ใครๆ บอก...เที่ยว 'ภูเก็ต' ยังไงก็ไม่หลง เพราะแทบจะทุกสถานที่เขามีรีวิวตั้งต้น จีพีเอสชี้เส้นทาง ให้เราได้เตรียมตัวกันแต่เนิ่นๆ ทั้งนั้น แต่ทริปนี้ต่างออกไป เพราะเราจะ skip ที่ที่ใครๆ เขาก็ไปกัน ฉีกกฎการตามเช็คอินจากรีวิวคนอื่นดูสักครั้ง เราจะออกนอกตัวเมือง จาก 'ภูเก็ตทาวน์' มุ่งหน้าไปยัง 'ป่าคลอก' โซนพื้นที่สีเขียว [ที่สุด] ของเกาะภูเก็ตกันค่ะ 

รอบนี้อาจจะ 'หลง' เพราะที่ที่เราจะไป ดูจะยังเป็น New Destination ที่กระทั่งคนพื้นที่บางคนยังไม่รู้จัก แต่เอาน่ะ! บอกเลยว่าไม่ท้อ ถ้าอยากได้ฟิวล์ใหม่ๆ แบบไม่เหมือนใครก็ตามมาทางนี้เลยจ๊ะ 

วันนี้ เราขออาสา...พา 'เธอ' ไป 'หลง' เกาะภูเก็ตด้วยกันสักรอบนะ 

หลายคนคงจะเบื่อบ้านกันแล้วล่ะเนอะ เราก็ด้วย เพราะตั้งแต่โควิทออกฤทธิ์ใครหลายคนต่างก็ต้องเปลี่ยนมาเป็น Work from Home ต้องชงกาแฟซองแบบเดิมๆ ดื่มทุกวัน นั่งหงอยๆ เหงาๆ ในห้องสี่เหลี่ยมลำพัง แล้วยังต้องกลายมาเป็นเชฟจำเป็นโดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย 

'เธอ' คิด...เหมือนกันไหม ? 

อยากออกเดินทาง เปลี่ยนรสชาติกาแฟ เปลี่ยนวิวหน้าต่างเดิมๆ ไปนั่งชิวล์ที่ไหนสักแห่ง...สักที 

Check in... Paklok!

'ภูเก็ต' ก็มี...ป่านะเออ พื้นที่เขียวๆ บริเวณนี้ก็คือ อุทยานแห่งชาติเขาพระแทว ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่า พรรณไม้ใหญ่น้อย พืช และสัตว์ป่าที่หายากอีกหลายชนิด และยังเป็นต้นน้ำของน้ำตกหนึ่งในสามที่สวยที่สุดบนเกาะภูเก็ตอีกด้วย 

ที่นี่ 'ป่าคลอก' เป็นตำบลไม่เล็กซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ฟังคำบอกเล่าแล้วไม่คุ้นหูเท่าไหร่ ยังนึกไม่ออกเลยว่ามาแล้วจะเจออะไรที่นี่ แต่ถ้าเป็นป่าตอง กะตะ กะรน ล่ะก็...คุ้นมาก ก็ที่นั่นเขามีชายหาดขึ้นชื่อ มีซีนพระอาทิตย์ตกสุดโรม้านซ์ และวิวสามอ่าวสุดฟินนั่นอีก 

แล้ว 'ฉัน' มาทำอะไรที่นี่ ? 

อาสา...พา 'เธอ' ไป 'หลง' 

ถ้าเริ่มต้นจากสนามบินให้เรียกพี่ Grap หรือรถแท็กซี่แถวนั้นได้เลยจ๊ะ คนขับขับง่ายๆ ประมาณยี่สิบนาทีถึง แต่ถ้าเดินทางมาจากภูเก็ตทาวน์ก็ไม่ยากเลย เมื่อขับมาเจออนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีย์ ท้าวศรีสุนทร (ท่าเรือ) ให้วนขวา แล้วขับตรงไปเรื่อยๆ ก็ถึงที่หมายของเรา 'ป่าคลอก หลักกิโลเมตรที่ 7' ค่ะ 

ดูจีพีเอสเห็นว่าถูกที่ก็ลงได้เลย ตรงนี้เป็นลานจอดรถกว้างๆ ที่พอส่องไปทางด้านหลังจะเห็นว่ามีคาเฟ่ซ่อนตัวอยู่ในหลืบ เห็นว่ายังพอมีเวลานั่งจิบเครื่องดื่มสักแก้ว เดี๋ยวเราแวะเข้าไปดูในร้านกันค่ะ 

ร้าน Booktree Library & Cafe'

บรรยากาศภายในร้านให้ความรู้สึก Warm Welcome ดีนะ ดีจนทำให้เราต้อง 'หลง' เข้าไปนั่งดูสักหน่อย ตัวร้านออกแบบได้คลุมโทน ให้อารมณ์สบายๆ สไตล์รีแลกซ์ ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ตัดกับสีจัดๆ ของสันหนังสือที่ถูกตั้งเรียงรายอยู่บนชั้น ดูลงตัว และเชิญชวนให้เราหยิบขึ้นมาอ่านเพลินๆ สักเล่ม...สองเล่ม 

มุมนั่ง มุมถ่ายรูปก็เยอะดี มีม้าโยก เปลเชือกและชิงช้าให้แกว่งเล่น เราชอบไอเดียของทางร้านที่มี Activity อื่นให้ทำ อย่าง...โต๊ะปิงปอง โต๊ะเกมส์ แถมด้วยตัวสแตมป์ลายน่ารักๆ วางรอให้เราลงมือครีเอทลวดลายบนการ์ดด้วยตัวเอง ข้างๆ มีเจ้าเหมียวนอนขี้เซา ให้กำลังใจ เอ...หรือว่าคอยป่วนก็ไม่รู้เหมือนกันนะ 

ดูๆ แล้ว ร้านนี้เป็นมากกว่า...คาเฟ่ ด้วยการผสมผสานความเป็นห้องสมุดเข้าไปได้อย่างลงตัว และนอกจากเครื่องดื่มแล้ว เขาก็มีอาหารให้บริการด้วย ผ่านมาทางป่าคลอกเมื่อไหร่ก็ลองแวะกันได้ค่ะ 

พิกัด 8.026621, 98.402228 

จากคาเฟ่ เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึง Meeting Point เป็นจุดนัดพบที่เราจะได้เริ่มต้นการเดินทางของวันนี้ ความพิเศษมันอยู่ที่ตรงนี้ล่ะ เพราะเราจะไปตามหาสถานที่ 'ลับ' ที่เรียกว่า 'ป่าภูเก็ต' กัน  

พิกัด https://goo.gl/maps/6txAvVw1biSLva46A (จุดนัดพบ) 

สถานที่ที่เราจะไป 'หลง' ต่อจากนี้ก็คือ 'ป่า' ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของศูนย์อนุรักษ์และพักพิงของช้างวัยเกษียณ ตำบลป่าคลอก จังหวัดภูเก็ต Phuket Elephant Sanctuary เป็นที่รู้จักของคนรักช้าง (จริงๆ) ในนามของ The First Ethical Elephant Sanctuary แห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดภูเก็ต 

เรียกสั้นๆ ว่า PES ก็ได้ค่ะ 

Facebook : Phuket Elephant Sanctuary (ดูข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่นี่เลยจ๊ะ)

ใครขับรถมาให้จอดรถไว้ที่ลานจอดได้เลย รับรองปลอดภัย ที่นี่เขามีบริการรับ-ส่งจากจุดนัดพบพาเราเข้าไปยังพื้นที่แบบส่วนตั้วส่วนตัว เราออกเดินทางอีกครั้ง (สิบนาทีได้) เปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นรถกระบะโฟว์วิว ที่ขับเรื่อยๆ หมายจะให้เราดื่มด่ำภาพข้างทาง 

จากย่านชุมชน สวนยาง สู่ 'บ้าน' ของเพื่อนตัวโต ที่เรียกว่า 'ช้าง'

ตามติดชีวิตช้าง...

คนชอบป่า ชอบเขา เครซี่ธรรมชาติอย่างเราก็ตาลุกวาวสิ นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นช้างอยู่กันตามธรรมชาติจริงๆ Phuket Elephant Sanctuary เป็นสถานที่ที่เปรียบเสมือน 'บ้านหลังสุดท้าย' ของช้าง ช้างทุกเชือกที่นี่จะได้รับการปลดโซ่และใช้ชีวิตอิสระ โดยปราศจากการบังคับให้ทำงานอย่างในอดีตที่ผ่านมา 

มันดีกว่าที่คิด... เมื่อได้เห็นช้างมีพื้นที่กว้างๆ ให้เดิน มีป่าเขียวๆ ล้อมรอบ ถ้าจะพูดว่า ณ เวลานี้เราได้เห็น 'ช้างชิวล์' จริงๆ ก็น่าจะใช่ พวกเขาดูเพลิดเพลินตอนเดินเลาะเล็มหญ้า ช้า...ช้า บ้างก็เหนี่ยวกิ่งไม้ บ้างก็กำลังเกลือกตัวกับดินโคลน มีอิสระแบบสุดๆ 

มันดีต่อ...หัวใจ (มาก) เมื่อได้รู้ว่าผู้ดูแลช้างที่นี่จะไม่ใช้อาวุธใดๆ กับช้าง แต่ทำหน้าที่หลักในการบำบัด ดูแลช้างทุกเชือกให้มีสุขภาพและมีคุณภาพชีวิตตามวิถีธรรมชาติให้มากที่สุด  

เราอยากใช้เวลาที่นี่นานๆ หน่อย วันนี้จึงเลือกทำกิจกรรมแบบเต็มวัน ที่ชื่อว่า In the Footsteps of Giants โปรแกรมชื่อย้าวยาว ที่มีคำอธิบายสั้นๆ ว่า...เราจะมาติดตามชีวิตช้างหนึ่งวันเต็มๆ กันค่ะ 

เมื่อเดินทางมาถึงแซงชัวรี่ เจ้าหน้าที่ทัวร์ไกด์จะพาเราไปที่จุดเปลี่ยนรองเท้า เก็บของในล็อคเกอร์กันก่อน ทางสถานที่จะเตรียมถุงเท้า รองเท้าบูทไว้พร้อม เพราะวันนี้เราจะทำกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์ เลอะนิดๆ เปียกหน่อยๆ กันค่ะ อ้อ นอกจากรองเท้าบูทแล้ว ยังมีสเปรย์กันยุง ร่ม และเสื้อกันฝนเตรียมไว้ให้อีกด้วย 

ใครจะมาเที่ยวหน้าฝนนี้ เตรียมแค่'ตัว' กับ 'ใจ' มาก็พอจ๊ะ 

ส่วนต้อนรับแขกที่เรียกว่า Tree Top Lounge กว้างขวาง ละลานตาไปด้วยเครื่องดื่ม ชากาแฟ ผลไม้และของว่างให้เลือกทานกันพอกรุบกริบ เอาจริงๆ อิ่มแหละ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในราคาโปรแกรมเรียบร้อยแล้วจ๊ะ 

จากนั้นทัวร์ไกด์จะเริ่มต้นด้วยการเตรียมความพร้อมเรื่องช้างให้เรากันก่อน ด้วยการเล่าถึงที่มา ผู้ก่อตั้งและคอนเซปต์ของโครงการ Phuket Elephant Sanctuary ด้วยวิดีโอ พร้อมกับบอกข้อแนะนำในการอยู่ในพื้นที่หรือ บ้านของช้าง อย่างปลอดภัยและรบกวนช้างให้น้อยที่สุด จากนั้นก็พาเราไปให้อาหารช้าง ที่มีทั้งกล้วย แตงโมและแตงกวากันค่ะ 

นาทีนี้ได้อยู่ใกล้ๆ และถ่ายภาพช้างแบบจุใจ โดยงดใช้แฟลชเพื่อถนอมรักษาดวงตาช้างกันนะจ๊ะ  

ภายในแซงชัวรี่กว้างถึงเจ็ดสิบไร่ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ เป็นร่มเงาให้ช้างได้หลบแดดฝน มีภูเขา มีธารน้ำตกเล็กๆ ไหลผ่าน ถ้าใครมองหาธรรมชาติ เราว่าที่นี่มีครบ!    

ทัวร์ไกด์ประจำตัวก็น่ารัก คอยให้ข้อมูล ตอบคำถามที่เราอยากรู้ทุก...เรื่อง พาเราเข้าไปสังเกตพฤติกรรมช้าง โดยรักษาระยะห่างเพื่อให้ช้างยังชิวล์ และไม่รู้สึกว่าถูกรบกวนค่ะ 

Check in... Thailand's Longest Canopy Walkway

เจ้าสะพานทางเดิน สีเทาๆ ยาวหกร้อยเมตรและสูงกว่าเจ็ดเมตรนี่แหละ ที่ถูกเรียกสั้นๆ ว่า PES Canopy Walkway เป็นสะพานทางเดินชมช้างและธรรมชาติมุมสูงที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของ Phuket Elephant Sanctuary นับเป็นไฮไลท์ของเรา ที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาถึงภูเก็ตค่ะ  

ยิ่งสูง...ยิ่งฟิน ใจมันก็จะหวิว...หวิวหน่อยตอนมองลงไปพื้นล่าง 

จากสะพาน Canopy Walkway ทำให้เราได้เห็นวิว ทิวทัศน์ของแซงชัวรี่ในมุมกว้างแบบ 360 องศา จากตรงนี้เห็นทั้งช้าง ป่าและภูเขา (อุทยานแห่งชาติเขาพระแทว) ที่ตอนนี้กลายเป็นฉากหลังสวยๆ ให้เราถ่ายรูปมุมใหม่แบบไม่เหมือนใครค่ะ    

เพิ่งจะผ่านความแอดเวนเจอร์ระดับแรก ด้วยการเดินยาวๆ ชมช้างชิวล์ๆ จากสะพาน Canopy Walkway ที่ระดับความสูงแตะยอดไม้มาหมาดๆ เดินเพลินๆ จนลืมเหนื่อยก็ถึงเวลาเบรกสำหรับมื้อกลางวัน ซึ่งรวมอยู่ในราคาโปรแกรมแล้ว 

อ้อ! ไม่ใช่มื้อเดียวนะ เขารวมมื้อเย็นให้ด้วยอีกมื้อจ๊ะ ดีงามไหมล่ะ 

อาหารที่นี่เขามีคอนเซปต์ ไม่ต้องรอถึงเทศกาลกินเจ เขาเสิร์ฟอาหารมังสวิรัติ ไม่มีเนื้อสัตว์ตลอดทั้งปีเลยจ้า คอนเซปต์ก็มาจากช้างที่นิยมกินพืช ผักและผลไม้ เมื่อมาเยี่ยมบ้านช้างก็ต้องกินแบบช้างไง ตอนแรกก็นึกว่าจะแย่ แต่เมื่อชิมคำแรกเท่านั้นล่ะ ที่เหลือ คือ...เกลี้ยง!   

หลังอาหารเที่ยงเรามีเวลานั่งเอนหลัง ตีพุงตรงศาลาริมน้ำ เมื่อถึงเวลา...ทัวร์ไกด์ก็แวะมาชวนเราไปเริ่มต้นกิจกรรมช่วงบ่าย ที่เรียกกันว่า Safari Walk กิจกรรมที่จะทำให้เราได้รู้จัก 'ช้าง' มากขึ้น 

ตื่นเต้นมากสิ เมื่อจะได้ติดตามรอยเท้าช้าง Footsteps of Giants เข้าป่า ไปดู ไปรู้ ไปให้เห็นว่า...ช้างมีพฤติกรรมอย่างไร พวกเขาอยู่กันอย่างไร กินอะไรและแบบไหน 

เมื่อพร้อมทัวร์ไกด์ก็พาเราเข้าป่าพร้อมด้วยตะกร้าคนละใบ เส้นทางที่ผ่านร่มรื่น เป็นป่า สวนผลไม้ และมีธารน้ำไหลผ่าน นำไปยังน้ำตกเล็กๆ ที่ได้รับอานิสงค์จากอุทยานฯ และมีพืชนานาชนิดขึ้นรายล้อมอยู่ตลอดทาง 

'ช้าง' เป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารได้เกือบทุกชนิด พืชชนิดไหนช้างชอบก็จะตัดใส่ตะกร้าไว้แล้วไปกันต่อ... 

เส้นทางเดินวันนี้ชื้นๆ ชุ่มฉ่ำ เมื่อต้องเดินฝ่าธารน้ำไปจนถึงน้ำตก อากาศกำลังสบาย ปลอดโปร่งดีจนอยากสูดเข้าไปตุนให้เต็มปอด โล่งหัว...เมื่อได้ยินเสียงนกแว่ว ใบไม้รวมตัวแกว่งไกว บรรยากาศคือ...ดี 

ระหว่างทางโชคดี! เจอเจ้ากิ้งก่าสีเขียวสวย ชวนให้ถ่ายรูปเก็บไว้ วันนี้อิ่มเอมไปกับธรรมชาติ (มากมาย) แล้วยังอิ่มใจที่ได้เก็บอาหารกลับไปฝากช้างกันด้วยค่ะ 

'ตามติดชีวิตช้าง' ในวันนี้ เป็นอะไรที่คุ้มและแฮปปี้มากนะ เราได้ประสบการณ์ใหม่ๆ แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน การเดินทางในวันนี้ ไม่ได้เป็นแค่กิจกรรมที่สร้างรายได้ให้กับสถานที่ แต่เป็นการสนับสนุนชีวิตความเป็นอยู่ อาหารและยาของช้างทางหนึ่ง ใครอยากท่องเที่ยววิถีธรรมชาติ และมาส่องช้างแบบเรา ก็ลองมาทำกิจกรรมที่นี่กันค่ะ 

สถานที่ Phuket Elephant Sanctuary 
100 หมู่ 2 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต  โทร. 076-529-099 

โปรแกรม In the Footsteps of Giants : 
One Day in the life of an Asian Elephant (9.30-17.00) 

เกือบจะหมดวันเต็มทีแล้วจ๊ะ เราเดินทางออกจาก PES ด้วยรถกระบะเช่นเดิม มาตั้งต้นที่จุดนัดพบ ในใจยังมีแพลนไปต่อกับเวลาอีกน้อยนิด เป็นการปิดท้ายทริปในวันนี้   


ที่นี่...น้ำตกบางแป หรือ Bang Pae Waterfall น้ำตกหนึ่งในสามแห่งบนเกาะภูเก็ต เป็นน้ำตกที่มีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นแอ่งชั้นทอดมาตามแนวเขาพระแทว น้ำแรง เล่นได้ และมีปาล์มหลังขาว ใบใหญ่ ซึ่งเป็นพันธุ์หายากขึ้นในบริเวณนี้ ภายในบริเวณน้ำตกยังเป็นที่ตั้งของ 'โครงการคืนชะนีสู่ป่า' สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาพระเเทวอีกด้วย 

ตอนที่เราไปถึงใกล้เวลาปิดเต็มทีแล้ว เมฆฝนเริ่มตั้งเค้า น่าเสียดายที่ครั้งนี้ไปไม่ถึงชั้นสูงสุด แต่เราก็ได้ฟิวล์ชื้นๆ ได้ยินเสียงน้ำซู่ๆ ปะทะโขดหิน เป็นภาพจำที่พาเรากลับมาที่นี่...อีกครั้ง  

พิกัด 8.040278, 98.391365 

การออกเดินทางแบบไม่ตามรีวิว เที่ยวไป...หลงไป วันนี้ก็ดีไปอีกแบบ เราเชื่อว่ายังมีอีกหลายที่ที่หลายคนยังไปไม่ถึง และทุกที่ล้วนมีเสน่ห์ในแบบฉบับของเขา ที่ 'ป่าคลอก' เองก็ยังมีสถานที่เที่ยว ทะเล คาเฟ่น่านั่งอีกหลายแห่งให้ไปเช็คอินเลยล่ะ มาเที่ยว 'ภูเก็ต' คราวหน้า ก็ลองแวะมากันค่ะ