อีกครั้งที่ได้แวะไปจังหวัดเชียงราย หนึ่งในจังหวัดที่ไปบ่อย คราวนี้มีเวลาไม่มากนัก ก่อนหน้าจะไปเชียงรายไปที่อื่นมาก่อนแล้ว จุดมุ่งหมายของเราอยู่ที่งานบอลลูนที่สิงห์ปาร์ค แต่งานเริ่มวันที่14 เราไปถึงวันที่ 13 เลยมีเวลาไปที่อื่นก่อน ปกติจะพักอยู่ใกล้ๆงานแต่ครั้งนี้เลือกพักในเมือง ให้เพื่อนที่เชียงรายไปหาที่พักให้ เลยได้ที่พักเก๋ๆแถวๆวัดมิ่งเมือง โฮลเทลเล็กๆแต่มีสเน่ห์ชื่อสั้นๆว่า ห่ม...

เช็คอินเสร็จ เดินไปเช่ามอเตอร์ไซด์ตรงร้านใกล้ๆที่พัก จากนั้นเริ่มออกเดินทาง เพื่อนคนเชียงรายลากไปไหว้พ่อขุนเอาฤทธิ์เอาชัยก่อน  อากาศร้อนทั้งๆที่ยังอยู่ในช่วงหน้าหนาว(มั้ง) ไหว้เสร็จท้องเริ่มทำงาน เลยไปหาอะไรรองท้องกัน ได้เย็นตาโฟรสเด็ดร้านที่อยู่ไม่ไกลจากพ่อขุนเท่าไหร่นัก ชามละ 40 บาท อิ่มตื้อ จุดหมายแรกสำหรับการเที่ยววันนี้คือวัดร่องเสือเต้น มาเชียงรายหลายครั้งไม่เคยไปเสียที คราวนี้ไม่พลาด สมใจอยากจริงๆ เราชอบพญานาคที่อยู่ด้านหน้าและก็ด้านหลังมาก ทุกครั้งที่เข้าวัดสิ่งแรกคือดูพญานาคที่อยู่ตามกำแพงวัด บันได หรือหน้าประตู แต่ละวัดที่ไปไม่เหมือนกันเลยสักวัด ต่างคนต่างก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง...ที่นี่นักท่องเที่ยวจีนค่อนข้างแยะ แต่ไม่เยอะเท่าวัดร่องขุ่น ทำบุญ เดินดูรอบๆ แล้วไปกันต่อ จุดที่สองที่ไปคือบ้านดำ วันนี้คนเยอะมากเพราะมีงาน มีการแสดงดนตรีเล็กๆ ผู้คนเลยพากันมาดูงาน เสียค่าเข้างาน 80 บาท พวกเราได้แต่เดินดู คนแยะจนเพื่อนอยากกลับ เดินดูผ่านๆแล้วออกกันเลย..แค่สองที่ตะวันก็คล้อยต่ำลงแล้ว พวกเรามถึงเชียงรายก็เที่ยงกว่าเข้าไปแล้ว สุดท้ายเลยตกลงกันว่าจะแวะไปสิงห์ปาร์ค เผื่อๆจะมีอะไรน่าสนใจ
     แว๊นจากบ้านดำไปถึงตอนห้าโมงครึ่ง เจ้าหน้าที่บอกว่าจักรยานปิดแล้ว ไม่ให้เช่าแล้ว ฝันสลาย เพราะกะจะมาปั่น​จักรยานกัน เพื่อนเลยแบกจักรยานที่บ้านมาให้ ปล่อยให้เราปั่นชมไร่ ส่วนเจ้าของจักรยานนั่งรอรอบเดียวก็ทำเอาลิ้นห้อยแล้ว ไปนั่งพักริมสระน้ำจนตะวันลับฟ้า อากาศเริ่มเย็นจนต้องหาเสื้อมาใส่อีกตัว กำลังเตรียมงานสำหรับพรุ่งนี้ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวทะยอยเข้ามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันแล้ว พวกเราอยู่จนสองทุ่มแล้วแว๊นกลับ  มื้อค่ำซื้อลูกชิ้นไส้กรอกข้างทางกิน นั่งกินไปดูดอกไม้ไปฟินไปอีกแบบ งานดอกไม้ที่สวนตุง ยังมีดอกไม้หลงเหลือให้ดูอยู่

อากาศเย็นมาก ถึงที่พักมือแข็งเลย นอกจากหนาวแล้วยังเพลียจากการเดินทาง พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ....อาบน้ำเสร็จหัวถึงหมอนก็หลับไม่รู้เรื่อง

           ตื่นมาตั้งแต่ตีห้าครึ่ง กะจะไปหาของกินที่ตลาดและใส่บาตรด้วย เดินจากที่พักไปนิดเดียวก็ถึงตลาดเทศบาล ปาท่องโก๋เจ้าอร่อย ที่มาทีไรไม่พาด วันนี้เป็นธีม วาเลนไทน์ ไม่พลาดเช่นกัน

โจ๊กข้าวกล้องปาท่องโก๋อร่อยเริ่ดอย่าบอกใคร...ซื้อกาแฟปาท่องโก๋ข้าวอีกนึงชุดเดินทะลุตลาดเทศบาลไปถวายพระที่วัดหลังตลาด ไหว้พระรับพรก็พร้อมจะไปลุยต่อ ่ขณะเดินกลับออกมาก็เจอของกิน ที่คิดว่างัยก็ต้องลอง หน้าตาธรรมดา แต่เราว่าอร่อยนะ สั่งมากินกับเพื่อนคนละอัน เริ่ดดด..เดินกลับที่พัก นัดเพื่อนเชียงรายเอาไว้ว่าจะไปแช่น้ำร้อนตอน 9 โมง แต่ตอนนี้เพิ่งจะ 7 โมง เหลือเวลาอีก เลยแว๊นมอไซด์ไปสิงห์ปาร์คอีกครั้ง... ในที่สุดพวกเราก็ได้เจอบอลลูนสมใจอยาก(เพื่อนที่มาด้วยอยากเห็น) ต่างคนต่างหามุมเก็บภาพกันรัวๆ ก่อนจะมานั่งพักเหนื่อยกันตรงลานจอดรถ เช้านี้คิกคักมาก เพื่อนยิ้มแป้น ยังงัยมาคราวนี้ก็ไม่เสียเที่ยวล่ะ ออกจากลานบอลลูนไปดูดอกคอสมอสกันต่อ กำลังบานสะพรั่งเชียว เมื่อวานมามองไม่เห็นแล้ว ดอกไม้สีชมพู มาถ่ายในวันแห่งความรักนี่รู้สึกอบอุ่นนะ ถึงแม้จะมาคี่ก็เหอะ >ออกจากทุ่งคอสมอสไปไร่ชา เห็นดอกชาบานสะพรั่งเลย แม้จะเป็นดอกเล็กๆ แต่ก็ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก ได้ยินเสียงผึ้งบินผ่านไปผ่านมาแอบกลัว เลยอยู่แค่แป๊บเดียวแล้วไปรับเพื่อนชียงรายไปแช่น้ำร้อนกันต่อ 
    คราวที่แล้วมาเคยรีวิวเอาไว้ คราวนี้เลยไม่พูดอะไรมากมาย เจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงนี้คนมาแยะ หลายๆอย่างเลยไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ แอบไปต้มไข่ทิ้งไว้ แล้วไปแช่น้ำแร่  ถ้าเปรียบเทียบกับคราวที่แล้ว คราวนี้น้ำไม่ค่อยร้อน อุ่นๆ แต่ก็น้ำแร่นั่นแหละ ไหนๆมาแล้วก็เลยลงแช่ ขึ้นจากบ่อขณะเตรียมตัวกลับเพื่อนคนเชียงรายไปคุยกับแม่ค้าส้มตำ สั่งส้มตำไก่ย่างมากินกัน ได้ข้อมูลใหม่จากแม่ค้าว่าเลยจากบ่อไปมีที่เที่ยวน่าสนใจ จะรออะไรกินเสร็จก็ไปกันสิ จากบ่อไปอีก 4 กิโล(แม้ว)เอง ไม่ได้ถามรายละเอียดอื่นๆเลย แว๊นไปโลด และแล้ว หลงทางครับ..ไม่มีผู้ใดให้ถามเลย ไม่มีป้ายบอก เลยงมๆกันไป แรกๆทางก็ยังพอทน ขับไปได้สักพัก 

ทางมันชันมาก มอไซด์ขึ้นไม่ไหว คนซ้อนเลยต้องลงเดิน ตรงที่เห็นนี่ถือว่าเป็นทางที่ดีที่สุดแล้ว หลังจากจุดนี้ถนนแคบลงเรื่อยๆเป็นหลุมเป็นบ่อ และเป็นดินแดงๆ ฝุ่นตลบ เป็นทางเลียบแม่น้ำกก ที่ไปยังหมู่บ้านอาข่า น้ำตาจะไหล ทำไมถึงไม่บอกกันแต่แรกว่าทางมันโหด ฝั่งขวาภูเขา ฝั่งซ้ายลึกลงไปคือแม่น้ำ รถสี่ล้อสวนกันไม่ได้ ถอยก็ไม่ได้แล้ว ต้องไปกันต่อ ถนนทั้งแคบทั้งชัน แต่ก็ดั้นด้นไปถึงจุดหมาย

สวยมาก อากาศเย็นสบาย ตอนไปยืนกลางสะพาน ลมพัดมาสะพานแกว่งหน่อยๆ ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นบอกว่า ถ้าข้อไม่แข็งให้เข็นไป แต่ถ้าคิดว่าแข็งพอก็ให้ขับไป สะพานมันแกว่งตลอดเวลา ยิ่งไปยืนกลางสะพานแล้วขับรถผ่านไปนี่ยิ่งแกว่งแรง ขับรถข้ามมาอีกฝั่ง เป็นถนนคู่ขนาดกับเส้นที่เรามา อยู่คนละฝั่งน้ำกก ...ถนนลาดยางอย่างดี พวกเรามองหน้ากันทำตามปริบๆ นี่ไปดั้นด้นถนนแคบๆฝั่งนั้นเพื่อ? ถ้าใครจะมาสะพานนี้แนะน้ำให้มาทางเส้นหมู่บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตร ถนนขับรถสบายๆ ไม่ต้องมาขาสั่นเหมือนอีกฝั่งที่พวกเราดิ้นรนมา แต่วิวข้างทางฝั่งโน้นสวยและฟินกว่า ถ้าอยากลองนะ กลับเข้าเมืองเก็บความฟินไปเต็มเปี่ยม 

   แวะไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่วัดห้วยปลากั้ง หาอะไรรองท้องด้วย มาคราวนี้พอมีเวลา เลยเข้าไปขอพรพระอาจารย์พบโชคแล้วขึ้นไปด้านบนองเจ้าแม่กวนอิม เสียค่าบำรุงลิฟต์ 20 บาท

ขึ้นลิฟต์แป๊บเดียวถึงชั้น 25 ด้านในเป็นศิลปะปูนปั้นที่ยังไม่สมบูรณ์ มีช่องให้มองออกไปดูวิวด้านนอก ปริ่มมากครับ...ลงมาข้างล่างแวะกินชาเขียวเย็นๆกับขนม วันนี้ทำเวลามาก เพราะเย็นนี้ต้องกลับแล้ว มีเวลาจำกัดจริงๆ  แวะดูราชรถก่อนเข้าไปขอพรพระที่วัดพระสิงห์ กินมื้อค่ำกันหน้าที่พัก คืนนี้เราต้องกลับกรุงเทพฯแล้ว ถึงมีเวลาน้อยนิดแต่ก็เที่ยวเต็มๆ ไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ยังมีที่แปลกๆ ให้เที่ยวอยู่เสมอ 

 ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ