ฟ้าสวย ธารน้ำแร่ใส ภูเขาหญ้าเขียว พาหัวใจไปเที่ยวระนอง

ฮาโหล่ๆๆๆ สวัสดีจร้าาา วันนี้เราไปเที่ยว เมืองฝนแปด แดดสี่ กันดีกว่าเนอะ!! เที่ยวใกล้ๆไม่ได้ไปไหนไกลแค่ ระนองเอง (ใกล้สุราษฎร์ธานีสินะ) ฮ่าๆๆๆๆ ไปเที่ยวกันดีกว่า เป้พร้อม กล้องพร้อม คนก็พร้อมแล้ววววว ลุยกันเลย จุดเริ่มต้นของการเดินทางของเราคืออยากไปเที่ยว ไปไหนก็ได้ขอให้ได้ไป สุดท้ายเราและเพื่อนก็มาลงเอ่ยกันที่ ระนอง แต่เอ๊ะ! เที่ยวระนอง แล้วนอนไหน? แล้วไปไง? แล้วมีที่ไหนหน้าเที่ยว? คำถามเยอะเต็มไปหมด พูดเลย! การตัดสินใจของเรามาจากที่พัก คือเราเลือกไป เที่ยวเกาะพยาม ก็เลยลองหาที่พักที่วิวสวยๆ อาหารอร่อยๆ เราก็เลยเลือกพักที่ The Blue Ske Resort เพราะที่นี่เข้าดังม๊ากกกในเรื่องของบรรยากาศที่เกาะพยาม แบบใครว่าถ้าใครไปเกาะพยามก็ต้องไปพักที่นี่ เราก็เลยตัดสินใจ จองที่นี่! แต่จะให้เราเที่ยวเกาะพยามแบบ 3 วัน 2 คืน ก็คงเบื่อเนอะ ไหนๆก็ไประนองทั้งที จะให้อยู่แต่บนเกาะพยามก็ไม่ใช่สไตล์พูรินสินะ เราเลยขอเลือกพักที่บนฝั่ง 1 คืน และพักที่เกาะพยาม 1 คืน ลองดูเที่ยวระนองแบบ 2 บรรยากาศ  3 วัน 2 คืน ก็เที่ยวทั่วได้...พร้อมยังงงงไปกันดีกว่าาาา

                    --------------------------------------------------------------------------------------------------------

การเดินทางไประนองสามารถไปได้หลายช่องทางแต่เรา เลือกที่จะไปรถตู้ของทางรีสอร์ท เนื่องจากลองคำนวนค่าเดินทางแล้วราคาก็ไม่ต่างกับขึ้นเครื่อง หรือนั่งรถทัวร์ อีกอย่างเรากํบมองว่าสะดวก สบาย ปลอดภัย ส่งตรงถึงทีแถมแวะเที่ยวให้อีกตั้งหาก 5555 บางทีรถตู้ของรีสอร์ทอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของใครหลายๆคนๆ (ปล.อันนี้เป็นรถตู้ตอนพาเที่ยว พอดีตอนเดินทางมันดึกแล้วเลยไม่ได้ถ่าย) เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตอนประมาณ 21.00-22.00 น. เริ่มต้นที่อนุเสาวรี ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง โดยประมาณ เหมือนเปลี่ยนที่นอนจากที่บ้านมานอนบนรถแทน อิอิ เมื่อเข้าถึงตัวเมืองระนองเวลาประมาณ 6 .00 น. พี่คนขับรถตู้อยู่ๆก็จอดรถเราก็สงสัย พี่จอดรถทำมัยถึงแล้วหรอ? พี่บอกเปล่า! จะพาไปดูน้ำตก โอ้โห่!!! น้ำตกสวยม๊ากกก ตื่นเต้นเสมือนไม่เคยเห็น ฮ่าๆๆๆ น้ำตกนี้มีชื่อว่า "น้ำตกปุญญบาล" เป็นน้ำตกที่อยู่ติดกับถนนเลย ใครผ่านไป-มาก็จะเจอ แล้วก็ไม่พลาดที่จะจอดรถลงไปถ่ายรูป #เราก็เช่นกัน 555+7.00 น.แล้ว รู้สึกเริ่มหิว เราไปหาอะไรอร่อยทานกันดีกว่าเนอะ เห็นเค้าว่ากันว่าส่วนใหญ่ทางใต้อาหารเช้ามักจะเป็นติ่มซำร้อนๆ ไหนๆมาถึงที่ก็ต้องลองกันดีกว่า ซึ่งร้านติ่มซำที่พี่คนขับพาไปชื่อร้าน "ติ่มซำยามเช้า"  ยามเช้าสใกับชื่อร้านจริงๆ ฮ่าๆๆ ราคาก็ไม่แพง สั่งเยอะมากทานกัน 4 คน จ่ายไป 300 กว่าบาท แบบว่าหารเท่าๆกันแบบลงตัว อิอิเมื่อทานเรียบร้อย จ่ายเงินเสร็จก็เตรียมตัวขึ้นรถ เราต้องไปต่อ..ที่พักรออยู่ นั่งรถกันไปสักพักนั่งมองต้นไม้ ใบหญ้าเพลินๆ ริมสองฝั่งถนน รถตู้ที่เรานั่งมาก็เลี้ยวเข้าซอยแล้วจอดอยู่ที่หน้าป้ายรีสอร์ท The Blue Sky Resort ลืมบอกไปคืนนี้เราจะนอนกันที่นี่แหละ เป็นที่พักบนฝั่ง ในที่สุดก็ถึงสักที!!ธรรมชาติมาก สวยงามเหมือนในรูปเลย รู้สึกเหมือนได้มาพักผ่อนอย่างเต็มที่ บรรยากาศเงียบสงบม๊ากกกจริงๆ เราไปเช็คอินเข้าที่พักกันดีกว่า จะได้เอากระเป๋าไปเก็บเข้าที่พักแล่วไปถ่ายรูปเล่นกัน ^_^ทางเดินระหว่างไปที่พัก เราก็เดินชิลๆกันไป ชื่นชมธรรมชาติกันไปเรื่อย ไม่ต้องกลัวหลงเค้ามีป้ายบอกทางไปห้องพัก กิกิ นั่นๆๆๆ บ้านหลังที่อยู่ในโปรชัวร์รีสอร์ทนิ ไม่รอช้าขอไปถ่ายรูปแปป สวยม๊ากกก ด้านหน้าเป็นวิวทะเล ด้านหลังเป็นวิวการ์เด้น แต่!!..เราไม่ได้พักห้องนี้นะ พอดีผ่านเลยขอถ่ายรูปซ่ะหน่อย ฮ่าๆๆๆ
ถึงห้องพักแล้ว..เราพักกันหลังนี้แหละ สวยไม่แพ้หลังแรกเลยใช่ม่ะ ที่นี่เค้าตกแต่งแบบเน้นโทนสีขาว ซึ่งทำให้ดูสวยสะอาดตา และหรูหร่าไปอีกแบบ โดยมีธรรมชาติล้อมรอบอยู่รอบๆรีสอร์ทส่วนภายในห้องพักก็เช่นกัน ตกแต่งสวยงาม มีโคมไฟประดับสวยงาม วิวด้านหลังาป็นทะเลมีระเบียงให้นั่งเล่น ส่วนด้านหน้าประตูทางเข้าเป็นวิวการ์เด้น 2 วิวในห้องเดียว สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แบบว่าเอาแต่ตัวกับเสื้อผ้า ก็สามารถพักได้ เพราะเข้าใส่ใจทุกรายละเอียด ส่วนในตัวห้องน้ำก็มีทั้งแบบภายในและภายนอกให้เลือกสรรกันอาบน้ำได้แบบสบายใจ แต่โดยส่วนตัวขออาบในห้องละกัน ข้างนอกมันดูหวิวๆ ฮ่าๆๆๆ แต่ใครอยากอาบน้ำใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืนก็ลองอาบได้นะ (ถ้าฟ้าไม่ปิด ฝนไม่ตก) กิกิเราไปเดินเล่นกันข้างนอกดีกว่า ถ้าอยู่ในห้องมีหวังได้หลับ อากาศดีเกิ๊น! พอดีเราเป็นคนชอบถ่ายรูป ชอบเที่ยว เลยไม่ค่อยอยู่กับที ง่ายๆ ชอบสำรวจไปทั่ว ไหนๆก็เสียเงินมาทั้งที เนอะ!! ฮ่าๆๆๆๆ พอเดินออกจากห้องก็มองไปเห็นสะพานไม้ที่ทอดยามไปกลางทะเล มีที่นั่งให้ด้วย สวยจัง!! ไปถ่ายรูปกันดีกว่า แต่ถ้าเดินเล่นรีสอร์ท เราจะสังเกตเห็นได้ว่าจะมีรูปปั้นเด็กน่ารักๆ ในท่าทางต่างๆ ตกแต่งเต็มไปหมด สวยงามไปอีกแบบที่นีถึงจะมีทะเล มีสวนสวยๆ สระว่ายน้ำก็มีนะจ๊ะ สวยด้วย หน้าลงไปว่ายมาก แต่มิได้เอาชุดว่ายน้ำมา เสียดายจัง! คือแบบว่าว่ายน้ำในสระแล้วมองดูวิวทะเล วิวต้นมะพร้าว ชีวิตดีดี๊ มโนแปป ฮ่าๆๆๆๆใกล้เที่ยงแล้ววว ท้องร้องอีกแล้ว เราไปทานอาหารกลางวันกันดีกว่า ดูซิ!! ว่ารถชาติอาหารเป็นไงบ้าง ป่ะ! เลือกอาหารกัน หิวแล้ววววกลางวันนี้เรากินราดหน้าทะเล ซึ่งทางรีสอร์ทเค้ามีเมนูให้เลือก แต่มื้อนี้เราเลือกราดหน้าทะเล หน้าตาหน้าทานมาก รดชาติดี ถือว่าโอเคค่ะ สำหรับมื้อนี้จัดว่า อิ่ม ฮ่าๆๆๆๆทานอิ่ม เราก็นั่งย่อย รอช่วงบ่ายเราจะไปเที่ยวกัน เย้ๆๆๆๆ ได้ไปเที่ยวแล้ว ว่าแต่ไปเที่ยวไหนหว่า!!! ต้องรอดู พร้อมแล้ว!! เราไปเที่ยวกันดีกว่า สถาที่แรกที่เราไปคือ บ่อน้ำร้อนพรรั้ง ซึ่งเป็นบ่อน้ำร้อนที่เป็นน้ำแร่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าน้ำเป็นสีเขียวสวยงาม น้ำใสมาก มองเห็นตัวปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำเต็มไปหมด เห็นแล้วรู้สึกอิจฉาคนระนองจังที่มีน้ำแร่ให้ได้แช่เล่นเมื่อเราแช่น้ำกันพออุ่นกาย เราก็ไปเที่ยวกันต่อ ซึ่งที่ต่อเป็นถือว่าสวยงามเหมาะแก่การถ่ายรูป (แต่ร้อนมาก) นั่นก็คือภูเขาหญ้า ซึ่งเป็นภูเขาที่ไม่สูงมากนักที่มีหญ้าสีเขียวขจี ปกคลุมเต็มไปหมดทั่วภูเขา ซึ่งต่างจากภูเขาอื่นๆที่มีแต่ต้นไม้ปกคลุม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของจังหวัดระนองก็ว่าได้มาถึงเมืองระนอง ในเมื่อเรามีน้ำแร่ก็ต้องมีดีบุกสินะ สถานที่ต่อไปก็คือ วัดบ้านหงาว ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับภูเขาหญ้า เรามาเที่ยวต่างถิ่นก็ควรไปกราบไหว้พระขอพร ซึ่งที่วัดบ้านหงาว มี "หลวงพ่อดีบุก" ประธานในอุโบสถ ที่มีความงดงามเป็นที่รู้จักกันทั่วของคนจังหวัดระนอง และจังหวัดใกล้เคียงเที่ยวกันมาหลายที่แล้ว นี่ก็ใกล้เย็น เราไปต่อกันอีกดีกว่า ซึ่งสถานที่ที่จะไปต่อ มีชื่อว่า "รักษะวาริน" ซึ่งเป็นทั้งสปา และเป็นบ่อน้ำแร่แบบธรรมชาติ ซึ่งถ้าจะให้เราไปเค้าสปาก็คงไม่ใช่แนว งั้นเราไปบ่อธรรมชาติดีกว่า ซึ่งบ่อธรรมชาติจะมีหลายบ่อมากให้เลือกแช่กันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ แต่ระดับความร้อนก็ใช่ได้นะ ซึ่งไฮไลท์ที่นี่ จะอยู่ที่ "บ่อพ่อ" (เห็นเห็นป้านเค้าเขียนไว้) 55+  ซึ่งเป็นบ่อแรกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เค้าเลยเรียกว่า บ่อพ่อ และก็มีบ่อแม่ บ่อลูกตามลำดับกันมา นอกจากนี้ยังมีสะพานแขวนไม้ มีลำธารน้ำร้อนไหลผ่าน ซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนอีกทีหนึ่งของระนองเริ่มเย็นแล้ว วันนี้ก็เที่ยวกันมาทั้งวัน รู้สึกว่าท้องร้องอีกแล้ววว กลับกันดีกว่า...กลับไปรีสอร์ท อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปทานอาหารเย็นกันเนอะ!! ซึ่งอาหารเย็นที่นี่ถือว่าจัดว่าเต็ม (เต็มโต๊ะ) กิกิ เนื้อๆ เน้นๆทั้งน๊านนนน ไม่รอแล้วนะ หิววววว

ขอคาวไปของหวานก็มา ถ้าใครชอบกล้วย เมนูนี้อร่อย (จำชื่อไม่ได้) แต่ชอบม๊ากกก

กินอิ่ม หนังตาเริ่มหย่อย จะนอนดูดาวก็เริ่มไม่ไหว ขอตัวไปนอนก่อนนะ....แล้วพรุ่งนี้เจอกันใหม่ที่เกาะพยาม สำหรับรีวิวนี้เราเต็มที่ทั้งเรื่องที่พัก เรื่องอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว ในเมืองระนองกันแบบพอหอมปากหอมคอ หากมีข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ส่วนเกาะพยามเด๋วเราเจอกันใหม่ในรีวิวหน้า แล้วเราจะไปแว๊นกันที่เกาะพยาม แบบไม่ต้องพยาม ก็เที่ยวได้ แค่ตัวเราพร้อม เราก็เที่ยวได้ บ๊ะบายยยย