ไปเก็บขยะภูกระดึงกัน

“ไปภูกระดึงกันไหม” คำชวนของพี่คนหนึ่ง ที่เพิ่งไปภูกระดึงมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ แล้วมาชวนเราเมื่อเดือนมีนาคม ไปขึ้นภูกระดึงกันสิ้นเดือนพฤษภาคม 

        “ไปค่ะ ไปเมื่อไหร่คะ” เป็นคำตอบที่ไวมากกับการตอบรับการชวนไปเที่ยว แต่เอ๊ะ!!! ภูกระดึงจะปิดแล้วหนิ จะไปยังไง ไปๆมาๆ คือเค้ามีกิจกรรม PhuKradueng Go Green Go Clean Go Grow เก็บขยะ ปลูกต้นไม้ เติมสีเขียวให้หัวใจภูกระดึง ปี 2 วันที่ 30 พ.ค.- 1 มิ.ย. 61 จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดเลย และอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กิจกรรมนี้จัดขึ้นทุกๆปี เป็นวันที่ปิดภูกระดึง 4 เดือน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน ของทุกปี มาส่งภูกระดึงเข้านอนกันเถอะ กิจกรรมมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย รับจำนวนจำกัด แต่บอกเลยว่าคุ้มมากๆ เรามารู้จักกิจกรรมและเที่ยวภูกระดึงครั้งนี้กัน 

** รูปจาก Facebook TAT Loei office **

จาก กทม. เราจองตั๋วรถทัวร์ของ บขส.ไปเมืองเลย คืนวันที่ 30 พ.ค. 61 รอบสองทุ่ม เพื่อที่จะไปถึงเช้าที่ภูกระดึงวันที่ 31 พ.ค. 61 (อย่าลืมบอกกระเป๋ารถทัวร์นะว่าลงผานกเค้า) ทริปนี้เราไปกัน 3 คนค่ะ  ขึ้นรถได้ก็หลับเลย เก็บแรงไว้ แล้วเราก็ถึงผานกเค้าตอนตี 4.30 น. ไฟสว่างเลยค่ะ ไม่หลงแน่นอน

ลงรถเสร็จก็เดินมาฝั่งตรงข้ามเลยค่ะ  มานั่งพักร้านเจ๊กิม ร้านอาหารที่ใครไปภูกระดึงรู้จักเป็นอย่างดี 

รถสองแถว  ไปอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จอดเข้าคิวอยู่ข้างๆร้านเจกิม เรานั่งรอซักพัก เผื่อจะมีผู้ร่วมทางกับเรา ช่วยหารค่ารถ แต่พอตี 5 ก็ไม่มีใครเลย เราเลยเหมาไปค่ะด้วยราคา 300 บาท (ราคาเหมา 300 บาท มีคนมาหลายคนก็หารกันค่ะ หรือปกติก็คนละ 50 บาท แต่ต้องรอบเวลารถออก) ครั้งนี้พี่คนขับใจดีถามว่าแวะ 7-11 มั๊ย เราก็ตอบเลยว่าแวะค่ะ แต่ก็ไม่รู้จะซื้ออะไร สุดท้ายก็ได้นมและขนมนิดหน่อย แล้วเราก็ไปอุทยานกัน ทางเข้าอุทยานเราเสียค่าเข้าคนละ 40 บาท รถสองแถวก็มาจอดให้หน้าที่ทำการอุทยานเลยค่ะ แล้วเราก็ไปทำภารกิจส่วนตัว และแยกกระเป๋าสำหรับเก็บเสื้อผ้าที่จะใส่กลับฝากไว้ด้านล่าง ไม่ต้องแบกขึ้นไปค่ะ

 

พอทำภารกิจส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปลงทะเบียนร่วมกิจกรรม PhuKradueng Go Green Go Clean Go Grow เก็บขยะ ปลูกต้นไม้ เติมสีเขียวให้หัวใจภูกระดึง ปี 2 เรียกสั้นๆว่า #เก็บขยะภูกระดึงปี2  พร้อมเสียค่าใช้จ่ายท่านละ 300 บาท (บอกแล้วว่าเสีย 300 บาทคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม) และได้รับกระเป๋าผ้าน่ารักๆ แถมผู้จัดใจดีมีบริการอาหารเช้าด้วย คือ ข้าวต้มหมู น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ กาแฟ โอวัลติน สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม แถมยังมีกิจกรรมจับของรางวัลให้เล่นอีก

 

กระเป๋าผ้าสวยๆ ในกระเป๋ามีขนม น้ำเปล่า น้ำผลไม้ ลูกอม เสื้อกันฝน ถุงใส่ขยะ และไม้คีบขยะ พร้อมคูปองอาหาร 200 บาท (คูปองอาหารเอาไว้ไปใช้กับร้านอาหารบนยอดภู)

สำหรับใครที่จะจ้างลูกหาบเพื่อแบกสัมภาระขึ้นไปข้างบนภูก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่และลูกหาบได้เลย สัมภาระคิดกิโลกรัมละ 30 บาท เจ้าหน้าที่จะให้แท็กมา ต้องเก็บไว้ให้ดีเพราะเราต้องเอาไปแลกสัมภาระของเราที่ลูกหาบแบกไปข้างบนภู และจ่ายตังค์เมื่อได้รับของเรียบร้อยแล้ว .... ปล.ฝากสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็นั่งเล่นได้ รอเวลาเปิดงาน

** ขอบคุณภาพจาก facebook TAT Loei office **

เวลาประมาณ 8.30 น. เป็นเวลาทางการ กล่าวเปิดโครงการโดยท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวรายงานโดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ถ่ายรูปร่วมกัน และพร้อมเดินขึ้นภูกระดึงกัน มีสื่อมวลชนค่อนข้างเยอะที่ให้ความสนใจกับกิจกรรมนี้ ทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ สามารถไปตามหารูปสวยๆของตัวเองได้ตามเพจของสื่อต่างๆได้เลย #เก็บขยะภูกระดึงปี2 

ก่อนขึ้นก็ต้องของรูปซักหน่อย หน้าตายังสดใสดี

อุปกรณ์พร้อมค่ะ ถุงดำ ที่คีบ และมีถุงมือยางด้วย แต่เราไม่ใส่ถุงมือค่ะ มันอบอ้าวไปหน่อย 

        ขยะส่วนใหญ่เป็นเปลือกลูกอม หลากหลายสีที่เยอะมากๆ และขยะก็ไปอยู่ริมๆทางเดิน ทิ้งลงไปที่เหวบ้าง
ซุกไว้ข้างโพรงไม้บ้าง ถ้าจะทิ้งก็ทิ้งไว้ให้คนอื่นเห็นและเก็บง่ายดีกว่านะ จะได้ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ทุ่มสุดตัว พอดีเห็นขยะอยู่ข้างล่าง พี่เค้าก็ลงไปเก็บค่ะ แต่ตรงไหนที่ดูแล้วเสี่ยงอันตรายก็ไม่ลงไปนะคะ

ชอบความเขียวขจีของต้นไม้ในหน้าฝน

 

มาถึงซำแฮก ก็แฮกสมชื่อนั่นแหละ ขยะเกือบเต็มถุง ไม่รู้ทิ้งไว้ทำไมกัน ขวดพลาสติก ขวดแก้ว ถุงขนม เปลือกลูกอม แต่ก็นั่นแหละ เรามาช่วยกันค่ะ 

พักซำแฮก มีร้านค้าที่เปิดอยู่ไม่กี่ร้าน 2-3 ร้านมั้ง  ยังดีที่แม่ค้าเค้ามาเปิดร้านให้เรา แวะเติมพลังกันซักพัก และขอฝากถุงขยะไว้ด้วยนะคะ ขากลับจะแวะมาเอาค่ะ

 

ผ่านมา 2 กิโลเมตร ขยะเราก็จะเต็มถุงอีกแล้วจ้า พักไปเรื่อยๆแล้วก็เก็บไปเรื่อยๆ

 

ที่เห็นบนเนินเรียกว่า ซำกอซาง แต่กว่าจะขึ้นไปถึงซำนี้ก็หยุดเดินหลายรอบ ซำนี้เหลือร้านค้าอยู่ 3 ร้าน ต้องตัดสินใจว่าจะกินข้าวเที่ยง หรือจะห่อไป เพราะซำถัดไปไม่มีแม่ค้า ไม่มีของขาย มีอีกทีคือ ซำแคร่ ซึ่งก็อีกพอสมควร เราเลยตัดสินใจกินค่ะ

เมนูนี้เลย ผัดหมี่ ส้มตำปูปลาร้า แซ่บอีหลี คือตอนนี้กินอะไรก็อร่อยสุดๆล่ะ 

และก็ฝากถุงขยะไว้ที่ร้านค้าร้านนี้ด้วย 1 ถุง กินอิ่มแล้วก็เดินต่อค่ะ 

 

สิ่งที่ไม่อยากเจอตอนเดินคือ บันได ทำไหมหรอ ต้องไปลองเอง สำหรับคนที่ยังไม่เคยไป 555555

 

ระหว่างทาง เจอพันธุ์ไม้เยอะแยะเลย รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง และก็ไปหาข้อมูลมาบ้าง 

Hedyotis coronaria (Kurz) Craib

ดอกกระเจียวสีขาว

ต้นอะไรไม่รู้ ใบเป็นรูปหัวใจ

มอสกับเฟิร์นก้านดำ

Kaempferia galanga หรือ Kaempferia koratensis น่าจะตระกูลเดียวกัน

ไม่ใช่ผักบุ้ง ก็ มอนิ่งกลอรี่ 

 

 

ซำแคร่ ซำสุดท้ายก่อนถึงหลังแป และเป็นทางที่ไม่อยากเจอ คือการเดินขึ้นบันไดที่ชันมาก


ก่อนจะถึงหลังแป ทางเดินก็มีแต่หินและต้นไม้ทึบ ชอบจังมอสขึ้นเต็มเลย สดชื่นสุดๆ

แต่สดชื่นไปค่ะ เพราะระหว่างทางก่อนถึงหลังแป ฝนตกหนักมาก เราหยุดไม่ได้ หาที่หลบก็ไม่ได้ กลัวฟ้าก็กลัว แต่เรามีเสื้อกันฝน เราก็ฝ่าฝนไปค่ะ หยุดไม่ได้

 ต้องเลือกแล้วแหละ ชอบบันไดไหนไปทางนั้นค่ะ  

เห็นป้ายนี้คือ ถึงแล้วหลังแป ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง (ครั้งนี้ครั้งที่ 3 ของข้า)

 

ถึงหลังแป ฝนก็ยังไม่หยุดตก 

เจ้าหน้าที่ททท.บอกว่าจะมีรถอีแต๊กมารับไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แต่กว่าจะมาต้องใช้เวลา เราเลยเดินไปเรื่อยๆ แล้วรถอีแต๊ก 2 คัน ก็มารับเรา

 

** ภาพจาก Facebook TAT Loei Ofice **

ระหว่างทางก็จะมีน้ำขังหน่อย เพราะฝนตกหนัก และช่วงนี้คือตกทุกวัน 

นั่นน่าจะเป็นแผงโซล่าเซล ที่ใช้ผลิตไฟฟ้าบนนี้ 

บนนี้ไปไหนมาไหนไม่มีหลง มีป้ายบอกทางตลอด นานๆทีจะเห็นภาพที่เป็นสนามหญ้าโล่งๆ ไม่มีเต๊นท์ ^^

ถึงแล้ว ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เราก็เข้าไปรับกุญแจบ้านพักที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ 

(แต่เรายังไม่ได้อาบน้ำเพราะรอสัมภาระจากลูกหาบก่อน)

ระหว่างรอลูกหาบ เราก็มีเจ้ากวางน้อย มาทักทาย จริงๆแล้วมันมาหาขนมจากเราต่่างหาก

พอได้สัมภาระเรียบร้อย ก็ไปอาบน้ำ เตรียมกินข้าวแลง ก็ใช้คูปองที่เจ้าหน้าที่แจกให้ไปใช้ตามร้านอาหารที่เปิดอยู่ได้เลยค่ะ ถ้ากินเยอะหน่อยก็จ่ายตังค์เพิ่มไป กินข้าวเสร็จก็พักผ่อน นอนหลับ และพร้อมกันตี 5 เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น

เช้าแล้วคือเดินออกมาตี 5 ไม่ทันอ่ะ พระอาทิตย์ขึ้นเร็วมา ที่ไม่ทันคือไม่ทันแสงสวยๆก่อนพระอาทิตย์ขึ้นนี่แหละ 

อยากเจอทะเลหมอกสวยๆ ต้องมาปลายฝนต้นหนาว หรือ ช่วงใกล้หน้าฝนนี่แหละ 

ขออนุญาตเอารูปคนอื่นมาลงนะคะ พอดีน้องเค้ายืนตรงนั้นพอดี ชอบฟิวนี้เลยแอบถ่ายมา ^___^

หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้น เราก็เดินกลับไปที่พัก กินข้าวเช้า แล้วก็รวมตัวกันอีกทีตอน 8 โมง เพราะเราจะไปปลูกต้นเมเปิ้ลที่น้ำตกถ้ำใหญ่กัน

ระหว่างที่เดินกลับจากผานกแอ่น เราก็เจอพันธุ์ไม้สวยๆ แปลกๆ เยอะหน่อย 

กุหลาบขาว

 

จอกบ่วาย

ดอกหญ้า

ไลเคน

เปราะภู

หม้อข้าวหม้อแกงลิง

ดอกหญ้าอะไรซักอย่าง

หญ้าหัวเสือ หรือ ฮังแตน

เดิน เดิน เดิน ไปปลูกต้นเมเปิ้ลกัน 

ลานศรีนครินทร์

 

ปลูกต้นเมเปิ้ลกันค่ะ

เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ขุดหลุมปลูก เตรียมต้นกล้า ไม้ล้อม และขวดใส่น้้ำไว้ให้พร้อมเลย เราก็ช่วยกันปลูก 

ปลูกเสร็จแล้ว เราก็ล้อมมันไว้ กลัวสัตว์ป่าเข้ามาเหยียบแล้วต้นเมต้นเราจะไม่โต 

ใครผ่านไปน้ำตกถ้ำใหญ่ สังเกตต้นเมเปิ้ลเราด้วยนะคะว่ายังอยู่ดีมั๊ย ^^

น้ำตกสวยจัง น้ำเย็นสดชื่น

ภาระกิจเสร็จสิ้น เราก็เดินลงภูกันค่ะ ขาลง ข้าแบกเป้ลงเอง 

ขาลง เราไม่ได้ลงมาตัวเปล่า นอกจากจะแบกเป้แล้ว เราก็ไม่ลืมที่จะเอาถุงขยะที่เราฝากไว้ที่ร้านค้าลงมาด้วย 

แอบถ่ายวิธีเอาถุงขยะลงไปของพี่คนหนึ่ง น่ารักมากค่ะ 

ขาลงจากภู ฝนตกตลอดทาง หนักบ้างเบาบ้าง เป้ที่แบกมาก็เปียก ตัวก็เปียกปอนกันไป  น้ำป่าไหลหลากลงมาตามทางที่เราเดิน เพราะนั่นคือทางน้ำไหล ถ้าเราไม่มีป่าน้ำคงไหลไปท่วมบ้านเรือนข้างล่างเสียหาย 

พอลงมาถึงตีนภู ก็อาบน้ำแต่งตัวพร้อมเดินทางกลับเมืองกรุง ก็จะมีรถสองแถวจอดอยู่ตรงหน้าที่ทำการอุทยานฯ ก็ตรงที่รถสองแถวมาส่งเรานั่นแหละ จะรอเวลารถออกหรือจะเหมาไปก็ได้ค่ะ ไปส่งจุดขึ้นรถผานกเค้า (ร้านเจ๊กิม เจ้าเดิม)

ภาพในรีวิวนี้มาจากมือถือทั้งนั้นเลย ภาพอาจจะไม่ชัดนะคะ (ยกเว้นภาพจาก Facebook TAT)

ปล. 1 ถ้าอยากจะเดินป่า ต้องหมั่นออกกำลังกาย และดูแลตัวเองให้แข็งแรงเสมอนะคะ เสียใจที่ครั้งนี้เพิ่งหายป่วย ร่างกายเลยไม่ค่อยจะไหวเท่าไหร่ เกือบจะเป็นลม ต้องขอบคุณพี่ๆที่ช่วยกันดูแลเรา แต่มีความสุขและสนุกกับการได้เดินป่า ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ให้สัตว์ป่าต้องมากินพลาสติก  พร้อมส่งภูกระดึงเข้านอน  4 เดือน

เจอกันครั้งต่อไปนะ ^___^

 ปล. 2 กิจกรรม PhuKradueng Go Green Go Clean Go Grow เก็บขยะ ปลูกต้นไม้ เติมสีเขียวให้หัวใจภูกระดึง จัดขึ้นทุกปีนะคะ 31 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน ของทุกปี

ปีหน้าเจอกันนะ 

  ลืมบอก >>>> หลังจากที่เราลงจากภูแล้ว อย่าลืมเอาขยะที่เก็บลงมาไปชั่ง และรับใบประกาศนียบัตรด้วยนะคะ