ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    JumPoon •  กรกฎาคม 31 , 2559

    Jim Thompson House Museum

     

     

         ทริปนี้เป็นทริปเก็บตก เพราะเคยพูดกับเพื่อนว่าจะไปแต่ไปไม่ทัน ต้องกลับก่อนรถเข้าศรีราชาจะหมด เลยมาเก็บตกในวันนี้ ลืมตาตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวขึ้นรถจากศรีราชาไปเมืองกรุงตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึงบางนาประมาณ 10 โมง นั่งรถไฟฟ้า BTS จากบางนาไปลงสถานีสนามกีฬาฯ ลงจากสถานีมาเห็นป้ายชัดเลย พิพิธภัณฑ์เรือนไทยจิม ทอมป์สัน ทางออกที่ 1 เรากับเพื่อนมาเจอกันที่นี่ ลงจากบันไดสถานีก็เจอป้าย Jim Thompson House Museum หน้าซอยเกษมสันต์ 2 เราเดินเข้าซอยไปนิดหน่อยก็เจอร้านขายอาหารตามสั่งดักเราก่อน นั่งกินข้าวเอาแรงก่อน กินข้าวไปสักพัก ไอศกรีมไผ่ทองก็ผ่านมา 555 จัดไป 1 ถ้วยแบ่งกันกินกับเพื่อน เราได้ความจากแม่ค้าขายข้าวว่า ให้เรานั่งรอที่ร้านไปก่อน เดี๋ยวมีรถตุ๊กตุ๊กจากทางพิพิธภัณฑ์มารับ เรานั่งกินข้าวไป ชมฝรั่ง จีน แขก เดินผ่านไปมา จุดมุ่งหมายเดียวกันคือ บ้านจิม ทอมป์สัน ที่อยู่ท้ายซอย

    พิพิธภัณฑ์เรือนไทยจิม ทอมป์สัน ทางออกที่ 1

    ซอยเกษมสันต์ 2

    ทางเข้าซอย

    กินข้าวก่อนเที่ยว

    กินคาวแล้ว กินหวานตาม

     

         เราขึ้นรถตุ๊กตุ๊กฟรี มาลงพิพิธภัณฑ์เสียค่าเข้าคนละ 150 บาท บริเวณด้านหน้าก่อนเข้าไปข้างในมีสาธิตการสาวไหม การทำไจไหม มีสาวน้อยมารำให้ชมด้วย น่ารักดี เราเข้าไปด้านในมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับ เพราะเวลาเข้าชมต้องมีเจ้าหน้าที่ตามไปด้วย ของเราเป็นภาคภาษาไทย ต้องรออีก 20 นาทีกว่าจะถึงรอบของเรา เราเลยเดินชมโน่นนี่รอบๆ ตัวบ้าน เข้าไปชมใน Shop ขายของแบรนด์ Jim Thompson ด้วย ของเขาดีมีคุณภาพจริงๆ ราคาเลยสูงมากๆ ตามคุณภาพที่ดีมากๆ ไปด้วย ได้แต่จับๆ เนื้อผ้าไป นุ่มมาก แต่คงซื้อไม่ไหว

    ตรวจสัมภาระ และซื้อตั๋วเข้าชม

    Shop ขายของแบรนด์ Jim Thompson ถ่ายจากด้านหลังร้าน

    ที่ลงทะเบียนรอรอบเข้าชมบ้านด้านใน

     

    • โพสต์-2
    JumPoon •  กรกฎาคม 31 , 2559

    Jim Thompson House Museum

         ได้เวลาเข้าชม รอบเราภาษาไทยมีแค่ 3 คน ส่วนกรุ๊ปใหญ่ๆ ภาคภาษาอังกฤษมั่ง จีนมั่ง ฝรั่งเศสมั่ง เต็มไปเรือนไทยไปหมด เราสามารถถ่ายรูปได้บริเวณรอบนอกเรือนไทย แต่ถ้าเป็นในตัวเรือนไทยที่เจ้าหน้าที่นำทางไป ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปค่ะ ด้านในมีศิลปวัตถุที่คุณจิม ทอมป์สัน สะสมไว้จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ถูกฝึกมาดี อธิบายศิลปวัตถุ ภาพวาด ข้าวของเครื่องใช้ได้คล่องแคล่วฉะฉานดีค่ะ ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 15-20 นาที ก็จบแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ขอตัวให้เราถ่ายรูปรอบๆ เรือนไทยไป ในส่วนของพิพิธภัณฑ์เรือนไทยจิม ทอมป์สัน มีเนื้อที่ไม่มากนัก แต่การจัดการด้านการท่องเที่ยวดีมาก ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดแม้คนจะมากก็ตาม เราออกมาด้านนอกว่าจะให้อะไรกินเบาๆ ที่ร้านอาหารในพิพิธภัณฑ์ ดูเมนูและราคาแล้ว เราว่าเราเดินออกมาหาของกินด้านนอกดีกว่า 555

    ป่ากลางกรุง ต้นไม้เยอะมาก จัดสวนสวย

    เจ้าหน้าที่ที่คอยอธิบายศิลปวัตถุต่างๆ

    เข้าด้านในแล้วห้ามถ่ายรูปค่ะ

    ใต้ถุนบ้าน

     

    • โพสต์-3
    JumPoon •  กรกฎาคม 31 , 2559

    บ้านหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช

         ออกมาจากพิพิธภัณฑ์เรือนไทยจิม ทอมป์สัน ด้วยรถตุ๊กตุ๊ก ก็ขึ้น BTS สถานีถัดไปของเรา คือ สถานีช่องนนทรี จุดมุ่งหมายคือที่บ้านหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช จากสถานีช่องนนทรีต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 700 เมตร ไปยังซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 7 (ซอยพระพินิจ) เดินเข้าไปกลางๆ ซอย ก็ถึงแล้ว

    ถึงสถานีช่องนนทรี ต้องเดินต่ออีกหน่อย

    เดินผ่านสะพานลอยสวยๆ

    ถึงแล้วซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 7 (ซอยพระพินิจ)

    ประวัติความเป็นมาของบ้าน

     

         ส่วนแรกที่เจอคือศาลาโขน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เก็บค่าเข้าชม (คนละ 50 บาท) พร้อมโบชัวร์รายละเอียดในส่วนต่างๆ ที่ศาลาโขน เรามาเคารพรูปหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ศาลาแห่งนี้มีตู้หัวโขนจัดแสดงอยู่ด้วยมีรายละเอียดที่อ่อนช้อยงดงาม ด้านข้างศาลาโขนเป็นศาลเจ้าแม่กวนอิม  ถัดจากศาลาโขนก็เป็นสวนเขมร มีบ่อน้ำ รูปปั้น จัดสวนได้สวยงามดีค่ะ ถัดไปเป็นเรือนไทยหลังใหญ่ ที่นี่ท่านเจ้าของบ้าน (มล.รองฤทธิ์ ปราโมช) ยังใช้ชีวิตอยู่ตามปกติค่ะ เราขึ้นไปชมด้านบน ตามห้องต่างๆ ด้านบนตัวบ้าน จะเป็นที่เก็บข้าวของเครื่องใช้สำคัญ ห้องนอน ห้องสมุด ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช จัดแสดงอยู่ค่ะ อากาศที่นี่ไม่ร้อน เรากับเพื่อนนั่งพักอยู่บริเวณหอนก ลมโชยมาตลอด เราได้กลิ่นดอกไม้เย็นๆ เราตามหากลิ่นนั้นอยู่ ก็เจอต้นไม้ที่มีใบคล้ายกับใบมะขามมีดอกไม้เล็กๆ ได้แต่สงสัยว่าต้นอะไร พอเราเดินลงมาข้างล่าง ก็โชคดีเจอท่านเจ้าของบ้าน เลยถามท่านว่าต้นนี้ซื่ออะไร เพราะได้กลิ่นหอมเย็นๆ ท่านบอกว่าเป็นต้นบุหงาตันหยง ท่านพูดกับเราว่า ปกติไม่เคยมีคนถาม แสดงว่าเราเป็นชอบต้นไม้ ได้สนทนากับท่านสักพัก ท่านถามว่ามาจากไหน เราตอบว่ามาจากศรีราชาค่ะ ท่านเลยโชว์หลวงพ่อทันใจที่คล้องคอท่านบอกว่ามาจากศรีราชา เราอมยิ้มบอกท่านว่าจากวัดศรีมหาราชาใช่ไหมคะ ท่านว่าท่านเพิ่งไปกราบมา จากนั้นท่านก็บอกให้เรากับเพื่อนไปทางเรือนเขียวที่เด็กๆ เล่นระนาดกันอยู่ ข้างเรือนเขียวมีถังพลาสติกเป็นที่ใส่อาหารปลา ให้เราโยนอาหารปลาลงไป แล้วให้กลับมาบอกว่าเจออะไร เราไปตามท่านบอก โยนอาหารไปสักพักปลาตัวใหญ่มากๆ ขึ้นมากินอาหารเต็มเลย เพลิดเพลินกับปลาสักพัก ก็ได้เวลากลับแล้ว เรากับเพื่อนเดินกลับมาที่เรือนไทยมา ลาท่านเจ้าของบ้าน เดินกลับมาขึ้น BTS เรากับเพื่อนแยกกันบนรถไฟฟ้า เราลงสถานีอนุสาวรีย์ นั่งรถตู้กลับศรีราชารอบห้าโมงเย็น วันนี้ใช้เวลาเที่ยวเมืองกรุงประมาณ 6 ชั่วโมง กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีอะไรให้เที่ยวเยอะ แล้วคราวหน้าจะกลับมาหาที่เที่ยวในเมืองกรุงใหม่ค่ะ แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้าค่ะ

    หมู่เรือนไทย

    ศาลาโขน

    ศาลเจ้าแม่กวนอิมข้างศาลาโขน

    สวนเขมร

    ใต้ถุนบ้านเรือนไทย

    ศาลพระภูมิ

    เจ้าถิ่นนอนรอ

    บนเรือนไทย ท้ายสุดเป็นหอนก

    มุมจากหอนก

    อันนี้ถ่ายรูปได้ เพราะเราถ่ายจากด้านนอก พื้นที่ส่วนอื่นๆ ด้านบน ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปค่ะ ไม่มีใครคอยห้ามแต่เราก็ไม่กล้าถ่าย

    อยู่ใต้ต้นบุหงาตันหยง หอมละมุมละไมมากๆ

    บอนไซ มีพบเห็นอยู่รอบบ้านค่ะ

    เรือนเขียว มีเด็กๆ มาฝึกระนาด

    น้องปลาตัวใหญ่