เริ่มออกเดินทางทริปนี้สมาชิกมีแค่ 3 คนครับ เพื่อนๆติดภารกิจกระทันหันกัน ทริปนี้เลยจะหนักค่าน้ำมันหน่อยเพราะหารแค่ 3 ออกจาก กทม.ประมาณ 5 ทุ่มครับ ไม่รีบร้อนไปเรื่อยๆ ทริปนี้ดูวันเวลาหมายหมั่นจะไปเก็บช้างเชือกแรกของปี 2561 ให้ได้
และแล้วสิ่งที่หวังก็เป็นจริงเวลาตี 2 กว่าๆถึงแถวสามร้อยยอดพอดี กะเวลาไปแล้วว่าจะเข้าไปถ่ายในบึงบัว แต่ไม่เคยไปตอนกลางคืนหรอกขับเข้ามาจนถึงเข้ามีเหล็กกั้นนี่หนา เราก็ไม่กล้าเข้ามันดึกแล้ว เลยขับย้อนออกมา ได้มุมตรงสะพานสีรุ้งพอดีใครเคยมาจะเห็นสะพานสีรุ้งนะครับ จัดแจงตั้งกล้อง แชะไปเรียบร้อยได้ใช้งานเจ้าเลนส์ไวด์ tokina 11-20 f2.8 อย่างที่หวังไว้ซะทีตั้งใจเอามาถ่ายดาวโดยเฉพาะ ความกว้างสะใจ f2.8 นี้ดีจริงๆไม่ต้องดัน iso ช่วยเยอะครับ
แต่ก็ถ่ายได้แค่ไม่กี่ใบครับ น่ากลัวครับมืดไปหมดมีแต่ป่า แต่พอมีบ้านคนบ้างระห่างทางเข้าเรื่อยๆ แต่มา3คน สาวๆซะสองคนละหลับคารถ เลยรีบๆกดมา ได้สองใบนี้ก็แจ่มแล้วครับ
ได้ช้างสมใจครับทริปนี้ ไปต่อเป้าหมายต่อไป ตามปกติต้องหายอกเขาสักลูกเขามัททรี ก็ไปมาสองรอบแล้ว บังเอิญไปเจอเพื่อนในเหสคนนึงเขาแชร์ที่นึงว่าผาเปิดใจชุมพรก่อนวันจะไป3 วัน ไม่รีรอหาข้อมูล ก็ยังไม่ค่อยมี รู้แต่ว่าเปิดใหม่ได้ไม่นานเท่าไหร่ แบบนี้ต้องไปสำรวจ
ผาเปิดใจช่องหินหมู อยู่ในอ.ท่าแซะ ตำบล รับร่อ บ้านพันวาล ชายแดนไทย-เมียนมา
การเดินทางก็ไม่ยากแต่ลึกพอควรทางเข้าหลายทางเอาง่ายๆก็ พอถึงคุณสาหร่าย ซอยตรงข้ามคุณสาหร่ายเลย เข้าไปเลยครับ กดแมบว่าผาเปิดใจ หรือตำบลรับร่อก็ได้ พอใกล้ๆ ก็มีป้ายอยู่หลายอันครับ เลือกทางดีๆมีทั้งทางราดยางและทางดิน
แต่ถ้าเข้าจากตรงที่ผมว่านี้แหละทางราดยาง มีหลุมบ่อเฉยๆไม่เละครับ รถเก๋งมาได้แต่ถ้าโหลดมากไม่ค่อยแนะนำ เพราะ 8 โลสุดท้ายจะเป็นทางบนเขาสูงชันมีเนินสูงๆหลายอันถ้ารถโหลดอาจจะไม่รอดครับ
ส่วนมอเตอร์ไซด์สบายๆเลย และจากทางเข้าคุณสาหร่ายเข้ามาอีกประมาณ เกือบ 50 โลครับ ลึกพอควร ชั่วโมงกว่าๆเราก็มาถึง
ตลอดเส้นทางเช้านี้มีหมอกปกคลุมไปทั่วแล้วพอถึงยอดผาเปิดใจก้มีทะเลหมอกให้เราชมคสาดว่าจะเป็นทะเลหมอกของฝั่งพม่า
วิวรอบทิศทาง 360 องศา
เช้านนี้ไม่มีใครเลยมีแค่เราคันเดียว
ทริปนี้สบายหายห่วงมากับพี่บิ็กวีโก้ 4*4 อีกแล้ว จะห่วงอย่างเดียวก็ค่าน้ำมัน เดี่ยวจะสรุปตอนท้ายให้ฟังอีกที
อีกฝั่งนั้นก็หมอกนะครับแต่แดดเริ่มสองถ่ายมาจะไม่ชัด
แอคหน่อยทริปนี้ง่วงมากเมื่อวานไม่ได้นอนเลย หน้าจะมึนๆแสบตาหน่อย
ทะเลหมอกขาวนุ่มฟู
ก่อนทางขึ้นยอกนนี้จะมีจุดพักเจ้าหน้าที่ ตชดอยู่ครับ สบายใจได้ที่นี้ถ้าจะมากางเต็นท์แต่ไม่ในใจว่าถ้ายอกด้านบนจะกางได้ตลอดหรือไม่ต้องเช็คอีกทีนะครับ แต่ถ้าตรงจุดที่เจ้าหน้าที่อยู่บางได้ครับปลอดภัยด้วย
รับอากาศสดชื่นแล้วก็ลุยต่อ
ให้เจ้าของรถเขาขับบ้าง รู้สึกเหมือนตาเราจะปิด55
วิวดีมากจริงๆครับ
มุมนี้เห็นแล้วรีบบอกให้จอดทันที มันตัดกันแบบสวยงามชอบมาก
เปลี่ยนจากวิวเสาร์ไฟข้างทางเป็นต้นตาลบ้าง ตาลหรือมะพร้าวนะ
ลงกลับออกมาได้งีบสักหน่อยค่อยยังชั่วมาถึงคุณสาหร่ายที่เดิม 9โมงกว่า ล้างหน้าแปรงฟันกินข้าวเช้ากันก่อน
จากนั้นไปต่อหาน้ำเย็นๆชื่อใจให้ตื่นหน่อย ลองหาร้านกาแฟแต่ไม่ด้มากินกาแฟ เลยได้ร้าน good morning ชุมพรเข้าจากถนนหลักมาไกล 3 โลได้ทางเข้าตัวเมือง ลองสักหน่อย
ร้านสวยงามีมุมให้ถ่ายรูปพอสมควร
สั่งน้ำขนมหวานมากินอร่อยดีครับ เย็นสดชื่อราคาทั่วไปกลางๆ
ไปต่อครับ ก่อนเข้าที่พัก เราไปตามหาเขาทะลุกันก่อน
เขาทะลุนี้อยู่ในสวี แต่คนละฝั่งกะทะเล
ระหว่างทางเข้าเหมือนจะไม่ใช่ทางหลัง gps พาเลี้ยวขวาแต่เนิ่นลัดเลาะมาเรื่อยแต่สองข้างทางสวยมาก แปลกใจ ที่หน้าร้อนของชุมพรแต่สองข้างทางเขียวขจีสดชื่นมากๆ
ต่างจากภาคเหนือแค่มกรา ก็เหลืองดูแห้งๆแล้วครับ แต่ชุมพรนี้เขียวสดตลอดทาง
ส่วนเขาทะลุเนี้ยเขามีมุมมองหลายทางครับ ไม่รู้ว่าที่เขาถ่ายกันนี้ตรงไหนแน่ผมก็จอดซื้อของ 7-11 ที่สามแยกถามเขาก็ว่าจากสามแยกนี้จะตรงกับเพชรเกษมหรือไปทางขวามันก็จะเห็นเขาทะลุเหมือนกันแต่คนละมุม
เลยเลือกทางที่กลับเพชรเกษมจะได้ไปทางที่พักเราด้วย
ขับไปมาเจอเป็นทางเข้าร้านอาหารน่าจะมุมนี้แหละนะชัดสุด ใครมาก็ลองหามุมกันเอาเองนะครับว่าชอบมุมไหน
เขาทะลุจริงๆ
แต่หลังจากกลับมาพึ่งได้ข้อมุลว่ามีดอยตาปังด้วยแถวๆเขาทะลุนี้แหละตอนเช้าขึ้นมาดูทะเลหมอกได้ เอาแล้วต้องกลับมาเยือนอีกแน่ๆรอบหน้า
สวยงาม
หลังจากนั้นก็ไปต่อกันที่อ่าวครามโฮมสเตย์ที่นอนเราคืนนี้ รอบนนี้ทางเขาเขาว่าเล็กแคบพอสมควรแต่มีชันตรงใกล้ๆจะถึงรถเก๋งมาได้ครับ แต่ผมหลับเลยไม่ได้ถ่ายระหว่างทาง
มาถึงประมาณบ่ายโมงกว่าๆ
แดดกำลังแรงแต่ลมเย็นๆพัดมาวูบๆไม่ร้อนเท่าไหร่ครับ
ที่เห็นๆนี้ก็ไม่รู้หรอกคืออะไรแต่มันคือที่บามหมึกกลางทะเลที่เดี่ยวเราจะไปคืนนี้ครับ อยู่ไม่ไกลจากที่พักหรอกมองเห็น
อันนี้คือห้องพักเรา ค่าเสียหายที่อ่าวคราวโฮมสเตย์นั้นราคาคนละ 1000 บาท พร้อมอาหาร 3 มื้อ เรามาสามคนก็นอนด้วยกันห้องเดียว แต่ถ้ามาเกิน 5 คนจะเหลือคนละ 800 ครับ
อาหาร 3 มื้อเลือกได้ จะเป็นกลางวัน มื้อวันเข้าหรือมื้อกลางวันที่ออก ผมเลือกเป็นสามมื้อ เย็น เช้า เที่ยงวันกลับ เพราะจะไปเที่ยวเกาะกุลาตอนเช้า
หลังจากถึงนั้งเล่นสักพัก
ที่พักเงียบสงบชิลมากๆ
ทำให้ความง่วงครอบงำ เราทุกคนเลยตัดสินใจนอน นอนมันข้างนอกนี้เลยลมเย็นๆ มีคนมาพักอีก 2คน ห้องหน้า วันนี้ มีแค่เราสองกลุ่มที่นอน หลังใหญ่นี้ครับ โดยจะซอยเป็นห้องๆมีห้องน้ำรวมแต่สอาดสอ็าดครับ
หลังจากชาร์ทแบตนอนจนหายง่วง สี่โมงกว่าก็ออกไปสำรวจรอบๆหน่อยเราจะเดินไปทางขวา
เย็นๆน้ำลงสามารถเดินเล่นได้ไกลเลยเชียวละ
หามุมกันเอาตามสดวก
กลับมาที่โฮมสเตย์ เตรียมกินมื้อเย็น
มื้อเย็นซีฟู้ดวันนี้แต่น่าเสียดายปูหายากช่วงนนี้ได้มาไม่เยอะ เลยตัวเล็กหน่อย แต่หลังอื่นมากันเยอะไมไ่ด้กินปูเลย แหะๆ อาหารอร่อยครับ กินกันอิ่มแน่นเหลือเป็นกับกินเล่นได้ยันมืดดึก
แสงเย็นมาแล้วสวยงามมากไปดูกัน
พระอาทิตย์ตกมุมนี้มันฟินสุดๆ
ที่เห็นแก้สปิคนิคนี้ลุงกำลังจะเอาไปแขวนล่อหมึกกลางทะเลครับ
เปิดไฟอ่อนๆล่อให้หมึกมาเล่นไฟแล้วเดี่ยว3ทุ่มออกไปดูกัน
แสบสันมากท้องฟ้า นั้งดื่มด่ำบรรยากาศลมเย็นๆ จนถึง 3 ทุ่มได้เวลาออกไปบามหมึก
วิธีการบามหมึกนั้นก็คือเอาแก้สเปิดไฟไปแขวนล่อไว้ที่บามหมึกกลางทะเล พอ 3 ทุ่มนี้ก็ออกเรือไปแล้วตักอวนขึ้นมาจะเห็นจากรูปเมื่อตอนมาถึงอวนที่ยกขึ้นตอนเย็นนี้เอาลงไว้ใต้น้ำ แล้วค่อยมายกขึ้นตอนที่เราออกไป แล้วมาลุ้นกันว่าจะได้เยอะหรือไม่แต่แล้วแต่สภาพอากาศบางวันไม่ได้เลยก็มี เมื่อวานได้แค่2-3ตัว สำหรับวันนี้ถือว่าได้เยอะครับ ดูคลิปได้บนสุดช่วงนาทีที่ 2 ครับ
ระหว่างทางที่แล่นเรือไปมีแพลงตอนเรืองแสงสีฟ้าระยิบระยับเลยตอนที่เรือกระทบน้ำ แต่กล้องมันไม่สามารถถ่ายให้เห็นได้
หลังจากเอาขึ้นมาป้าก็จัดแจงหั่นให้เรากินกันแบบสดๆ สดแบบว่าหนังปลาหมึกยังเปลี่ยนสีพระพริบไปมาดูใกล้ๆก็แอบสยองนิดๆ แต่ลองแล้วสดอร่อยหยึบๆในปากรสชาติดีมากครับ อิอิ เป็นกิจกรรมที่ตื่นเต้นเปิดประสบการณ์ใหม่ๆได้ดีเลย บามหมึกนี้อยู่ในราคาค่าหัวอยู่แล้วนะครับไม่ได้เก็บเพิ่ม
จากนั้นก็เข้านอน เตรียมลุ้นช้างคืนที่สอง รอบนี้ตื่นมาตี 3 กว่าๆ โอโหเมฆเยอะมาก เห็นช้างละ ขยับมุมหน่อย
ขยับไปหน้าชานโฮมสเตย์ กดอยู่นานเมฆเยอะสุดๆในที่สุดก็ได้ตอนเมฆแหวกทางให้ช้างออกมาเฉิดฉายได้ 3-4รูป
อีกสักใบสวยชัดแจ่วงามมาก
นี้อีกด้านนึง สีฟ้าๆในน้ำนั้นไงแพลงตอนน่าจะเป็นเชือกผูกเรือ เวลากระทบน้ำมันเลยเรืองแสงครับ ตอนที่ยืนดูแสงสีฟามันจะระยิบระยับเหมือนเวลามองเพชรอ่ะ อธิบายยากต้องเห็นด้วยตาตัวเอง