ภูผาดัก หนองคาย
                                                                           "The world is a book and those 
                                                                       who do not travel read only one page."
                                                      โลกใบนี้เปรียบเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง และคนที่ไม่เคยเดินทางเลย 
                                                                       ก็เปรียบเหมือนคนที่อ่านหนังสือเพียงหน้าเดียว

ภูผาดัก ตั้งอยู่ ต.บ้านม่วง อ. สังคม จ.หนองคาย เพราะฉะนั้นแล้วหากใครจะไปขึ้นภู ไม่ว่าจะภูผาดัก ภูหนอง ภุห้วยอีสัน ทุกคนล้วนก็ต้องไปพักที่อ.สังคม เพราะต้องขึ้นภูแต่เช้า และสถานที่สะดวกสุด ก็ต้องเป็นตำบลบ้านม่วงนี่แหละครับ 
10/12/59
วันแรกผมเริ่มผมเริ่มต้นจาก อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ตอนเวลา 14.00 น. เพื่อนมารับจาก จ.บึงกาฬไหล และเข้าไปรับน้องที่ อ.เมื่องและ อ.ท่าบ่ตามลำดับไปตามทางกันเลยทีเดียว ด้วยความที่ไม่รีบเพราะวันแรกกะไปแค่นั่งกินปาร์ตี้ปิ้งย่างทั่วไป เลยออกสายกันหน่อย(แต่เสบี่ยงพร้อมมาก) มาเที่ยวทั้งทีจะไม่มีรูปทุกวันก็ยังไงอยู่ ผมจึงพยายามมองข้างทางหาสถานที่ถ่ายรูปกัน ฮ่าๆ
และนี่ก็เป็นสถานที่ที่เราลงไปถ่ายรูปกัน  ไร่ยาสูบ ฮ่าๆ ผมนี่พยายามจำลองมันให้เป็นไร่กระหล่ำเลยที่เดียว พิกัดก่อนเข้าตัวเมืองอำเภอสังคม อยู่ฝั่งขวา ถ้าจะจอดแถวนั้นระวังรถบรรทุกขนทรายเข้าออกด้วยนะครับ พอจอดรถพวกเราก็ไม่รอช้า ถ่ายรูปรัวๆกันเลยทีเดียว
 



*สิ่งที่ที่พักมีให้
-ที่นอนหมอนผ้าห่มเพียงพอสำหรับต้านลมหนาวแน่นอน
-อุปกรณ์ปิ้งย่าง
-ห้องน้ำรวมมีประมานสี่ห้องถ้าผมจำไม่ผิด แต่สะอาดมากครับ
-ห้องอาบน้ำพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นสองห้อง
*ส่วนพวกจานที่โฮมสเตย์มีให้ยืมครับ แต่ถ่านและแก้ว ต้องซื้อเอานะครับฮ่าๆ ถ่านถุงละ 30 แก้วใบละ 5 บาท(พวกผมพลาดที่ลืมซื้อตอนซื้อเครื่องดื่นฮ่า)
พวกเรานอนเต้นเล็ก สามเต้น ราคาเต้นละ 300 บาท พอมาถึงก็ไม่รอช้าครับ เก็บข้าวเก็บของ จุดเตาทันทีไม่ค่อยหิวกันเท่าไหร่เล๊ยยยย

มัวแต่กินจนลืมเก็บภาพบรรยากาศ ตัดภาพมาอีกที ก็ ตีสี่ตรงครับตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว เพราะนัดกับพี่เอกไว้(ไกด์สุดหล่อของพวกเรา)  อยากบอกว่าหนาวมากๆๆๆๆๆๆ เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไปจนสุดก็ยังไม่รู้สึกว่าร้อนเลย อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็รอพี่เอกมากเรียกเพราะแกนัดไว้ 04.30 ฮ่าๆการเที่ยวทุกครั้งย่อมมีอุปสรรค์ ครั้งนี้ก็เช่นกัน สมาชิกของผมอีกสองคนปลุกไม่ตื่นครับผม ได้ยินแต่เสียงงัวเงีย เอาวะไม่เป็นไร พาสมาชิกเพิ่มข้างหน้าก็ได้เพราะตอนนี้เหลือกันแค่สามคน
เบอร์โทรติดต่อพี่เอกนะครับ 0910452493
ราคาการขึ้นภูรายระเอียดดังนี้นะครับ
-ถ้าเป็นกลุ่มไม่ถึง 5 คนจะคิดเหมาในราคา 500 บาท
-ถ้าเกิน 5 คน จะคิดเป็นรายบุคคล ตกที่คนละ 100 บาท
นี่คือบรรยากาศตอน 04.30 ครับ หมอกหนามาก พี่เอกบอกว่า หมอกพึ่งมาหนาก่อนพวกผมมาหนึ่งวัน ถือว่าโชคดีมากครับ เราจะเดินทางไปขึ้นภูโดยสายการบินกระบะวีโก้ของพี่เอก ตามภาพที่สี่ด้านล่างเลยครับ ก่อนรถจะออกขอเก็บภาพแข่งกันหล่อกับน้องชายสักภาพ บรรยกาศนี่ได้ฟิลเลยครับ หนาวนะครับเเต่ผมกลัวร้อนตอนเดินเลยใส่แขนสั้นฮ่าๆ แต่ก็เอาเสื้อแขนยาวไปด้วยอยู่
จากนั้นเราก็นั่งรถไปยังภู นั่งรถไม่นานครับ ทางขึ้นสองข้างทางเป็นสวยยาง พอไปถึงลานกว้างที่จอดรถพี่เอกบอกว่ามันคือวัด เราสามารถบริจากค่าน้ำค่าไฟให้กับวัดได้เลย เเต่พวกผมลงมาเเล้วลืมทุกอย่างไปเลยครับ เพราะมันเหนื่อยมา
**เกือบลืมครับ ใครที่จะไปพกน้ำเปล่าและไฟฉายไปด้วยนะครับ เพราะตอนขึ้นไปมืดมาก แต่แฟลตมือถือก็พอช่วยได้ พอพร้อมกันเเล้วก็ลุยเลยครับ

เดินมาสักพักใหญ่ ใช้เวลาประมาน 45-50 นาที เราก็ถึงยอดภู ระยะทางประมาน 1.5-2 กิโลได้ เหตุผลที่เราต้องรีบขึ้นมาเพราะต้องมาจับจองที่นะครับ ขนาดว่ามาเช้าเเล้วยังมีคนมาเช้ากว่า ฮ่าๆ และก็เป็นอย่างที่หวังครับ ได้ที่เหมาะมาก ระหว่างนั่งรอแสงดวงอาทิตย์ ผมเลยนั่งถ่ายดาวเล่น อยากบอกว่าข้างบนดาวสวยมาก เห็นหมอกกำลังเคลื่อนลอยผ่านภูเขาเป็นระยะระยะ

พอแสงดวงอาทิตย์เริ่มมา ผมก็เริ่มเตรียมพร้อมครับ ลองแสงลองกล้องรอ ฮ่าๆ กระทู้นี้ขออภัยด้วยนะครับ ถ้าเกิดรัวรูปจนเกินไป

















เที่ยวจนจะกลับแล้วจะไม่มีรูปพี่เอกไกด์สุดหล่อของเราก็ไม่ใช่ นี่ครับพี่เอก รูปนี้เป็นรูปที่พี่แกกำลังแอบถ่ายผมมั้ง แล้วน้องผมแอบถ่ายแกอีกที


ลงมาถึงฝั่งขานี่สั่นพรับๆเลยครับ นะตอนนั้นไม่สนใจอะไรละ กลับอย่างเดียว เหนื่อยมาก และพอถึงที่พักก็มานั่งกินข้าวเปียกอันที่จริงคือมารอเอารูปจากพี่เอกครับฮ่าๆ แต่ดูอีกมุมก็เหมือนเป็นกลยุธทของพี่แกที่หลอกล่อพวกผมไปอุดหนุนร้านพี่แก ถามว่าพวกผมยอมมั้ย ยอมครับ พอกินเสร็จก็แยกย้ายไปนอนต่อ เพราะง่วงมาก พอนอนพักผ่อนจนเพียงพอก็ได้เวลาเก็บของกลับบ้าน แต่ก่อนจะกลับขอถ่ายรูปกับเต้นไว้เป็นที่ละลึกกันสักหน่อย

แน่นอนครับกลับไปก็สภาพแวดล้อมเดิมๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือแปลกตาไปกว่าเดิม
แต่สิ่งที่เปลี่ยนคือความคิดของผมครับ ผมรู้สึกโลกของผมกว้างขึ้น ทุกครั้งที่เดินทางผมเหมือนได้รับพลังบางอย่าง
เหมือนกลับมาแล้วมุมมอง ทัศนคติเราเปลี่ยนไปจากเดิม  สำหรับผมแล้วการได้ก้าวขาออกไปยังสถานที่ใหม่ๆเป็นการให้ของขวัญกับตัวเองครับ  บางคนอาจคิดว่ามันไร้สาระ สิ้นเปลือง แต่ผมมองว่าเกิดมาครั้งนึงควรใช้ชีวิต20,000วันบนโลกให้คุ้มค่าครับ ทำไปเถอะครับอะไรที่เราสบายใจ และคนอื่นไม่เดือดร้อน
สำหรับทริปนี้ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ
ขอบคุณมากๆถ้าคุณอ่านทุกบรรทัดของผม
ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปของผมทั่งสี่คน
ขอบคุณคำติชม
ขอบคุณที่ดูรูปพวกผมทุกรุป
ขอบคุณคนขับรถตลอดการเดินทาง
และที่ขาดไม่ได้ที่ต้องขอบคุณในฐานะผมเป็นเจ้าบ้าน คือ สถานีโทรทัสน์ช่อง 7 สีที่ได้มาทำข่าว ทำให้คนรู้จักสถานที่แห่งนี้มากขึ้น จนชาวบ้านพูดติดปากแล้วว่า อนุวัตจัดให้ ขอบคุณครับ
https://www.youtube.com/watch?v=WrEv-PIFroQ&pbjreload=10
เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ
***สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าน้ำมัน 1000 บาทหาร 5 ตกคนละ 200 บาท
ค่าที่พัก คนละ 180 บาท
ค่าอาหารเครื่องดื่นคนละ 300 บาท
ค่าไกด์พี่เอก 100
รวมคนละประมาณ 780 บาท

 
                     
                     
 
                



























