ศรีสะเกษต่อไปบุรีรัมย์

ด้วยการงานเลยทำให้มีโอกาสแวะไปที่จังหวัดศรีสะเกษช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากทำงานเสร็จมีเวลาเหลือเพื่อนเลยชวนตะเวณเที่ยวแบบไม่ได้เจาะลึกอะไรมากมาย แต่เป็นทริปที่หน้าประทับใจทีเดียว เริ่มต้นเช้าตรู่ที่บ้านนาแก หมู่บ้านเล็กๆที่เต็มไปด้วยท้องนา ข้าวกำลังออกรวงกันเต็มทุ่ง อากาศเย็นสบายสำหรับเราแต่เพื่อนบอกว่าหนาว เดินเป็นสาวชาวนาสำรวจทุ่งข้าวเขียวบนเหลืองสูดโอโซนเอาไว้ก่อนไปผจญควันพิษที่เหมืองหลวง
ลองใช้ชีวิตแบบสโลไลท์สักแป๊บ

เดินลุยไปตามคันนา..กลับออกมาจากท้องทุ่งพร้อมดอกหญ้าติดเต็มขากางเกงดึงออกกันจนเมื่อย เรียกว่าหาประสบการณ์แบบนี้ไม่ได้ในป่าคอนกรีต...หม่ำมื้อเช้าแบบบ้านๆ ก่อนจะขับรถไปยังพระธาตุเรืองรอง
พระธาตุศิลปะแบบพื้นบ้าน ตั้งอยู่ที่วัดบ้านสร้างเรือง ตำบลหญ้าปล้อง อำเภอเมือง ก่อนเข้าไปในตัวพระธาตุมีวัวตัวใหญ่ยืนเด่นอยู่ทั้งข้างนอกและข้างใน 
วัวด้านนอก

ที่นี่มีอะไรน่าสนใจมากมาย เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ได้เป็นอย่างดี เรามีโอกาสได้นั่งสนทนาธรรมกับท่านเจ้าอาวาส ท่านใจดีและคุยสนุก จนพวกเราเพลิน ใช้เวลาอยู่ที่นี่หลายชั่วโมง ได้ความรู้กลับบ้านแยะทีเดียว 

ออกจากพระธาตุเรืองรองพวกเราแวะไปที่วัดสระกำแพงใหญ่ วัดที่มีฆ้องใหญ่มาก 

วัดสระกําแพงใหญ่ อยู่ อ.อุทุมพรพิสัย นอกจากฆ้องแล้ว ที่นี่ยังมีโบราณสถานน่าสนใจ เป็นศิลปะแบบขอม มีไกด์ตัวเล็กคอยให้ความรู้และพาชมรอบๆ วัดสระกำแพงใหญ่ 

ความอลังการคงไม่เท่าปราสาทหินพนมรุ้ง แต่ก็มีความแตกต่างน่าสนใจให้ชม สำหรับคนชื่นชอบโบราณสถานอย่างเราบอกเลยว่าอยากดูทุกซอกทุกมุมนั่นแหละ

ดูปราสาทศิลปะแบบขอมแล้ว มีเวลาเหลือเลยไปต่อที่ปราสาทเขาพนมรุ่ง ทันทีที่ออกจากรถแดดก็เปรี้ยงซะ ความเย็นกลายเป็นความร้อนในทันที เดินขึ้นไปด้านบนก็เริ่มจะไม่เหลืออุปกรณ์กันหนาว

ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 (บ้านดอนหนองแหน) ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร

แดดเปรี้ยงดีมาก เพื่อนไม่กล้าออกมารับแสง กลัวจะละลาย เราเลยเดินตะเวณทั่วปราสาทอยู่คนดียว ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่นี่ก็ยังเป็นที่ๆมีผู้คนมาเยี่ยมชมเสมอ

ทริปนี้เป็นทริปเล็กๆที่แวะเวียนไปเก็บเกี่ยวมา บางครั้งการพักงานไปเที่ยวบ้างเหมือนกับรีเซ็ตตัวเองให้พร้อมที่จะทำงานใหม่ ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ