เริ่มต้นจากเห็นรูปและรีวิวในเฟสบุ๊คเด้งรัวๆๆๆๆ เห้ย!!!ปู เห้ย!!!! นี่มันกุ้งหนิ และที่พีคสุดๆ เห้ยยยย(ย. รัวๆ) นี่มันเติมไม่อั้นหนิ หมายมั่นตั้งตาว่าจะต้องไปอยู่ ณ จุดๆ นั้นให้ได้ ก็เริ่มหาที่จะไปกันเลยครับ
        ในทันใดนั้นเราก็เปิดอากู๋ขึ้นมา บรรจงพิมพ์ "บุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ด จันทบุรี" และแล้วปัญหาอันน่าหนักใจก็มาถึง มันขึ้นมาเต็มหน้าจอก่ายกองไปหมด สารพัดสารพันโฮมสเตย์พรั่งพรูกันออกมา เหมือนกับถูกกักเก็บอัดอั้นเอาไว้ เอาละสิ แล้วจะเลือกที่ไหนดี ก็พยายามเข้าไปตามอ่านรีวิว อันนู่นนี่นั้น แต่ละที่ก็จะมีข้อดี ข้อเสียต่างกันไป  หลังจากการสาละวนอยู่กับการดูรีวิว โทรสอบถามข้อมูลรายละเอียดของแต่ละที่ สุดท้ายเราก็ได้ที่หมายที่เราจะไปในที่สุด

        "108 โฮมสเตย์" นี่คือชื่อจุดหมายที่เราจะไปเพิ่มคลอเรสเตอรอลให้กับร่างกายกัน เสร็จสรรพได้ที่ก็รีบทำการโทรไปไปจองวันและเวลาโดยพลัน สนนราคา 1,500บาทต่อท่าน อาหารเติมไม่อั้น 3มื้อ พร้อมที่พัก

        การเดินทางจะไปที่ 108 โฮมสเตย์ สามารถมาได้ 2ทาง ทางแรกก็คือขับรถเข้ามาเกือบถึงตัวรีสอร์ท แล้วก็เดินเท้าต่ออีกนิดหน่อย แต่ถนนเป็นถนนดินขรุขระ ถ้าฝนตกรถก็จะเข้ามาไม่ได้ และตอนที่เราไปทางก็ชำรุดพอดี ทางโฮมสเตย์เลยยื่นทางเลือกที่ 2 มาให้ คือการเดินทางมาโดยเรือ เราก็จะขับรถแล้วเอามาจอดไว้ที่ท่าเรือที่จะไปปลายจันทร์รีสอร์ท  ที่นี่จะคิดค่าบริการจอดรถด้วย เราใช้รถตู้ไปก็โดนค่าจอดรถไป 100บาท ก่อนที่จะถึงท่าเรือสัก 30นาที ให้โทรแจ้งทางที่พักด้วย เค้าจะได้เอาเรือออกมารับเรา  เราก็โทรแจ้งเรียบร้อย เค้าก็เอาเรือมารอ 

ที่รับฝากจอดรถที่ท่าเรือปลายจันทร์รีสอร์ท มีคิดค่าบริการ

       หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อย ทั้งกะเพราะและขาก็ได้พาร่างกายมายังห้องอาหาร ซึ่งก็มีพนักงานเตรียมพร้อมกันอยู่แล้ว พอพวกเรานั่งปุ๊บก็จะเริ่มทำการเสริฟอาหารมื้อแรกมาเลย มื้อแรกก็จะมีปลาทอด, ปลาทอดราดพริก, ผัดผักใส่กุ้ง, หมูชมวง, ปูผัดผงกะหรี่ รสชาติก็โอเค แต่น้ำจิ้มซีฟู๊ดรสอ่อนไปนิดไม่แซ่บเท่าไร อาหารกินได้เท่าไรก็กินไปเลยครับ หมดแล้วสั่งเพิ่มได้เรื่อยๆ และสั่งได้ใหม่ทุกอย่าง ย้ำตัวโตๆ ว่าทุกอย่าง อ่อ แล้วที่นี่เค้าจะไม่ทำอาหารทิ้งไว้นะครับ เพื่อความสดใหม่ เค้าจะทำตามออเดอร์ที่เราสั่งเพิ่มเท่านั้น

มื้อแรกของเรา : ปลาทอด

         หลังจากอิ่มหนำกับมื้อแรกแล้ว ที่นี่ก็มีกิจกรรมให้ทำอยู่แถวๆ โฮมสเตย์ ก็จะมีพายเรือ, ตกปลา, ไปดูที่เค้าดักปู ก็เลือกทำกันตามอัธยาศัย หลังจากนั้นพอแดดร่มลมตก ทางที่พักก็จะมีพาไปล่องแพเปียก แต่เป็นการล่องระยะสั้นๆ เท่านั้นเอง ใครจะแค่นั่งแพเล่นๆ หรือจะแวะเล่นน้ำก็ได้ ตอนแรกคิดว่าที่นี่จะเป็นน้ำกร่อยเนื่องจากติดป่าชายเลน แต่เปล่าเลยเค็มดีจริงๆ

          ล่องแพเสร็จก็มาอาบน้ำอาบท่ากัน เตรียมตัวไปจัดมื้อใหญ่มื้อไฮไลท์ของทริปนี้ ในที่สุดเราก็จะได้โซ้ยปู โซ้ยกุ้งกันแล้ว นั่งรอที่ห้องอาหารเพียงไม่นานบรรดาสารพัดเมนูก็ถูกเสริฟมาวางเรียงรายตรงหน้า ในมื้อนี้ก็จะมี ปูทะเลนึ่งคละมาให้ทั้งตัวผู้และตัวเมีย, กุ้งเผา, กุ้งแช่น้ำปลา, หอยนางรม, ทอดมัน, แกงจืด และก็เช่นเคยเติมไม่อั้น กินไปก็ต้องตบยุงไป พอฟ้ามืดที่นี่ยุงเยอะมากกกกกกก แต่ในส่วนห้องพักจะไม่ค่อยมีนะ

ไฮไลท์ของเราในทริปนี้ สิ่งที่ช่วยเพิ่มปริมาณคลอเรสเตอรอลให้แก่พวกเรา

         พอทานกันอิ่มดีแล้ว ลุงที่โฮมสเตย์ก็จะพาเดินไปทางด้านหลัง(ทางที่เอารถมาถึงรีสอร์ทนะแหละ) เพื่อมาดูหิ่งห้อย หิ่งห้อยที่นี่เยอะมาก อยู่ตามต้นไม่ระยิบระยับเต็มไปหมดเลย ลุงการันตี ไม่มีติดไฟคริสมาสต์แน่นอน เพื่อเป็นการยืนยันลุงก็พาเดินไปใกล็ๆ แล้วก็จับมาใส่ในอุ้งมือให้ดูเลย ทุกคนต่างก็อุทานเป็นเสียงเดียวกัน ใช่หิ้งห้อยจริงๆ ด้วย ไม่ใช่หลอดไฟ กะจะเดินชมดื่มด่ำบรรยากาศค่ำคืนที่เงียบสงบสักหน่อย แต่ก็ต้องอยู่ได้ไม่นานเพราะฝูงยุงนั่นเอง ในขณะที่หิ่งห้อยมีเยอะมาก ยุงก็เยอะมากด้วยเช่นกัน ต่างคนต่างแยกย้ายกลับห้องพัก กิจกรรมยามค่ำคืนที่นี่ไม่ดูทีวีก็จะมีร้องคาราโอเกะให้บริการ แต่มีทีวีแค่เครื่องเดียวนะ ตรงที่ๆ เราทานข้าวกันนะแหละ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครดูนะจะกลับห้องใครห้องมัน

หิ่งห้อยตัวเป็นๆ จร้า ไม่ใช่หลอดไฟ

        เช้าตื่นขึ้นมาจากเสียงนกละแวกนั้น เปิดประตูออกมาก็จะเห็นน้ำกำลังลดระดับจนเห็นเป็นเนินเลนโผล่ทะลุน้ำขึ้นมา แล้วก็มีหมอกลอยอยู่ไกลๆ อากาศค่อนข้างเย็นสบาย นั่งมองธรรมชาติกันอยู่หน้าแพ ป้าที่โฮมสเตย์ก็ตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้พวกเรากันแต่เช้าตรู่เลย พออาหารเสร็จป้าก็จะมาตาม มื้อเช้านี้เราจะมี ข้าวต้มทะเล, เส้นจันทร์ผัดกุ้ง มีพี่ในกรุ๊ปเราแพ้กุ้งทานไม่ได้ ป้าเค้าก็จะแยกมาให้พิเศษเลยด้วย ทานคนเดียวเลยสบายๆ ไม่ต้องแย่งกับใคร และมื้อนี้ก็สามารถเติมได้ไม่อั้นเหมือนกัน แต่ของมื้อเมื่อคืนยังไม่ย่อยเลย เลยจัดไปได้นิดเดียว แอบเสียดาย ผัดเส้นจันทร์อร่อยด้วย 

บรรยากาศยามเช้า หน้าแพริมน้ำ

       ที่นี่ไม่มีจำกัดเวลาเช็คเอาท์นะครับแล้วแต่ลูกค้าเลย อยากนอนเล่น นั่งเล่น ตกปลาต่อก็ได้ ถ้าอยากจะกลับเมื่อไรก็แจ้งทางโฮมสเตย์ เค้าก็จะให้ลุงขับไปส่งที่ท่าเรือ  แต่เนื่องจากช่วงเช้าเป็นช่วงน้ำลง แล้วลงเยอะมาก การจะกลับไปที่ท่าเรือเดิมก็ไม่สามารถทำได้ ไม่งั้นเรือจะติดเลน ลุงก็เลยมาส่งที่ท่าเรือไปฟาร์มปูนิ่มแทน ซึ่งจะถึงก่อนท่าเรือที่เรามาตอนขามา แต่เนื่องจากรถจอดอยู่ที่ท่าเรือปลายจันทร์รีสอร์ท ก็ต้องนั่งมอเตอร์ไซค์เพื่อไปเอารถกลับมารับสมาชิกที่เหลือ แล้วก็เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ กลับไปสู่ชีวิตจริง ยังไม่อยากจะกลับเลย 

ถึงเวลาต้องกลับแล้วสินะ ไว้จะแวะกลับมาเพิ่มคลอเรสเตอรอลอีก