วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสถานที่แฮงค์เอ้าท์สุดคลาสสิคที่ความน่าสนใจ และไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ "ความเก่า" ซึ่งเก่าในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสภาพของสถานที่นะครับ แต่เป็นบรรยากาศ และการตกแต่ง ที่เรียกได้ว่าเหมือนเราได้ย้อนกลับไปในยุค 90's ซึ่งเป็นยุคก่อนการเปลี่ยนแปลงอารยธรรมครั้งใหญ่ขนาดนั้นเลยก็ว่าได้ โดยสถานที่แห่งนี้เราไม่จำเป็นต้องนั่งไทม์แมชชีนไปครับ จะนั่งแท็กซี่ นั่งรถเมล หรือขับรถมาเองก็ได้ หาง่ายเพราะอยู่ริมถนนพหลโยธิน ตรงข้ามกับกรมทหารราบที่ 11 นี่เอง และสถานที่ที่เราเกริ่นมาทั้งหมดนี้ก็คือ "บ้านบางเขน" ซึ่งหากทุกคนพร้อมจะย้อนเวลาไปกับเราแล้วก็ตามมาได้เลยครับ
บ้านบางเขน เปิดให้เข้าชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในโซนร้านค้า และคาเฟ่ จะเปิดบริการตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงประมาณตีสองของทุกวัน หากใครกลัวว่าจะมาไม่ถูกไม่ต้องกลัวครับ ใช้เส้นทางถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปทางรังสิต ซึ่งจะผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีปทุมไปก่อน ขับต่ออีกหน่อยก็จะเห็นป้ายบ้านบางเขนโดดเด่นอยู่ริมถนนฝั่งซ้ายมือ ซึ่งหากใครนำรถมาเองที่นี่ก็มีลานจอดรถไว้ให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่จำนวนที่จอดรถก็ค่อนข้างจำกัดอยู่เหมือนกันครับ
เมื่อเข้ามาแล้วเราจะเจอโซนแรกซึ่งอยู่ด้านหน้าติดริมถนนเลย นั่นก็คือโซนร้านค้า ร้านอาหาร (ด้านนอก) ที่อยู่ภายในอาคารไม้ 2 ชั้นสุดคลาสสิค ที่นี่มีทั้งอาหารคาว และหวานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผัดไทยโบราณ ก๋วยเตี๋ยวเรือ ส้มตำ ขนมเบื้องญวณ อาหารปักใต้ ลูกชิ้นปิง ขนมปังสังขยา ชาชัก บ้าบิ่น และอีกมากมายหลายเมนูชวนหิว เรียกได้ว่ายังไม่ทันจะเข้าไปข้างในก็แทบจะพุงแตกกันตรงด้านนอกนี้แล้ว หลังจากอิ่มอร่อยกันจนเต็มที่เราก็เคลื่อนตัวเข้าไปด้านในกันต่อ ซึ่งเราจะต้องซื้อคูปองคนละ 20 บาท เป็นค่าเข้าสถานที่ โดยคูปองนี้ สามารถนำไปแลกน้ำดื่มได้ 1 ขวด หรือสามารถใช้เป็นส่วนลด 20 บาทสำหรับซื้ออาหาร เครื่องดื่ม หรือขนมด้านในได้ภายใน บ้านบางเขน ก็จะถูกแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ซึ่งโซนแรกที่เราจะพาเข้าชมในครั้งนี้คือ บ้านพ่อหลวง ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นที่เก็บรวบรวมเรื่องราวของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 ไว้ให้หายคิดถึงมากมาย ทั้งเหรียญที่ระลึก ธนบัตรรุ่นต่าง ๆ รวมไปถึงภาพพระบรมฉายาลักษณ์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ และในขณะทรงพระราชกรณียกิจต่าง ๆ แค่โซนแรกก็ทำให้เราได้รับความสุขเข้ามาหัวใจไม่น้อยเลยก็ว่าได้
หลังจากที่เราใช้เวลาซักพักใหญ่ ๆ ในบ้านพ่อหลวง เราก็เดินข้ามฝั่งมาแค่เล็กน้อย ก็จะเจอกับ พิพิธภัณฑ์โค้ก ที่รวบรวมสินค้า และผลิตภัณฑ์ของโค้กตั้งแต่ยุคเก่า จนถึงปัจจุบัน ซึ่งต้องบอกว่าบางชิ้นหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว และหลาย ๆ ที่ก็ทำให้เราตื่นเต้นเพราะไม่ได้เห็นมานานมาก ๆ แล้วนั่นเอง
นอกจากนี้ก็ยังมีโซนอื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น โซนตลาดเก่า บ้านพระเครื่อง มุมอ่านหนังสือ และลานกิจกรรม ซึ่งแต่ละโซนแต่ละมุมก็ล้วนแต่ทำให้เราหวนคิดถึงอดีตเมื่อยุค 90's ไม่ว่าจะไปตรงไหนก็อดที่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บไว้ไม่ได้ อีกทั้งหลาย ๆ จุดยังมีภาพวาดฝาผนังอาร์ต ๆ ให้เราได้ใส่ไอเดียถ่ายรูปอวดเพื่อน ๆ ผ่านโซเชียลมีเดียกันได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
เดินเล่นถ่ายรูปกันจนเพลิน รู้ตัวอีกทีเหมือนว่าอาหารมื้อก่อนหน้านี้จะเริ่มย่อยกันหมดแล้ว หากใครมาที่นี่แล้วแนะนำให้แวะเข้ามาที่ คาเฟ่บ้านบางเขน ด้วยนะครับ เพราะที่นี่นอกจากจะมีเครื่องดื่ม และขนมหวานไว้เติมพลังงานมากมายแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดนั่งชิลอย่างดี หรือจะมาแฮงค์เอาท์กันตรงนี้ก็เรียกได้ว่าเหมาะหมาก เพราะมีมุมน่านั่งให้เลือกมากมาย และแอร์ก็เย็นฉ่ำสบายมากอีกด้วย และที่โดนใจสุด ๆ คือการตกแต่งภายในร้านที่เต็มไปด้วยงานศิลปะ ไอเดีย และของสะสมหายากตั้งแต่ชิ้นเล็ก ๆ ไปจนถึงชิ้นใหญ่ ๆ กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าใครชอบสะสมของเก่าคงจะสามารถอยู่ในนี้ได้ทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ บ้านบางเขน สถานที่สุดชิคที่หวนให้เราคิดถึงความหลังเมื่อครั้งยุค 90's ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว หรือแหล่งรวมร้านอาหารสไตล์ย้อนยุคเท่านั้นนะครับ แต่สำหรับผมที่นี่คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีต ผมแอบเห็นคุณตา คุณยาย พากันมาเดินเล่นที่นี่ด้วยครับเป็นภาพที่น่ารักมาก ๆ และผมเชื่อว่าไม่ว่าจะวัยไหน ก็จะสามารถตื่นเต้น และสนุกไปกับสถานที่แห่งนี้ได้เหมือนกัน