"กรุงเทพฯ ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว" ประโยคนี้เป็นอะไรที่เมื่อได้ยิน หรือได้เห็นก็ถึงกับต้องยิ้มอ่อน ในเมืองที่ขับเคลื่อนเต็มกำลังไปด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี และธุรกิจมากมาย ผู้คนต่างใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ และแออัด ในขณะเดียวกันทัศนียภาพที่แสนผ่อนคลายเพียงอย่างเดียวก็คงหนีไม้พ้นตึกสูงสลับเรียงราย กับถนนมากมายที่ซ้อนไขว้กันไปมา วันนี้ "ทีเด็ดเมืองกรุงฯ" เลยอยากจะพาทุกคนไปผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการใช้ชีวิตตลอดทั้งสัปดาห์ มาใช้เวลาช่วงวันหยุดสั้น ๆ เสาร์ อาทิตย์ มาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ฟังเสียงลำธาร เสียงแมลง และส่องดูนกหลากหลายสายพันธุ์ บนผืนป่าขนาดกว่า 12 ไร่ พื้นที่สีเขียวสำหรับคนเมือง "ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง"

"ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง" ถนนสุขาภิบาล 2 เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวในที่ดินของ ปตท. ภายใต้แนวทางการส่งเสริมและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง โดยใช้แนวทางการศึกษา และทฤษฎีการฟื้นฟูป่าธรรมชาติของ ศาสตราจารย์ ดร.อาคิระ มิยาวากิ ซึ่งเป็นป่าที่มนุษย์ฟื้นฟูขึ้นตามหลักการฟื้นฟูป่านิเวศ (ป่าธรรมชาติ) เน้นการออกแบบอาคารที่กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นต้นแบบนวัตกรรมอาคารเขียวเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้การปลูกป่าเชิงนิเวศแบบยั่งยืน เพื่อให้เกิดป่าที่ใกล้เคียงธรรมชาติดั้งเดิมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งในอนาคตป่านี้จะได้เติบโต และสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่ นับเป็นรูปแบบการศึกษา และเรียนรู้ป่าในเมือง พร้อมทั้งเชื่อมโยง และสร้างความใกล้ชิดระหว่างคนกับป่าได้เป็นอย่างดี ในพื้นที่โครงการทั้งหมด 12 ไร่ เราจะได้เดินชมผืนป่าธรรมชาติที่มีพื้นที่กว่า 9 ไร่ หรือ 75% ของพื้นที่ทั้งหมด กระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งแต่ละจุด แต่ละเนินจะแตกต่างกันออกไปในหลากหลายสังคมพืช เช่น ป่าดิบที่ลุ่ม ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าน้ำกร่อย ป่าชายเลน ป่ารอบน้ำตก (เขาหินปูน) ซึ่งความหลากหลายของพันธุ์ไม้ที่ใช้ปลูกมีทั้งพันธุ์ไม้หายาก พันธุ์ไม้ดั้งเดิมของกรุงเทพมหานคร และพันธุ์ไม้ป่าตามประเภทป่าชนิดต่าง ๆ ซึ่งรวมแล้วกว่า 200 ชนิด 

เมื่อเราเข้ามาภายในโครงการเราจะพบกับ กำแพงผนังดินบดอัด (Rammed Earth Wall) ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ผนังดินไล่เฉดสีกันอย่างสวยงาม ซึ่งเกิดจากองค์ประกอบและแร่ธาตุต่าง ๆ ในดินที่แตกต่างกันนั่นเอง โดยนอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ผนังดินนี้ยังเป็นฉนวนกันความร้อนให้กับตัวอาคารเป็นอย่างดี ด้านบนปิดด้วยวัสดุโปร่งแสงเปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอกเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานอีกด้วย ระหว่างทางเดินผนังดินนี้จะมีนิทรรศการเมล็ดพรรณไม้ (The Seeds of the Forest Exhibition) ซึ่งรวบรวมเมล็ดพรรณไม้กว่า 60 ชนิด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชนิดไม้ทั้งหมดที่ปลูกในโครงการ แต่ละชนิดจะถูกบรรจุในเรซิ่นใส จัดวางอย่างกลมกลืมตลอดแนวผนังดิน

ด้านในถัดจากผนังดินเข้ามาจะมีน้ำตกขนาดย่อมที่เราสามารถนั่งชม และฟังเสียงน้ำไหลได้เพลิน ๆ วันไหนอากาศดี แดดไม่แรงมาก หรือช่วงที่แดดคล้อย สามารถออกมานั่งเล่นจุดนี้ได้ ซึ่งธารน้ำตกนี้ก็เชื่อมโยงกับสายน้ำที่ไหลไปทั่วบริเวณ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการระบบน้ำสำหรับใช้ในพื้นที่โครงการ ซึ่งมีสัดส่วนพื้นที่ของน้ำ 10% (จำนวน 1.2 ไร่) วัตถุประสงค์หลัก ๆ ก็เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝน และให้เกิดเป็นระบบนิเวศอย่างครบวงจรของสิ่งมีชีวิตในโครงการนั่นเอง

ส่วนโซนไฮไลท์ของโครงการป่าในกรุงที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาด ก็คือ ทางเดินชมเรือนยอดไม้ (Sky Walk) ระยะทางของเส้นทางประมาณ 200 เมตร เป็นลักษณะของสะพานที่ยกสูงไล่ระดับไปเรื่อย ๆ โดยจุดที่สูงที่สุดคือ สูงจากพื้นดินกว่า 10 เมตร เป็นเส้นทางเชื่อมโยงผ่านพื้นที่ป่าธรรมชาติ ตลอดทางเดินจะมีป้ายบรรยายเกี่ยวกับลักษณะของเรือนยอด พันธุ์ไม้ และนกชนิดต่าง ๆ ที่สามารถพบได้ที่นี่ ถึงจะเป็นทางเดินกลางแจ้ง แต่ก็จะมีร่มเงาไม้เป็นระยะ ๆ บวกกับลมแรงที่พัดเย็นตลอดเวลาซึ่งช่วยให้เรารู้สึกคลายจากความร้อนได้พอสมควร

เมื่อเดินมาจนสุดเส้นทาง Sky Walk เราจะมาถึง หอชมป่า (Observation Tower) ที่มีความสูงถึง 23 เมตร ซึ่งถือเป็นจุดที่สูงที่สุดในโครงการ และเป็นจุดที่เราอยากแนะนำที่สุดในโครงการ เมื่อเข้ามาในบริเวณอาคารหอคอย เดินขึ้นบันไดวนมาเรื่อย ๆ ระหว่างชั้นจะมีจุดพักเป็นระยะ ๆ หากใครรู้สึกเหนื่อยก็แวะพักชมวิวระหว่างชั้นไปพลาง ๆ ก่อน แถมลมก็พัดเย็นสบายจนเกือบเคลิ้มกันเลยทีเดียว วิวจากบนหอคอยเราจะเห็นพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ และทัศนียภาพของผืนป่า แบบ 360 องศา ผืนป่าสีเขียวชะอุ่มอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งถูกรายล้อมไปด้วยความเป็นเมืองไว้ด้านนอก ราวกับเป็นโอเอซิสกลางเมืองเลยก็ว่าได้

ก่อนกลับเราแวะ อาคารนิทรรศการ (Exhibition Hall) ซึ่งเป็นส่วนจัดแสดง และบอกเล่าถึงความเป็นมาของโครงการป่าในกรุง ทฤษฎีการพัฒนาฟื้นฟูป่าไม้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมไปถึงให้ความรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ และผลกระทบอันเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า ทั้งนี้ก็เพื่อให้เราได้ตระหนักถึง และปลุกจิตสำนึกในการอนุรักษ์ผืนป่าให้ยั่งยืนต่อไป ด้านในสุดเป็นมุมนั่งพักผ่อน แสงสลัว พร้อมอากาศเย็นสบาย นั่งฟังเสียงนกร้อง และน้ำไหล ใครเดินมาจนเพลียรับรองว่าต้องอยากงีบตรงนี้ซักพักใหญ่ ๆ แน่นอน

ตรงข้ามห้องนิทรรศการจะเป็นห้องภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับโครงการ และการอนุรักษ์ป่าไม้ หากใครสนใจสามารถติดต่อเข้าชมได้ฟรี ซึ่งจะมีให้ชมเป็นรอบ ๆ สามารถติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ด้านหน้าห้องได้เลยครับ 

วันว่างนี้หากใครกำลังหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในเมืองกรุงแบบไม่ต้องใช้เงินซักบาท ก็แนะนำให้มาที่นี่เลยครับ "ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง" นอกจากจะมาสูดอากาศสดชื่นท่ามกลางผืนป่าอุดมสมบูรณ์ พร้อมหอบความสุขใจกลับบ้านแล้ว มาที่นี่ก็จะยังได้รับความรู้เกี่ยวกับพรรณไม้ และการปลูกป่าเชิงอนุรักษ์กลับไปอีกด้วย หากใครสนใจสามารถมาเที่ยมชมโครงการได้ตั้งแต่ วันอังคาร - วันอาทิตย์ ปิดวันจันทร์ เวลา 09:00 - 18:00 น. ซึ่งรอบชมภาพยนตร์ และรอบเจ้าหน้าที่พาเดินชม จะมีเป็นรอบ 09:00, 10:30, 13:00, และ 14:30 น. แต่หากมาไม่ทันรอบก็สามารถเดินชมได้เองเหมือนกับเราเลยครับ

ที่อยู่ :  ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ

GPS : 13.691697, 100.702236

เวลาทำการ : อังคาร - อาทิตย์ เวลา 9:00 - 18:00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 02 136 6380

Facebook : www.facebook.com/metroforest

Website : www.pttreforestation.com

ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าเข้าชม

ที่จอดรถ : ไม่มีบริการสถานที่จอดรถ ต้องนำรถจอดไว้ริมถนนหน้าโครงการ  โดยเวลาห้ามจอดให้อ้างอิงตามที่ระบุในป้ายห้ามจอด คือ 06:00 - 09:00 น. และ 16:00 - 20:00 น. นอกเหนือจากช่วงดังกล่าวสามารถจอดได้
**ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2561**

รถสาธารณะ :
รถเมล์สาย 92 เคหะร่มเกล้า - อนุสาวรีย์ หรือรถตู้ อนุสาวรีย์ - หัวตะเข้ ลงโรงพยาบาลสิรินธร ข้ามถนนมาต่อสองแถวสีน้ำเงิน ตลาด 999 (นำชัย) - วัดกิ่งแก้ว ซึ่งโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ ระหว่างถนนสุขาภิบาล 2 ซอย 23 กับ ซอย 25

BTS ลงสถานีอ่อนนุช ออกที่ทางออกหมายเลข 1 ตรงไปที่ Big C Extra ข้ามถนนเพื่อต่อรถเมล์สาย 1013 พระโขนง - หัวตะเข้ ลงตรงโรงพยาบาลสิรินธร หลังจากนั้นข้ามถนนมาต่อสองแถวสีน้ำเงิน ตลาด 999 (นำชัย) - วัดกิ่งแก้ว เพื่อไปยังโครงการ

BTS ลงสถานีอุดมสุข หลังจากนั้นให้ไปที่ทางออก 5 แล้วต่อแท็กซี่

รถยนต์ส่วนตัว :
ใช้ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปทางบางนา และเมื่อเห็นป้ายถนนอ่อนนุช - ลาดกระบัง ให้ชิดซ้าย จนเจอ 3 แยกที่มีป้ายสีน้ำเงินเขียนว่าโครงการป่าในกรุง หลังจากนั้นให้เลี้ยวขวา ขับต่อประมาณ 4 กิโลเมตร โครงการป่าในกรุงจะอยู่ทางซ้ายมือ ระหว่างถนนสุขาภิบาล 2 ซอย 23 กับ ซอย 25