เที่ยวกรุงเทพ(ที่เด็กชานเมืองอย่างเราเรียกว่าในเมือง)ก็เฟี้ยวได้ อิอิ

ก่อนจะไปถึงเอเชียทีค เรามาแวะที่โคเรียนทาวน์กันก่อน สุขุมวิท12 ศูนย์รวมอาหารเกาหลีแท้ๆเจ้าของร้านที่เราไปทานยังเป็นอาจุมม่าเกาหลีแท้ๆเลย อิอิ
เราเลือกที่จะกินปิ้งย่างแบบบุฟเฟต์ ไม่รู้ว่าคุ้มมั๊ยแต่ชอบตรงเครื่องเคียงเยอะมาก เหมือนในซีรี่ย์เลย (ยอมรับเลยว่าเราติ่งเกาหลีฝุดๆฮ่าๆ) อร่อยนะคะเรามาทานร้านนี้4-5ครั้งได้แล้วบริการดีเปลี่ยนตะแกรงปิ้งให้ตลอดเลย แต่พิซซ่าเกาหลีที่เห็นกลมๆถาดใหญ่ๆเลี่ยนไปนิดนึง เหมือนส่วนประกอบจะมีแค่ ไข่ ผัก แป้ง รสชาติเหมือนไข่เจียวทั่วๆไปค่ะอันนี้ไม่เคยลอง ครั้งนี้ลองดูเลย คิดกับเพื่อนว่าเอิ่มกินปิ้งย่างแบบเดิมอ่ะดีล่ะเนอะไรงี้ >///<"พอทานกันอิ่มเรียบร้อยแล้วเราก็หาทางมาเอเชียทีคโดยนั่งเรือมาคะเรือข้ามฝั่งมาเอเชียทีคถ้าจำไม่ผิด ฟรีนะคะ แต่ประเด็นคือว่าเรารีบมากันทำไมแดดยังร้อนมากถึงมากที่สุดค่ะ ระหว่างนั่งร้อนเราก็เก็บภาพไปเรื่อยๆเรือสั่นแรงค่ะภาพเลยสั่นตาม อิอิมาถึงเอเชียทีคกันแล้วววววว จากที่บอกคืออากาศร้อนมาวิธีเดียวที่ทำได้คือหาร้านนั่งแอร์เย็นๆแล้วเราก็เดินมาเจอร้านไอติมสุดอร่อยพอดีค่ะ แต่ราคาก็ใช้ได้เลย แต่ถ้าเทียบกับการนั่งรอเวลาให้พระอาทิตย์ตกและรสชาติไอดิมที่อร่อยแล้วถือว่ายอมรับได้ค่ะ
พระอาทิตย์เริ่มตกแล้วแสงแบบนี้ชวนนึกถึงอารมณ์เหงาๆกันมั๊ยคะแสงตอนนี้คือสวยมากค่ะชอบมากริมแม่น้ำ โรแมนติกสุดๆ >3<"และแล้วเราก็ซ้อบัตรขึ้นชิงช้าสวรรค์ค่ะจำได้ว่าวนประมาณ5รอบได้ค่ะถือว่าคุ้มกับราคามากๆมุมสูงมองไปทางไหนก็สวยคะพระอาทิตย์ยังไม่ตกดีเพิ่มบรรยากาศให้ดีเข้าไปใหญ่เลยเริ่มมืดแล้วค่ะถึงเวลาเดินถ่ายรูปอย่างเต็มที่หันไปทางไหนก็ถ่ายได้แสงสวยมากๆ เราชอบมากเลยค่ะทุกชีวิตดูมีสีสันและดูผ่อนคลายมากๆหอนาฬิการอรักรึเปล่าไม่แน่ใจนะคะ โซนนี้ก็เป็นที่นิยมในการถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวอย่างมากค่ะเดินกันจนเหนื่อยและดึกมากแล้วถึงเวลาต้องกลับแล้วนะคะ ต้องนั่งเรือข้ามฝั่งกลับไปอีกค่ะแต่คราวนี้เต็มใจนั่งมากเพราะบรรยากาศดีและวิวสวยมากแสงสีของไฟที่ใช้ตกแต่งประดับตึกบ้านเรือนร้านค้าต่างๆที่อยู่ริมแม่น้ำสว่างไสวและสวยมากจริงๆค่ะถ้าชอบเที่ยวกรุงเทพอย่าอยู่แต่ในห้างสรรพสินค้ากันเลยนะคะ ลองหยิบกล้องถ่ายรูปสักหนึ่งเครื่องออกมาถ่ายภาพเก็บบรรยากาศกรุงเทพในยามราตรีกันดูบ้าง รับรองว่าจะติดใจค่ะ แถมยังได้รูปถ่ายกลับไปเป็นความทรงจำด้วยน้า^^