ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
River Kwai Jungle Rafts...."สวรรค์" ที่ซ่อนอยู่บนแม่น้ำแควน้อย ริเวอร์แควจังเกิ้ลราฟท์ จ.กาญจนบุรี
    • โพสต์-1
    Maysa •  สิงหาคม 18, 2558
    • จุดเด่น:
    • - วิวทิวทัศน์สวยงามและมีความเป็นธรรมชาติมาก ที่นี่ค่อนข้างสงบเพราะไม่มีรีสอร์ทรอบข้างรีสอร์ทตั้งอยู่ใจกลางของธรรมชาติอย่างแท้จริง
    • จุดด้อย:
    • - ที่นี่เน้นความเป็นธรรมชาติจึงไม่มีไฟฟ้าใช้ดังนั้นสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุอาจไม่เหมาะกับที่นี่ - ทางเดินเชื่อมแพทั้งหมดจะอยู่ด้านหน้าห้องเพราะฉะนั้นเวลาออกมานั่งเล่นอาจมีคนเดินพลุกพล่านโดยเฉพาะแพที่อยู่ใกล้ห้องอาหาร
    • ข้อสรุป:
    • ริเวอร์แควจังเกิ้ลราฟท์เป็นรีสอร์ทที่เน้นความเป็นธรรมชาติดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการมาพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติ ตัดขาดจากโลกโซเชียลต่างๆได้อยู่กับตัวเอง คนรักหรือเพื่อนฝูงและพักผ่อนซึมซับกับธรรมชาติอย่างเต็มที่
    คะแนน
    • โพสต์-2
    Maysa •  สิงหาคม 18, 2558
    • โพสต์-3
    Maysa •  สิงหาคม 18 , 2558

    ถ้าพูดถึงแพเมืองกาญจน์คงมีชื่อล้านแปดแห่งมาให้เลือกสรร

    แต่ว่าแต่ละแพเค้าก็มีจุดขายมีจุดเด่นต่างๆกันไป เช่นเดียวกับรีสอร์ทที่เราจะพาทุกคนไปเที่ยวพร้อมๆกับเรา

    นั่นก็คือ River Kwai Jungle Rafts หนึ่งในรีสอร์ทที่ใฝ่ฝันมานานว่าอยากจะมาสักครั้ง

    และสวรรค์ก็ทรงโปรดมอบโปรโมชั่นเด็ดมาให้เราจึงได้ทีสอยโปรโมชั่นมาเชยชม

    จากนั้นทำำการหาแนวร่วม เอ๊ะหรือว่าไปหลอกเค้ามาก็ไม่รู้เพราะตอนชวนเราก็พราวทูพรีเซ้นท์มากๆ

    ราคาปกติก็หลายบาทแต่เราได้ราคาโปรนี้ถูกมากๆเลยนะ แต่....ไม่ได้บอกเลยว่าที่นี่ไม่มีไฟฟ้า 555

    ค่อยมาเฉลยตอนใกล้วันจะไป แต่ก็เสียใจด้วยถอนตัวกันไม่ทันแล้วจ๊ะ 5555

    แต่ถึงที่นี่ไม่มีไฟฟ้าก็ไม่ต้องกังวลนะคะเพราะมีสิ่งอื่นทดแทน

    ขนาดรีสอร์ทแพงๆบางที่อาจจะหาแบบนี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป....เชื่อเราเถอะนะเพื่อนๆ ^_^

       

     

    River Kwai Jungle Rafts  แพตั้งอยู่บนแม่น้ำแควน้อย ของอำเภอไทรโยค

    ทางเข้ารีสอร์ทจะอยู่เลยน้ำตกไทรโยคน้อยแต่ยังไม่ถึงน้ำตกไทรโยคใหญ่จุดสุงเกตก็คือจะเห็นป้าย

    river kwai vilage สีขาวใหญ่ๆก็เลยตรงนั้นมาประมาณ 200 ค่ะ ก็จะเจอทางเข้าเขียนว่า river kwai resotel

    ส่วนการเดินทางเข้าไปที่รีสอร์ทก็ไม่สามารถขับรถยนต์ไปถึงที่รีสอร์ทได้เลยนะคะ

    เราต้องจอดรถไว้ที่จอดรถของรีสอร์ทค่ะ แล้วก็นั่งเรือต่อไปค่ะ ที่จอดรถก็ดูปลอดภัยดีมีคนคอยเฝ้าอยู่

    และเราก็ต้องลงไปรอขึ้นเรือ เรือจะมีรอบ 14.00 น. 15.00 น. 16.00 น.

    แต่เราพอไปถึงก็ได้ขึ้นเรือเลยนะคะรอบที่เราไปมีแค่กรุ๊ปเรา 4 คน แล้วก็คู่รักชาวต่างชาติอีก 1 คู่

    นั่งเรือประมาณ 15-20 นาที มั้งค่ะ ที่ไม่แน่ใจเพราะลืมเวลาไปเลยเพราะทัศนียภาพสองข้างทำเราเพลิดเพลินมากๆ



     

    วิวสองข้างแม่น้ำสวยดีค่ะ จะเป็นหน้าผาบางที่ก็จะเป็นเหมือนถ้ำ ดูสวยงาม ลึกลับดี

    เป็นทัศนียภาพที่แปลกตาไม่เหมือนที่อื่นถ้าใครไปเที่ยวบ่อยจะเริ่มจดจำลักษณะภูมิประเทศได้

    คนอื่นเค้าจะเป็นเหมือนเราป่าว??




     

    นั่งเรือไม่นานก็ถึงจุดหมายของเรา นาทีแรกที่เห็นตัวรีสอร์ทก็ไม่ได้พิเศษมากแต่ทำเลที่ตั้งนี่ซิเห็นแล้วเลิฟเลย

    ตัวรีสอร์ทเป็นแพเรือนไม้การตกแต่งไม่ได้พิเศษอะไรมาก

    แต่บรรยากาศของป่าไม้ที่โอบล้อมที่นี่ทำให้ดูอลังการงานสร้างมากเลยทีเดียว



     

    ไปถึงก็มีคนช่วยขนกระเป๋าขึ้นจากเรือให้สัก พักก็จะมีคนมาพร้อมกับ welcome drink

    เจ้าหน้าที่พร้อมชี้แจ้งว่าที่นี่ทานอาหารกี่โมง มีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง

    และก็ถามเรื่องเวลากลับแต่เรายังตัดสินใจไม่ได้ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยบอก  



     

    พอเสร็จเรียบร้อยเราก็เข้าห้อง เราได้พักห้อง 19 และ 20 เป็นทางปีกขวาของรีสอร์ท

    หนึ่งแพจะมีทั้งหมด 4 ห้องแพที่เราพักอยู่ถัดจากห้องครัว ห้องรับประทานอาหารและล๊อบบี้เลยค่ะ

    รู้สึกว่าค่อนข้างวุ่นวายถ้าใครไปแล้วขอเจ้าหน้าที่เลือกได้ขอให้หลีกเลี่ยงนะคะ 17,18,19,20

    เพราะมันพลุกพล่านและเรือหางยาวก็ชอบมาจอดที่หน้าห้องด้วยค่ะ - -"

     

     

    มาดูห้องพักกันบ้างดีกว่าในห้องจะมีสองเตียงค่ะ

    เป็นเตียงใหญ่หนึ่งเตียงและเตียงเล็กสำหรับนอนได้คนเดียวอีกหนึ่งเตียง

    จะเป็นแบบนี้ทุกห้องนะคะ ที่นี่มีทั้งหมด 62 ห้องเป็นแบบนี้ทั้งหมดค่ะ ภายในห้องจะมีน้ำดื่ม 2 ขวด และพัด 2 อัน

    ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าแน่นอนค่ะว่าไม่มีเพราะที่นี่ไม่มีไฟฟ้า

    ในห้องน้ำก็จะเป็นฝักบัวส่วนเรื่องน้ำใช้ไม่มีกลิ่นนะคะ สะอาดดี แต่ห้องน้ำจะไม่มีประตูนะคะมีแค่ม่านปิด อิอิ








     

    ด้านหลังของทุกห้องจะมีเปลแบบนี้ ตอนแรกก็สงสัยนะว่าจะมามีทำไมตรงนี้

    แต่เออมันสงบดีนะ สงบกว่าหน้าห้องเยอะเลย

     

     

    ส่วนด้านหน้าห้องจะมีเปลแพละ 2 เปลค่ะเลยต้องรอคิวกันนิดหน่อยและจะมีโต๊ะไว้สำหรับนั่งเล่นกัน อีก 2 ชุด

    และด้านล่างของแพก็จะมีเก้าอี้ไว้นอนเล่นริมน้ำด้วยค่ะ

     

     

    ด้านหน้าห้องจะเป็นทางเดินเชื่อมของแพค่ะเพราะฉะนั้นจะไม่ค่อยเงียบ

    ยิ่งคุณฝรั่งตัวโตเดินดังมากกกกก สะเทือนตกหมอนกันเลยทีเดียว และทางเดินจะเปียกตลอดเวลา

    เพราะแขกที่มาพักจะเดินไปที่ต้นแพแล้วก็กระโดดน้ำลอยไปขึ้นที่สุดแพ

    ดังนั้นทุกคนก็ต้องเดินทางทุกห้องบนแพทางเดินก็เลยแฉะตลอดวัน



     

    หลังจากสำรวจห้องและเก็บสำภาระเสร็จก็จะไปทำบุญที่หมู่บ้านมอญกันค่ะ

    ช่วงที่เราไปเป็นช่วงวันพระก็เลยตั้งใจกับชาวแก๊งค์ว่าจะไปทำบุญถวายสังฆทานกัน เคยเห็นในรีวิวของคนอื่นว่า

    ที่หมู่บ้านมอญมีวัดด้วย ก็เลยคิดว่ามาทำที่นี่ดีกว่า

    เลยโทรถามทางรีสอร์ทว่าที่นี่มีพระจำวัดอยู่ใช่มั้ยอยากมาทำบุญทีนี่

    ทางรีสอร์ทก็บอกว่ามี เราก็เลยไปทำบุญที่วัดมอญกันค่ะ ทางเดินไปเจอช้างออกมาเล่นน้ำด้วย



     

    หมู่บ้านอยู่ใกล้รีสอร์ทมากค่ะแค่ข้ามสะพานไม้ไผ่หลังรีสอร์ทเดินไปประมาณ 5 นาที ก็ถึงแล้วค่ะ



     

    เดินผ่านสนามบอลของหมู่บ้าน ที่นี่มีโรงเรียนด้วยนะคะ ที่นี่เป็นชุมชนชาวมอญที่อพยพมาจากแม่น้ำแควใหญ่

    มีชาวบ้านอยู่ประมาณ 100 คนค่ะ ชาวบ้านส่วนมากก็ทำงานอยู่ที่รีสอร์ทนั่นแหละค่ะ



     

    ถึงแล้วค่ะวัดมอญ ที่นี่มีพระจำวัดอยู่ 4 รูป ที่นี่โบสถ์ กุฏิ และทุกสิ่งอย่างก็มีอยู่หลังเดียวนี่แหละค่ะ

    ที่เห็นมีพัดลม ทีวีก็ใช่ว่าจะได้ใช้นะคะ เพราะที่นี่ปั่นไฟแค่วันละประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ

    กะละมังสีดำที่เห็นในรูปนั่นก็เอาไว้รองน้ำค่ะเวลาฝนตกแรงๆหลวงพี่บอกว่าน้ำมันก็จะรั่วลงมา

    เราถามหลวงพี่ว่าที่นี่มีอะไรที่จำเป็นและต้องการมั้ยมาคราวหน้าจะได้นำมาถวาย

    หลวงพี่ก็บอกว่าที่นี่เป็นวัดป่า ถ้าจะถามว่าขาดอะไรมั้ยมันก็ขาดทุกอย่างนะแหละ อะไรก็ได้ตามศรัทธา

    พวกยานี่น่าจะดี ยาลม ยาดม ยาหม่อง ยาสามัญต่างๆ หรือของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน

    ถ้าใครไปเที่ยวที่นี่อย่าลืมไปทำบุญกันด้วยนะคะ

    หรือนำของหรือขนมไปแจกเด็กๆที่หมู่บ้านด้วยก็น่าจะดี ไปเที่ยวสุขกายแถมสุขใจด้วยนะคะ



     

     

    • โพสต์-4
    Maysa •  สิงหาคม 18 , 2558

    ทำบุญอิ่มใจก็กลับรีสอร์ทเตรียมตัวเล่นน้ำกันค่ะ แอบถ่ายคนอื่นเล่นก่อนตัวเองจะกระโดด

    เราว่ายน้ำไม่แข็งตอนแรกก็กลัวนะคะไม่กล้าโดด แต่พอกระโดดไปติดใจไม่อยากเลิกเลยค่ะ





     

    บางคนก็ว่ายข้ามไปฝั่งตรงข้ามเลยแต่เราไม่กล้าค่ะกลัวจะกลับไม่ได้





    เวลาเล่นน้ำที่นี่ต้องระวังหน่อยนะคะเพราะเรือหางยาววิ่งผ่านค่อนข้างบ่อย

    และน้ำมันก็ค่อนข้างแรงกลัวว่าจะว่ายหนีเรือ กันไม่ทัน

    ถ้าเล่นช่วงเย็นจะไม่ค่อยเยอะแต่ถ้าช่วงเช้านี่เรือดกมากค่ะ ด้วยความปรารถนาดีจากเมษาเอง ^_^

    ...

    เล่นน้ำจนเหนื่อยก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวมาดินเนอร์ค่ะ อาหารเย็นที่นี่รวมกับราคาที่พักแล้ว

    เราจองห้องราคา 2,600 บาทค่ะ รวมอาหารเช้า อาหารเย็น และค่าเรือค่ะ
    ด้วยความที่เราอาบน้ำเร็วดังสายฟ้า อาบเสร็จคนแรกต้องรอเพื่อนๆก่อน

    เลยออกมาเดินเล่นหน้าห้องเปิดประตูมาเจอวิวแบบนี้โอ้โหสวยจัง

    วันทีเราไปใกล้วันพระใหญ่ขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เลยส่องแสงสว่างดวงกลมโตมากๆ สวยมากเลยค่ะ

    แถมยังมีหมอกบางๆปกคลุมยอดเขาด้วย บรรยากาศสุดชิลเลย


     

     



     

    ฟ้ามืดแล้วทางรีสอร์ทเริ่มจุดโคมไฟแล้ว โคมไฟที่ใช้ที่นี่น่าจะมีหลายร้อยดวงเลยค่ะ

    ถึงจะเพียงพอทำให้ที่นี่สว่างได้เพราะตอนกลางคืนที่นี่มันมืดจริงๆ ถ้าไม่มีโคมไฟดวงน้อยๆเหล่านี้

    คงมองอะไรไม่เห็นเลยล่ะคะ




     

    เมื่อถึงเวลา 19.00 พนักงานจะตีระฆังพร้อมตะโกนว่าดินเนอออออออออออออออร์

    อารมณ์เหมือนพระจะฉันยังไงยังงั้นเลยอ่า 5555555555

    หลังจากนั้นทุกคนก็จะมาพร้อมกันที่กุฏิ  เอ้ย! ห้องรับประทานอาหาร




     

    พอมารวมกันเห็นแล้วตกกะใจคนเยอะขน๊าดเต็มทุกที่นั่งเลย

    คงเป็นเพราะวันนี้มีทัวร์ของชาวต่างชาติมาที่นี่ด้วยค่ะ ที่นี่ชาวต่างชาติส่งมากจะเป็นฝรั่งค่ะ

    พวกทัวร์จีนไม่ค่อยมีส่วนคนไทยยิ่งน้อยเลยเหมือนเราเป็นชนกลุ่มน้อยยังไงยังงั้นเลยค่ะ

    รอไม่นานอาหารก็มาแล้วววว เล่นน้ำเสร็จหิวจริงๆเลย อาหารที่นี่มี 5 อย่างค่ะ

    มีแกงฝักใส่กะทิ ผัดบวบ น่องไก่ผัดอะไรสักอย่าง ผัดถั่วฝักยาว ผัดดอกกะหล่ำ

    อาหารที่นี่ไม่งกเนื้อสัตว์เลยนะคะใส่ให้เยอะมาก

    อาหารอาจจะไม่หรูหรานะคะแต่รสชาติดีค่ะ ไม่รู้เพราะหิวรึเปล่า แต่อร่อยจริงๆค่ะถามคนอื่นแล้ว




     

    พอทานอาหารเสร็จก็จะมีพนักงานมาขายตั๋วชมระบำมอญกันค่ะ

    ของเราไม่ได้ไม่ได้ซื้อแบบแพ็คเกจราคานี้เลยไม่รวมค่าตั๋วเลยต้องซื้อแยก 150 บาทค่ะ

    ระบำก็แสดงกันบนแพนั่นแหละค่ะเวทีเดินไปสุดแพนู่นเลย

    พอพวกเราอิ่มเราก็รีบไปเลยค่ะเพราะอยากนั่งหน้าๆ เพราะคนเยอะอยู่เกรงว่าจะมองไม่เห็น

    การแสดงจะเริ่มประมาณ 20.30 ค่ะ การแสดงจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ

    นั่งรอสักพักการแสดงก็เริ่มแล๊วววว





     


    โชว์จบแล้วรู้สึกตื่นตามากมายเพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยพบเคยเห็น

    และระบำมอญก็ต่างจากรำไทยมากค่ะจะเป็นจังหวะที่รวดเร็วการรำแข็งแรง

    โดยเฉพาะช่วงขาเนี่ยต้องแข็งแรงมากๆเลยดูแล้วมันส์ดีค่ะนักแสดงจะทั้งร้องและรำไปด้วยนะคะ

    ฟังไม่รู้เรื่องเลยสักนิด แต่สนุกค่ะ ดูแค่เค้ารำก็พอ

    เคยดูรายการท่องเที่ยวมาพิธีกรบอกว่าระบำมอญเนี่ยประยุกต์มาจากรำไทยนะคะ

    ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่าใครทราบประวัติช่วยเล่าให้ฟังที

    ...

    ดูระบำมอญมอญจบทุกคนก็แยกย้ายเข้าห้องของตัวเอง

    แต่แขกบางคนก็ไปนั่งดริ้งที่บาร์เล็กบนแพ

    ส่วนเรานั่งเม้าท์กันที่หน้าห้องนั่นแหละค่ะสักพักก็เริ่มง่วงก็เลยแยกย้ายกันเข้านอน

    อากาศก็ไม่ร้อนนะคะนอนห่มผ้าทั้งคืนเลย


     

    เราตื่นเช้าตามเคยเพื่อจะออกมาดูมอก ถ้ารอสายคงจะไม่ทันวิวสวยๆ แต่วันนี้หมอกไม่ค่อยเยอะเลย

    เมื่อคืนฝนก็ไม่ตกแต่พอมีหมอกน้อยๆอยู่บ้างตามปกติในยามเช้าของเมืองกาญจน์

    เช้านี้แพยังเงียบอยู่เพราะหลายๆห้องยังไม่ตื่นต่างจากเมื่อวานนี้มาก แต่แบบก็ดีค่ะเงียบดี


     

    หน้าห้องไม่มีหมอกเลยไปนอนเปลเล่นที่หลังห้องกลับเจอหมอกซะงั้น หมอกน้อยๆแค่นี้ก็พอแล้วจ้า








     

    เดินเล่นถ่ายรูปสักพักก็เห็นฝรั่งมุง ก็เลบสงสัยเดินไปดู อ๋อมุงช้างค่ะ

    ช้างเค้าจะมากินเศษผลไม้ที่รีสอร์ทเก็บไว้ให้ มากันสองตัว ชาวต่างชาติดูจะชอบกันมากๆเลย


     

     

    โดยเฉพาะคนน่าจะชอบมากๆนั่งเฝ้าอยู่นานสองนาน พร้อมกับเอามือลูบช้างอย่างทะนุถนอม

    เห็นเค้ารักช้างก็ดีใจค่ะ เราคนไทยต้องช่วยกันอนุรักษ์ช้างนะคะ



     

    เสร็จแล้วก็มาทานอาหารเช้ากันค่ะ ก่อนจะกลับบ้านวันนี้ 11.00 ว้าเร็วจัง




     

    ที่นี่มีบริการนวดด้วยค่ะ เผื่อใครเล่นน้ำจนปวดตัวก็มานวดกันได้ ราคาตามภาพพเลย








     

    หลังทานอาหารเช้าก็กลับไปนั่งเล่นพักผ่อนที่ห้องแปบนึง ชมบรรยากาศในวันสุดท้ายให้เต็มที่

    สำหรับการมาเที่ยวแพ River Kwai Jungle Rafts ครั้งนี้เรารู้สึกประทับใจมากค่ะ

    ถ้ามาพักที่นี่คุณจะได้พักผ่อนกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

    ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ อาจจะไม่สะดวกสบายมากนัก แต่คุณจะได้อยู่กับตัวเองและธรรมชาติ

    กระโดดน้ำเล่นแบบชื่นฉ่ำหัวใจ

    ถ้าให้กลับมาที่นี่ต้องบอกเลยค่ะว่ามาแน่นอน ล้านเปอร์เซ็น

    นี่แหละค่ะสวรรค์ที่ซ่อนอยู่บนแม่น้ำแควน้อย รอคอยให้ทุกคนมาเยือน

    ...

    อยากสอบถามข้อมูลหรือพูดคุยเล่นๆตามประสาคนชอบเที่ยวก็เข้าไปที่เพจของเมษาได้นะคะ

    ตอนนี้คุยอยู่คนเดียวมันเหงาเข้าไปคุยกันได้นะคะ 5555555

    https://www.facebook.com/maysatraveller

    • Maysa  ขอบคุณค่ะ ดีใจที่ชอบนะคะ ^_^ 19 สิงหาคม 2558 14:59:12
    • Ter  สุดยอดครับ รีวิวได้ดีมากๆ เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลย ภาพถ่ายก็สวยเก็บทุกมุมทุกโมเม้น ชอบๆน่าสนใจมากครับที่นี้ 19 สิงหาคม 2558 14:15:43