โมโกจู...ต้องไปดูให้เห็นกับตา

>> ติดตามเรื่องราวการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ Facebook เพจสวัสดีคนแปลกหน้า
https://www.facebook.com/hellostrangerpage/

>> IG : hellostrangerth
https://www.instagram.com/hellostrangerth
.
.

โมโกจู...ต้องไปดูให้เห็นกับตา

การเดินทางพร้อมกับคนแปลกหน้า 10 ชีวิต ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

....#โมโกจู ชื่อคุ้นหูที่ได้ยินมาตั้งแต่เริ่มหัดเดินป่า นักเดินป่าหลายคนใฝ่ฝันว่า สักครั้งหนึ่งในชีวิต อยากที่จะพิชิตยอดดอยนี้ เพราะการได้พิชิตโมโกจู เปรียบเสมือนการเรียนปริญญาเอกของการเดินป่าไทย (เขาว่ากันอย่างนั้น) ได้ยินอย่างนี้แล้ว ขาก็เริ่มกระตุกเลย ฮ่าๆ อยากจะไปเดินแล้ว :)

เริ่มหาข้อมูล...โมโกจู เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร มีความสูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำทะเล การเดินทางต้องเดินเท้าไปกลับระยะทางรวม 64 กิโลเมตร เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน และไฮไลท์สำคัญคือ หินเรือใบ ก้อนหินรูปร่างประหลาดที่ใครๆ ก็ต่างจะขึ้นไปเพื่อถ่ายรูป แต่เอ๊ะ! .... มีแค่นี้เองเหรอ จองทริปก็ยากมากๆๆๆ มันจะคุ้มไหมที่ไป หรือมันมีอะไรที่มากกว่านั้น นี่คือสิ่งที่ต้องไปหาคำตอบ

#โมโกจูต้องไปดูให้เห็นกับตา

Day 1 : ออกเดินทางจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ สู่เส้นทางเดินป่าระยะไกล 16 กิโลเมตรของการเดินในวันแรก สภาพทางเดินเป็นทางราบ สลับกับทางขึ้นชัน พอให้เราได้หอบกันสักเล็กน้อย และลงทางชัน แต่ทางเดินที่ไกลก็ไม่อาจสู้แสงแดดและความร้อนได้ ทำให้การเดินทางในวันแรกถือว่าโหดใช้ได้เลย ใช้เวลาเดินประมาณ 5 ชั่วโมง เราก็เดินทางมาถึงจุดตั้งแคมป์แม่กระสา

Day 2 : เก็บของออกเดินทางจากแคมป์แม่กระสา ไปจุดตั้งแคมป์แม่รีวา ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ทางเดินง่าย ส่วนใหญ่จะเป็นป่าไผ่ ใช้เวลาเดินประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก็มาถึงแคมป์แม่รีวา จากนั้นก็ตั้งแคมป์ ทำอาหาร พักผ่อน และเดินทางไปน้ำตกแม่รีวา ซึ่งห่างจากจุดพัก 3 กิโลเมตร (ไปกลับรวม 6 กิโลเมตร)

Day 3 : ระยะทาง 8 กิโลเมตร นรก + 1 กิโลเมตร สู่ยอดเขาโมโกจู เส้นทางเดินชันมาก ประมาณ 45-70 องศา บางจุดจะมีเชือกผูกไว้ให้ดึงตัวขึ้น ทางราบไม่ต้องพูดถึง แทบจะไม่มี วันนี้ถือว่าเป็นวันที่เดินหนักที่สุด ใช้เวลาเดินเกือบ 9 ชั่วโมง และแล้วก็ถึงจุดตั้งแคมป์ตีนดอย พักผ่อนพอหายเหนื่อยก็ออกเดินทางต่ออีก 1 กิโลเมตร เพื่อไปดูวิวและพระอาทิตย์ตกบนยอดโมโกจู

Day 4 : เก็บแคมป์ เดินลงเพื่อไปจุดพักแรมแม่กระสา ซึ่งจะเป็นแคมป์สุดท้ายที่เราจะพัก วันก่อนขึ้นทางชัน วันนี้ลงทางชัน สาหัสกว่าตอนขึ้นอีก ล้มลุกคลุกคลาน ใช้เวลาเดิน 7.5 ชั่วโมง เราก็มาถึงแคมป์แม่กระสา

Day 5 : เก็บแคมป์ เดินทางกลับ ระยะทาง 16 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 4 ชั่วโมงก็มาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยาน

เล่าข้อมูลให้ทราบพอประมาณ...เรามาเริ่มเดินทางไปด้วยกันเลยดีกว่านะคะ :)

 

ถ่ายรูปพร้อมกันก่อนออกเดินทาง

 

กระเป๋าและของส่วนตัว แบกไปเอง ส่วนของใช้ส่วนกลางก็จัดแจงให้ลูกหาบแบกไป

 

ก่อนออกเดินทาง ....เข้ารับฟังกำหนดการเดินป่าระยะไกล 5 วัน 4 คืน กับพี่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

 

วันแรก กับระยะทาง 16 กิโลเมตร ท่ามกลางแดดและอากาศที่ร้อนอบอ้าว

 

บางช่วงเป็นทางน้ำ เดินข้ามพอให้รองเท้าเปียก เย็นเท้าดี ^^

 

เดินข้ามลำธารเล็กๆ แบบนี้ประมาณ 5 จุด

 

เดินมาเรื่อยๆ จนเจอทางราบและร่มพอที่จะให้แวะพักกินข้าวกลางวัน

 

หันไปถามคนแปลกหน้าในกลุ่ม 
"ทุกคนไหวมั้ย?" เอ่อ... เราเองก็จะไม่ไหวละ ยังจะมีหน้าไปถามคนอื่น ฮาๆ
 

ถึงจุดนี้ ....แสดงว่าใกล้จะสิ้นสุดการเดินทางวันแรก 16 กิโลเมตร แต่จริงๆก็ไม่ได้ใกล้เลย - -"

 

เดินมาถึงแคมป์แม่กระสา จุดพักแรมของวันแรก มีนกเงือกและนกยูงขี้เหวี่ยง คอยต้อนรับอยู่

 

ข้างๆ แคมป์แม่กระสาจะมีลำธาร สามารถใช้อาบน้ำได้ น้ำใสไหลเย็น เห็นตัวปลา

 

เช้าวันที่2 ก่อนออกเดินทาง แวะไปดูลูกหมีที่เลี้ยงไว้ในกรง เตรียมปล่อยสู่ป่า

 

ระหว่างการเดินทาง เจองูเหลือมขนาดใหญ่

 

วันที่ 2 เดินทางมาถึงแคมป์แม่รีวา ไม่ไกลมากนัก ห่างจากแคมป์แรก 4 กิโลเมตร

 

ตั้งแคมป์ ทำอาหาร พักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนออกเดินทางไปน้ำตกแม่รีวา

 

ข้าวผัดหมู .... เมนูง่ายๆที่อร่อยเหาะ เอ๊ะ!! หรือว่าเราหิว ^^

 

กินดีกว่าอยู่ในเมืองกรุงอีก 555

 

เดินทางไปน้ำตกแม่รีวา ระยะทาง 3 กิโลเมตร ไปกลับก็ 6 กิโลเมตร

 

ชุดพร้อม เตรียมเล่นน้ำตก... แต่ระหว่างทางนี้ใบไม้กิ่งไม้ข้างทางเกี่ยวขา คันและเป็นแผล

 

เล่นน้ำตกกับคนแปลกหน้า ก็สนุกดี

 

พาพี่มาริโอ้มากระโดดเก็บเห็ดที่น้ำตกแม่รีวา

 

หมูทอด....อาหารสำหรับมื้อกลางวันของวันที่3 ทำเผื่อไว้เลย

 

วันที่ 3 ออกเดินทางตั้งแต่หกโมงเช้า เพื่อสู้กับระยะทาง 8 กิโลเมตรนรก ทางชันมากกกก พี่ลูกหาบตัดไผ่ใช้สำหรับเป็นไม้ค้ำให้คนละอัน

 

บางช่วงจะมีเชือกให้จับเพื่อดึงตัวขึ้น เพราะมันชันมากจริงๆ

 

อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้...บอกที ใกล้แล้วมั้ง (เสียงสูง)

 

มองจากตรงนี้ ถ้าซูมภาพดู จุดเล็กๆ สีดำบนเนินเขา นั่นคือหินเรือใบ ... เราจะเดินไปได้ยังไง?? ยังคงสงสัย

 

และแล้ว... เราก็มาถึงจุดตั้งแคมป์ตีนดอย เดินขึ้นมาอีก 1 กิโลเมตร เท่านั้น ก็จะเห็นวิวสวยแบบนี้เลย หายเหนื่อย

 

นั่นไง... หินเรือใบ ขอถ่ายรูปกับคนแปลกหน้าเก็บไว้เป็นความทรงจำ

 

เท่ห์อ่ะ

 

พระอาทิตย์ของการเดินทางวันที่ 3 ใกล้จะลับขอบฟ้า

 

ในคืนนี้มีดาว เป็นล้านดวง ....ว้าววว เจอช้างด้วยอ่ะ 
Cr. ภาพ น้องบูม
 

เช้าวันที่ 4 บนยอดเขาโมโกจู

 

เฮ้ย!!! เราทำได้ หินเรือใบ ไม่ไกลเกินเอื้อม

 

ลาก่อน....หินเรือใบ 
เก็บแคมป์ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่แคมป์แม่กระสา ลงอย่างเดียวเลยวันนี้ ลื่นล้มให้รีบลุกนะ 555

 

เดินข้ามสะพานไม้ไผ่

 

ถึงแคมป์แม่กระสา... และนี่คืออาหารมื้อสุดท้ายของวันที่ 4

 

วันที่ 5 วันสุดท้ายของการเดินทาง เดินคนเดียวยาวๆไป 4 ชั่วโมง 16 กิโลเมตร ...วังเวงอย่างบอกไม่ถูก

 

ถึงแล้วจ้า.... 64 กิโลเมตร แห่งความภาคภูมิใจ ถ่ายรูปคู่เกียรติบัตรซะหน่อย

 

รองเท้าคู่เดียว ถุงเท้าคู่เดียว อย่าถามถึงกลิ่น 555

สิ้นสุดการเดินป่าระยะไกล การเดินป่าเวลา 5 วัน 4 คืน กับคนแปลกหน้า มันให้อะไรเรามากกว่าแค่ความเหนื่อย เราได้ก้าวข้ามความกลัวที่ตอนแรกคิดว่า ยังไงเราก็ไม่ไหว เราชนะใจตัวเองและข้ามขีดจำกัดนั้นมาได้ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพ ได้สร้างความทรงจำที่ดีให้กับการเดินทางในครั้งนี้ ยินดีที่ได้รู้จักคนแปลกหน้าทุกคน ....แล้วพบกันใหม่

#สวัสดีคนแปลกหน้า

#HelloStranger