ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
PIRATE CHAMBRE ห้องลับนี้มีแต่ความอร่อย Pirate Chambre : Chidlom
    • โพสต์-1
    365 •  พฤษภาคม 26 , 2560

    PIRATE CHAMBRE ห้องลับนี้มีแต่ความอร่อย

     

    ไปหาอะไรกินกันเถอะ!!!!

    เราจะพาไปบุกห้องลับ เปิดประสบการณ์กิน ให้บันเทิงลิ้นกันอีกครั้งค่ะ

     

    เรานัดกินมื้อกลางวันกับเพื่อนขากินซี้ปึ้กคนเดิม คราวนี้เลือกเอาร้านเก๋กลางชิดลมเลยจ้าาาาาา

    เที่ยงแล้วก็ดิ่งมาที่ “ตึกมณียา” ด้วยรถไฟฟ้า BTS เพราะสะดวกสุดๆ ออกจากสถานีชิดลมปุ๊ป ก็ถึงเลย!!!

     

    ความจริงเราเดินผ่านเข้าออกตึกนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่แทบจะไม่รู้เลยว่า มีขุมทรัพย์ความอร่อยซ่อนอยู่ตรงนี้ด้วย

     

     

    ถ้าเห็นหน้าร้านแว๊บแรก ก็จะคิดว่าเป็นแค่ร้านเบเกอรี่ค่ะ

    แต่พอเดินลงบันไดจากในร้านลงมาเท่านั้นแหละ

     

    ว๊าย ตั่ย ล้าวววววว!!!!! 

     

     

    นี่เราหลุดมาในหนัง Pirates of The Caribbean หรอคะ

    เคาน์เตอร์บาร์ตรงหน้ามันช่างเร้าใจ ชวนให้เข้าไปจิบเครื่องดื่ม ถือแก้วสวยๆ ซะจริง

     

     

    เดี๋ยวค่ะ......  ขอจัดมื้อกลางวันก่อนนะคะ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์รออีกแป๊บบบ

    เรื่องแบบนี้...ไม่มีพลาด!!!

    ^______^

     

    ลืมบอกไปว่า ห้องอาหาร “Pirate Chambre” แห่งนี้ เค้ามีคอนเซปต์ไม่ธรรมดาเลยนะคะ

    ถ้าหากมาช่วงกลางวัน (11:00 – 15:00 น.) อาหารในร้านจะเน้นสไตล์ “ไทย-อีสาน”

    รสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทย แต่รับรองว่าไม่ธรรมดาค่ะ ทุกเมนูมีความน่าสนใจ ทำน้ำลายสอ

    แถมยังเปลี่ยนเมนูใหม่ทุกๆ 4 เดือนอี๊ก!!! ต้องมาบ่อยแค่ไหนเนี่ยถึงจะกินครบทุกเมนู

     

    ส่วนช่วงมื้อค่ำ (17:00 – 24:00 น.) บรรยากาศในร้านจะ “Cool” เท่ได้อีกจ้าาาา

    เมนูมื้อค่ำจะเน้นสไตล์ “Western” เป็น Dinner สุดหรู ในขณะเดียวกันก็พร้อมให้ Hangout ต่อได้เลย

    เพราะจะมี Acoustic Live ทุกวันพุธ, พฤหัส, ศุกร์....​ เพลงดี บรรยากาศได้

    ไม่ต้องย้ายร้านไปไหนแล้วค่ะนั่งโยกเบาๆ จิบเครื่องดื่มไปยาวๆ ทั้งคืน อิอิ

     

    ....................................................................................................

     

    พอเราเปิดเมนูปุ๊ป......​ปัญหาใหญ่ก็ตามมาทันทีค่ะ

    มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกก (ก.ไก่ ล้านตัว)

    ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 นาทีแน่ๆ กว่าจะตัดใจเลือกได้

     

    เราเลยต้องขอตัวช่วยค่ะ....... “น้องคะ เมนูไหนดี เมนูไหนเด็ด ถ้าไม่กินถือว่าผิด!!!!!  จัดมาเลยค่ะ”

     

     

    ยกมาจานแรก “ไก่ย่างไพเรท” [360 บาท] เสิร์ฟมาพร้อม ข้าวเหนียว ส้มตำ ครบสูตรจ้าาาาา

    ไก่ย่างมีความพิเศษ ที่หมักมาด้วยสูตรลับเฉพาะ ย่างด้วยเตา Rotisserie ส่งตรงจากฝรั่งเศส หนังไก่กรอบ อร่อยกรุ๊บ

    กินคู่กับน้ำจิ้มก็ดี แกล้มกับส้มตำก็เริ่ดค่ะ

     

    /////////////////////

     

    จริงๆ แค่เมนูแรก ก็อิ่มพอดีท้องแล้ว วางช้อนปิดจ๊อบค่ะ!!

    เฮ้ยยย ไม่ใช่แล้ววววววว  นี่มันแค่เรียกน้ำย่อยเอง อิอิ

     

     

    จานต่อไป “ซี่โครงหมูย่างซอสมิโซะมัสตาร์ด” (Grilled Pork Rack with Mustard Miso) [390 บาท]

    ดูความฉ่ำของซี่โครงสิเธอ..... แค่ใช้ซ่อมจิ้มก็รู้เลยว่าเนื้อซี่โครงหมักจนนุ่มได้ที่

    สัมผัสแรก เนื้อหมูนุ่ม ตามมาด้วยกลิ่นหอมทั้งมิโซะและมัสตาร์ด แฝงมาด้วยกลิ่นน้ำผึ้งอีกนิด

    อร่อยหลายภาษาเลยค่ะ มีความเป็นญี่ปุ่น ผสมกับตะวันตก

    แล้วถ้ากินคู่กับหมั่นโถวที่เสิร์ฟมาคู่กัน ก็ได้ความเป็นจีนเพิ่มเข้าไปอีก Cross Culture มากๆ

     

    อ้อ น้ำจิ้มอีก 2 ตัวที่ทางร้านให้มา ก็เพิ่มประสบการณ์การกินเมนูนี้ให้น่าอัศจรรย์ขึ้นไปอีก

    ซอสสีแดง เราสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแบบแม็กซิกัน

    ในขณะที่ซอสสีเหลืองๆ ก็เน้นให้ Honey Mastard โดดเด่นมากยิ่งขึ้นค่ะ

     

    /////////////////////

     

    แค่ 2 เมนูแรกก็บอกได้เลยว่า วัฒนธรรมการกินไม่มีขีดจำกัดจริงๆ ค่ะ

     

     

    จานที่ 3 ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอให้เราสุดๆ คือ “แตงโมหน้าปลาไท” (Watermelon Nigiri with Tai) [380 บาท]

    สุดค่ะ!!!

    มันอร่อย มันเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

    ใครจะเชื่อว่า แตงโมหวานฉ่ำ พอเอามากินกับปลาดิบที่ราดซอสนิกิริ เพิ่มวาซาบิดองอีกนิด

    แล้วมันจะ AMAZING ขนาดนี้!!!!

     

    /////////////////////

     

    เอาล่ะ มาถึงเมนูขายดี เมนูเด่น เมนูสร้างชื่อ ใครได้มาเป็นต้องสั่งทุกโต๊ะ…. ย้ำว่าทุกโต๊ะ

     

     

    “ข้าวผัดนายหญิง” [450 บาท] ข้าวผัดมันกุ้งหอมกรุ่น เม็ดข้าวเด้งๆ หนุบหนับ ได้กลิ่นคั่วกะทะนิดๆ

    เคียงมาด้วยกุ้งแม่น้ำย่างตัวโต  มันกุ้งสีส้มๆ ยั่วน้ำลายเป็นที่สุด

    ไม่ต้องไปไกลถึงอยุธยาแล้ววววว แค่สั่งจากนี้ก็ฟินไป 3 วัน 8 วัน

    น้ำปลาพริกก็เริ่ด น้ำจิ้มซีฟู้ดก็แจ่ม มันเป็น Combination ที่เยี่ยมยอดมากค่ะ เอาไปสิบกะโหลกเลย 5555

     

     

    อีกจานที่มักจะถูกเลือกมาคู่กันคือ “พาสต้านายใหญ่” [1,850 บาท]

    เส้น Angel Hair Pasta ผัดพริกขี้หนู มาพร้อมกับ Canadian Lobster ย่างตัวเบิ้ม
    คลุกเคล้ากับเห็ดทรัฟเฟิลบด และน้ำพริกมันกุ้ง แล้ว Top ด้วย ไข่กุ้ง ไข่ปลาแซลมอน และกระเทียมทอด
    เพิ่ม Texture ให้พาสต้าจานนี้พิเศษไม่เหมือนใคร

     

    ฟินจริงๆ เนื้อล๊อปเตอร์หวาน เต็มปากเต็มคำ ส่วนเส้นพาสต้าก็หนุบหนับได้รสจัดจ้านแบบไทยๆ

    อร่อยจนหยุดไม่ได้

    ขนาดเพื่อนซี้ขากินยังออกปากว่า ถ้ามีอีกจานก็กินได้สบายๆ เลยนะ อร่อยลืมอิ่มจริงๆ ค่ะ

     

    ....................................................................................................

     

     

    ที่ “Pirate Chambre” ไม่ได้มีดีแค่เรื่องอาหารเท่านั้นนะคะ เครื่องดื่มของเค้าก็เด่นไม่แพ้กันเลย

    มีตั้งแต่เครื่องดื่ม Mocktail, น้ำผลไม้, Smoothie, น้ำสมุนไพร ไปจนถึงเครื่องดื่ม Alcohol แบบจัดเต็ม

    ทั้ง Wine List เล่มใหญ่ และ Cocktail เก๋ๆ ที่รังสรรค์จากมือ Bartender ออกมาเป็นสูตรเฉพาะที่หาดื่มที่ไหนไม่ได้

     

    เราขอยกตัวเด่นๆ เป็น Singnature ที่ทางร้านเอามาแนะนำให้ลองจิบกันพอกรุบกริบนะคะ อิอิ

     

     

    ตัวแรกเลยคือ “Princess P” เครื่องดื่มสีม่วงหวาน แต่เสิร์ฟมาแบบอลังการ แก้วนี้สาวๆ น่าจะถูกใจค่ะ เพราะมีรสเปรี้ยวๆ ตัดกับเกล็ดน้ำตาลหวานๆ ตรงขอบแก้วได้พอดี

     

     

    ส่วนเครื่องดื่มสำหรับคุณผู้ชายจะมี “Pirate G is in Trouble” ที่ทางร้านมักจะจัดมาให้คู่กัน

    แก้วนี้มาแบบแมนๆ สายสตรองรสเข้ม

     

     

    เครื่องดื่มอีกตัวสำหรับสาวหวานๆ เราแนะนำ “Mermaid” แค่เอามาเสิร์ฟตรงหน้า เราก็รู้สึกตัวว่าสวยแล้ว 5555

    แต่แก้วนี้ไม่ได้มีดีแค่สวยนะคะ เค้ามีลูกเล่นนิดๆ ให้เราริน Cocktail ของเราลงบนสายไหมสีชมพู

    พอน้ำตาลจากสายไหมละลายหมด ก็ได้เครื่องดื่มที่มีรสชาติกลมกล่อม หอมสดชื่นให้เราจิบสวยๆ ค่ะ

     

     

    Cocktail ตัวสุดท้ายเป็นตัวที่เชฟแนะนำค่ะ ชื่อว่า “Shin Sin” ค็อกเทลรสดี มีบ๊วยเป็นส่วนผสม

    แถมด้วยกลิ่นอโรม่าหอมๆ จากกานพลูเผา สัมผัสถึงความเป็นจีนเบาๆ จิบลื่นเลยแหละ

     

    ....................................................................................................

     

    ก่อนปิดจ๊อบ ขอแถมด้วยของหวานอีกซักจาน

     

     

    “Charcoal Croissant with Vanilla Ice Cream” [280 บาท] ขนาดของหวานยังคงสไตล์ Cross Culture ไว้อย่างเหนียวแน่นเลยทีเดียว

    ไอศครีมวนิลาหวานมันกลมกล่อม มีความลงตัวกับครัวซองท์ชาโคลกรอบๆ ได้เป็นอย่างดี
    เพิ่ม Topping แบบไทยๆ เข้าไปอีก ทั้งลอดช่อง ถั่วแดงเชื่อม และมันเชื่อม สร้างความเซอร์ไพรส์ได้ทุกรสสัมผัส

     

    ....................................................................................................

     

    แต่ละเมนูที่เราได้กินกันในครั้งนี้ ต้องบอกว่าสมกับที่เป็น Signature ของร้านอย่างแท้จริง

    การผสมผสานวัฒนธรรมอาหารของชาติต่างๆ เป็นเหมือนการเปิดประสบการณ์ใหม่

    การกินอาหารมื้อนี้ เราสนุกมากๆ นอกจากหน้าตาอาหารที่สวยงามแล้ว

    รสสัมผัสก็แปลกใหม่ สนุกลิ้นที่ได้คาดเดารสชาติที่แตกต่าง

     

    สำหรับคนที่รักการกิน เราอยากแนะนำให้มาลองลิ้มชิมรสกันซักครั้งค่ะ

    ชวนเพื่อนๆ มาสนุกด้วยกัน จะได้ลองชิมได้หลายๆ จาน

    แล้วค่อย Hangout กันต่ออีกหน่อย...เริ่ดจะตาย

     

    เพราะเราเชื่อว่าคุณจะหลงรัก “ห้องลับของโจรสลัด” แห่งนี้จนไม่อยากลุกออกจากห้องเลยล่ะ

     

    • โพสต์-2
    365 •  พฤษภาคม 27 , 2560

    PIRATE CHAMBRE

    Address : ชั้น 3 อาคารมณียา (ติดกับ BTS สถานีชิดลม)

    เปิดทุกวัน มื้อกลางวันเริ่มเวลา 11.00 – 15.00 น. 
    มื้อเย็นเวลา 17.00 – 24.00 น.

    Tel. : 0-2252-5131-3

    Facebook : www.facebook.com/piratechambre

    • โพสต์-3
    365 •  พฤษภาคม 27, 2560