ภูชี้ดาว

เราได้ตั้งเป้าหมายไปเที่ยวกัน 2 สถานที่ นั้นคือ ดอยผาตั้ง , ภูชี้ฟ้า 

เราได้เช่า มอเตอร์ไซค์ ที่ แถว หอ นาฬิกา เชียงราย ครับ 

ได้รถมอเตอร์ไซค์ เรียบร้อย เป็น คลิก 110 ครับ วันละ 200 บาท 

ออกเดินทาง มุ่งหน้า ดอยผาตั้ง ทันทีครับ ระยะทาง 134 กิโลเมตร

วันแรกเราไป นอนที่ดอยผ้าตั้ง ที่ ผาตั้งฮิวล์ บริการก็ OK เที่ยวดอยผาตั้งเรียบร้อยก็กลับมานอนครับ

รุ่งเช้า ตั้งเป้าจะไปภูชี้ฟ้า เพราะเดินทาง ง่ายๆ สบายๆ 

แต่แล้ว ลุงที่อยู่ รีสอร์ทฮิ้วล์ ก็ทักเรา ถามเราว่าจะไปไหนกันต่อ เราก็เลย ตอบไปว่าจะไป ภูชี้ฟ้า ครับ

แต่เลยบอกว่า ทำไมไม่ไป ภูชี้ดาว ละ ทางผ่าน ขึ้นง่าย รถมอเตอร์ไซค์ ก็ขึ้นได้ สบายๆ 

เราก็เลยคุนกับกับเพื่อน เออใช่ ไปภูชี้ดาวกันดีกว่า เจ้าถิ่นแนะนำ เชือถือได้ ก็มุ่งหน้าสู่ ภูชี้ดาว ทันที

ภูชี้ดาว เป็นสถานที่ ท่องเที่ยวเปิดใหม่ได้ไม่กี่เดิน แล้วข้อมูลการท่องเที่ยวสถานที่แห่งนี้ยังน้อยอยู่ ผมเลยอยากจะเล่าประสบค์การ การท่องเที่ยวของผมให้ฟังกันครับ 

ภูชี้ดาว ตั้งอยู่ที่ บ้านร่มโพธิ์เงิน อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 

เรามาเริ่มเดินทางขึ้น ภูชี้ดาวกันเลยครับ 

ภาพนี้ ระหว่างทาง ครับแวะถ่าย

มาถึง บ้านร่มโพธิ์เงิน จะมาป้ายบอก ทางขึ้นภูชี้ดาวครับ เป็นหมูบ้านเล็กๆ  ระยะทางขึ้น ไปภูชี้ดาว ประมาน 3 กิโลเมตร ครับ ก็ได้เลี่ยว มุ่งหน้าขึ้นไปอย่างเดียวเลย ครับ 

ขึ้นไปได้ ไม่ถึง 500 เมตร เหมืองรถจะหมดแรง บิดไม่ขึ้น ก็ได้แต่มองหน้ากันกับเพื่อน แล้วก็ใจตรงกับ เอาไปต่อสิครับ รออะไร 

พอขึ้นไปได้ ประมาน 1 กิมโลเมตร ก็มีลงเมตรรถ กับบ้างแหละ เริ่มมีการบ่นถึง ลุงที่อยู่ รีสอร์ทที่แนะนำให้มา ว่า ไหนบอก รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นได้ไง 

จอดรถพัก เพราะ คนซ้อนท้าย ต้องลงเดิน เลยเหนื่อยว่าคนที่ขี่รถขึ้นไป ก็ เลยจอดหาข้อมูลว่า เห้ยแม้งเคยมีใครเอา รถมอไซค์ ขึ้นมาได้บ้างป่าววะ 555555 มาหาข้อมุลต้องขึ้นมาแล้วนี้นะ ขำตัวเอง

หาทั้ง google , panpit ก็มีคนรีวิวนะ ทั้งบิ๊กไบค์ มอไซค์บ้าน ทัวริ่ง ถอดใจถอยทัพกลับลงไปข้างล่างหมด  เริ่มจะถอดใจ แล้วว่าจะเอาไงดี  กลับลงไปแล้วไปภูชี้ฟ้าดีไหม  

ได้บทสรุป ลุยต่อ ไหนๆก็มาแล้ว เราจะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เอา มอเตอร์ไซค์ขึ้นไปให้ได้  งั้นไป สู้โว๊ย ก็ลุยกันต่อ

ดูสภาพแต่ละคนเอาแล้วกันครับ ว่า มันเป็นยังไง 

ขึ้นมาได้ประมาน 2 กิโลเมตร ก็จะมาเจอ ประตู กั้นไม้ไผ่ เอาไว้ ไม่แน่ใจว่ากั้งไว้ทำไม มันยังเป็นเรื่องที่ผมสงสัยอยู่เลยจนทุกวันนี้ 

เอาออกแล้วก็ ปิดให้เขาเหมือนเดิมครับ  แล้วก็เดินทางกันต่อไป 

ทั้ง เข็น ดัน กันเลยทีเดียว เพื่อให้เอารถไปให้ถึงข้างบนให้ได้ครับ 

ทางก็ จะเป็น ดินฝุ่น ลูกรัง ก้องหินใหญ่น้อย ไปตลอดทาง เข้าใจเลยว่า มันต้องโฟวิว เท่านั้นถึงจะขึ้นไปได้ พูดได้เลยว่า ลำบากจริงๆ กับจากเดินทางเอามอเตอร์ไซค์ ขึ้น ภูชี้ดาว 

สงสาร คนซ้อนมากกว่า กระโดดลงแล้วต้องเดินขึ้นเขา เป็นระยะๆ 

ถอดใจบ้างเป็นระยะๆ บ่นตลอดทางว่า เมื่อไหร่แม้งจะถึงสักทีวะนี้  ป้ายก็ไม่มีบอกว่า ไกล้ถึงหรือยัง 

แต่แล้ว พวกเราก็มาถึง ลานกางเต้น ภูชี้ดาวจนได้ ครับ

จะบอกว่า ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมาเลย เพราะมันเหนื่อยจน ลืมไปหมด ครับ เสียดายที่ รีวิวให้ไม่เต็มที่ 

ข้างบน ไม่มี ร้านค้า ไม่มีอะไรขาย ไฟฟ้าไม่มี เป็นลานกางเตนท์ พร้อมที่จอดรถ คือที่เดียวกันแหละครับ 

มีห้องน้ำ พอใช้ได้ ครับ เป็นห้องน้ำ สังกระสีครับ 

นั่งพักกันสักครู่ใหญ่ ก็ เดินเท้ากันต่อครับ ระยะทางก็ น่าจะประมาน 350-400 เมตร ครับ 

เดินชม วิวตามทางไปเรื่อย เพราะเดินเลอเขาไปเรื่อยๆ ครับ 

เดินก็ ระมัดระวังกันด้วยนะครับ เพราะ ทั้ง ซ้าย และ - ขวา เป็นหน้าผาครับ

มาถึง สิ่งที่เห็นตรงหน้า มัน คุ้มค่ามาก กับ ความเหน็ดเหนื่อยที่เสียไป

เพราะได้เห็นทั้ง ภูชี้ดาว และ ภูชี้ฟ้า อยู่ ไม่ไกล ครับ 

เห็นไหมครับ มองไปข้างหลังผม เป็น ภูชี้ฟ้า ยอดแหลมๆ ครับ 

ผมนี้อยากมาช่วงเช้า จริงๆเลย ทะเลหมอก คงจะฟินมากเลยครับ ถ่ายรูป นั่งชม วิว เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ ได้เวลาลงสิครับ มันร้อน ขึ้นมาทำบ้าอะไร ตอนเที่ยงๆ บ่ายๆ 

ขอจากกันด้วย ภาพนี้แล้วกับ นะครับ

มีโอกาส จะมารีวิว ทริปอื่นๆต่อไป ครับ