเกศแก้วนี้มีทั้งหมด9ชั้น ข้างบนปะดิษฐานพระบรมสาริกธาตุที่อันเชิญมาจากประเทศอินเดีย เราจะขึ้นไปเพื่อเก็บภาพและไปสักการะมองจากด้านบนของเจดีย์ เห็นองค์หลวงพ่อใหญ่ เค้าว่าเป็นมุมยอดฮิต ตอนเรามาเค้าทำนาเก็บเกี่ยวกันหมดแล้ว มองอาจจะดูแห้งแล้ง แต่เราว่าสวยไปอีกแบบ

    มองจากด้านบนของเจดีย์ทางด้านข้าง จะเห็นวัดถ้ำเขาน้อยแต่เราไม่ได้แวะไป ​  เก็บวิวก่อนจะเดินทางกลับ

    • โพสต์-6
    Kantakan •  มีนาคม 18 , 2559

    สุดท้ายต้องขอกราบขอบคุณทุกๆคนที่ได้เข้ามาอ่านหรือนำไปแชร์ นี่เป็นรีวิวแรกอาจจะยังไม่ดีพอ อาจจะเขียนยังไม่ค่อยดี มีตกหล่นบ้าง ผิดบ้าง  รูปอาจจะไม่สวยพอต้องขออภัยด้วย สุดท้ายต้องของฝาก3เกลอเอาไว้ในหัวใจของทุกๆคนด้วยค่าาาาาา