แอ่วน่านม่วนใจ๋ ใกล้ชิดธรรมชาติ…ที่เชียงกลาง จังหวัดน่าน

 

 

       เชียงกลางน่าอยู่ เคียงคู่วิหารไทลื้อ เลื่องลือบ่อน้ำทิพย์พญาไมย น้ำไหลตาดม่าน ล่องห้วยพ่าน       

แก่งสะม้า ล้ำค่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชวนพิศ เมืองฟ้าใสคนใจงามอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดน่าน  

เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้จักที่นี่ บางคนบอกว่าที่นี่ไม่มีอะไรน่าเที่ยว ปกติมักจะไปเที่ยวปัวกันเสียมากกว่า แต่มาแอ่วน่านรอบนี้โบว์จะพาทุกคนไปม่วนใจ๋ใกล้ชิดธรรมชาติค่ะ

วันหยุดยาวแบบนี้ต้องพาร่างกายออกมาพักผ่อนสักหน่อยแล้วล่ะค่ะ โบว์เลือกมาเชียงกลาง    จังหวัดน่าน ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงจังหวัดที่ขับรถผ่านไปผ่านมาเท่านั้น แต่ยังมีธรรมชาติ วัฒนธรรม และผู้คนที่ใช้ชีวิตกันแบบง่ายๆ จนกลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่น้อยคนจะรู้จัก

 

เช้านี้โบว์ขอเริ่มต้นที่ “แสงทอง รีสอร์ท” ที่นี่มีฟาร์มผักออแกนิคให้เราไปเก็บผักปลอดสาร  แล้วนำไปทำอาหารได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปถ่ายรูปสวยๆ กันได้ 

เอาล่ะค่ะ! โบว์ได้ผักมาเต็มตระกร้าเลย เดี๋ยวเราเอาไปให้พ่อครัวปรุงอาหารมื้ออร่อยกัน ของแถมสุดพิเศษของที่แสงทอง รีสอร์ท คงจะหนีไม่พ้นบรรยากาศที่เงียบสงบ กับวิวทุ่งนาสวยๆ อิ่มอกอิ่มใจมากค่ะ

 

ถ้าอยากสัมผัสกับความเงียบสงบของเชียงกลาง คงพลาดไม่ได้กับกิจกรรมปั่นจักรยาน ที่นี่มีเส้นทางเตรียมไว้ให้สำหรับทุกคนที่ชื่นชอบกิจกรรมปั่นจักรยานค่ะ ปั่นไปเรื่อยๆ ไม่ใกล้ ไม่ไกลกันนี้ จะพบกับโรงบ่มยาสูบเก่าที่เลิกใช้งานแล้ว เป็นบรรยากาศที่พาเราย้อนกลับไปในอดีต 

โบว์ค่อยๆ ปั่นจักรยานมาหยุดที่ “วัดหนองแดง” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของคนเชียงกลาง อายุนานนับ 700 ปี เป็นวัดเก่าแก่แบบไทลื้อ ที่มีสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่หาดูได้ยากแล้ว และที่นี่ยังคงเป็นวิหารไม้สุดท้ายที่ยังคงเหลืออยู่ ถัดมาอีกหน่อยจะพบกับพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ภายในวัด ที่รวบรวมพระพุทธรูปไทยลื้อโบราณอีกด้วยค่ะ

จากตัว อ.เชียงกลาง เราไปกันต่อที่ “หมู่บ้านห้วยพ่าน” ค่ะ ซึ่งการเดินทางเข้าหมู่บ้านจะต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถเดินทางในพื้นที่ลูกรังได้ แต่ถ้าไม่สะดวกขับรถมาเอง สามารถติดต่อกับชาวบ้านได้ค่ะ

 

เอาหล่ะ!! วันนี้จะพามารู้จักกับชุมชนและชาวบ้านห้วยพ่านให้มากขึ้น

ชาวบ้านห้วยพ่านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนาขั้นบันได ปลูกข้าวโพด เลี้ยงสัตว์        จากเดิม ที่เคยประสบปัญหาเรื่องของการใช้สารเคมี ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการบุกรุกแผ้วทางผืนป่า  แต่วันนี้ชุมชนเกิดแนวคิดที่จะแก้ปัญหาด้วยการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพราะเห็นว่ามีของดี มีศักยภาพโดยเฉพาะวิถีชีวิตชาวไทยเผ่าลัวะ และธรรมชาติที่ยังคงความงดงาม

หนึ่งกิจกรรมที่เมื่อมาบ้านห้วยพ่านแล้วพลาดกับไฮไลท์ของที่นี่ไม่ได้เลย นั่นคือ กิจกรรมเล่นน้ำ และล่องแพที่แม่น้ำน่าน ที่นี่ยังมีพันธุ์ปลาที่ได้รับการอนุรักษ์อยู่มากมาย นอกจากล่องแพ และเล่นน้ำแล้ว นักท่องเที่ยวคนไหน อยากจะพายเรือที่นี่ก็มีเรือคายัคไว้คอยบริการอีกด้วยค่ะ

เห็นแม่ๆ แต่งชุดพื้นถิ่นเดินกันสวยงาม อดไม่ได้ที่จะต้องแต่งกายให้กลมกลืนไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นค่ะ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิต เราได้มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ๆ ได้อยู่แบบเขา กินแบบเขา และปฏิบัติตัวให้เหมือนกับว่า เราคือผู้คนในถิ่นนั้นจริงๆ

มันเป็นความสุขที่บรรยายออกมาเท่าไหร่ก็คงพูดได้ไม่หมด โบว์อยากให้ทุกคนลองออกมาทำสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง รอยยิ้มเล็กๆ รอยยิ้มที่จริงใจของชาวบ้าน ที่ไม่สามารถเสิร์ชหาได้จากอินเทอร์เน็ต แต่กลับพบได้ง่ายๆ ที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ “บ้านห้วยพ่าน”

แล้วก็มาถึงเวลาพักกลางวันพอดี สิ่งที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม นั่นคือเรื่องอาหาร มาถึงนี่ทั้งที เขาก็มีอาหารพื้นถิ่นที่ปรุงกันสดๆ ในกระบอกไม้ไผ่มาให้เราได้ลิ้มลองค่ะ เมนูสุดเด็ดในวันนี้คือ เมนูหลามปลา ยำเพ่นพ่าน 

มาลองชิมกันดีกว่าค่ะ โอ้โห! คำแรกที่โบว์ได้ชิมต้องบอกก่อนเลยว่าอร่อยมาก เป็นรสชาติที่ไม่สามารถหาชิมได้ทั่วไป ถ้าใครอยากมาลองกินอะไรใหม่ๆ แบบนี้ โบว์แนะนำให้มาใช้ชีวิตที่ห้วยพ่าน กินอาหารอร่อยๆ ของชาวลัวะ และปล่อยหัวใจไปกับความสวยงามของธรรมชาติ ให้กาย ให้หัวใจได้พักผ่อนในแบบที่ควรจะเป็น

ท้ายนี้มักจะมีคนบอกกับโบว์เสมอว่า ที่นี่ไม่เห็นมีอะไรเลย...แต่พอโบว์ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองแล้ว ทำให้โบว์รู้สึกได้เลยว่ากำลังตกหลุมรักอำเภอเล็กๆ แห่งนี้เข้าเต็มๆ โบว์คิดว่าความเงียบสงบและไม่มีอะไรนี่แหละค่ะ ที่มีเสน่ห์และน่าหลงรัก จนทำให้ใครหลายๆ คนอยากกลับมาที่นี่อีกครั้ง

 

ชมรายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค ตอน แอ่วน่านม่วนใจ๋ ใกล้ชิดธรรมชาติ…ที่เชียงกลาง จังหวัดน่าน

ได้ที่นี่ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=skOYhSWHzqs

ติดตามชมรายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค

ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 15.30 – 16.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส