ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    Jit-amorn •  กรกฎาคม 21, 2560
    • โพสต์-2
    Jit-amorn •  กรกฎาคม 21 , 2560

    เด็กใต้ พาเที่ยวทะเลใต้... อ่าวนาง จังหวัดกระบี่

    สวัสดีค่ะ หมวยเขียนรีวิวทริปครั้งแรกนะคะ ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ      

    ทริปนี้หมวยไปกับน้องสาว 2 คนค่ะ หมวยเดินทางจากกรุงเทพฯ            

    ส่วนน้องสาวเดินทางจากหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาค่ะ

    เริ่มต้นที่การเดินทางจากกรุงเทพฯ จากสนามบินสุวรรณภูมิโดยสายการบิน Bangkok Airways 

    จองตั๋วได้ในราคาโปรโมชั่น 1,290 บาท (ดีใจสุดๆ) และเป็นครั้งแรกที่หมวยเดินทางกับสายการบิน Bangkok Airways ด้วยค่ะ

    หมวยนั่งแอร์พอร์ตลิ้งค์ไปสนามบินสุวรรณภูมิ มาถึงประมาน 7.30 เช็คอินเสร็จก็เข้าไปรอขึ้นเครื่องที่ 

    Bangkok Airways Domestic Lounge  ตั้งใจมาเร็วเพราะสาเหตุนี้เลย 555

    แสดง boarding pass กับเจ้าหน้าที่ต้อนรับที่อยู่ด้านหน้า ก็จะได้รับรหัสสำหรับใช้ wifi ค่ะ (ดีงามมมมม)

    ด้านในมีที่นั่งเยอะเลยค่ะ ไม่เล็ก ไม่แออัด มีอาหาร และเครื่องดื่มไว้บริการอย่างดี (คุกกี้คอนเฟล็กอร่อยมากๆ เลยค่ะ ชอบมากกกกก)

    08.45 ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว เที่ยวบินที่ PG 222 ออกจากกรุงเทพฯ 09.25 และถึงสนามบินกระบี่ 10.50 ค่ะ

    ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติค่ะ ประมาน 80% คนไทยน้อยมากๆ บนเครื่องเสริ์ฟอาหารเป็น omelette ปลาชุปเกร็ดขนมปังทอด ไส้กรอก มีเค้ก ผลไม้ และโยเกิร์ตค่ะ (กินหมดทุกอย่าง อ้วนๆ วนไปค่ะ)

    สนามบินกระบี่เป็นสนามบินเล็กๆ น่ารักดีค่ะ เดินเข้ามาในตัวอาคารผู้โดยสารก็จะเจอสายพานรับกระเป๋าเลยค่ะ (ลืมถ่ายรูป ขอโทษจริงๆ ค่ะ) รับกระเป๋าเสร็จแล้วเดินออกมาก็จะเจอบูธต่างๆ ทางด้านซ้ายมือจะมีบูธ Airport Taxi เป็นรถตู้แบบ join จากสนามบินไปอ่าวนาง  รถตู้จะส่งที่หน้าโรงแรมเลยค่ะ ค่ารถคนละ 150 บาท

    พี่คนขับยกกระเป๋าไปเก็บที่ท้ายรถให้ด้วย บริการดี สะดวกสบายมากๆ เลยค่ะ จากสนามบินไปอ่าวนาง

    ระยะทางประมาน 26 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเกือบๆ 1 ชม. (เสียเวลาแวะจอดผู้โดยสารแต่ละที่นิดหน่อยค่ะ)

      เวลาประมาน 12.30 ก็มาถึงที่พัก หมวยพักที่ โรงแรมบุรี ธาราค่ะ จองผ่าน booking.com พักที่นี่ 2 คืนเลยค่ะ (เข้าพักวันที่ 14-16 กรกฎาคม 2560) พนักงานยิ้มแย้ม ต้อนรับดูแลเป็นอย่างดีค่ะ มี welcome drink

    เป็นน้ำสับปะรด (ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลยค่ะ) เนื่องจากไปถึงโรงแรมก่อนเวลาเช็คอิน (เวลาเช็คอินคือ 14.00 น.)  พนักงานแจ้งว่าห้องยังไม่เรียบร้อย กำลังทำความสะอาด ต้องรอประมานครึ่งชั่วโมง

    หมวยเลยฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม และออกไปเดินเล่นสำรวจบริเวณรอบๆ โรงแรมค่ะ

    ใกล้ๆ โรงแรมมี 7-11 ด้วย สบายแล้วงานนี้ ประมานบ่ายโมงกว่า ก็กลับมาโรงแรม รับกุญแจและเข้าห้องพัก

    พี่พนักงาน(ผู้ชาย) ยกกระเป๋าและพาไปห้องพักด้วยค่ะ (บริการดีมากๆ สุดยอดดดดด)

    โรงแรมมี 5 ชั้นค่ะ ห้องหมวยอยู่ที่ชั้น 4 ที่โรงแรมมีลิฟท์ค่ะ ดีงามมม  

    เข้าห้องมาความรู้สึกแรกคือ ห้องใหญ่ดีจังโอเคมากๆ เลย ด้านนอกมีระเบียง สวยดูดีตามรูปที่ดูจากเว็บเลย

    ให้คะแนน 9/10 เลยค่ะ โดนหักคะแนนตรงที่ไม่มีรองเท้า slipper สำหรับใส่ในห้อง

    ไม่มีชุดคลุม (ไว้ใส่เวลาลงไปสระว่ายน้ำ)  ที่ระเบียงไม่มีราวตากผ้า (ต้องตากบนเก้าอี้แทนค่ะ)

    และข้อสุดท้ายสัณญาณ wifi ตอนกลางคืนจะใช้ไม่ค่อยได้เลยค่ะ (ช่วงที่แขกน่าจะอยู่ห้องกันหมด) 

     

    มาในส่วนการเดินทางของน้องสาวกันบ้างค่ะ น้องนั่งรถตู้จากหาดใหญ่ ค่ารถคนละ 230 บาท / เที่ยวค่ะ 

    ใช้เวลาเดินทางประมาน 4 ชม. รถจอดส่งน้องสาวริมถนนด้านหน้าทางเข้าบขส. จ.กระบี่ค่ะ (จุดสีแดงในรูปค่ะ) 

    ซึ่งเราสามารถยืนรอขึ้นรถสองแถวไปอ่าวนางได้ตรงนี้เลย ระยะทางจากบขส. จ.กระบี่ มาที่อ่าวนาง

    ประมาน 20 กิโลเมตรค่ะ ค่ารถคนละ 60 บาท / เที่ยว แต่เนื่องด้วยรถสองแถว จอดรับ-ส่งผู้โดยสารตลอดทาง

    ทำให้ใช้เวลาเดินทางประมาน 1 ชม. ค่ะ (นั่งกันไปยาวๆ) น้องสาวมาถึงบขส. จ.กระบี่ ประมานบ่ายสี่โมงครึ่ง

    (วันนั้นฝนตกตั้งแต่ช่วงประมานบ่าย 3 จนถึงประมาน 1 ทุ่มเลยค่ะ) ประมานเกือบๆ หกโมงเยนก็มาถึงที่พักค่ะ

    (หมวยนั่งรถสองแถวจากอ่าวนางไปรับน้องสาวที่บขส. จ.กระบี่ และก็กลับรถสองแถวเหมือนเดิมค่ะ)

    หลังจากพักผ่อนก็ได้เวลาออกหาของกิน 555 มื้อเย็นวันนี้เรา 2 คนฝากท้องที่ร้าน Kodam Kitchen

    อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม เดินไปได้ค่ะ (หมวยหาร้านอาหารจาก Wongnai และ tripadvisor)

    ร้านอยู่ในซอยลึกพอสมควรเลยค่ะ ทางเดินก็มืดๆ ดูลึกลับมากๆ 555 ตอนแรกหาร้านไม่เจอค่ะ

    เลยโทรหาที่ร้านถามทางเค้า และก็เดินไปจนเจอร้านค่ะ

    (วันนั้นที่ไปกินมีแต่ลูกค้าชาวต่างชาติ / คนไทยมีแค่หมวยกับน้องสาวแค่ 2 คน)

    เมนูที่สั่งคือ กุ้งย่าง แกงเขียวหวานไก่ และข้าวผัดปลาหมึก อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ มื้อนี้จ่ายไป 600 บาท

    (ราคาแอบแพงนิดนึง เรทขายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ) หลังจากนั้นเราก็แวะ 7-11 เพื่อซื้อของไว้กินพรุ่งนี้เช้า

    เพราะจองโรงแรมแบบไม่รวมอาหารเช้าไว้  หรือถ้าอยากทานอาหารเช้าที่โรงแรม

    สามารถจ่ายเงินที่หน้าห้องอาหารได้เลยค่ะ คนละ 200 บาท

    จบแล้ว... สำหรับวันที่ 1 ::Good night::

    • โพสต์-3
    Jit-amorn •  กรกฎาคม 22 , 2560

    Day 2 : 1-Day Trip Phi Phi Island

    มาต่อกันสำหรับวันที่ 2 ค่ะ (15 กรกฎาคม 2560) วันนี้หมวยจองทัวร์ไปหมู่เกาะพีพีค่ะ

    และนี่ก็เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันสำหรับการไปเที่ยวหมู่เกาะพีพีในครั้งนี้

    ก่อนวันไปทัวร์ 1 วัน เจ้าหน้าที่บริษัททัวร์ที่หมวยจองไว้ ได้โทรมาคอนเฟิร์มและนัดเวลาที่รถจะมารับที่โรงแรมแล้ว

    เมื่อถึงวันไปทัวร์ รถก็มารับตรงเวลาเลยค่ะ 8.30 น. แล้วเราก็นั่งรถตู้ไปรวมกันที่หาดนพรัตน์ธารา

    ไปถึงเจ้าหน้าที่ก็จะแบ่งลูกทัวร์ออกเป็นกลุ่มๆ ตามรายการทัวร์ที่จองไว้

    เมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้ว ก็จะได้รับสายรัดข้อมือ (wrisband) จากนั้นไกด์ก็จะเรียกลูกทัวร์แต่ละกลุ่มรวมตัวกัน

    หลังจากไกด์แนะนำตัว แจ้งรายละเอียด และข้อตกลงต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาไปขึ้นเรือกันแล้ว Let 's go !!!

    เนื่องจากไปช่วง Low season ช่วงหน้าฝน ก็ต้องทำใจเรื่องสภาพอากาศกันหน่อยค่ะ

    และวันนั้นลมค่อนข้างแรง คลื่นก็สูง แต่ไม่ถึงกับสูงมากค่ะ

    นั่งอยู่บนเรือสปีดโบ๊ทก็ตื่นเต้นหวาดเสียวตลอดทั้งทริปเลยค่ะ (แนะนำควรกินยาเมาเรือดักไว้ก่อนดีกว่าค่ะ)

    หลังจากผ่านคลื่นลมแรงกันมาสักพัก ประมาน 45 นาที เรือก็จอดที่จุดแรกคือ เกาะไผ่

    ลงจากเรือ เดินเล่น ถ่ายรูป เล่นน้ำกันตามอัธยาศัย น้ำทะเลใสมากๆ สีฟ้าสวยสุดๆ เลยค่ะ

    พอขึ้นเรือมาไกด์ก็ได้ประกาศว่า วันนี้คลื่นลมค่อนข้างแรงทำให้ไม่สามารถไปอ่าวมาหยาได้ค่ะ

    ( เสียใจร้องไห้หนักมาก T-T ) และก็ออกเดินทางไปจุดที่ 2 คือ ถ้ำไวกิ้งค่ะ 

    ภายในถ้ำไวกิ้งเป็นสัมปทานรังนกค่ะ เรือจะจอดให้ถ่ายรูปประมาน 5 นาที

    หลังจากนั้นเราก็ไปชมความงามของพีพีเลกันค่ะ จุดนี้ไกด์ให้ลงไปเล่นน้ำ 15 นาทีค่ะ

    หมวยกับน้องไม่ได้ลงเล่นน้ำ ถ่ายรูปกันอยู่บนเรือค่ะ จากนั้นเรือก็ขับไปจอดอีกจุดที่ 3 อยู่ใกล้ๆ กัน คือเกาะลิง

    จุดนี้ก็แวะให้ดูลิง และถ่ายรูปเฉยๆ ค่ะ

    (รูปที่ถ่ายมามองไม่ค่อยเห็นลิงเลยค่ะ ใช้มือถือถ่าย ขออนุญาตไม่ลงรูปนะคะ)

    จากนั้นเรือก็ไปจอดจุดที่ 5 เพื่อดำน้ำค่ะ จุดนี้ก็อยู่ในบริเวณของพีพีเลนะคะ ต้องขออภัยทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วยจริงๆ ค่ะ

    ไม่มีรูปใต้น้ำ หรือปะการังเลยค่ะ เนื่องจากไม่มีกล้องที่ถ่ายใต้น้ำได้ T-T

    กระแสน้ำค่อนข้างแรง ทำให้น้ำขุ่น ปะการังที่นี่ถูกคลื่นสึนามิทำลายไปเกือบหมดค่ะ เสียดายมากๆ

    กว่าจะกลับมาสวยงามเหมือนเดิมก็คงต้องใช้เวลานานมากๆ เลยค่ะ

    หลังจากดำน้ำเสร็จไกด์ก็พาพวกเราไปที่เกาะพีพีดอน เพื่อรับประทานอาหารเที่ยงกันค่ะ 

    ทัวร์จัดมื้อเที่ยงให้เป็นแบบบุฟเฟ่เลยค่ะ หมวยกับน้องสาวจัดเต็ม อิ่มและอร่อยมากๆ เลยค่ะ : )

    มาถึงเกาะพีพีดอนประมานบ่ายโมง กินข้าว พักผ่อนอยู่ที่นี่ 1 ชม. ค่ะ ไกด์นัดเวลาขึ้นเรือบ่าย 2 โมงตรง

    แล้วเราก็เดินทางไปจุดสุดท้ายของทัวร์วันนี้แล้วค่ะ เป็นจุดดำน้ำอีกจุดนึง (ไม่มีรูปอีกเหมือนเดิม)

    ปะการังก็เหมือนกับจุดแรกค่ะ โดนคลื่นสึนามิทำลายไปเกือบหมด เสียใจๆ แล้วเราก็นั่งเรือกลับกัน

    มาถึงที่หาดนพรัตน์ธาราประมานบ่าย 4 โมงเย็นค่ะ รถที่จะไปส่งพวกเราที่โรงแรมก็มารออยู่แล้วค่ะ

    กลับถึงโรงแรมอาบน้ำเสร็จก็สลบกันทั้ง 2 คนเลย 5555 แล้วก็ตื่นไปหาอะไรกินกันตอน 2 ทุ่มค่ะ

    วันนี้ไปกินร้านที่แพลนไว้ก่อนแล้ว (พี่ที่ทำงานแนะนำมาค่ะ) จากที่พักต้องนั่งวินไปค่ะ

    วินที่นี่จะเป็นรถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง แปลกและเก๋ดีค่ะ ราคาเอาเรื่องอยู่นะคะ

    จากที่พักไปครัวธาราระยะทาง 2.3 กิโลเมตร คิดราคาคนละ 50 บาท 2 คน โดนค่ารถไป-กลับ 200 บาทเลย

    แต่ถือว่าคุ้มค่ารถค่ะ เพราะอาหารร้านนี้อร่อยมากกกกก และด้วยความที่ทั้ง 2 คนเหนื่อยและหิวมากๆ 

    เราสองคนสั่งมาทั้งหมด 5 อย่างค่ะ ดังนี้ หอยนางรมจัดมา 3 ตัว ตามมาด้วยหอยชักตีน

    อีกหนึ่งเมนูหอยคือ หอยแมลงภู่อบชีส แล้วก็หมึกไข่นึ่งมะนาว เมนูสุดท้ายคือ แกงส้มกุ้งยอดมะพร้าว

    อาหารที่สั่งมาทั้งหมดอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ หอยนางรมตัวไม่ใหญ่มาก แต่สดหวานอร่อยมากๆ ค่ะ

    หอยชักตีนก็อร่อยมากๆ ต่อมาก็หอยแมลงภู่อบชีส เมนูนี้เค้าทำอร่อยมากจริงๆ ค่ะ เลิฟเลย

    แกงส้มกุ้งยอดมะพร้าว รสชาติที่คุ้นเคยเผ็ดเปรี้ยวกำลังดี ฟินนนนน

    และสุดท้ายเมนูโปรดของหมวยเลย หมึกนึ่งมะนาว หมึกตัวเล็กไปหน่อยค่ะ แต่รสชาติอร่อย

    อิ่ม อร่อย มีความสุข จบแล้วสำหรับวันที่ 2 :: Good Night ::

     

    • โพสต์-4
    Jit-amorn •  กรกฎาคม 23 , 2560

    Day 3 : Chilling @Ao-Nang

    วันที่ 3 และวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว เวลาแห่งความสุขช่างผ่านไปเร็วจริงๆ

    แพลนสำหรับวันนี้ ตั้งนาฬิกาปลุก 8 โมงเช้า ลงไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำกันค่ะ

    ที่โรงแรมมีผ้าขนหนูให้ยืมฟรีค่ะ แต่ต้องวางเงินมัดจำ 100 บาท / ผืนค่ะ

    สระว่ายน้ำของโรงแรมระดับความลึกเริ่มต้นที่ 1.2 เมตรค่ะ ระดับที่ลึกสุดอยู่ที่ 1.7 เมตรค่ะ

    สระว่ายน้ำโรงแรมสวยและสะอาดดีค่ะ ไปตอนเช้ายังไม่มีคนมาเล่นกันเลย 

    จากนั้นก็กลับห้องอาบน้ำแต่งตัว เก็บกระเป๋า แล้วก็เช็คเอ้าท์ค่ะ 

    เที่ยงแล้ว หิวอีกแล้ว ไปหาอะไรกินกันดีกว่า เราสองคนเอากระเป๋าฝากไว้ที่โรงแรม และก็เดินไปถนนเลียบชายหาด

    ก็มาเจอร้านริมทางเป็นร้านอิสลามค่ะ (สงสัยจะหิวมาก ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารที่ร้านนี้ไว้เลยค่ะ ขอโทษทุกคนด้วยนะคะ)

    เมนูที่สั่งก็มี ส้มตำปูปลาร้า ปลาทอดยำมะม่วง กุ้งทอดกระเทียม ต้มยำทะเล รสชาติโอเคเลยค่ะ ค่าเสียหาย 510 บาท

    หลังจากที่ท้องอิ่ม สติก็เริ่มมาค่ะ ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้โทรจองรถตู้ขากลับให้น้องสาว รีบหานามบัตร เบอร์โทรฯ ด่วนๆ

    สรุปจองรอบสุดท้ายค่ะ จากกระบี่ไปหาดใหญ่รอบสุดท้ายเวลา 5 โมงเย็น

    จองรถเรียบร้อยแล้ว สบายใจแระ เราสองคนตัดสินใจไปนั่งเล่นที่ร้าน Owl Coffee by Srisuksant Resort

    ร้านจะอยู่ด้านหน้าโรงแรมศรีสุขสันต์ ริมถนนเลียบชายหาดนพรัตน์ธาราค่ะ ร้านสวยน่ารัก บรรยากาศน่านั่งมากๆ ค่ะ

    พวกเราสั่งไอศครีมมากินคนละ 1 ลูก รสมะพร้าว กับรสบลูเบอรี่โยเกิร์ตค่ะ และก็สั่งเครื่องดื่มคนละแก้ว

    ทั้งหมด 340 บาทค่ะ

    ที่ร้านไม่มีที่ชาร์จแบตค่ะ เราสองคนก็เลยกลับไปชาร์จแบต และก็นั่งรอเวลาขึ้นรถกลับกันที่ Lobby ของโรงแรม

    บ่าย 3 โมงครึ่งน้องสาวก็ขึ้นรถสองแถวไปที่บขส. จ.กระบี่ค่ะ ไปถึงที่บขส. ก็ 4 โมงครึ่ง

    ทันเวลาพอดีกับรถที่จองไว้รอบ 5 โมงเย็นค่ะ 

    ส่วนหมวยเดินไปจองรถตู้แบบ join เหมือนที่มาจากสนามบินที่เค้าท์เตอร์ขายทัวร์ใกล้ๆ โรงแรมมีหลายโต๊ะเลยค่ะ

    ราคาก็เหมือนเดิม 150 บาท เค้าจะถามว่าพักที่ไหน รถจะไปรับที่โรงแรมเลยค่ะ แล้วหมวยก็นั่งเล่นรอเวลารถมารับ

    เวลาผ่านไป และแล้วก็ห้าโมงเย็น รถมารับตรงเวลาเป๊ะเลย ขากลับมีผู้โดยสารรวมหมวยด้วยแค่ 4 คนค่ะ

    ใช้เวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น มาถึงสนามบินด้วยความรวดเร็ว ขากลับหมวยจองตั๋วของสายการบินไทยสไมล์ค่ะ

    เที่ยวบินที่ WE 248 ออกจากสนามบินกระบี่เวลา 20.40 ถึงกรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 21.30

    หลังจากเช็คอินเสร็จแล้วก็หาอะไรรองท้องหน่อย และก็ซื้อโปสการ์ดเขียนส่งให้ตัวเองเป็นที่ระลึกค่ะ

    จบแล้วนะคะ สำหรับการเขียนรีวิวทริปครั้งแรกของหมวย ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

    ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านนะคะ 

     

    You don't always need a  plan.

    Somtimes you just need to breathe, trust, let go and see what happens. 

    • โพสต์-5
    Jit-amorn •  กรกฎาคม 26 , 2560

    เพิ่มเติม สรุปค่าใช้จ่ายค่ะ

    เพิ่มเติมสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้ค่ะ

    ปล. ไม่รวมค่าอาหารเนอะ 

    1) ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพฯ - กระบี่ 1,290

    2) ตั๋วเครื่องบิน กระบี่ - กรุงเทพฯ 1,550

    3) ค่ารถตู้ หาดใหญ่ - กระบี่ 460

    4) ค่าโรงแรมบุรี ธารา (2 คืน) 1,962

    5) 1-Day Phi Phi Island Tour 2,000

    6) ค่ารถ Join Airport Taxi (ไป-กลับ) 300

    7) ค่ารถสองแถว บขส. - อ่าวนาง 240

     

    ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 7,802 บาท 

    ค่าใช้จ่าย (ต่อคน) ของหมวยเดินทางจากกรุงเทพฯ 5,091 บาท

    ค่าใช้จ่าย (ต่อคน) ของน้องสาวเดินทางจากหาดใหญ่ 2,711 บาท

     

    สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

    สอบถามได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคำถามค่ะ

    ขอบคุณค่ะ