>> ติดตามเรื่องราวการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ Facebook เพจสวัสดีคนแปลกหน้า
https://www.facebook.com/hellostrangerpage/

>> IG : hellostrangerth
https://www.instagram.com/hellostrangerth
.
.

น่าน...ไง จะไปก็ตามมา 

A: อาทิตย์นี้ไปไหนอ่ะ

B: ว่าจะไปดอยเสมอดาว

A: อยู่ที่ไหน

B: น่านไง

A: เฮ้ยๆ ไปด้วยสิ

B: จะไปจริงป่ะ... จะไปก็ตามมา

บทสนทนาได้เริ่มขึ้นก่อนวันออกเดินทางเพียงแค่ 2 วัน ...แผนการเดินทางไม่มี รถยนต์ส่วนตัวไม่มี ตั๋วรถยังไม่ได้จอง มีก็แค่แผนที่จังหวัดน่านที่เซฟเก็บไว้ในมือถือ

ทริปน่าน 4 วัน 3 คืน ของผู้หญิงสองคนได้เริ่มต้นขึ้น...ระหว่างรอรถที่หมอชิต เราก็คุยกันคร่าวๆ ถึงสถานที่ที่เราจะไปกัน แต่พอเอาเข้าจริงๆ แพลนที่เตรียมไว้มันก็ถูกปรับเปลี่ยน #นี่แหละคือเสน่ห์ของการเดินทาง ซึ่งส่วนใหญ่เราจะใช้รถสาธารณะและเดินเป็นหลัก บางจุดก็อาศัยการโบกรถ

#น่านไงจะไปก็ตามมา

ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 888 เมตร

 

วัดพระธาตุเขาน้อย จ.น่าน

 

"ปู่ม่านย่าม่าน" หรือ ภาพกระซิบรัก เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดภูมินทร์ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผลงานที่ปราณีตและเป็นภาพที่โดดเด่นประจำวัดภูมินทร์

การได้มาชมภาพจิตรกรรมฝาพนังที่วัดภูมินทร์ เหมือนเป็นการได้มาเยือนชมศิลปะชิ้นเอกของเมืองน่าน

 

เกริ่นมาพอสมควร...มาเริ่มออกเดินทางกัน

เริ่มออกเดินทาง....รีบไปหมอชิต ซื้อตั๋วรถทัวร์ เนื่องจากไม่ได้จองตั๋วไว้ล่วงหน้า

 

จากหมอชิตถึงสถานีขนส่งเวียงสา ใช้เวลา 12 ชั่วโมง (นานไปป่ะ) มาถึงทันรถเมล์ที่จะออกรอบ 9.30 โมงพอดี ราคา 40 บาทต่อคน ให้บอกคนขับว่าจะไปดอยเสมอดาว

 

นั่งมาได้ประมาณ 45 นาที ก็ถึง อ.นาน้อย ลงรถเพื่อหารถต่อไปขึ้นดอยเสมอดาว 
เราอาศัยรถเหมาของกลุ่มคนแปลกหน้าที่เขาโทรจองรถไว้แล้ว หารๆกัน ตกคนละ 140 บาท

 

ระหว่างทางไปดอยเสมอดาว จะมีเสาดินนาน้อย เป็นเสาดินขนาดใหญ่คล้ายๆ กับแพะเมืองผี ของ จ.แพร่ เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและลมตามธรรมชาติ จนเกิดเป็นรูปร่างที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป

 

ลานกางเต็นท์ดอยเสมอดาว สามารถโทรจองเต็นท์กับทางอุทยานหรือจะนำเต็นท์มาเองก็ได้ มีห้องน้ำ ร้านค้าและร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว

 

ผาหัวสิงห์ จุดชมวิวอีกจุดหนึ่งของดอยเสมอดาว แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ปีนขึ้นไปด้านบนของผา

 

ทุกคนมาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมาย ยืนเรียงหน้ากระดานบนดอย 555

 

ขอหลบคน มาดูวิวอีกฝั่งของดอยเสมอดาว

 

เดินไปผาชู้ ซึ่งอยู่ห่างจากดอยเสมอดาวประมาณ 4 กม. เดินไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มีรถเก๋งจอดถามว่าจะไปไหน...เข้าทางเลยล่ะ 555 ขอติดรถคนแปลกหน้าไปลงผาชู้

 

ผาชู้ เป็นสถานที่ ตั้งเสาธงที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ต้องร้องเพลงชาติ 12 จบกว่าจะเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอด ซึ่งสายเสาธงมีความยาวกว่า 200 เมตร

 

ถ้าไม่อยากกางเต็นท์ที่ดอยเสมอดาว ก็มาที่ผาชู้ได้เช่นกัน ระยะทางห่างกันไม่มาก คนน้อยกว่า และวิวก็สวยไม่แพ้ดอยเสมอดาว

 

พระอาทิตย์ตก ที่ดอยเสมอดาว

 

ตื่นแต่เช้าเพื่อออกเดินทางไปอุทยานแห่งชาติขุนสถาน โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะไปยังไง 
เดินๆไปก่อนละกัน สักพักก็มีรถกระบะผ่านมา ลองโบกดู เป็นรถเจ้าหน้าที่ของอุทยานที่จะลงไปทำธุระที่ อ.นาน้อยพอดี เลยขออาศัยติดรถไปด้วย พี่เค้าใจดีจัง :)

 

พี่เจ้าหน้าที่อุทยานจอดรถให้เราลงตรงปากทาง เราก็เดินถามทางชาวบ้านแถวนั้นไปเรื่อยๆ จนเจอป้ายทางไปอุทยานแห่งชาติขุนสถาน

 

เดินจากป้ายบอกทางมาประมาณครึ่งชั่วโมง 
ก็ผ่านที่ว่าการอำเภอนาน้อย ตรงนี้เองที่มีพี่ชาวบ้านแถวนั้น กำลังจะขึ้นไปเที่ยวที่อุทยานพอดี เราเลยขออาศัยติดรถไปด้วย :) คนน่านใจดี

 

ถึงแล้วจ้าาา...อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

 

ไหนๆ ก็มาละ สอบถามข้อมูลจากพี่เจ้าหน้าที่ บอกว่าด้านบนของดอยแม่จอก มีจุดชมวิวได้ 360 องศา .....ลุยค่ะ เดินไปหอบไป ทางชันใช้ได้เลย

 

จุดชมวิวและลานดูดาว...ขึ้นไปข้างบนไม่มีคนเลย นั่งพักดูวิวพอหายเหนื่อย ก็เดินลงกลับทางเดิม

พอเดินลงมาถึงข้างล่างก็ตัดสินใจเปลี่ยนแผนจากที่คิดไว้ว่าจะนอนที่ขุนสถาน เปลี่ยนเป็นเข้าตัวเมืองน่านเลยดีกว่า เพื่อที่จะไปหาตั๋วรถกลับกรุงเทพ ....บังเอิญมีพี่คนนึงเค้าได้ยินเราถามทางกับแม่ค้า แล้วเค้าก็จะเข้าตัวเมืองพอดี เลยอาสาไปส่ง ....เจอคนใจดีอีกแล้ว :)
 

ระหว่างทาง พี่ที่เขาจะพาเราไปส่งในตัวเมือง อยากพักกินข้าวกลางวัน เลยพาเรามากินขนมจีนน้ำเงี้ยวเจ้าอร่อย เราเลยขอเลี้ยงข้าวพี่เค้าเป็นการตอบแทน

 

เมนูน่าอร่อย ที่คนแปลกหน้าแนะนำ

 

ถึงแล้ว...ตัวเมืองน่าน พี่เค้าจอดให้เราลงหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน
 

ข้างทางด้านหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน มีซุ้มต้นลีลาวดีที่ดอกล่วงจากต้นไปหมดแล้ว

 

เดินมาฝั่งตรงข้ามก็จะเจอวัดภูมินทร์ ภายในวัดมีจิตรกรรมลือชื่อ

 

ตอนที่เราไปมีการจัดงานหน้าวัดภูมินทร์พอดี แล้วก็มีถนนคนเดิน

 

ขันโตก ที่ถนนคนเดินหน้าวัดภูมินทร์ กินเสร็จก็หาที่พักแถวๆ นั้น

 

เดินไปหารถเพื่อที่จะไปวัดพระธาตุแช่แห้ง 
ถ้าเป็นราคารถเหมา จะอยู่ที่ 300 บาท (หรืออาจจะแล้วแต่ตกลงราคากัน) เราเลือกไปด้วยมอเตอร์ไซค์ ราคาคนละ 50 บาท พี่เค้าจะขี่ไปส่งถึงในวัดเลย ถ้าจะให้รับกลับด้วย ก็ให้เค้ารอ เราเลือกที่จะหาทางกลับเอง เพราะใช้เวลาอยู่ในวัดค่อนข้างนาน ขากลับเข้าที่พัก เราได้พี่ที่เค้าจะผ่านทางพอดี เลยขออาศัยติดรถไปด้วย :) คนน่านใจดีจัง

 

เช้าวันสุดท้ายของทริปน่าน ที่วัดหัวข่วง วัดใกล้ๆ ที่พักเรา

 

เดินเลยมาอีกหน่อย เจอวัดอีกแล้ว....วัดมิ่งเมือง เป็นที่ประดิษฐานของศาลหลักเมือง

 

ร้านข้าวซอยต้นน้ำ เป็นร้านข้าวซอยชื่อดังในตัวเมืองน่าน อยู่ใกล้ๆ กับวัดมิ่งเมือง

 

เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร

 

วัดศรีพันต้น จ.น่าน

 

วัดพญาวัด เป็นวัดที่อยู่บริเวณทางที่จะไปวัดพระธาตุเขาน้อย เลยแวะเข้าไปไหว้พระ

 

เนื่องจากเส้นทางที่จะไปวัดพระธาตุเขาน้อย ไม่มีรถสาธารณะผ่าน เราเลยเลือกที่จะเดินไปเรื่อยๆ ระยะทางประมาณ 3-4 กม.

 

และแล้วก็มาถึง บันไดทางขึ้นวัดพระธาตุเขาน้อย จำนวน 307 ขั้น

 

ขึ้นไปถึงด้านบน จะเห็นองค์พระขนาดใหญ่และวิวโดยรอบเมืองน่าน

 

เดินกลับมาที่สถานีขนส่งน่าน เพื่อกลับกรุงเทพ

สรุปสถานที่เที่ยวที่ไป

วันที่ 1 : อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ดอยเสมอดาว / ผาชู้

วันที่ 2 : อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ดอยแม่จอก และเข้าตัวเมืองน่าน

วันที่ 3 : เที่ยวในตัวเมืองน่าน ไหว้พระ 9 วัด

วันที่ 4 : วัดพระธาตุเขาน้อย และเดินทางกลับกรุงเทพ

สรุปค่าใช้จ่ายและค่าเดินทาง/คน (ไม่รวมค่ากิน)

ค่ารถทัวร์ไป 464 บาท

ค่ารถทัวร์กลับ 466 บาท

ค่ารถเมล์เขียว ไปลงนาน้อย 40 บาท

ค่ารถหารกับคนแปลกหน้า 140 บาท

ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน 20 บาท

ค่าเช่าพื้นที่กางเต็นท์ดอยเสมอดาว 30 บาท

ค่ามอเตอร์ไซค์ไปวัดพระธาตุแช่แห้ง 50 บาท

ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ไม่เสีย

ค่าที่พักในเมืองน่าน 150 บาท

รวม 1360 บาท

ปล. การเดินทางแบบไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ถึงแม้ว่ามันจะลำบากและเหนื่อย แต่มันก็ได้อะไรมากกว่าการถึงจุดหมายปลายทางแล้วแค่ไปยืนถ่ายรูปสวยๆ ขอขอบคุณคนแปลกหน้าทุกคนและพี่ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ที่ช่วยเหลือและให้ข้อมูลเส้นทาง ขอบคุณคนน่านใจดีที่ช่วยพาไปส่งยังจุดหมาย

#ยินดีที่ได้เจอ

#สวัสดีคนแปลกหน้า

#HelloStranger