ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
จูงมือกันไปเที่ยวเล่น ทำดีกับ #มนตร์อาสา @ น่ า น... งัย บ้านสะปัน อ.บ่อเกลือ จ.น่าน
    • โพสต์-1
    Taya@ •  ธันวาคม 15 , 2563

    หาเรื่องเที่ยว

    ก่อนอื่นต้องบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ทริปนี้ เป็นทริปที่ตั้งใจ สุดๆ เพราะระหว่างนั่งเซ็ง คิดงานไม่ออก เลยขอผ่อนคลายแบบแอบท่องโลกโซเชียส หรือเรียกสั้นๆ ว่า "อู้งาน" น่านแหละ 

    ระหว่างมือสัมผัสเมาส์ ลากไปลากมา ดวงตาจ้องมองรูปและอ่านข้อความไปเรื่อยในคอมพิวเตอร์ ในขณะใจคิดและกังวลเรื่องงานอยู่ ไปสะดุดเพจ : มนตร์อาสา >>> คือไร??????  "มนต์" เค้าเขียนแบบนี้ป่ะ หรือ เป็นที่มาจากตัวย่อของชื่อเล่นทีมผู้ก่อตั้งเพจ ความคิดฟุ้งซ่านเริ่มแตกไปเรื่อยๆ จนต้องเรียกสติคืน เห้อ !!! ช่างเขาเถ๊อะ แต่ที่น่าสนคือ ช่วงวันที่ 9 - 13 เป็นช่วงลาพักร้อนกันยาวๆ และกำลังมองหาทริปเที่ยวอยู่ แต่ยังไม่รู้จะไปไหน นั่งอ่านและดูรูปของเพจไปเรื่อยๆ มาติดใจตรงวิวในภาพ //// อยู่ตรงไหน?? ส่วนไหน?? ของประเทศเนี๊ยะ และคำว่า "ครูอาสาพัฒนาโรงเรียน" มากระตุ้นความรู้สึก สัมผัสได้ถึงความร้อนในใจที่ปลุกไฟในตัวเพราะห่างหายจากคำว่า "ครูอาสา... มานานเนินนานม๊ากกกกกกก

    เช็ควันหยุดเพื่อนๆในแก๊งฯ .... แกช้านไม่ได้หยุด และลางานไม่ได้แล้ว .... แกชั้น Audit (ออดิท) เข้า อีกแหละ++ แกช้านมีนัดกับที่บ้านแล้ว และสารพัดแก แต่มีข้อความของน้องพันปีตอบกลับมา>>> ได้คร้า น้องว่างพอดี อยากไปออกค่ายแบบนี้ เพราะเป็นความใฝ่ฝันสมัยเรียน ที่อยากไปม๊ากกก แต่อยู่ในแก๊งเพื่อนๆ ผู้เรียบร้อยและขยันเรียน จึงไม่มีโอกาสไปสักที <<< เพียงแค่น้องร้องขอ พี่ก็จัดให้ โว๊ะโฮ๊ะโอะ งานนี้มีได้รับน้องแหง แหง 

    รีบโอนเงินจองที่นั่ง "น้องเน" ประธานค่ายและผู้ก่อตั้งเพจมนตร์อาสา แจ้งมาว่าจะรับสมาชิกประมาณ 50-60 คน... เหตุเพราะกลัวที่นั่งจะเต็ม จึงคิดต่อ ไป "น่ า น" หราาา งั้นขับรถไปดีกว่า เส้นทางคงชิลล์ๆ เพราะน้องเนบอกเอารถขึ้นไปได้ครับแต่ต้องเป็นรถที่มีแรงม้าและสภาพดีหน่อย หันมามอง "น้องมังคุด" รถคันเล็กๆ คู่ใจ สบาย หายห่วง มีประสบการณ์ในการขึ้นมาหลายดอยแล้ว งานนี้ต้องพาเข้าไปเช็คสภาพ เปลี่ยนช่วงล่าง โช๊ค และเบรค นิดส์ เพราะตั้งแต่ออกรถมาไม่เคยเปลี่ยนจนได้รับบาดแผลเพียบ งานนี้ต้องเอาใจ ดูแลน้องมังคุดโหน๊ย เผื่อกลับมาให้โชคลาภต่ออีก 55555

    สภาพรถ "พ ร้ อ ม" สภาพคน "พ ร้ อ ม" แต่สภาพกระตังค์ "ไม่ ค่อย พร้อม" 5555 ก่อนถึงวันเดินทาง มีการตั้งไลน์กลุ่มเพื่อการติดต่อระหว่างทีมงานและผู้เข้าร่วม พูดคุยทักทายกันเล็กน้อย เพราะต่างฝ่ายต่างไม่รู้จักกัน ต้องรายงานตัว บอกชื่อ อายุ และความถนัดที่จำแนกเป็น 3 กลุ่ม คือ ทีมอาหาร ทีมพัฒนาโรงเรียน (ทาสีเครื่องเล่น และเพ้นท์ BBL) และทีมสอนและเล่นเกมส์ มีทั้งแปลกใจ ดีใจ และประหลาดใจที่ มีผู้เข้าร่วมมีความหลากหลายแตกต่างกันใน วัย เพศ อาชีพ และความเป็นอยู่ วัตถุประสงค์ที่ต้องการเข้าร่วมแต่ละคนต่างกัน บางคนต้องการหาเพื่อน บางคนอยากเที่ยว บางคนต้องการปลุกไฟในตัว บางคนต้องการพบประสบการณ์ที่แปลกแตกต่างไปจากเดิม และอีกหลายเหตุผลแต่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ อยากทำงานจิตอาสา สักครั้งหรือหลายๆ ครั้ง ในชีวิต ^^ 

    ก่อนเดินทางนัดแนะกันทางไลน์เจอกันตรง บขส.อำเภอเมืองน่าน เพราะมีน้องฟูและน้องกวาง ขอติดรถขึ้นดอยไปด้วยในวันที่ 10 ธันวาคม เราออกเดินทางในเวลาใกล้เคียงกับขบวนรถตู้ที่นัดหมาย ล้อหมุนประมาณ 3 ทุ่ม แต่ไปกันคนละคัน คนละทาง แต่จุดมุ่งหมายเดียวกัน มิตรภาพก่อนการเดินทางจึงเกิดขึ้นทั้งๆ ที่ยังไม่เคยเจอหน้ากัน รู้จักกัน แต่เรามีจิตวิญญาณเหมือนกัน 55555

    ตั้งต้นการเดินทางที่ MRT ลาดพร้าว เพราะน้องพันปี (ชื่อเล่นเต็มๆ ของน้องปี ที่น่าภูมิใจและมีเรื่องราว) กว่าจะเคลียร์งานเสร็จและรีบวิ่งขึ้นรถไฟ เสมือนนี้คือ รถด่วนขบวนสุดท้าย ^^ ถ้านางเหาะหรือหายตัวมาได้ก็จะทำ ได้ฤกษ์ออกเดินทางประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1 >หมายเลข 122 > ทางหลวงชนบทหมายเลข 3011 ไปทางจังหวัดพิจิตรโดยปักหมุดที่พักระหว่างทางคือ "รีแล็กซ์ รีสอร์ท (Relax Resort)" อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ 

    ราคาห้องพัก 550 บาท ก็จัดได้ว่าเป็นห้องใหญ่และที่นอนกว้างขวาง สำหรับสาวน้อยตัวเล็กๆ เวลาจะขึ้นเตียงต้องปีน แต่กลัวอย่างเดียวคือ คนที่นอนดิ้นเกรงจะตกเตียง 5555 เพราะเตียงสูงม๊ากกก   
    • โพสต์-2
    Taya@ •  ธันวาคม 16 , 2563

    เส้นทางอีกยาวไกล

    ตื่นเต้นกันตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทาง พอถึงวันเดินทางจริงกลับนอนไม่ตื่น 55555 แต่เราก็ออกเดินทางก่อนที่แดดจะร้อน เพราะเส้นทางนี้อีกยาวไกล กับระยะทาง 390 กิโลเมตร จะถึง บขส.อำเภอเมืองน่าน ตามเวลาที่นัดกับน้องฟูและน้องกวาง ไหมเน้อ???

    ใช้เวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง ในการเดินทาง น้องฟูแจ้งมาทางไลน์บอก>>ต้องรอรถโดยสารจากดอยตุงนานและต้องต่อรถจากพะเยามาแพร่แล้วเข้าน่าน (โห้ ++++ 3 ต่อ) คงมาไม่ทันเวลาที่นัดกันไว้ เลยต้องรีบเปลี่ยนแผน แวะรับน้องกวางก่อน ขณะนั้นเวลาบ่ายโมงนิดๆ จึงขอแวะร้านข้างทางแหละกัน ทีแรกน้องกวางจะทำหน้าที่เป็น "เนวิเกเตอร์" แนะนำร้านอาหารในเมืองน่าน แต่พวกพี่ต้องรีบบอก เอาเร็วๆ ไวๆ เถ๊อะ พี่หิว 5555 จึงได้ "ขนมจีนน้ำเงี้ยวและหมูทอดปลาร้า" จำชื่อร้านและพิกัดไม่ได้ แต่รู้ว่าอยู่ตรงหัวมุมแยกไฟแดง ไม่ไกลจากศูนย์การเรียนรู้และบริการวิชาการ เครือข่ายแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจังหวัดน่าน มาถึงไม่พูดพร่ำแล้ว ต่างคนต่างสั่งและกินกันแบบเงียบๆ แต่ขอบอกหมูทอดปลาร้า อาหร่อยม๊ากกกกก

    เมื่อท้องอิ่มก็ไปกันต่อ แต่ไม่ลืมโทรสอบถามน้องฟู เดินทางถึงไหนแล้ว แต่น้องบอก "พวกพี่ไปกันเลยค่ะ เดี๋ยวหนูหารถขึ้นดอยเอง" >>> แต่ในเวลานี้มันจะไม่มีรถขึ้นดอยนะสิ เพราะกว่าคุณน้องจะมาถึงก็เกือบ 6 โมงเย็น น้องกวางเลยแนะนำบอกให้พี่ฟูนั่งรถจากแพร่มาลงที่อำเภอปัว แล้วหาที่พักในปัว ก่อนจะออกเดินทางต่อตอนเช้าไปบ่อเกลือแล้วค่อยหารถขึ้นดอยจะง่ายกว่าเย๊อะ

    พวกเราจึงเดืนทางกันต่อ ระหว่างเส้นทางพูดคุยกันไป แซวกันไป และสอนวิธีการขับรถขึ้นเขาลงดอยให้น้องๆ ฟังกันไป ตัวก็โยกตามแรงเหวี่ยงกันไป เพราะบอกไว้ตั้งแต่แรกว่า น้องมังคุดเป็นรถที่ไม่มีเบรค 5555 จนน้องกวางบอก อืมพี่ค่ะ หนูเริ่มมีอาการเวียนหัวนิดหน่อยแล้วค่ะ >>> โอ๊ะโอ๊ะ !!!! รีบปิดแอร์ เปิดกระจก เตรียมถุงพลาสติกคลุมหัวป้องกันอ้วกกระจาย แต่น้องกวางบอก อืมมมม ขอแค่ยาดมก็พอค่ะ หนู่ยังไม่อ้วก 5555

    น้องมังคุดรีบกระโจนแซงรถทุกคัน เพื่อจะได้ทันกลุ่มน้องๆ ที่มากับรถตู้เพราะจากตัวเมืองน่านถึงโรงเรียน ตชด. 100 ปี โรงเรียนที่จะไปทำกิจกรรม กับระยะทาง 120 กิโลเมตร (ขึ้นทางหมู่บ้านสันติสุข) ต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง 

    และแล้วเราก็มาทันกลุ่มน้องๆ ที่มากับรถตู้ เวลาเกือบ 5 โมงเย็น สัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นลงนิดหน่อย ทุกคนยังมีสีหน้าที่ งุน งง เพิ่งตื่น และเพลียจากการเดินทางไกล รวมถึงกลิ่นตัวที่โชยกลิ่นละมุนเบาๆ เพราะหลายคนยังไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อวาน โว๊ะโฮ๊ะโอ๊ะ+++

    ได้รับแจ้งจากพี่ๆ ตชด. ว่า เส้นทางชำรุดเนื่องจากมีรถบรรทุกขึ้นลง ทำให้ทั้งรถตู้และน้องมังคุดไม่สามารถขึ้นไปได้ จึงต้องรอรถกระบะของคุณครูมารับ และต้องปรับแผนโยกย้ายสัมภาระและสิ่งของรวมทั้งคนขึ้นรถกระบะไปโรงเรียนกับเส้นทางประมาณ 4 กิโลเมตร 

    เส้นทางระหว่างนั่งตัวเกร็งกันบนท้ายกระบะ ทั้งๆ ที่เพิ่งมารู้จักกัน แต่เมาท์มอยส์กันอย่างกะเป็นเพื่อนกันมา 10 ปี  "อ้าววว ทู้กคนนน มองกล้องแล้วยิ้มคร้า" มีความทำตามคำสั่งมากกกกก สีหน้าอาจดูเกร็งแต่รอยยิ้มและท่าท่างมัน ช่ายเลย โดนใจชั้นเลย 5555 

    เส้นทาง 2 ข้างทางสวยงาม ระหว่างที่ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หันไปมองรอบทิศ โอ๊ววว อู้ อ้าาา สวยจริงไรจริง 

    กว่าจะถึงโรงเรียนก็มีจังหวะเสียวไปหลายโค้ง ถ้าท้ายกระบะเปิดคงต้องมีคนกลิ้งไปพร้อมๆ กับกระเป๋า แต่พวกเราก็ร๊ากกกกกัน รีบคว้าตัวจับกระเป๋าดึงชายเสื้อเพื่อหวังไม่ให้เพื่อนโดนเทกลิ้งลงไปจากรถในจังหวะที่รถยกล้อค่อยๆปีนสันเขาไป ลุ้นๆ ไปกับจังหวะเหวี่ยง บางคนนั่งหน้านิ่งเพราะในใจเริ่มนึกถึงคำสวดมนต์ ได้แต่ท่อง "นะโม นะโม" แต่ประโยคถัดไป อย่ามาถาม ลืมหมดแล้ว 5555

    • โพสต์-3
    Taya@ •  ธันวาคม 17 , 2563

    แวะเที่ยว ... ระหว่างทาง

    การเดินทางของคณะใหญ่ที่มากับรถตู้ เดินทางมาพร้อมกัน 4 คันรถ แต่ก่อนจะถึงจุดหมายต้องมีเหตุให้จดจำสิน๊าาา >>> น้องเน.. บอกเป็นประสบการณ์ที่มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ให้ลุ้น...อกสั่นขวัญเกือบหาย...และนอกเหนือการควบคุมตลอดเวลา แต่ก็แลกมากับมิตรภาพและการฝึกความอดทน บวกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี.... /// ซึ้งในน้ำใจของสมาชิกที่ไม่มีใครเรื่องมาก...และมากเรื่อง แต่พร้อมเข้าใจ ห่วงใย และช่วยเหลือกัน เช่น รถเสีย แอร์ไม่เย็น และการผิดแผนในการประสานงาน เพราะเวลาที่กระชั้น และต้องให้ทุกคนถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย ความเครียดเริ่มก่อตัว แต่ก็ยิ้มได้ หลังจากที่แวะผ่อนคลายถ่ายรูปกันที่ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ 

    ร้านกาแฟ บ้านไทลื้อ ตั้งอยู่ที่ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว เป็นกิจการที่มีเจ้าของคนเดียวกันกับ "ลำดวนผ้าทอ” ร้านจำหน่ายผ้าทอลายน้ำไหลไทลื้อ และสินค้าของฝากจากเมืองน่าน เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินของเมืองปัว จังหวัดน่าน 

    • โพสต์-4
    Taya@ •  ธันวาคม 17 , 2563

    ใจสู้หรือเปล่า ...ไหวมั้ย...บอกมา

    ไปกันต่อ .... กลุ่มน้องๆ จิตอาสา ถึงโรงเรียน ตชด.100 ปี โดยสวัสดิภาพ แม้จะเริ่มเย็นย่ำ อากาศก็เริ่มหนาว กลุ่มงานครัวที่ต้องทำอาหารต้องปฏิบัติกิจก่อนคนอื่นๆ เพราะสภาพที่เริ่มอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด แต่ "น้องมีมี่" แม่ครัวใหญ่ และลูกทีม น้องวิว น้องมะละกอ น้องเจ และน้องเปรม ต้องวิ่งมาดูเสบียงและคิดเมนูง่ายๆ ก่อนเพื่อให้สมาชิกคนอื่นๆ ได้มีอาหารมื้อเย็นทานกัน แม้ตัวน้องๆ ทีมงานอาหารเองก็หมดสภาพเหมือนๆ ทุกคน แต่ก็พร้อมจะร้องเพลงนี้...ใจสู้หรือเปล่า...ไหวมั้ย?? บอกมา ... โอกาสของผู้กล้า ... ศรัทธาไม่มีท้อ...

      อาหารมื้อแรก ถึงแม้ยังไม่อลังการงานสร้าง แต่รสชาติ น้องๆ มิชลินยังไงยังงั้น 5555 

    • โพสต์-5
    Taya@ •  ธันวาคม 17 , 2563

    คืนแรก ...

    หลังจากทุกคนเริ่มลงตัวกับการหาที่หลับที่นอน ที่อยู่ในอาคารเรียน โรงเรียน ตชด. 100 ปี ชื่อเต็มๆ คือ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี วันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตั้งอยู่ที่บ้านสะไล ตำบลบ่อเกลือเหนือ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน มีนักเรียนระดับอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 76 คน 

    อากาศที่อุณหภูมิ 14 องศาทำให้หลายคนไม่ค่อยอยากโดนน้ำ แค่แตะก็เย็นสุดขั้วหัวใจ แต่ก็ต้องกลั้นหายใจ อึบ+++ สงบนิ่ง 1 วินาที ก่อนจะใช้ขันตักน้ำและซัดตูมใหญ่เข้าใส่ลำตัว หลายคนแค่เอาน้ำมาแตะๆ บริเวณพวงแก้มก็ขนหัวลุกไปทั้งตัวแล้ว ถุงนอน ผ้าห่ม เสื้อขนเป็ดขนกันออกมาห่อหุ้มร่างกาย แต่ถ้าจะให้หายหนาวคงต้องหาใครมานอนกอด เหมือนเนื้อเพลง

    .......หนาว เนื้อห่มเนื้อ จึงหายหนาว......

    .......หนาว ราว อก ร้าว ห่ม อก หาย......

    .......หนาว รักห่มรัก อุ่นรักสบาย...........

    ........หนาว คลายเพราะห่ม ที่สมกัน......   ^-^ 

    น้องๆ จิตอาสานั่งประชุมแยกแต่ละกลุ่มเพื่อวางแผนการทำงานของตัวเองในวันพรุ่งนี้ แม้อากาศที่หนาวเย็นแต่ทุกคนก็ไม่หวั่น นั่งกอดเข่าคลุมหัว และแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นพร้อมทั้งวางแผนการทำงานกันอย่างสนุกสนาน แม้ดวงตาจะปิดแต่ก็ยังยิ้มได้ ^^

    ค่ายนี้อาจเป็นค่ายธรรมดา เหมือนๆ ค่ายทั่วๆ ไป แต่มันคือเวทมนตร์ที่ทำให้คนที่แตกต่างกันทั้ง เพศ อายุ การเลี้ยงดู ระดับการศึกษา ประสบการณ์ สังคม และความคิด ได้มาเจอกัน และต้องการเป็นทั้งผู้ให้ ผู้รับ และผู้อาสาทำการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ฉาบฉวย >>> มนตร์อาสา ... จึงมีความเชื่อในเวทมนตร์ของการเป็นผู้อาสาทำดี...

    หลายๆ คน สารภาพ ... เพิ่งมาออกค่ายแบบนี้เป็นครั้งแรก ตื่นเต้นและวิตกกังวลมาก บางคนออกเดินทางคนเดียว แต่ไม่เหงาเพราะมาเจอเพื่อนๆ ที่มีความตั้งใจเหมือนกัน บางคนในชีวิตไม่คิดว่าตนเองจะสามารถมา กิน นอน อาบน้ำ กับคนที่ไม่รู้จักและสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยได้ หรือบางคนมาเจอวิธีการหรือแนวทางในการบำบัดตนเองจากโรคซึมเศร้า "การทำดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลา สถานที่ หรือผู้คนรอบข้าง ถ้าใจพร้อมและร่างกายพร้อม ทุกคนก็สามารถทำดีได้"

    เห็นหน้าตาที่มีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าของทุกคนแล้ว ชื่นนนนน จายยยยยย

    • โพสต์-6
    Taya@ •  ธันวาคม 18 , 2563

    ลงมือทำ....ดี

    ตื่นเช้ามา น้องๆ นักเรียนมากันเต็มพื้นที่ แต่พวกพี่ๆ ยังนอนขดอยู่ในถุงนอน เพราะอุณหภูมิ 11 องศา คราย จะ อยาก อาบ น้ำ 5555 นั่งกอดผ้าห่ม แต่ได้ยินเสียงเด็กๆ กระตุ้นอยู่หน้าประตู เหอะ เหอะ !!!! ขอพี่ๆ ทำใจกับการออกไปต่อสู้กับน้ำที่เย็นเฉียบก่อนน้า 5555

    มาคร้าาาา พร้อม แหละ สู้ สู้ ^^ สมาชิกแต่ละกลุ่มเริ่มปฏิบัติการตามแผนที่ว่างไว้ 

    ทีมอาหารก็เข้าครัวเพื่อทำกับข้าวอร่อยๆ เลี้ยงเด็กและพี่ๆ ชาวค่าย 

    ทีมพัฒนาโรงเรียนก็บรรเลงแบ่งทีมย่อย

    ทีมขัด-ทาสีเครื่องเล่น

    น้องๆ มีความมุ่งมั่นจะขัดเอาสีเครื่องเล่นเดิมออกให้หมด โดยเฉพาะน้องพี ผู้มาดมั่นตั้งใจและเก็บรายละเอียดทุกซอกทุกมุม ถ้าชิงช้าพูดได้คงบอก พอเถ๊อะ พ่อคุณ แสบไปทั้งตัวแล้ว 5555

    ทีมผสมสี

    มีน้องชาช่า เด็กน้อยอายุ 12 ขวบ ขวัญใจชาวค่ายที่น่ารัก ชื่นชมในขยันและความตั้งใจของน้อง ไม่มีคำบ่นหลุดออกมาจากปากสักคำ แม้จะต้องเผชิญกับแดดที่ค่อนข้างแรงและอากาศที่หนาวเย็น ที่ต้องวิ่งไปวิ่งมา แต่เหมือนน้องจะสนุกกับการผสมสี เจอการกลั้นแกล้งของทีมเพ้นท์สี BBL. ที่บอก "อยากได้สีเขียวอ่อน ใบตอง เหลืองมะนาว ส้มแครอท ม่วงมังคุด ชมพูบานเย็น ครืมนม น้ำตาลช๊อกโกเลต" และอีกสารพัดสี  ซึ่งน้องชาช่า จะเป็นคนวิ่งมาถามพี่ๆ ว่า สีนี้ใช้ได้ไหมค่ะ ถูกใจไหม??? แต่ก็ยังมี "ต้องเพิ่มสีขาวนะ ขอลงแดงอีกหน่อย หรือใส่เหลืองไปอีกนิด" แต่น้องก็ไม่หวั่น จนได้สีที่ถูกใจ สมใจบรรดาพี่ๆ ทุกคน ^^ น่า ร๊ากกก อ่ะ 

    ทีมเพ้นท์สี BBL. 

    นำทีมวาดและเพนท์โดยน้องไนน์ น้องเฟม น้องหมูแหนม น้องนก น้องฟู และสมาชิกอีกหลายคน ขอบอก ทีมนี้ ฝีมือดีช่างจินตนาการและสร้างสรรค์ เหมือนเวรกรรมมีจริง ทีแรกตอนร่างแบบ บอก "วาดๆ ไปเหอะ เดี๋ยวค่อยให้ทีมลงสีมาระบายสีเอง ปล่อยให้เป็นภาระของทีมทาสี  เรารอด 5555" 

    แต่จนแล้วจนรอด ทีมเพนท์กับทีมลงสีคือคนๆ เดียวกัน 5555 โว๊ะ โอ๊ะ โอ๊ะ เขาเรียกว่า "ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว" 5555555 

    เช้าวันนี้ น้องฟู สาวดอยตุงเพิ่งเดินทางมาถึงโรงเรียน

    ถามว่าน้องได้พักที่ไหน >>> หนูหาที่พักใน อ.ปัว แต่กว่าจะเจอก็ปาไป 2 ทุ่มแหละ 

    แล้วเดินทางมายังไง >>> นั่งสองแถวจากอำเภอปัวมาลงที่หมู่บ้านนาเกลือ และต่อรถมอเตอร์ไซด์ขึ้นมาโรงเรียน

    มีคิวรถมอเตอร์ไซด์มาส่งหรา >>> หนูเหมาพี่ๆ ที่เขาขับมอเตอร์ไซด์มาค่ะ เหมามา 300 บาท ส่งถึงโรงเรียนเลย

    อืมมมมม เชื่อมั่นในความพยายามและอุตสาหะของน้องฟูม๊ากกกก สุดยอด!!! กับการเดินทางของผู้หญิงตัวเล็กๆ 

    และนี้คือผลงานของเรา

    ทีมสอน+เล่นเกมส์

    มีน้องเจแปน น้องพันปี น้องแพร น้องบิวตี้ น้องปอย น้องกัน น้องเจีย พี่เอ๋ ฯลฯ และอีกหลายๆ คน เป็นทีมที่วางแผนกันจนดึกดื่น ทรมานสมาชิกในการนั่งกอดเข่า ท้าลมหนาวตัวสั่นไปตามๆ กัน ทีมนี้ตั้งใจกันมาก บางคนตัวเท่าเด็กๆ จนต้องสังเกตตรงป้ายชื่อ เพราะแยกไม่ค่อยออกจริ๊งจริง 55555 ได้เห็นเด็กร่วมสนุกสนานกับพี่ๆ แล้วก็ต้องอึ้ง เพราะพี่นำน้องเล่น แต่น้องยัง งง กะชีวิตตัวเองอยู่ 555555 แต่ทีมนี้เขาสู้ไม่ถอยจริงๆ ^^

    สิ้นสุดภารกิจ ด้วยการทานข้าวร่วมกัน งานนี้ เด็กๆ และชาวค่ายบอก อาหร่อยม๊ากกก โดยเฉพาะซุปไก่สกัดจากเทือกเขาสะปัน (ตั้งชื่อเมนูเองเลย 5555) และน้ำพริกกะปิ 

     

         
    • โพสต์-7
    Taya@ •  ธันวาคม 18 , 2563

    คืนที่มันเหน็บ...หนาว

    ก่อนกลับกรุงเทพ พี่ๆ น้องๆ ชาวค่ายมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดและความรู้สึก บอกตรงๆ เป็นค่ายที่พอจะซึ้ง หรือจะดึงดราม่า ก็ต้องหลุดขำ หลุดก๊ากกกก ต่อไม่ติด ไปกันไม่เป็นเลยทีเดียว ขอเป็นความลับและความทรงจำดีดีของชาวค่ายในค่ำคืนนั้นตลอดไป ... ^^

    คืนที่มันเหน็บหนาว ฉันแอบมายืนหาวอยู่ข้างกองไฟ น้องๆ ชาวค่ายหลายคนเลือกนั่งจับเข่าคุยกัน แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ชีวิต หลายคนเลือกมานั่งดูดาว ที่ชีวิตปกติในเมืองกรุงจะไม่สามารถมองเห็นกลุ่มดาวได้มากมายขนาดนี้ โน้นดาวลูกไก่ นี้ดาวพลูโต นั้นดาวคันไถ และอีกๆ หลายดาวที่ไม่รู้จัก

    ฟ้าสว่าง อากาศยังคงหนาวเย็น 11 องศา บางคนออกเดินทางลงจากดอยตั้งแต่เช้าเพราะต้องไปสนามบินให้ทันไฟลท์ รถตู้รอพวกเราพร้อมอยู่ด้านล่าง

     โปรแกรมที่วางไว้คร่าวๆ คือ ทานข้าวเช้าและเก็บสัมภาระเสร็จ แวะถ่ายรูปเช็คอินกันที่ร้านกาแฟหยุดเวลาในหมู่บ้านสะปัน ก่อนจะเข้าตัวเมืองน่านและไปไหว้พระและถ่ายรูปที่วัดภูมินทร์ แวะซื้อของฝากก่อนเข้ากรุงเทพและกลับบ้านใครบ้านมัน สมาชิกอีกส่วนต้องเดินทางต่อ ไปเที่ยวชมเมืองน่านและเชียงใหม่ ^^

    จากจุดทางขึ้นโรงเรียน ตชด. 100 ปีฯ ถึงหมู่บ้านสะปัน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที พอเลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้าน ทางจะเริ่มเล็กลง แม้รถสามารถวิ่งได้ 2 เลน แต่เมื่อมาเจอกัน ต้องมีหลบให้ทางใดทางหนึ่งไปก่อน และร้านกาแฟ @หยุดเวลา ร้านที่ได้ชื่อว่า "วิวหลักล้านเพราะอยู่ท่ามกลางขุนเขา" เป็นจุดเช็คอินที่คนเยอะม๊ากกกก เส้นทางที่จะไปเป็นทางขึ้นเขาสูงชัน รถเล็กสามารถขึ้นไปจอดรถที่วัดสะปัน แต่รถตู้ต้องจอดไว้ด้านล่างและนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไป แม้แดดจะแรง แต่อากาศก็เย็นๆ หลายคนไม่ยอมถอย ใจสู้เดินตะลุยขึ้นไปเพียงแค่ได้ขึ้นไปชมวิวหลักล้านนั้น อืมมมม <<<ง า ม จ ริ ง>>> และ <<<เ สี ย ว จ ริ ง >>>

    การเดินทาง ที่ไม่ใช่เป็นเพียงการเดินทางท่องเที่ยวเพียงลำพัง หรือกับเพื่อนฝูง แต่เป็นการท่องเที่ยวผสมผสานกับการพัฒนาตัวเองกับพัฒนาสังคม สร้างประโยชน์และช่วยเหลือชุุมชนให้มีความยั่งยืน ในรูปแบบของนักท่องเที่ยวและนักจิตอาสา

    ท่องเที่ยวเพื่อสร้างกำไลให้ชีวิตและชุุมชน 

    ขอบคุณ พี่ๆ น้องๆ รวมถึง @มนตร์อาสา ที่ทำให้ทริปนี้เป็นทริปการท่องเที่ยวที่มีคุณค่า ได้เรียนรู้ถึงแนวคิดต่างๆ และเรื่องราวของคนแปลกหน้า ประทับใจหลายๆ อย่าง รวมถึง น้องช่าง เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ อายุประมาณ 3 - 4 ขวบ (ถ้าจำไม่ผิด) กับคุณแม่น้องเจีย ที่ตั้งใจแวะมาเป็นกำลังใจให้ลูกในการทำดี และใช้วิธีการสอนที่แทรกแซงความคิดโดยไม่ได้บังคับให้น้องช่างได้รู้จักและสัมผัสกับคำว่า

    "เสียสละ+จิตอาสา" 

    เมื่อได้ลงมือทำแล้ว จะรับรู้ได้ว่า "ความสุข" ที่แท้จริงเป็นอย่างไร 

    ความ "อิ่มเอม" และ "เอิบอิ่ม" ยังคงกรุ่นอยู่ในใจ

    สุดท้ายขอขอบคุณ นายแบบ นางแบบ และภาพสวยๆ ของน้องๆ ชาวค่าย @มนตร์อาสา ทุกคน 

    ...........^-^............