เกาะแสมสาร สัตหีบ
เกาะแสมสาร นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะจากรีวิวต่างๆมากมายในช่วง 2-3 ปีหลัง ทำให้ไม่ยากในการที่จะหาข้อมูลเพื่อเดินทางไป เพียงแค่ search หาในอากู๋ไม่ถึง 1 นาทีก็จะเจอทั้งที่ตั้ง วิธีการเดินทาง และข้อมูลเกี่ยวกับเกาะนี้มากมาย ผมคงไม่ขอกล่าวถึง ทริปนี้ตั้งใจจะไปนอนพักผ่อน และรีวิวที่พักแห่งหนึ่งแถวพัทยา-นาเกลือสักหน่อย แต่ไอ้ครั้นจะไปรีวิวแค่ที่พักก็กระไรอยู่ เลยหาที่เที่ยวช่วงเช้ารอเวลาเช็คอินเข้าที่พักตอนบ่ายสอง วางแผนหยุดไว้ 2 วัน 1 คืนในวันธรรมดา เพื่อหลีกหนีกรุ๊ปจีน ไม่พูดพร่ำทำเพลง เลิกงานเช้าบึ่งรถไปสัตหีบจอดรถซื้อบัตรข้ามไปเกาะที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยในราคา 300 บาทขับรถไปจอดตรงท่าเทียบเรือเขาหมาจอไม่ไกลจากจุดที่ซื้อบัตรมากนัก
เกาะแสมสารในวันนี้ก็ยังงดงามในยามที่ท้องฟ้าแจ่มใสอยู่เสมอ ตามมาชมเกาะในมุมมองของผมกันเลยครับ
วันนี้นักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อยเพราะเป็นวันธรรมดา เรือจอดเทียบท่าใช้เวลาไม่นานก็ขนคนประมาณสัก 20 กว่าคนข้ามไปยังเกาะใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 10-15 นาทีก็ถึง
ถึงตัวเกาะเข้าฟังการบรรยายจากเจ้าหน้าที่ จุดเล่นน้ำและดำน้ำมีด้วยกัน 2 หาดคือ หาดเทียน อยู่ตรงท่าเทียบเรือของเกาะเลย และหาดลูกลมอยู่ทางทิศเหนือ ตอนนี้เหลือจุดดำน้ำจุดเดียวคือหาดลูกลม เพราะหาดเทียนเป็นปะการังฟอกขาวหมดแล้ว
หาดเทียนจะมีคลื่นลมที่สงบกว่าทางฝั่งหาดลูกลม และมีมุมสงบๆไว้สำหรับพักผ่อนเพราะหาดนี้คนค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่ไปหาดลูกลมกันก่อน จุดเด่นของหาดนี้คือมีชิงช้าไว้สำหรับถ่ายรูป และต้นมะขามเทศที่ปกคลุมดูร่มรื่น
ถ่ายภาพหาดเทียนเสร็จก็ไปยังหาดลูกลมกันต่อหาดนี้จุดเด่นอยู่ที่มีหาดทรายขาวสะอาด และหาดนี้ค่อนข้างจะมีทุกอย่างครบครันไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว
ไม่รอช้า ลงไปเล่นน้ำทั้งชุดทำงานเลยดีกว่าขี้เกียจเปลี่ยน เล่นน้ำแค่พอชุ่มฉ่ำ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าไปยังจุดไฮไลท์ของเกาะอีกที่นึง
หาดลูกลมนี้ยังมีอีกจุดที่ส่วนใหญ่คนไม่ได้นึกถึง นั่นคือจุดชมวิวบนเขา ซึ่งใช้เวลาเดินแค่ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น วิวอลังการเหมือนกับหมู่เกาะทะเลใต้เลยทีเดียว ผมใช้เวลาเก็บภาพมุมสูงอยู่พอสมควร จริงๆแล้วอยากไปสำรวจบนยอดเขาอีกลูกของเกาะ ดูแล้วมีทางไปแต่ไม่รู้เขาจะห้ามเข้าหรือเปล่า
ใช้เวลาอยู่บนเกาะถึงประมาณบ่ายสอง จึงเดินทางกลับ จริงแล้วยังมีจุดน่าสนใจอยู่ตรงบริเวณป่าโกงกาง กับเส้นทางจักยานปั่นชมเกาะ ซึ่งยังไม่ได้ไปสำรวจคิดว่าคงต้องมาซ่อมอีกครั้ง
รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่ซอยนาเกลือ 12 เครือเดียวกับโรงแรม THE ZIGNE ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน แว่บแรกที่รถเลี้ยวเข้ามาจอด อาจจะยังมองไม่เห็นถึงความแตกต่างเท่าไหร่นัก แต่พอ check in เสร็จเดินเข้ามายังบริเวณที่พัก ภาพแรกที่เห็นเป็นทางเดินผ่ากลางสระว่ายน้ำแบบ private นำสายตาไปยังที่พักที่เป็นแบบวิลล่า ตัววิลาเป็นสีขาวตัดขอบไม้สีน้ำตาลดูเรียบง่าย ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย กับบรรยากาศสบายๆ ผมเดินสำรวจไปรอบๆรีสอร์ทก่อน ห้องพักมีอยู่ 4 type 80 ห้อง วิลล่าหลังหนึ่งจะมีห้องพักอยู่ 2 ชนิด แบ่งเป็น 2 ชั้น ผมได้ห้อง VIVA ซึ่งอยู่บริเวณชั้นสอง และทุกวิลล่ามีสระน้ำส่วนตัวทุกหลัง 
เข้ามาชมภายในห้อง VIVA กัน มีเตียง King Size 1 เตียง หมอนให้ไว้ถึง 4 ใบใหญ่และสองใบเล็กชอบมากเลย มีโซฟารับแขกสำหรับนั่งหรือนอนดูทีวี 1 ชุด มินิบาร์น้ำดื่มฟรีสองขวดนอกนั้นเสียตังคฺ์ มีกาชงกาแฟพร้อมกาแฟซองเตรียมไว้ให้อีกด้วย ตู้เสื้อผ้ามี bathrobe ให้สองชุด พร้อม slipper 2 คู่ ในตู้มี safe box สำหรับเก็บของมีค่า มี wifi ติดตั้งไว้ในห้องเลย ห้องน้ำเดี๋ยวนี้นิยมทำแบบ open คือมองออกไปเห็นเตียงนอนได้เลย เหมาะสำหรับมากับคู่รัก ไม่เหมาะสำหรับมากะเพื่อน 55 แต่ยังดีที่สามารถรูดม่านปิดได้ ในห้องน้ำมีอ่างที่กว้างขวางมากแถมมีทีวีให้นอนแช่น้ำในอ่างดูทีวีเพลินๆ แต่ชักโครกไม่มีสายชำระให้ ส่วนระเบียงหน้าห้องพัก จะมีเตียงสำหรับนอนเล่นอาบแดด ถ้าใครพักชั้น 1 ออกจากห้องก็โดดน้ำได้เลย สระน้ำที่นี่มีบาร์ภายในสระสำหรับนั่งดื่ม ความลึกของสระน้ำไม่มากแค่ 0.77 เมตรหากใครคิดจะโดดน้ำจากหน้าบ้านลงมาคิดดีดีก่อน 
แต่จุดเด่นของที่นี่ก็คือ แอ่นแอ๊น สระน้ำส่วนตัวไงล่ะ จะรอช้าอยู่ไย ไปโดดน้ำเล่นดีกว่า 
ภาพรีสอร์ทช่วงเย็น แสงสวยทีเดียว 
คืนนั้นเพลียจัดเล่นน้ำทั้งวัน นอนแต่หัวค่ำเลยทีเดียว พอเช้ามาจัดแจงเก็บของ check out ก่อนกลับแวะกินอาหารเช้าของรีสอร์ทสักหน่อย วันนี้ไม่มี line buffet เพราะว่าเป็นวันธรรมดาแขกน้อย อาหารจะเป็น set ที่เตรียมไว้ให้ แต่ก็ยังมี line สลัด ขนมปัง ไว้บริการด้วย 
จบเรื่องราวการรีวิวที่พัก Z Through by the zigne ไว้เพียงเท่านี้ก่อนน่ะครับ เผื่อเพื่อนๆท่านใดสนใจจะพักที่นี่ ก็ดูรีวิวที่พักนี้เป็นทางเลือกน่ะครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชม พบกันใหม่ทริปหน้า