มีใครเคยเห็นภาพเกาะเขาหินปูนน้อยใหญ่วางตัวกระจัดกระจายกลางทะเลสีเขียวมรกตไหมครับ ? เป็นภาพวิวจากผาจันทร์จรัส อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง สุราษฎร์ธานี ไม่ใช่ต่างประเทศที่ไหนไกล อยู่ในบ้านเรานี่เอง อยากบอกว่านั่นคือภาพในฝันของผมเลยนะ หลงรักตั้งแต่แรกเห็นในนิตยสารท่องเที่ยว

จำเนียรกาลผ่านเวลามาก็นานหลายปี ภาพในฝันนั้นกลายเป็นความจริงแล้วล่ะ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ผมเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองมาแล้วหลายครั้ง แต่ขอสารภาพว่าไม่เคยอิ่มกับวิวสุดสวยแบบนั้นสักที เหมือนเพิ่งกินข้าวอิ่มแต่ผ่านไปอีกแป๊บก็หิวอีกแล้ว พอไม่ได้ไปสักพักก็คิดถึงอีกแล้ว ยิ่งประกอบกับได้ข่าวว่าอุทยานฯ ปรับจุดชมวิวใหม่อย่างดี ทำให้ภาพมีอยู่กลายเป็นภาพตกสมัยก็เลยรู้สึกว่า ถึงเวลาอันสมควรที่ต้องกลับไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองแล้วล่ะ

และไปในสไตล์ผม ต้องกางเต็นท์ค้างแรมด้วยนะ

ปกติการเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองทำง่ายๆ ด้วยการซื้อทัวร์เดย์ทริปจากเกาะสมุย หรือพะงัน (แนะนำสมุยดีกว่าเพราะเรือเยอะกว่า) เรือเล็ก เรือใหญ่ หลากหลายราคา และถ้าเราอยากค้างคืนก็แค่บอกเรือที่ไปด้วยว่าเราจะพักบนเกาะนะ นัดแนะวันกลับให้เรียบร้อย ถึงวันก็กลับกับเรือบริษัทเดิม แค่นี้เอง

ผมเคยมาค้างแรมที่หมู่เกาะอ่างทองครั้งหนึ่ง ตอนนั้นนั่งเรือใหญ่จากหน้าทอน มาคราวนี้เลยขอเปลี่ยนบรรยากาศลองนั่งสปีดโบ๊ทดูบ้าง จ่ายแพงกว่าแต่มีข้อดีกว่าคือเราจะได้เที่ยวดำสน็อกเกิ้ลที่หมู่เกาะว่าว ไม่ไกลจากหมู่เกาะอ่างทองด้วย และจะได้ใช้เวลาที่หมู่เกาะอ่างทองเยอะกว่าอีกต่างหาก อีกทั้งเป็นราคาที่รวมเรือคายัคแล้วด้วย

ไปกับ Funny Day Sea Tour ให้บริการนำเที่ยวครบวงจรครับ บริษัทมีทั้งหมดสามทริปในแต่ละวัน หมู่เกาะอ่างทอง เกาะเต่า-เกาะยวน และเกาะพะงัน และยังมีแพ็คเกจเที่ยวพร้อมที่พัก สอบถามราคาโดยตรงได้เลย 0819702779, 0915321472, 077430553-4 หรือ เฟซบุ๊ก Funny Day - ทัวร์เกาะเต่า เกาะนางยวน หมู่เกาะอ่างทอง www.facebook.com/kohsamuifunnydaytour บอกนิดว่าคนไทยมีราคาพิเศษนะครับ

การเดินทางมาเกาะสมุยก็ง่ายๆ เครื่องบินมีบางกอกแอร์เวย์ส ส่วนรถทัวร์มีสมบัติทัวร์ (ออกจากสายใต้ วันเว้นวัน) กับ บขส. (ออกจากหมอชิตกับสายใต้ ทุกวัน) โดยรถทัวร์จะข้ามเรือเฟอร์รี่มากับเราด้วย

แนะนำว่าการเที่ยวหมู่เกาะอ่างทอง หากมารถทัวร์ควรมาตั้งต้นที่สมุยก่อนสักวัน ไม่งั้นจะเป็นเหมือนผมคือตกเรือ (ฮา...) คือหากรถขึ้นเรือเฟอร์รี่ไม่ทันรอบหกโมงเช้า เราก็จะไม่ทันเรือออกไปหมู่เกาะอ่างทอง ดังนั้นเพื่อความชัวร์มานอนรอที่สมุยสักคืนจะดีกว่า

นั่นคือข้อมูลการเดินทางคร่าวๆ ครับ พร้อมแล้วไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองกันเถอะ

-----------------------------------------------------------

(1)

ทริปคราวนี้ผมมาไม่ทันเรือวันที่ไปถึง เลยต้องเที่ยวสมุยรอไปก่อนพลางๆ พอวันถัดมาไม่ยอมพลาดแล้ว รถตู้ของ Funny Day Sea Tour ตระเวนรับผู้โดยสารจากที่ต่างๆ รอบเกาะ ผมขึ้นจากหน้าทอนตรงไปหาดบางรักษ์ IVY BEACH CLUB จุดขึ้นเรือแบบสบายๆ

อย่างที่บอกคือ Funny Day Sea Tour มีเดย์ทริปทางทะเลทั้งหมดสามทริปในแต่ละวัน หมู่เกาะอ่างทอง เกาะเต่า-เกาะนางยวน และเกาะพะงัน เราไปที่ไหนก็ลงทะเบียนให้เรียบร้อย ทานของว่าง รอเวลาลงเรือได้เลย

เก้าโมงเศษๆ เวลาขึ้นเรือ ทริปวันนี้มีไม่ถึง 20 คน เป็นคนไทยสองคนถ้วน คือผมกับน้องนักท่องเที่ยวอีกคนที่ซื้อทริปมาคนเดียว ถามว่าทำไมเลือกมาสปีดโบ๊ท ก็เหตุผลที่ผมเคยบอกไปแหละครับว่าจะได้ดำน้ำที่เกาะว่าวด้วย และมีเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ มากกว่า

เรือวิ่งฉิวออกทะเลประมาณหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงเกาะว่าว โชคไม่ดีที่อากาศอึมครึมแต่ก็โชคดีที่ไม่มีแดด (จะเอายังไง ฮา...) ที่นี่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน แต่ไม่ได้มีหน่วยฯ บนเกาะนะ เพราะเป็นเกาะหินปูนเล็กๆ ขึ้นเกาะไม่ได้

พร้อมแล้วคว้าสน็อคเกิ้ลโดดลงน้ำเลยดีกว่า ใต้น้ำที่นี่ทำให้ว้าวเลยแหละ คือไม่ได้สุดยอดหรอก แต่ก็สวยกว่าที่คิดไว้มากครับ ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ทีเดียว เล่นเอาดำผุดดำว่ายเพลินเลย

ว่ายน้ำเล่นสักพักจนพอใจ สมาชิกขึ้นเรือกันครบเราก็ไปกันต่อ คราวนี้มุ่งหน้าเข้าเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองแล้วล่ะ มีทั้งหมด 42 เกาะ เป็นเกาะหินปูนกลางทะเล

จุดแรกที่เราไปคือเกาะแม่เกาะ มีหนึ่งในแลนด์มาร์คของอุทยานฯ อยู่ที่นี่คือทะเลใน ชื่อที่ฝรั่งเรียกคือ Emerald Lake จะเดินขึ้นไปดูก็ต้องเหนื่อยนิดหน่อยครับ

นี่แหละความสวยแปลกของทะเลใน เป็นทะเลสีเขียวมรกตในหุบเขาหินปูน

แต่ยังไม่หมดเท่านั้นครับ เราสามารถเดินลงไปด้านล่างได้ด้วย โดยมีข้อแม้นิดๆ คือเดินลงแล้วต้องเดินขึ้นด้วยนะ (ฮา...)

เอาล่ะจุดหมายต่อไปของเราคือหาดหน้าทับ เป็นอีกมุมหนึ่งของเกาะแม่เกาะ มาพักตรงนี้เพื่อกินข้าวเที่ยงครับ มื้อง่ายๆ ตามประสาชาวเกาะ มัสมั่นน่องไก่ ไก่ชุบแป้งทอด ผัดผักรวม ผัดหมี่ ข้าวสวย อร่อยดีทุกอย่างเลย ตักได้ไม่อั้น ไม่อิ่มไม่เลิก ตบท้ายด้วยแตงโมอีกสักหน่อย

ชายหาดหน้าทับสวยดีนะครับ ถ้าไม่นับสภาพอากาศที่ไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ แล้วเราจะพายเรือคายัคกันที่นี่ด้วย จุดหมายคือพายไปดูถ้ำใต้เขาหินปูนซึ่งจะเข้าได้เฉพาะตอนน้ำลงแบบพอดีๆ เท่านั้น ขึ้นสูงไปก็เข้าไปได้ แห้งไปก็เข้าไม่ได้ ซึ่งโชคดีของเราที่วันนี้ไปได้ครับ

ความจริงหมู่เกาะอ่างทองไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องแนวปะการังสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีเสียทีเดียว ยิ่งตอนน้ำลงเราจะเห็นแนวปะการังได้ชัดเจนเลยล่ะ

ถึงที่หมายแล้วก็พายเข้าไปสำรวจในถ้ำกัน มีโพรงทะลุข้างบนด้วย ลักษณะของเขาหินปูนไม่ว่าจะที่ไหนก็น่าอัศจรรย์จริงๆ คิดเหมือนกันไหมครับ

ออกจากถ้ำแล้วเราพายกลับไปยังหาดหน้าทับ แล้วขึ้นสปีดโบ๊ตไปยังเกาะวัวตาหลับ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ซึ่งเป็นจุดหมายไฮไลท์ของทริปนั่นแหละ

-----------------------------------------------------------

 (2)

ถ้าเรามาเดย์ทริป พอถึงชายหาดอ่าวคา เกาะวัวตาหลับ เกือบทุกคนก็จะต้องรีบจ้ำเดินขึ้นจุดชมวิวผาจันทร์จรัสแบบทำเวลาเพราะไม่อย่างนั้นจะไม่ทันขึ้นยอด แต่สำหรับผมซึ่งนอนบนเกาะ... ไม่มีอะไรต้องรีบร้อนนี่นา

อันดับแรกที่ต้องทำเมื่อถึงเกาะวัวตาหลับคือติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์  แน่นอนว่าบ้านพักต้องติดต่อล่วงหน้าก่อน ส่วนเรื่องกางเต็นท์นั้นสบายอยู่แล้ว ผมเอาเต็นท์มาเองก็แค่จ่ายค่าธรรมเนียมกางเต็นท์ 30 บาท แล้วหาทำเลได้เลย

ชิลๆ สบายๆ สักประมาณสี่โมงเย็น รอนักท่องเที่ยวเดย์ทริปกลับหมดแล้วค่อยถึงเวลาของผม ใส่รองเท้า เตรียมน้ำดื่มสักขวด แล้วลุยโลดครับ ระยะทาง 500 เมตร กับความชันระดับแฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก

ใครเคยขึ้นมาก่อนหน้านี้คงรู้ว่าการขึ้นผาจันทร์จรัสช่วงสุดท้ายต้องปีนป่ายไต่เชือก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้วเพราะอุทยานฯ ทำทางเดินปูนไว้อย่างดีจนถึงยอด ที่นี่เดินได้เองเลยครับ ไม่มีหลงทาง และไม่มีอันตรายใดๆ มีแค่ความเหนื่อยล้วนๆ ที่ต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้

จุดชมวิวแบ่งเป็น 6 ชั้น ชั้นแรกที่ระยะทาง 100 เมตร เป็นแบบนี้ เห็นอ่าวคาอยู่ข้างล่าง สังเกตได้ว่าแทบไม่มีเรืออยู่ข้างล่างแล้ว ที่เหลือบนเกาะคือคนซึ่งค้างแรม และนักท่องเที่ยวที่เช่าแบบเหมาลำมาเท่านั้น

ชั้นสองทำระดับความชันขึ้นอีกนิด เริ่มเห็นภาพหมู่เกาะเรียงรายกลางทะเลแล้ว

พอถึงจุดที่สามจะมองเห็นอีกฝั่งของเกาะ วิวค่อนข้างปิดครับ ผมว่าทำไว้เพื่อให้หยุดพักเหนื่อยมากกว่านะ (ฮา...)

ส่วนจุดที่สี่จะเป็นทางแยกขึ้นไปสัก 40-50 เมตร แม้จะเป็นทางสั้นๆ แต่มาถึงตรงนี้แข้งขาชักอ่อนล้าหลายคนอาจไม่อยากเดินไป แต่เชื่อผมเถอะว่าเดินไปหน่อย ไหนๆ ก็ขึ้นมาแล้วควรเก็บให้ครบทุกวิวครับ

จากตรงนี้ไปน่าจะเป็นช่วงวัดใจที่สุดของการขึ้นผาจันทร์จรัส ผมยังสงสัยว่าเพราะมันชันหรือชักเริ่มเหนื่อยขาแข้งสั่นก็ไม่รู้ (ฮา...)

และในที่สุดเมื่อถึงจุดชมวิวจุดที่ห้าก็จะพ้นแนวป่าขึ้นสู่ยอดเขาหินปูนสักที เห็นเสาสัญญาณข้างล่างไหมล่ะครับ นั่นแหละที่ทำการอุทยานฯ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จุดเริ่มต้นที่เราเดินขึ้นมา

เมื่อก่อนนับจากจุดชมวิวตรงนี้ นักท่องเที่ยวจะต้องไต่เชือกปีนป่ายต่อขึ้นสู่ชั้นบนสุด (แล้วเมื่อก่อนก็ไม่มีระเบียงชมวิวตรงนี้ด้วย) แต่อย่างที่บอกว่าเดี๋ยวนี้ทำทางปูนอย่างดีแล้ว ยาวขึ้นไปถึงยอดเลย แถมบนยอดยังเป็นจุดที่สูงกว่าระเบียงไม้เมื่อก่อนอีกนิดหน่อยด้วย

ฮึบเฮือกสุดท้ายแล้วครับ หายใจลึกๆ อีกไม่กี่ก้าวเท่านั้นเราก็พิชิตผาจันทร์จรัสมาถึงตรงนี้สำเร็จ ถ้าเป็นคนแข็งแรง ออกกำลังสม่ำเสมอ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงจากด้านล่างก็ถึงบนยอดแล้วล่ะ

สูดอากาศสดชื่น ถ่ายรูปวิวสวยๆ ให้หนำใจ แน่นอนว่าตอนนี้มีผมเพียงคนเดียว ตลอดเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงบนนั้นเป็นอะไรที่สุดจริงๆ นั่นคือข้อดีของการค้างแรมที่เกาะวัวตาหลับ เพื่อเหตุผลจะได้ชมวิวสวยๆ นานๆ แบบส่วนตัวอย่างนี้ล่ะครับ

ตอนเย็นท้องหิวได้เวลากินข้าว ร้านอาหารสวัสดิการเปิดสองช่วง 8.00-15.00 น. กับ 18.00-20.00 น. ขายทั้งกับข้าวและอาหารจานเดียว จานเดียวเริ่มต้น 80-90 บาท โปะไข่ดาวก็บวกอีก 20 บาท น้ำเปล่าขวดเล็ก 20 บาท ถือว่าโอเคกับการติดเกาะ ข้าวค่อนข้างเยอะครับ จานเดียวอิ่มตื้อแน่นอน

คืนนี้จากที่ทำท่าฝนจะตกจนผมต้องกางเต็นท์แบบแน่นหนาสุดๆ สักสี่ห้าทุ่มท้องฟ้ากลับเปิดโล่ง ดาวระยิบระยับซะงั้น บรรยากาศเงียบสงบมีแต่เสียงคลื่น เสียงลม เสียงใบไม้ เป็นค่ำคืนที่ผมหลงรักเหลือเกิน

-----------------------------------------------------------

(3)

ตอนเช้าตื่นแบบสบายๆ ความจริงหน้าอ่าวคาเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นด้วยนะ แต่บอกเลยว่าผมขี้เกียจ ภาพพระอาทิตย์ขึ้นมีเยอะแล้ว (ฮา...) เอาน่า สักเจ็ดโมงกว่าค่อยมาเดินชิลๆ กินบรรยากาศ ซึ่งถ้าไม่ได้มาค้างบนเกาะ ไม่มีทางได้พบความสวยสงบแบบนี้

กินข้าวเช้าเสร็จ ผมเตรียมตัวขึ้นผาจันทร์จรัสอีกรอบ เพราะวันนี้ท้องฟ้าดูท่าทางแจ่มใส แถมช่วงเช้าช่วงบ่ายมุมแสงคนละแบบ มานอนนี่ทั้งทีต้องให้สะใจหน่อย

เดินยาวรวดเดียวถึงชั้นบนสุดเลยแล้วกัน คิดไม่ผิดเลยครับที่ขึ้นมาเพราะวันนี้ภาพของหมู่เกาะอ่างทอง สวยกว่าเมื่อวานเยอะ ฟ้าสีฟ้าตัดกับกลุ่มเมฆสีขาวเห็นเส้นขอบฟ้าชัดแจ๋ว แดดแรง ทะเลสีเขียวครามนิ่งสงบ เป็นภาพในฝันเลยล่ะมั้ง

ผมขึ้นถึงยอดสักพักใหญ่ก็มีฝรั่งหนุ่มสาวขึ้นมาเป็นแบบให้ สองคนนี้พักบ้านพักอุทยานฯ ขนาดฝรั่งยังมาค้างแรม อย่าให้น้อยหน้าเขานะครับ

ถึงขึ้นมาหลายรอบแล้ว แต่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ยังประทับใจเสมอ ขออีกสักภาพก่อนจากกัน มองลงไปเห็นเรือทัวร์จากสมุยลำแรกมาถึงแล้ว เป็นเรือใหญ่ต้องจอดด้านนอกแล้วนั่งเรือเล็กเข้าเกาะอีกที แต่ถ้าเป็นสปีดโบ๊ทแบบ Funny Day Sea Tour ที่ผมนั่งมาจะสามารถจอดริมหาดได้เลยครับ ไม่เสียเวลาเที่ยว

ลงไปข้างล่างเก็บเต็นท์ให้เรียบร้อย กินข้าวกลางวันเติมพลังที่เสียไป กรุ๊ปทัวร์และเรือบริษัทต่างๆ เริ่มพานักท่องเที่ยวมาถึงเกาะมากขึ้น ก็เป็นช่วงเวลาดูความคึกคัก ดูสาวๆ อาบแดดเล่นน้ำ (ฮา...) ฝรั่ง จีน ส่วนใหญ่ คนไทยค่อนข้างน้อยครับ

ประมาณบ่ายโมงยังมีเวลาเหลือ และยังมีอีกจุดน่าสนใจบนเกาะนั่นคือถ้ำบัวโบก ถ้ำขนาดใหญ่มีปากปล่อง หินงอกหินย้อยสวยงาม ทางขึ้นอยู่สุดอ่าวคา เดินไปแล้วจะเจอบันไดพร้อมป้ายบอกทาง

ทางเดินขึ้นจัดว่าชันใช่เล่น บางช่วงชันกว่าตอนขึ้นผาจันทร์จรัสด้วยซ้ำ บางจุดก็ต้องปีนป่ายกันหอมปากหอมคอ แต่ระยะทางโดยรวมสั้นกว่า

หลังการปีนป่ายเล็กน้อย เราก็มาถึงบริเวณหน้าถ้ำ หินงอกหินย้อยสวยมาก

เดินสำรวจอ้อมมาถึงปากทางลงถ้ำ เข้าไปได้เลยครับไม่มีอันตราย ด้านในเป็นถ้ำมีปากปล่องกว้าง มีแสงสว่าง ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฉายในการเดินเที่ยว

หากอยากดูบัวโบกต้องเดินไต่ขึ้นไปตามปากปล่องแล้วจะเจอป้ายบอกทาง จนมาถึงตรงนี้ บัวโบกที่ว่าเป็นหินย้อยลักษณะแปลกตาดูคล้ายดอกบัว เป็นที่มาของชื่อถ้ำนั่นไง

ผมออกจากถ้ำบัวโบกลงมาถึงอ่าวคาประมาณบ่ายสองโมงนิดๆ เรือสปีดโบ๊ทของ Funny Day Sea Tour ซึ่งพานักท่องเที่ยวมาเที่ยววันนี้จอดเทียบอ่าวคาเรียบร้อยแล้ว ผมเก็บสัมภาระเดินมารอแถวๆ หน้าหาด พอถึงบ่ายสามโมงครึ่งที่คนลงมาจากผาจันทร์จรัสกันครบได้เวลาออกก็ขึ้นเรือกลับพร้อมกัน

เรือมาถึง IVY BEACH CLUB สี่โมงครึ่ง มีรถตู้รับ-ส่ง พาเราไปจุดที่ต้องการตามหาดและที่พักต่างๆ แนะนำนิดหน่อยว่าก่อนกลับให้โทรย้ำกับทางบริษัทสักหน่อยว่าที่เรามาค้างแรมจะกลับวันนี้นะ แล้วจะไปต่อที่นั้นที่นี้ เขาจะได้เตรียมรถตู้ให้เราถูกด้วยครับ

ใครเดินทางกลับเครื่องบินก็มีไฟลท์หัวค่ำ ถ้าเดินทางรถทัวร์ คันสุดท้ายของ บขส. จะขึ้นเรือซีทราน เฟอร์รี่ รอบหกโมงเย็น หากไม่มีอะไรผิดพลาดเราสามารถไปทันรอบนี้ แต่แนะนำว่าพักที่สมุยต่อชิลๆ อีกสักคืนดีกว่าจะได้ไม่เหนื่อย

จะไปเที่ยวหรือพักอยู่หาดไหนก็ตามสะดวกเลย ส่วนผมยังมีภารกิจที่สมุยต่อเนื่องอีกหลายวัน หาที่พักเป็นโรงแรมราคาประหยัดแถวหน้าทอน เลือกตรงนั้นเพราะเป็นชุมชนคนเกาะ หาของกินสะดวก ไม่ได้มีฝรั่งนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน

นี่แหละครับทริปค้างคืนที่หมู่เกาะอ่างทอง หนึ่งในจุดหมายซึ่งผมอยากใช้คำว่าสักครั้งในชีวิต “ต้องไป” ให้ได้ และถ้าจะให้ดีต้องไปค้างสักคืนสองด้วยคืนนะ จริงๆ ถ้าไม่ตกเรือตั้งแต่วันมาถึงคราวนี้ ทริปของผมก็ยาวกว่าคืนเดียวแน่นอน (ฮา...)

-----------------------------------------------------------

ติดต่อ Funny Day Sea Tour และสอบถามแพ็คเกจ
โทร. 0819702779, 0915321472, 077430553-4
เฟซบุ๊ก Funny Day - ทัวร์เกาะเต่า เกาะนางยวน หมู่เกาะอ่างทอง
www.facebook.com/kohsamuifunnydaytour
www.funnydaythailand.com

-----------------------------------------------------------

ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
เฟซบุ๊ก นายสองสามก้าว / A Life, A Traveller
http://www.facebook.com/alifeatraveller