ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    ตากล้อง •  เมษายน 13 , 2560

    สวัสดีเธอ…
    รีวิวก่อนหน้า เราพา “เที่ยวเมืองคอน” กันแล้ว
    รีวิวนี้…. เราจะพาไปนอน “ เมืองลุง ” กันต่อ
    แต่ก่อนจะไปนอน “ เมืองลุง ”

    เรามีกิจกรรมมาให้เล่น
    ซึ่งผู้โชคดี 2 ท่าน
    จะได้รับรางวัลใหญ่ท่านละ 1 รางวัล
    ( 1 รางวัลสำหรับ 2 คน)
    ไปร่วมเที่ยว นอน กิน บิน แบบฟรี ๆ กับเรา
    สนใจไปร่วมกิจกรรมได้เธอ 
    https://www.facebook.com/TaklongTongteaw/posts/828283353987162

    เอาหละ!!
    ไปนอน "เมืองลุง" กันต่อ
    ก่อนจะเดินทางไปจังหวัดพัทลุง
    ช่วงเช้าเราได้ไปปั่นจักรยานฟอกปอดให้สะอาด
    ก่อนอำลาคีรีวง


    ซึ่งเช้านี้…
    ที่คีรีวงช่างแตกต่างจากวันที่เรามาถึงอย่างมากมาย เธอ
    แดดก็จ้า ฟ้าก็ใส
    แลเห็นความเขียวของใบไม้อย่างชัดเจน
    เรียกได้ว่า ฟ้า ฝน เป็นใจ อะไรเบอร์นั้น

     

     

    จุดนี้จะอยู่ติดทางขึ้น คีรีวง ริเวอร์วิว ที่พักของเรา
    เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาเล่นน้ำกัน
    เมื่อวานนักท่องเที่ยวเพียบ แทบไม่มีที่ลงเล่นน้ำ
    แต่เช้านี้
    มีเพียงเจ้าตัวเล็กสองคนนี้
    ที่ตื่นมาเล่นน้ำกันแต่เช้าตรู่

     

     

    เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพ

     

     

    ปั่นจักรยานลงมาตามทาง
    ที่ขนานกับลำธาร บรรยากาศโครตดีฝุดๆ เธอ
    ชมนก ชมไม้ ไปเรื่อย
    แวะตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง ที่ละนิด ที่ละหน่อย
    เพราะเวลามีน้อย ต้องใช้สอยอย่างประหยัดเธอ…

     

     

     

     

    แดดเริ่มแรง อากาศเริ่มร้อน รีบกดชัตเตอร์รัวๆ เธอ…

     

     

    นี่เลย…
    มาคีรีวง ไม่มีภาพกับ “สะพานบ้านคีรีวง”
    ถือว่ามาไม่ถึงคีรีวง นะเธอ…
    ถ้าให้ดี ต้องมีจักรยานร่วมเฟรมในภาพด้วย
    จะเป๊ะมาก เธอ…

     

     

    ปั่นจักรยานออกจากสะพานจะกลับที่พัก
    หลังจากพ้นเขตสะพาน
    ดันมองเห็นร้านกาแฟลุงโรม
    ร้านกาแฟเล็ก ๆ
    แลดูเก๋ไก๋ ไม่เหมือนใคร
    เลยแวะแชะภาพ เสียดายมากๆ เธอ
    ที่ไม่ได้สั่งอะไรดื่ม
    จริงๆ อยากนั่งสโลว์ไลฟ์สักชั่วโมง สองชั่วโมง ไรงี้
    แต่ อย่างที่บอกเวลาเรามีน้อย ต้องเร่ง ต้องรีบ เธอ
    ส่วนใครมีโอกาสไปคีรีวง
    เราแนะนำ ให้ลองแวะเข้าไป
    ห้ามพลาดเด็ดขาด
    ยิ่งหนุ่มสาว ชาวฮิปสเตอร์
    ร้านนี้เหมาะมากที่จะเข้าไปถ่ายรูป

     

     

    • โพสต์-2
    ตากล้อง •  เมษายน 13 , 2560

    กลับถึงที่พัก ก็รีบกินมื้อเช้ากัน
    สำหรับมื้อเช้าของคีรีวง ริเวอร์วิว
    จะเป็นแบบเบา ๆ
    มีโอวัลติน กาแฟ ขนมปังก้อนไส้สับปะรด
    และกล้วยไข่ ประมาณนี้
    คือปั่นจักรยานมาเหนื่อยๆ หิวหนักไงเธอ
    ลำพังโอวัลตินกับขนมปังก้อนไม่อิ่มหรอก
    ต้องจัดกล้วยไข่ เพิ่มหนึ่งหวี ค่อยอิ่ม 555555++

    เสร็จจากมื้อเช้า ก็รีบอาบน้ำ เช็คเอาท์
    แล้วก็อำลาคีรีวง มุ่งสู่แก่งหนานมดแดง
    โดยใช้พี่ google map เช่นเคย
    .
    ระยะทางจากคีรีวง ถึงแก่งหนานมดแดง
    ประมาณ 90 กิโลเมตร ( ระยะทางจากอากู๋)
    เราก็ขับไปเรื่อยๆ เนิบๆ ช้าๆ
    สองข้างทางคือสวยมากเธอ เงียบ สงบ
    ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ น้อยใหญ่
    นานๆ จึงจะผ่านหมู่บ้านคน
    รถรา ก็ไม่ค่อยวิ่งผ่าน
    จนทำให้เราลังเล และคิดกันว่าทางที่อากู๋พาไปถูกหรือผิด ไรงี้
    โชคดีของเรา อากู๋พาไปถูก เธอ

     

     

    ระยะทางยาวไกล หลายกิโล
    มองหาที่พักรถระหว่างทางไม่มีเลย
    จนมาเจอ “บ้านขนมครูเอก”
    ซึ่งอยู่ก่อนถึงแก่งหนานมดแดงเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น
    แต่เราก็ยังแวะ แวะหาอะไรเย็นๆ ดื่มแก้กระหายร้อน

     

     

    จัดไปคนละแก้ว พอดับกระหาย

     

     

    • โพสต์-3
    ตากล้อง •  เมษายน 13 , 2560

    จาก “บ้านขนมครูเอก”
    ใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ถึง “ล่องแก่งหนานมดแดง”
    สำหรับ “ล่องแก่งหนานมดแดง” 
    เป็นธุรกิจของชุมชน เธอ
    บริการห้องพัก และล่องแก่ง
    ข้างในมีของเล่นเยอะมาก
    อารมณ์ประมาณสวนสนุกไรงี้
    แถมมีร้านกาแฟเก๋ ๆ ให้นั่งชิลๆ ริมน้ำอีกด้วย
    ส่วนค่าล่องแก่งอยู่ที่คนละ 200 บาท
    เมื่อเทียบกับระยะทางในการล่องแก่ง 6 กิโลเมตร
    ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
    ถือว่าคุ้มมาก คุ้มที่สุด คุ้มฝุด ๆ คุ้มจริงๆ เธอ
    ที่สำคัญบรรกาศสองฝั่งคลองที่ล่องแก่ง
    ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ
    ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ นก ปลา
    คือร่มรื่น เย็นสบาย
    ล่องไป เสียวไป พร้อมๆ กับชมนก ชมไม้
    กับอากาศเย็น ๆ ฟินเวอร์ เวอร์ เธอ
    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
    https://www.facebook.com/Nhanmoddangrafting/

    หลังจากจอดรถได้ก็เดินไปติดต่อจุดบริการท่องเที่ยว
    พร้อมกับจ่ายเงินค่าล่องแก่งและมื้อเที่ยง
    โดยมื้อเที่ยงที่นี่เขาจะคิดเพิ่มจากค่าล่องแก่งคนละร้อย เท่านั้น
    อาหารก็จะเป็นเซทเมนูพื้นบ้าน เติมได้ไม่อั้น
    จ่ายตังเสร็จ จะมีเจ้าหน้าที่พาเราไปยังโรงอาหาร

     

     

    เธอ เธอ เธอ เราพร้อมหละนะ เจ่เจ้พร้อมยัง?

     

    เจ่เจ้…พร้อม!!!

     

    ฟินแค่ไหน…ถามเจ่เจ้ดู เธอ

     

    เจอจุดปราบเซียน เจ่เจ้ถึงกับเหว๋อ กันเลยทีเดียว

     

     

    ตู้มมมมมม!!!
    ให้ทาย รอด หรือล่ม 55555++

     

     

    “ล่องแก่งหนานมดแดง”
    เป็นอะไรที่เราชอบและประทับใจมาก ถึงมากที่สุด …
    เพราะนอกจากจะเป็นครั้งแรก
    ที่เราได้สัมผัสการ “ล่องแก่ง” แล้ว
    ที่หนานมดแดง ยังคงความเป็นธรรมชาติมั๊กมากกกก เธอ
    น้ำเป็นสีเขียวมรกตงี้ แลดูใส๊ใส มองเห็นปลา
    เวลาเอาเท้า หรือตัวลงจุ่มน้ำ น้ำเย็นเจี๊ยบเลย เธอ
    สดชื่นสุด ๆ
    ที่สำคัญ ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวด้วย
    ให้ฟ้าว ให้ไว เธอ
    ที่ดีๆ แบบนี้ต้องฟ้าวไป ก่อนตลาดจะวายก่อน

     

    • โพสต์-4
    ตากล้อง •  เมษายน 13 , 2560

    จบการล่องแก่ง
    จุดหมายถัดไปคือ “ร้านขนมหวาน ป้ากี้”
    ร้านโด่ง ร้านดัง ร้านห้ามพลาด ของเมืองลุง
    การันตีด้วยรายการทีวี
    จากหลายๆ ช่อง ที่ได้แวะมาลิ้ม แวะมาลอง
    และรางวัลอันมากมายที่ป้ากี้ได้รับ

    “ร้านขนมหวาน ป้ากี้”
    บริการขนมหวานหลากหลาย รสชาติอร่อย
    ไม่หวานมาก หวานกำลังดี
    อันเป็นเอกลักษณ์ของป้ากี้
    เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น-17.00 น.
    ส่วนพิกัดร้านอยู่ที่
    247 ถ.ควนขนุน-ปากคลอง ต.ควนขนุน
    อ. ควนขนุน จ. พัทลุง
    หรือถ้าไม่รู้จัก ไปไม่ถูก ใช้ google map เลยเธอ
    รับรอง เป๊ะ!!!
    รายละเอียดเพิ่มเติม
    https://www.facebook.com/pakeepaklong/

     

    ในร้านป้ากี้ ตกแต่งสวยงาม
    มีมุมน่ารัก ๆ ให้ลูกค้าผู้มาเยือนได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย
    เรามาถึงประมาณ 17.00 น. เธอ
    ขนมหวานป้ากี้ร่อยหรอ ใกล้จะหมดหละ

     

    ได้มาแค่นี้เอง…
    รู้สึกว่าไม่อิ่ม ไม่คุ้มกับการเดินทางอันยาวไกล
    เพื่อไม่ให้เสียความตั้งใจ
    วันรุ่งขึ้นเราจะมารอก่อนร้านเปิด อีกครั้ง

     

    • โพสต์-5
    ตากล้อง •  เมษายน 13 , 2560

    จุดหมายถัดไป…
    เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้
    คือปากประ ซึ่งเราพักกันที่ศรีปากประ รีสอร์ท
    การเดินทางง่ายมากเธอ
    จากร้านป้ากี้ ใช้ google map เลยจ้า
    ถึงแน่นอน ก่อนจะถึงเราเจอทุ่งนาสีเขียว
    แลดูสวยงาม ตระการตา
    ชวนให้จอดรถเก็บภาพมากๆ

     

     

     

    เรื่องราวระหว่างทาง ….เธอ

    • โพสต์-6
    ตากล้อง •  เมษายน 13 , 2560

    รัวชัตเตอร์ไปประมาณ 10 ช็อต ก็ไปต่อ
    ถึงศรีปากประราว ๆ 18.30 น.
    ทันช่วงดวงอาทิตย์ตกพอดี 
    แต่ครับ แต่…
    ศรีปากประ รีสอร์ท ไม่มีจุดชมดวงอาทิตย์ตก
    เงิบเลย เธอ 55555+++
    อุตส่าห์ รีบมาเพื่อการนี้

     

     

    • โพสต์-7
    ตากล้อง •  เมษายน 13 , 2560

    เราจองบ้านพักแบบ villa room
    คืนละ 2,000 บาท รวมอาหารเช้า เธอ
    คือแบบว่าวิวดีมาก ๆ
    ที่ระเบียงรับลมทะเลแบบเต็ม ๆ เย็นสบาย
    นั่งตากลม ชมยอยักษ์ ฟินโคตรๆ เธอ

     

     

    • โพสต์-8
    ตากล้อง •  เมษายน 13 , 2560

    หลังจากเอากระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปเก็บ
    และทำธุระส่วนตัวนิดหน่อย
    เราก็ออกไปทานมื้อเย็นกันต่อ
    ที่ร้านอาหาร “วิวยอ”
    ซึ่งเป็นร้านอาหารของ ศรีปากประ รีสอร์ท
    บรรยากาศยามเย็น สวยงาม ตระการตามาก
    อาหารก็รสชาติอร่อย กินเพลิน เกินงบกันเลยทีเดียว 55555++

    สำหรับร้านอาหาร “วิวยอ”
    เราสามารถแวะไปทานอาหาร
    แวะไปถ่ายรูป แวะไปชมวิวได้
    โดยไม่จำเป็นต้องพักกับทางรีสอร์ท เธอ

     

     

     

     

     

     

     

     

    • โพสต์-9
    ตากล้อง •  เมษายน 13 , 2560

    มือเย็นของเรา คือแบบว่ามากัน 2 คน อาหารเต็มโต๊ะ พนักงานมีอึ้ง

     

    กุ้งไซส์บิ๊กบึ้ม 5 ตัว 1 กิโลกรัม ให้ทายราคาเท่าไหร่?

     

     

     

     

     

     

    เจ่เจ้จัดหนัก ก่อนนอน เธอ

     

    จัดมื้อเย็นเสร็จก็กลับห้อง อาบน้ำนอน
    ตั้งใจจะตื่นมาถ่ายทางช้างเผือกหน้าร้านอาหารวิวยอ
    อย่างที่ใครๆ เขาถ่ายกัน
    ดันหลับสนิท ลุกไม่ขึ้น
    เพราะคืนก่อนหน้านอนไปแค่ 2 ชั่วโมง
    อดได้ภาพสวยๆ มาอวด เบย…

    ขอบคุณ เธอ เธอ และเธอ
    ที่ติดตามอ่าน
    อย่าลืมติดตาม Day3 “อำลาเมืองคอน-อำลาเมืองลุง”
    กันต่อ นะเธอ