ขับมอไซต์ไปเที่ยวกัน..เอาใจไปทิ้งที่เขา

วันนี้วันอาทิตย์ที่ 5 ได้จัดเตรียมข้างของบางส่วนไว้ตั้งแต่ คืนวันเสาร์ เพื่อเอาตัวเองออกจาก Comfort Zone ไปเปิดหู เปิดตา เจอผู้คนบ้าง (บ้างนะ ไม่จอแจ)

  • ออกเดินทาง ขับรถไปแบบไม่เร่งรีบ อาศัยเจอวิวข้างทางสวยๆ ก็จะถ่ายภาพเก็บไว้ อันนี้พักศาลาพักใจอยู่ ...บ้าหรอ ศาลาริมทาง ...เริ่มๆหายไปเยอะนะ ทางที่ไม่ใช่เส้นหลักๆ
  • ขับรถมอไซต์ ใส่หูฟัง เปิดเพลงไป แหกปากร้องไป ...พอเจอหมู่บ้าน หรือกลุ่มคน ก็เบาๆเสียงตัวเอง แต่ถ้าอารมณ์ยังต่อเนื่องอยู่นะ ก็ร้องต่อไป ไม่สนใจ สนุกดี 555
  • สวยงามมาก อากาศเย็นๆ ธรรมชาติสองฝั่งข้างทาง กับผู้คน ที่ไม่จอแจ ...สูดหายใจเข้า ลึ๊ก ลึกกก ..ชื่นจาย
  • แล้วก็มาเจอภูเขา มาเจอวิวป่าๆ สีเขียว กับอากาศเย็นๆ ชื่นๆ มันรีเฟรชสภาวะจิตใจ และร่างกายได้ดีจริงๆ แม้น่องขา กะฝ่าเท้าจะระบมๆ อ่ะนะ เห็นไกลๆ นั้น คือ ผาชูธง ...

  • อ๊าาาาส์ ...จิบชาเย็น กินขนมปัง ...วิวสวยๆ กับอาหารแค่ไม่ถึงร้อย หนมปังกะชาเย็น (นี่เรามาเที่ยว แบบสมถะมาก)
  • ชั่งใจนะ ว่าจะถ่ายมุมนี้ ดีไหม ..มันเป็นความทรงจำที่ดี และมีความหมาย ออกไปข้างนอกหิน วิวสวย และลมเย็นมาก ..(คิดถึงนะมากๆ)
  • ทุกสิ่งก็ต้องพาตัวเองไปให้รอด แม้จะหกล้มคลุกคลานแค่ไหน ยังไงชีวตก็ต้องดำเนินต่อไป เหนื่อยก็หยุดพักได้ ไหวก็สานฝันกันต่อไป ตอไม้ ขนาดมอดไหม้ไปแล้วก็ยังพักฟื้นตัวขึ้นมา ออกดอก ออกใบ ยืนต้นกันต่อไป 
  • อยู่ดีดี ก็นึกถึงท่อนนี้ ขึ้นมา "เปรียบคนเราเหมือนดั่งขึ้นภูเขา ฝ่าไปเอาหมายตัวเราก้าวไกล สูงๆ ขึ้นไป ใครจะอยู่ข้างเรา กิเลสยุเย้าให้ปีนป่าย" เวลาเจอปัญหา อะไรทุกข์ใจๆ เราชอบเอาตัวเองไปอยู่ที่สูงๆ มองลงมา จะเห็นทุกๆอย่างนั้นมันเล็กไปหมด เหมือนกับปัญหาของเรา ตัวเราอาจจะคิดว่ามันยิ่งใหญ่ แก้ไขไม่ได้ ได้ก็ยาก ถ้าไม่ไหวแล้ว อยากให้หยุดคิด หยุดพักกันซะก่อน ลองเอาตัวเองออกมาจากจุดนั้นก่อน แล้วพอสบายใจแล้ว ค่อยมองกลับไป มองกลับไปที่ปัญหานั้น โดยที่มองด้วยความรู้สึกของคนที่เราเคยเจอ เคยฟังเรื่องราวเขามา ว่า ถ้าปัญหานี้เป็นคนอื่น ที่เขาเก่งกว่าเรา หรือแย่กว่าเรา เขาเหล่านั้นจะแก้ปัญหาข้างหน้าที่เจอได้ยังไง แล้วเราก็เอามาประยุกต์ หรือปรับใช้กับตัวเอง  แต่วิธีการ หรือหนทาง ก็แล้วแต่กันไป บางคนทำได้ครั้งแรกเลย บางคนก็หลายปัญหา ก็แก้ไขกันไป แต่เเค่ลองเอาตัวเองออกมา แล้วมองกลับไปดู... สู้ๆนะ
  •   * จึงเป็นสะพานไม่มั่นคง พร้อมผุพังลง ล่ม ลง คงคา แต่เธอก็จับมือฉัน ร่วมก้าวมา สองใจศรัทธา แม้จมคงคาไม่ปล่อยมือ  (มาซะยาว บ้าละ นั้นมันเพลง สะพานไม้ไผ่ )
  • ป้ายเตือน บางที ก็งง มีไว้ทำไม (ไว้ในทางกฏหมายหรอ) แต่ เหนือ่ยแค่ไหน พอขึ้นมาสูงๆ มองออกไป หายใจลึกๆ สบายใจ
  • นั่งพัก มองวิว ปล่อยให้ลมตีหน้า หายใจเย็นชื่นจมูก วันนี้ฝนตกปรอยๆ ด้วย แต่อากาศก็ อบๆ นิดๆ ไม่ร้อนมากเท่าไร เจอวิวหน้าผาๆ หรือสูงๆหน่อยก็จะมีลมพัดมา เย็นนนนน
  • เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ถามว่า เราเข้าไปไหม ...(กล้า แต่ไม่ได้ไป) แต่มีอย่างนึง คือเราไปแนะนำให้ วัยรุ่น ผญ 2 คน เดินเข้าไป เพื่อไปดู วิวบ้านสำนักงานคอมมิวนิส์เก่า บอกให้เขาไป แต่เราไม่ได้เข้าไป 555
  • ก่อนกลับ ก็จัดสักหน่อย แก้วนึง ตอนขาขึ้น ไปอยู่ไหนมา (แต่ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ถืือของเยอะ อิอิ ) ไหนๆก็ไหนๆ เอาไปฝากยายๆ ที่บ้านดีก่า
  • วัดไรไม่รู้ จำไม่ได้ แต่รูปทรงสถาปัตย์สวยงามดี วัดอยู่ข้างทางก่อนขึ้นไปภูหินฯ​
  • อ่ะ ไปเช้า กลับ เย็น Where Where so where where (ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ) แวะตลาดนัดค่ายสฤษดิ์ หน้าปั๊ม ปตท แถวๆ น้ำตกสกุโณทยาน ได้ของกินข้างทางมาตลอดสายเลย สตอเอย สตอเบอรี่เอย แกงปลาเอย กุ้งสดเอย ขนงขนมเอย ..เอาไปฝากคนแก่ที่บ้านก่อน ..ทุกครั้งจะประมานนี้ จะได้ของกินข้างทางกลับบ้านตลอด เวลาออกมาเที่ยว แว้นส์ๆ ..
    .
    ถ้าสายเส้น พิจิตร-วังทอง ก็จะได้ จิ้งหรีด ดักแด้ พวกแมลง ฯลฯ
    สายเนินมะปรางก็จะได้มะม่วงส้มมากิน มะม่วงน้ำดอกไม้ 
    พิจิตรเลย ก็จะเป็น กล้วยไข่ ส้มโอ
    สุโขทัย ก็จะได้พวกขนมโบราณ ถั่วทอด ทองม้วน บลาบลา
    .
    เป็นการเที่ยวแบบชิวส์ๆ มันได้เห็น ได้เรียนรู้ ได้พบเจออะไรมากมาย ถ้าเปรียบเทียบกับการนอนอยู่บ้าน หรือการนอนตื่นสาย ชีวิตแต่ละวันๆ จบลงและหมดไป อย่างน่าเสียดาย พอมีโอกาส หรือจังหวะเหมาะสม ก็จะขับรถออกเดินทางยังงี้ ดูเหมือนไร้สาระ และจุดหมาย แต่ก็พอหล่อเลี้ยง และสร้างตัวตน ความสุข ความฝัน และความสบายใจ..ไปเที่ยวกัญ ...

 

สรุปทริป 
 

- ค่าน้ำ+ขนม  70 บาท

- ค่าน้ำมัน ขาไป 170 บาท 

                ขากลับ 190 บาท
- ค่ากับข้าว 240 บาท

 

รวม 670 บาท

 

ขอบคุณที่รับชมและเข้ามาอ่านนะครับ ...
PJ JJ LOVELOVE