สวัสดีสามช่องใต้...
สวัสดีคะเพื่อนๆ ... วันนี้จะมาต่อมหากาพย์ทริปใต้ของเราคะ .. วันนี้เรายังคงเที่ยว " พั ง ง า " ต่อจร้าาาาาา ...
ลากยาวไปถึงไปถึงบทความหนึ่งของคุณหัสชัย บุญเมือง และ จันทร์เพ็ญ บุญวิภารัตน์ ที่ได้อ่านก่อนมา..
"พระจันทร์เหลืองนวลตาลอยเด่นอยู่ท่ามกลางสีน้ำเงินเข้มของท้องฟ้า ตีนฟ้าทางเบื้องตะวันออกกำลังยกขึ้น เวลาของอรุณรุ่งกำลังเปลี่ยนสลับในทุกนาที จากเรื่อเรืองเหนือทิวเขาหินปูนในผืนทะเล สีชมพูหวานกำลังสะท้อนขึ้นจับเมฆพร้อม ๆ กับเสียงอะซานจากมัสยิดดังกังวาน เนิบช้า ทว่าสะท้อนเข้าไปในหัวใจ"

หากเพื่อนๆได้อ่านบทความนี้ คงพาจินตนาการลอยไปไกลๆ...ถึงสถานที่ ที่แม้ไม่เคยไปมาก่อน แต่กลับมีมนต์เสน่ห์ดึงดูดให้ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง.." บ้ า น ส า ม ช่ อ ง ใ ต้ "

จุดถ่ายภาพของที่นี่เป็นสะพานปูนที่ยื่นออกไปในทะเล เราจอดรถตรงทางเข้าหมู่บ้าน แต่เดินตรงมาที่สะพานก่อนเพราะตอนนี้ท้องฟ้าฝั่งทิศตะวันออกเริ่มมีสีชมพูระเรื่อให้เห็นแล้ววววว.. ป้ายบอกว่าสะพานนี้เรียก "ท่าเทียบเรือประมง - โครงการพัฒนาชายฝั่งประมงพื้นบ้าน" .. อ่ะ เผื่อใครจะไปถ่ายภาพ จะได้ไปไม่ผิดจุดกัน ^^
เพราะแสงยังน้อย ถ่ายเองเบลอแย่ ขาตั้งกล้องจึงเป็นพระเอกของเช้านี้...
มองออกไปทางทะเล เรือหางยาวเริ่มวิ่ง ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ไกลๆ พร้อมระลอกคลื่นลิบๆ 

บ้านชาวบ้านหลายหลัง ก็สร้างอยู่บนน้ำ ถ้าได้นอนฟังเสียงคลื่นที่นี่ ก็คงดีไม่น้อยเลยเน๊อะ..
ขอโหมดฟรุ้งฟริ้งซะหน่อย...
พวกผู้หญิง เด็กๆก็นุ่งผ้าถุงมาอาบน้ำ ทำกิจวัตรยามเช้า <อันนี้เซ็นเซอร์ไม่ถ่ายรูปนะฮะ แหะๆ> พวกผู้ชายก็ออกมาเตรียมเรือ อวน สำหรับออกทะเลไปจับปลา
เราคิดเองว่าเป็นแห ไว้จับปลา (ผิดไม่ว่ากันนะ) >_< 
เจรจาตาอ่วย...
เห็นแบบนี้...ไม่สั่งมาลองสักหน่อย จะได้หราาาา.. ซาลาเปาไส้ถั่วทั้งนึ่ง และ ทอด ตำรับใต้..
ปร๊าดดดด รับชาร้อนๆสักแก้วมั๊ยค๊าบบบ .. กลิ่นชาหอมหวาน .. ควันฉุย .. รสชาติหวานไปนิสส์ คุณลุงก็ใจดีให้เติมชาได้อีกแหน่ะ .. ไม่อิ่มให้รู้ไป!! 




