ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย มหัศจรรย์ปลาตัวน้อยหัวใจนักสู้ พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย (Siamese Fighting Fish Gallery) จ.สมุทรปราการ
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 19 , 2556

    พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย มหัศจรรย์ปลาตัวน้อยหัวใจนักสู้

    ถ้าถามว่าตอนเด็กๆ ใครเคยเลี้ยงปลากันบ้าง ไม่ว่าจะเลี้ยงเล่นๆ เป็นงานอดิเรก หรือจะเลี้ยงจริงจังจนเพาะขยายพันธุ์ได้ก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเลี้ยงปลาในระดับไหนก็แล้วแต่ เราเชื่อว่าแทบจะทุกคนคงเคยผ่านประสบการณ์ต่างๆ ในการเลี้ยงปลามาแล้วทั้งสิ้น และเราก็ยังเชื่ออีกว่า หนึ่งในปลาตัวน้อยๆ ที่หลายๆ คนเคยลงมือเลี้ยงกันนั้น จะต้องมี “ปลากัด” รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน เพราะด้วยรูปร่าง สีสันอันสวยงามของมัน ประกอบกับการที่ปลาชนิดนี้เลี้ยงดูง่าย ปลากัดจึงมักจะเป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรกๆ ของใครหลายๆ คน แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่าเจ้าปลากัดในขวดโหลที่กำลังเลี้ยงอยู่นั้น มีญาติอีกกี่สายพันธุ์ และมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง เริ่มนึกสงสัยอยากรู้ขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ สุดสัปดาห์นี้ตามเรามาได้เลย เพราะเราจะพาทุกคนไปเที่ยวกันที่“พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย” ที่ที่เราจะได้ทำความรู้จักกับเจ้าปลากัดตัวน้อยๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม

    จุดหมายปลายทางของเราในคราวนี้ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่เรียกกันว่า “เกาะกระเพาะหมู” ของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในตำบลบางกะเจ้า ซึ่งถูกอนุรักษ์ให้เป็นพื้นที่สีเขียวอันเป็นปอดของกรุงเทพ จนได้รับการยกย่องจากนิตยสารชื่อดังระดับนานาชาติอย่าง“Time Magazine” ว่าเป็น สุดยอด Urban Oasis of Asia 2006 อีกด้วย แค่ทำเลที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย”ก็น่าสนใจไม่น้อยแล้ว เพราะเราจะได้เดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ไปพร้อมๆ กับสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด ภายในพิพิธภัณฑ์ได้แบ่งส่วนจัดแสดงออกเป็นส่วนๆ เราเริ่มต้นกันที่ “บ้านรักรู้” ซึ่งจะฉายวิดิทัศน์ให้เราได้ทำความรู้จักกับปลากัดไทยในขั้นพื้นฐานเสียก่อน โดยที่เนื้อหาโดยรวมนั้นจะเล่าถึงความเป็นมา ลักษณะของปลากัดสายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงความผูกพันที่สังคมไทยมีต่อปลากัด เช่น การที่ชาวบ้านเลี้ยงปลากัดเป็นงานอดิเรกหลังจากว่างเว้นจากการเพาะปลูก และการละเล่น “กัดปลา” ที่ได้รับความนิยมอดีต

    • โพสต์-2
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 19, 2556
    • โพสต์-3
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 19 , 2556


    ถัดออกมาอีกอาคารในบริเวณใกล้ๆ กันนั้นคือ “หอโลกหอธรรม”อาคารทรงไทยสองหลังที่ด้านบนประดิษฐานพระพุทธรูปปางลีลาไว้ตรงกลาง ส่วนที่บริเวณด้านขวาและด้านซ้ายของอาคาร มีรูปปั้นขององค์สมเด็จพระเนรศวรมหาราช และพระเจ้าตากสินมหาราช ประดิษฐานไว้ให้ทุกคนได้สักการะบูชา ส่วนที่ใต้ถุนของอาคารทั้งสองมีตู้แสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดซึ่งเป็นปลาที่หาได้จากพื้นที่แม่น้ำในเขตตำบลบางกะเจ้า เช่น ปลาแรด ปลากราย ปลาตะเพียน ปลากระทิงเป็นต้น หมดจากอาคารจัดแสดงทั้ง 2 ส่วนแล้ว ยังมีเส้นทางเดินใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่บริเวณด้านข้างสวนให้เราได้เดินเล่นไปพร้อมๆ กับการชมนิทรรศการเกี่ยวกับวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเป็นมาของกรุงเทพฯ และพื้นที่ในบริเวณเกาะกระเพาะหมูด้วย ซึ่งตลอดเส้นทางจะมีภาพพร้อมคำบรรยายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษชัดเจน ระหว่างเดินชมถ้าหากเหนื่อยก็มีจุดให้แวะนั่งพักอยู่เป็นระยะ

    เมื่อเดินชมจนทั่วบริเวณแล้ว ก่อนกลับเราก็ไม่ลืมที่จะแวะไปเยี่ยมชมร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ซึ่งตั้งระหว่างบ้านรักรู้ และอาคารหอโลกหอธรรมนั่นเอง สินค้าภายในร้านนั้นก็เป็นผลิตภัณฑ์จากฝีมือชาวบ้านในพื้นที่นำมาฝากขาย ส่วนใครที่อยากได้ปลากัดตัวน้อยกลับไปเลี้ยงที่บ้าน ก็สามารถเลือกซื้อหากันได้ที่ร้านนี้ด้วย ถ้าโชคดีจังหวะเหมาะๆ ก็อาจจะมีลูกปลากัดให้เลือกเป็นจำนวนมาก แต่บางช่วงอาจจะไม่มีลูกปลาเลยเพราะขึ้นอยู่กับจำนวนปลาที่เพาะได้ในแต่ละช่วงนั่นเอง นอกจากการเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกแล้ว เรายังสามารถนั่งเล่นจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ใต้ร่มไม้บริเวณหน้าร้านได้อีกเช่นกัน

    • โพสต์-4
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 19, 2556
    • โพสต์-5
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 19 , 2556

    สุดสัปดาห์นี้ ใครที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวใกล้ๆ กรุง หรือกำลังหากิจกรรมดีๆ เสริมสร้างความรู้สำหรับเจ้าตัวน้อยอยู่ล่ะก็ แนะนำให้แวะมาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยกันดู แล้วพิพิธภัณฑ์มีชีวิตแห่งนี้จะทำให้คุณและคนในครอบครัวได้เพลิดเพลินไปกับสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ ที่มีสีสันสวยงามไปพร้อมๆ กับได้ความรู้เพิ่มเติมด้วย

    • โพสต์-6
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 19 , 2556

    Note

    ข้อควรรู้ในการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย
    - งดส่งเสียงดัง
    - งดการเคาะขวดโหล หรือตู้ปลา
    - งดสูบบุหรี่
    - งดนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาในพิพิธภัณฑ์
    - งดการเด็ดดอกไม้ ใบไม้ภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์

    การเข้าชมเป็นหมู่คณะ หรือต้องการพานักเรียนมาทัศนศึกษา สามารถติดต่อสอบถามล่วงหน้าได้ที่ โทร. 0 2815 0149, 0 2461 3710, 08 1613 6238

    • โพสต์-7
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 19, 2556

    Editor's Comment

    • จุดเด่น:
    • พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย จัดเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมและสนุกสนานไปกับการชมปลากัดสายพันธุ์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีความร่มรื่นและกว้างขวางมากพอสำหรับครอบครัวที่จะมาทำกิจกรรม หรือพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์
    • จุดด้อย:
    • การเดินทางจากเส้นทางถนนสุขสวัสดิ์ อาจจะหารถสาธารณะเข้าไปยังที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ยากอยู่สักหน่อย เว้นแต่จะใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง นอกจากนี้ถนนบางช่วงค่อนข้างแคบและมีรถบรรทุกมาก เพื่อความสะดวกอาจเลือกใช้บริการเรือข้ามฟากจากฝั่งคลองเตยจะสะดวกกว่า
    • ข้อสรุป:
    • สำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยแห่งนี้อาจเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงอีกแห่งหนึ่งที่นอกจากจะได้รับความสนุกสนาน และความรู้แล้ว เรายังได้สัมผัสกับธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ ที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสารชื่อดังระดับนานาชาติอย่าง Time Magazine ว่าเป็นสุดยอด Urban Oasis of Asia อีกด้วย
    คะแนน
    • โพสต์-8
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 19 , 2556

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : 18/1 หมู่3 ซอยวัดราษฎร์รังสรรค์ ตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 10130

    GPS : 13.69977, 100.56237

    เบอร์ติดต่อ : 0 2815 0149, 0 2461 3710, 08 1613 6238 แฟกซ์ : 0 2815 1484

    Website : www.fightingfishgallery.com

    Facebook : พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย

    เวลาทำการ : วันเสาร์ - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00-17.00 น.

    ค่าธรรมเนียม : ไม่มีค่าธรรมเนียม

    ช่วงเวลาแนะนำ : ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์

    ไฮไลท์ : ปลากัดไทยสายพันธุ์ต่างๆ และปลากัดในช่วงอายุที่ต่างๆ กัน ซึ่งจะทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของปลากัด

    กิจกรรม : เรียนรู้ความเป็นมาและศึกษาการเพาะเลี้ยงปลากัดสายพันธุ์ต่างๆ / เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจในสวน พร้อมทำความรู้จักกับวิถีชีวิตของชาวบางกะเจ้าผ่านบอร์ดจัดแสดงบริเวณทางเดินด้านข้างของพิพิธภัณฑ์

    • โพสต์-9
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 19 , 2556

    วิธีการเดินทาง

    การเดินทางโดยรถยนต์

    จากถนนสุขสวัสดิ์ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวงแหวนอุตสาหกรรมโดยไม่ต้องขึ้นสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ให้ตรงไปจนสุดถนนซึ่งจะตัดกับถนนพระราชวิริยาภรณ์ ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 200 เมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนทรงธรรม จากนั้นไปตามเส้นทางถนนทรงธรรมจนผ่านหน้าวัดทรงธรรมวรวิหาร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเพชรหึงษ์ ไปตามเส้นทางถนนเพชรหึงษ์เป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จะเห็นป้ายบอกทางไปพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเพชรหึงษ์ 33 หรือซอยวัดราษฎร์รังสรรค์ไปอีก 1.7 กิโลเมตร จะพบพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย

    การเดินทางโดยเรือ

    ให้ลงเรือข้ามฟากที่ท่าเรือวัดคลองเตยนอก ซึ่งค่าโดยสารเรือข้ามฟากจากฝั่งคลองเตย เรือใหญ่ราคา 5 บาท เรือเล็ก 10 บาท และค่าโดยสารขากลับ เรือใหญ่ราคา 5 บาท เรือเล็กราคา 7 บาท หรือถ้านำรถยนต์ส่วนตัวมาก็สามารถจอดรถไว้ที่จอดรถของกรมศุลกากรได้ เมื่อข้ามฟากมาแล้วให้เดินจากท่าเรือไปอีกประมาณ 400 เมตร และเลี้ยวซ้ายไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงพิิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย หรือจะเช่าจักรยานจากที่บริเวณท่าเรือก็ได้ ในราคาชั่วโมงละ 50 บาท หรือวันละ 100 บาท


    • โพสต์-10
    theTripPacker •  พฤศจิกายน 19, 2556
  1. โหลดเพิ่ม