ภูสอยดาว พฤศจิกายน พ.ศ.2558
"ภาพบริเวณลานสนด้านบนภูสอยดาว Film : Fomapan100 / Developer : Kodak HC110"
เพื่อเป็นการรำลึกถึงความสวยงามเมื่อ 16ปี ก่อน
จึงได้รวมกลุ่มกับน้องๆเพื่อกลับไปเยี่ยมภูสอยดาวอีกครั้ง
26-29 พฤศจิกายน พ.ศ.2558
การเดินทางจากกรุงเทพฯมาภูสอยดาว หลักๆมีอยู่สองเส้นทางคือมาทางพิษณุโลกหรือมาทางอุตรดิตถ์ คราวก่อนผมเคยมาที่นี่โดยลงรถ บขส.ที่พิษณุโลก ครั้งนี้เลยขอเปลี่ยนบรรยากาศโดยเดินทางจากกรุงเทพฯไปลงรถทีอุตรดิตถ์บ้าง ระยะทางอาจจะมากหน่อยยิ่งถ้ามากับรถของ บขส.ก็จะใช้เวลานานนิดนึงเพราะมีจุดจอดแวะหลายแห่ง สบายๆครับหลับมาตลอดทางพอรู้สึกตัวก็เข้าเขตจังหวัดอุตรดิตถ์แล้ว ออกจากหมอชิตประมาณสี่ทุ่มมาถึงท่ารถอุตรดิตถ์ก็ราวๆตีห้า
พวกเรานัดหมายกับรถที่จะมารับไปตีนภูสอยดาวไว้ที่หกโมงเช้าครับ แน่นอนว่าพี่วุฒิ/พี่หนุ่มน้ำปาด มารอตั้งแต่ตีห้านิดๆ พาพวกเรามุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอน้ำปาด อาบน้ำอาบท่า (อันนี้สุดสุดของสุดสุดเลยครับ) กินข้าวเช้า ซื้อหาอาหารกลางวัน จากนั้นออกเดินทางลัดเลาะตามทางหลวงหมายเลข 1239 และ 1268 ซึ่งทั้งสองฝั่งถนนตามเส้นทางสายนี้ มีแต่ความร่มรื่นสวยงาม แม้ว่าโค้งซ้ายโค้งขวาที่ประเคนใส่พวกเราจะทำให้ออกอาการมึนงงกันบ้าง แต่บรรยากาศรอบข้างกอปรกับแดดอ่อนๆยามเช้าก็ทำให้รู้สึกคุ้มค่าและคิดถูกแล้วที่ได้เลือกมาทางเส้นนี้ ตื่นเต้นครับ รอคอยเวลาที่จะกลับมาที่นี่อีกครั้ง
และแล้วการรอคอยก็สิ้นสุดลง รถกระบะวิ่งมาถึงทางขึ้นภูสอยดาวจนได้ แต่แต่พี่เค้าไม่ยอมจอดรถครับกลับพาพวกเราขับเลยไปอีก..... งงเหมือนกันครับคือผมจำได้ลางๆว่าคราวก่อนโน้นคือแจ้งชื่อและติดต่อลูกหาบที่ศูนย์บริการตรงปากทางเดินเท้าเลยนี่นา ที่เป็นเช่นนี้คือทางเจ้าหน้าที่ได้สร้างที่ทำการอุทยานฯอย่างสวยหรูแยกจากทางขึ้นภูสอยดาวไปอีกราว 1 กิโลเมตรครับ นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปลงทะเบียนและติดต่อลูกหาบที่นั่นเสียก่อน จึงจะสามารถขึ้นลานสนได้ และทางเจ้าหน้าที่ก็มีบริการพิเศษคือได้จัดรถอีต๋อยไว้เป็น"ชัตเติ้ลบัส" คอยรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวจากที่ทำการอุทยานฯมายังทางขึ้นภูฯด้วยนะครับ ฟรีไม่มีชาร์จ แต่ท่านใดจะร่วมบริจาคเพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่นั้นก็แล้วแต่จิตศรัทธาครับ
"บรรยากาศยามค่ำคืนบริเวณลานสน Film : Kodak ProIMAGE100"
พวกผมและเพื่อนๆต้องขอขอบคุณพี่วุฒิและพี่หนุ่มน้ำปาดเป็นอย่างสูง สำหรับรถแรงๆที่มารับพวกเราที่สถานีขนส่งอุตรดิตถ์ทั้งไปและกลับครับ