ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    Suchasinee •  กันยายน 23 , 2558

    กุ้ยหลินเมืองไทย ใครๆก็พูดถึง

    ขอบคุณนะคะ  ที่ติดตามมาถึงตอนที่ 2  ^^ 
    ใครยังไม่ได้อ่านตอนแรก  ตามได้ที่นี่นะคะ

    ทะเลกระบี่ Vs กุ้ยหลินเมืองไทย ไปแบบครอบครัว (ตอนที่ 1)

    -------------------------------------

     

    เที่ยวกระบี่ยังไม่หนำใจ  ตอนที่ 2  เราจะพาไปดูสวยงามของกุ้ยหลินเมืองไทยที่ใครๆก็พูดถึง

    ณ  เขื่อนรัชชประภา    จ. สุราษฎร์ธานี  พร้อมแล้วก็ขับรถตามมาเลยจ้า 

     

    ความเดิมตอนที่แล้ว .... 

    เราขับรถออกจากบ้านหนองทะเล  โดยใช้เส้นทางตามถนนเพชรเกษม 

    ขับมาเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกนาเหนือ เลี้ยวขวามุ่งหน้าสู่เขื่อนรัชชประภา   ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง  

     

    และสุดท้ายก็มาถึง .. เขื่อนรัชชประภา  มีชื่อเดิมว่าเขื่อนเชี่ยวหลาน  ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาสก ( งงละซิ มีหลายชื่อ ฮ่าๆๆ)

     

    ก่อนมาที่นี่ต้องโทรจองกับแพล่วงหน้า  ทางแพจะมีเรือมารับไปที่พักนะคะ

    เราใช้บริการของ" แพภูตะวัน "    ซึ่งในแพคเกจจะรวมทริปพาเที่ยวชมกุ้ยหลินเมืองไทย และถ้ำประการังไว้ให้ด้วย  เตรียมใจไว้เลยว่า..นั่งเรือทั้งวันจ้า 

     

    ส่วนใครที่ไม่ต้องการพักค้างคืน  สามารถติดต่อราคาแบบทัวร์ไป-กลับได้ที่ท่าเรือเลยค่ะ

    แต่เราแนะนำว่า พักเถอะ  นอนเถอะ  มันคุ้มค่าจริงๆนะ :) 

     

    • โพสต์-2
    Suchasinee •  กันยายน 23 , 2558

    โปรแกรมเที่ยว เขื่อนเชี่ยวหลาน

    ใช้เวลาประมาณ 40  นาทีก็มาถึงแพภูตะวันค่ะ 

    เรือจะให้เราพักรับประทานอาหารเที่ยงที่แพก่อน  

    และจะนัดหมายเวลาอีกครั้ง  เพื่อพาเที่ยวชมความอลังการของภูเขาหินปูน  

    แวะถ้ำประการัง  และปิดท้ายด้วยเขาสามเกลอ..ก็แอบคิดในใจ มันจะเด็ดยังไง ? 

     

     

    ระหว่างทางที่นั่งเรือเล่นๆ  วิวที่อยู่ตรงหน้าสวยมากจริงๆ ค่ะ

     

    เรากลายเป็นคนตัวเล็กๆ กลางหุบเขาใหญ่ .. รายรอบไปด้วยภูเขาหินปูน 

     

    น่าทึ่งที่ธรรมชาติสร้างสิ่งสวยงามได้มากขนาดนี้

    แสงแดดของช่วงบ่าย ทำเอาพวกเราล้าอยู่เหมือนกัน  แต่พอเวลามันสะท้อนกับสายน้ำ  ระยิบระยับจนเราลืมเหนื่อยไปเลยนะ  :) 

     

     

    • โพสต์-3
    Suchasinee •  กันยายน 23 , 2558

    ถ้ำปะการัง

    เพื่อเข้าไปชมความมหัศจรรย์ของถ้ำปะการัง  เราจะต้องเดินผ่านป่าเขาลำเนาไพรก่อนค่ะ 

    ระยะทางประมาณ 2 กิโล   ทางชันบ้างเป็นระยะ  

    และแน่นอน ..บ้านเราปิดท้ายขบวนค่ะ  ฮ่าๆ 

     

    เดินช้าๆไปเรื่อยๆ  แม่เหนื่อยไหม พ่อไหวรึเปล่า ?

    ถามกันตลอด  จับมือกันเดิน  มีความสุขมากๆ :)  

    พอเดินมาถึงด้านในของหุบเขา  เราต้องนั่งแพไม้ไผ่เข้าไปยังปากถ้ำอีกที   (หลายต่อเหลือเกิน ฮ่าๆ)

     

     

    ในถ้ำปะการัง  จะเป็นหินงอก หินย้อย  รูปร่างต่างๆแล้วแต่จะจินตนาภาพกันไป

     

    ที่นี่จะมีไกด์ท้องถิ่นเป็นคนนำเราเข้าไปในถ้ำค่ะ   บรรยายให้ความรู้และบอกกฎข้อห้ามในการเข้าชมเพราะหินงอก หินย้อย  บางจุดยังมีการเติบโตอยู่  จึงต้องช่วยกันรักษานะคะ  ^^
    อีกอย่างต้องระมัดระวังมากหน่อยเวลาเดินในถ้ำมืดมาก  อาจมีสะดุด 

     

     

    • โพสต์-4
    Suchasinee •  กันยายน 23 , 2558

    กุ้ยหลินเมืองไทย ชื่อนี้มีที่มา

    ออกจากถ้ำปะการัง  คุณลุงคนขับเรือพาเรามาดูแลนด์มาร์กของที่นี่

    นั่นก็คือ.. "เขาสามเกลอ "  ซึ่งเป็นเขา 3 ลูกที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างกัน

    แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราตื่นเต้นอะไรมากนัก  มองๆไปก็เหมือนกับภูเขาลูกอื่นๆ

    สิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้น  กลับเป็นเรื่องราวที่คุณลุงคนขับเรือเล่าให้ฟังมากกว่า ... 

    ----------------------

     

    เขื่อนเชี่ยวหลาน  เขื่อนรัชชประภา  หรืออุทยานแห่งชาติเขาสก ที่เรามาเยือนนี้

     

     ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาหินปูนที่สูงลาดชัน 

    ล้อมรอบด้วยผืนน้ำสีเขียวมรกตอันกว้างใหญ่

    ซึ่งคล้ายกับเมืองกุ้ยหลิน ประเทศจีน

     เลยได้รับการเรียกอีกชื่อว่า  "กุ้ยหลินเมืองไทย"

    พื้นที่โดยรวมก็ไม่มากเท่าไร..  แค่ขับเรือวันนึงยังไปไม่ทั่วเลยหนูเอ้ย !   ไม่แน่มีหลงด้วย 

     

    อือหื้อ! ..ที่เขียนรีวิวมา  มันมีสาระก็ตรงนี้แหละ ! ฮ่าๆ

     

     

    เมื่อก่อนที่นี่เป็นหมู่บ้านนะ  ลุงก็เป็นคนในหมู่บ้านนี้แหละ

    ... เขาจะเอาพื้นที่ไปทำเขื่อน   ชาวบ้านที่เคยอยู่ก็ต้องอพยพย้ายกันไปหาที่อยู่ใหม่ 

     

    บ้านลุงเมื่อก่อนก็อยู่ตรงนี้...  ใต้น้ำนี้เลย (พร้อมเอามือชี้ลงไปด้านล่าง)  

    ด้านล่างน้ำลึกประมาณ  90 เมตรได้...   ที่หนูเห็นอยู่นี่คือยอดเขานะ!   

    แล้วหนูคิดดูว่ามันสูงขนาดไหน .. น่าทึ่งไหมละ  ปล่อยน้ำมาทีเดียว  กลายเป็นแบบนี้เลย

     

    พอย้ายไปอยู่ที่อื่น  ลุงก็ไม่รู้จะทำอาชีพอะไร  เลยกลับมาขับเรือท่องเที่ยว   ได้เงิน  แล้วก็ได้กลับมาบ้านหลังเดิม ... มีความสุขดี  :)   เห้ย..ใจความมันเด็ดตรงนี้ !  

     

    • โพสต์-5
    Suchasinee •  กันยายน 23 , 2558

    นอนแพกลางน้ำ กับแพภูตะวัน

     

    กลับเข้าที่พักของเราในคืนนี้   ที่เลือกบริการของแพภูตะวัน  ราคาอาจแพงหน่อย แต่สะดวกสบายสำหรับพ่อแม่

     

    เวลาเลือกที่พักให้คิดถึงความปลอดภัยให้มาก ... 

    1.  หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ที่ตั้งเขื่อน และ แพอยู่ไกลจากโรงพยาบาล (แพต้องเลือกที่แข็งแรงระดับนึงละ) 

     
    2.  ทั้งบ้านมีแม่และน้องว่ายน้ำเป็น นอกนั้นพนมมือไหว้ได้อย่างเดียว   (อุปกรณ์ชูชีพ และก็ห่วงยางมีให้กับบ้านพักทุกหลัง )

    3.  ฤดูที่เราไปเที่ยวเป็นฤดูฝน  ถ้ามีคลื่นทำไง๊  (ความคิดเริ่มเลอะเทอะ ฮ่าๆ)

     

    แต่ก็เอาหน่า  กันไว้ก่อนอะไรก็เกิดขึ้นได้ !

    และแล้วบ้านแคปซูลที่เพิ่งสร้างเสร็จก็เป็นของเรา

     เปิดประตูเข้าไปคือแบบ... น่ารักมาก น่านอนมาก

     

     

    ที่แพภูตะวัน มีห้องอาหารที่แพส่วนกลาง  อาหารอร่อยและเติมได้ตลอด 

    ส่วนห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วนอยู่บนเนินเขา สะอาด และมีระบบบำบัดของเสียซึ่งดีมากๆ  
     

    ห้องแคปซูลมีพัดลมให้ด้วยค่ะ  กลางวันไม่ร้อนมาก  กลางคืนอากาศกำลังดีเลยค่ะ

    ไฟฟ้าที่นี้เปิดให้ใช้  6 โมงเย็นจนถึง 6 โมงเช้า  คลื่นโทรศัพท์ไม่ค่อยมีสัญญาณ  ซึ่งก็ดีนะคะ  

    มันทำให้เราได้พักผ่อนและคุยกันมากขึ้น   ^_^ 

     

     

    หลังจากทำสงครามแย่งที่นอนกันแล้ว  ก็ออกมาพายเรือเล่น

    ที่แพมีเรือคายัคให้ยืมฟรีค่ะ  แต่ก่อนหยิบไปต้องมัดจำค่าไม้พายก่อน  100 บาท  

    ประสบการณ์ครั้งแรก คือ... พายวนค่ะ !! วนมันอยู่ที่เดิม  พายไม่ไป !!   

    กว่าจะพายเป็น  ก็โดนไม้พายของไอ้มอสฟาดหัวหลายที  - -" 

    เรากับน้องก็แข่งกันพายเรือ  พ่อตั้งรางวัลให้ 1000 บาท สำหรับคนชนะ 

    เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะ... สุดท้ายก็หาร 3  อยู่ดี   ฮ่าๆๆ 

     

    • โพสต์-6
    Suchasinee •  กันยายน 23 , 2558

    แพภูตะวัน แค่นั่งนิ่งๆก็ฟิน

    อย่างที่บอกว่า  เราเหมือนคนตัวเล็กกลางหุบเขา
    ที่นี่... เราถูกตัดออกจากสัญญาณโทรศัพท์  
    ทีวี  งาน  ลูกค้า และเจ้านาย  

    ........

    ความสงบมันถูกเติมเต็มเข้ามาแทน  

    เราปล่อยเวลาไปกับการเล่นน้ำ

    พายเรือคายัค  นั่งดูพระอาทิตย์ตก  

    ถ่ายรูปกับภูเขาและสายหมอก

    .. สโลว์ไลฟ์พักร้อนไม่ผิดคอนเซป..

     

     

    ถ้าคุณกำลังมองหาที่ทำกิจกรรมด้วยกัน  
    พักผ่อนนอนกอดกันทั้งครอบครัว

    ...ที่นี่ไม่ทำให้คุณผิดหวังเลย...

     

     

     

    ใช้เวลาท่องเที่ยวของคุณกับครอบครัวบ้างนะคะ  :) 

     

    เจอกันใหม่ เจอกันอีกค่ะ

    -SUCHA-