ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    Namee •  มิถุนายน 06 , 2559

    วันหยุดสุดฮิป กับสถานที่ชิคๆ ชิลๆ

    #เที่ยวกรุงกัน #เที่ยวที่ไหน # เที่ยวอย่างไร #เที่ยวแบบไหน
    หากออกไปหาแหล่งท่องเที่ยวแบบวิถีชีวิตอย่างฮิปเตอร์ ก็ไม่รู้ว่ามีที่ไหนบ้างที่เขาไปกัน? 
    อยากจะเป็นฮิปกะเขาบ้างก็ทำไม่ได้เพราะไม่ใช่แนว จะทำตัวเป็นผู้นำเทรนนำแฟชั่นหน้าก็ดันไม่ให้
    555++ พอๆ ปะๆ ออกไปเที่ยวตามแบบวิถีของพวกเราดีกว่า

     

    #หยุดหนึ่งวันเราก็จะออกไปเที่ยว
    เที่ยวๆ เที่ยวแบบที่พวกเราชอบ เที่ยวตามแบบสไตล์ของพวกเราที่คิดว่ามันก็สามารถฮิปๆ ได้
    ส่วนสถานที่ที่พวกเราไปกันนั้นส่วนใหญ่เป็นวัดในกรุงฯ เป็นสถานที่ที่คนส่วนใหญ่รู้จัก

     

    การเที่ยวของพวกเรา  เดินเป็นหลัก  นั่งรถเป็นรอง  #เดินกันไปใกล้นิดเดียว
    เพราะพวกเรามันนักเดินป่าขาลุย เดินแบบนี้ ร้อนแบบนี้ ธรรมดามาก แต่อาจไม่ใช่สไตล์ของใครหลายคน

    จุดเริ่มต้นของการเดินทางอยู่ที่  “อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” เป็นจุดศูนย์รวมความสะดวกในการเดินทาง
    มาเริ่มสถานที่แรกที่พวกเราจะไปเที่ยวกันภายใน 1 วัน กับ 6 สถานที่เที่ยว Go Go Go

     

    สถานที่แรก  ไปรษณีย์กลางบางรัก  เจริญกรุง ซ. 36

    การเดินทาง : เดินทางด้วยรถไฟฟ้า จากสถานี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – สะพานตากสิน ต่อจากนั้นเดินจนถึงเป้าหมาย

    เลือกขึ้นรถไฟฟ้าสะดวกและถึงเป้าหมายเร็วที่สุด

     

    ต่อด้วยการเดินล้วนๆ จากบางรัก-ไปถึงไปรษณีย์กลางบางรัก
    เจอตรงไหนนน่าสนใจ ก็แวะถ่ายรูปตลอดทาง

     

    ทางผ่าน “สถานีดับเพลิงบางรัก

    >> จากสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน เดินตรงไปยังซอยเจริญกรุง 36 จะพบอาคารสถานีดับเพลิงบางรัก จากที่สอบถามลุงยามที่อยู่เฝ้าดูความปลอดภัย ณ สถานที่แห่งนี้ ลุงบอกว่าเขาไม่อนุญาต ให้เข้าไปด้านในแล้วเพราะเป็นสถานที่เก่าแก่และอาจเกิดอันตรายได้  พวกเราจึงขอถ่ายแค่เพียงด้านหน้าเท่านั้นเพราะไม่ใช่เป้าหมายหลัก

     

    ณ ไปรษณีย์กลางบางรัก

    >>  การไปรษณีย์แห่งประเทศไทยได้เริ่มจัดให้มีขึ้นโดยกงสุลอังกฤษ ณ สถานกงสุลอังกฤษประจำประเทศไทย ตำบลบางรัก จังหวัดพระนคร กระทั่งปี พ.ศ.2524 รัฐบาลไทยเห็นเป็นการจำเป็นที่จะต้องเข้าควบคุม จึงเริ่มเตรียมการและในปีพ.ศ.2426 ก็ได้เปิดที่ทำการไปรษณีย์ของรัฐบาลไทยขึ้นเป็นแห่งแรก โดยดัดแปลงมาจากตึกแนวยุโรปซึ่งเคยเป็นบ้านของพระปรีชากลการ (สำอางค์ อมาตยกุล)  และได้มีการปรับเปลี่ยนแบบ จนมาเป็นที่รู้จักกันในปัจจุบันกันคือ ไปรษณีย์กลางบางรัก 

     

    >>  ด้านหน้าของอาคารมี  พระอนุสาวรีย์ จอมพลสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุขฯ พระบิดาการไปรษณีย์ ท่านทรงมีคุณูปการกับการไปรษณีย์ไทยอย่างล้นเหลือ จนได้รับการยกย่องให้เป็น "พระบิดาแห่งกิจการไปรษณีย์ไทย" จึงได้มีการสร้างพระอนุสาวรีย์เพื่อเทิดเกียรติพระองค์  และด้านหน้าตึกจะมีครุฑ 2 ตัว ประดับอยู่ที่มุมทั้งสองด้านของตึก ซึ่งมีเรื่องเล่าต่อกันมา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2  ถึงครุฑทั้ง 2 ตัวนี้

    ด้านหน้า
    V
    V

    ส่วนด้านในนั้นสวยงามมากๆ ก็ถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนาน
    ก่อนเข้าไปชมด้านในอาคารนั้นต้องลงชื่อเพื่อขอเข้าชมก่อนซี่งจะมีเจ้าหน้าดูแลอยู่สามารถติดต่อได้เลย

    มาเพื่อให้รู้ เป็นอาคารโล่งๆ แต่ใหญ่มาก มี 4 ชั้น แถมอลังการงานสร้างมาก

     

    พิกัด

    ที่อยู่ : 1160 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
    โทรศัพท์ :  0-2206-7333
    เว็บไซต์ :  www.grandpostal.com
    เวลาทำการ : จันทร์-เสาร์ เวลา 09:00-18:00
    บริการ :  รับจัดงานนิทรรศการ งานแต่งงาน ประชุม สัมมนา

    -------------------------------------------------------

     

    เดินไปสถานที่ที่ 2 ต่อกันเถอะ
    V
    V

    เดินๆ เดินๆ
    เดินวนไปวนมาเหมือนจะหลง แต่จริงๆ อยู่ใกล้กัน 555++

    หยุดๆ ถ่ายรูปแพร๊บบบ 

    -------------------------------------------------------

     

    สถานที่ 2  Street Art บางรัก  เจริญกรุง ซ. 28 และ ซ. 32

    การเดินทาง : เดินจากเจริญกรุง ซ 36  - จนไปถึงเจริญกรุง ซ. 32 และเดินผ่าน 4 แยกไฟแดง สี่พระยาไปยัง ซ. 28 

    จะเจออาคารไปรษณีย์บางรัก อยู่ติดปากซอยทางเข้า

     

    >> ศิลปะริมทาง การสร้างสรรค์ผลงาน Street Art ให้กับพื้นที่ในย่านนี้  พื้นที่ทางศิลปะบนกำแพงและตัวอาคารหลายจุดนั้น ซึ่งผลงาน Street Art เหล่านี้ถูกสร้างสรรค์โดยศิลปินไทยและนานาชาติ ที่เข้าร่วมเทศกาล เทศกาลเมืองศิลปะ “บุกรุก” ครั้งที่ 2  ได้ช่วยทำให้พื้นที่ย่านนี้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ ของกรุงเทพฯ ไปแล้ว และกลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าแวะไปเช็คอิน ถ่ายภาพเก็บกันไว้ ก่อนที่ผลงานแต่ละชิ้นจะถูกศิลปิน Street Art ท่านอื่นๆ มาสร้างสรรค์งานศิลปะประเภทนี้บนผนังอาคาร ในเทศกาลอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในครั้งต่อไป

     

    จุดรวมผลงานของศิลปินไทยและต่างชาติหลายๆ คน
    อาทิ Alex face, Kult, Bonus,โลเล - ทวีศักดิ์ ศรีทองดี ฯลฯ บนกำแพง ในซอยของ ถ.เจริญกรุง 32

     

    จากนั้นเดินต่อไปยัง เจริญกรุง ซ.28
    V
    V

    ทาง 4 แยกไฟแดงสี่พระยา (เลี้ยวซ้ายคือตรงไปยังท่าเรือสี่พระยาเส้นทางที่เราจะใช้เดินทางต่อ)

     

    Street Art เจริญกรุง ซ. 28

    >> จะพบกับผลงานของ Daehyun Kim ศิลปินจากเกาหลี และผลงานของ Saddo ศิลปินจากโรมาเนีย บนผนังอาคาร ตรงปากซอย ถ.เจริญกรุง 28

     

    และจะมีอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยเช่นกัน

     

     

    พิกัด

    ที่อยู่ : ถนนเจริญกรุง ซ. 28 และ ซ.32  แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
    เว็บไซต์ : ติดตามความเคลื่อนไหวของเทศกาลครั้งต่อไปได้ที่  www.bukruk.com

     

    -------------------------------------------------------

     

    สถานที่ 3 วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดภูเขาทอง)

    การเดินทาง : เดินทางโดยเรือ เดินย้อนกลับมายังสี่แยกไปแดงสี่พระยา  เพื่อไปท่าเรือสี่พระยา – ขึ้นเรือเร็ว ธงส้ม (ประหยัดและเร็ว) ลงท่าเรือท่าเตียน สามารถเลือกลงได้ทั้งท่าเรือท่าเตียน และท่าช้าง ขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่จะไป  ต่อด้วยขึ้นรถเมล์ฟรีสาย 15 สายนี้ผ่านหน้าวัดพอดี หรือจะขึ้นรถเมล์ : สาย 8, 37, 47, 49 ปอ. 37, 49 ก็ได้เช่นกันแล้วแต่ตำแหน่งที่เราอยู่

     

    #มากกว่าการได้เที่ยววัดคือการได้ทำบุญไหว้พระ

    เที่ยวในกรุงเทพฯ ไม่ต้องกลัวหลงมีแผนที่บอกทางตลอด และที่สำคัญทางอยู่ที่ปากนะจ๊ะ
    ไม่รู้ก็ถามคนแถวนั้นเอา

     

    ณ ท่าเรือสี่พระยา ใช้บริการเรือด่วนธงสีส้ม (ประหยัดและเร็ว)

     

    ใช่ว่าจะมีแค่วิวบนท้องถนน บนน้ำก็มีวิวสวยๆ เช่นกัน

     

    >> พวกเราเลือกลงท่าเรือท่าเตียนซึ่งเป้าหมายก็มีอยู่แถวนี้เช่นกันแต่ยังไม่เลือกที่จะไป เพราะอยากไปจุดที่ไกลก่อน  จึงเดินดูนู้นนี้นั้นไปยังท่ามหาราช ประกอบกับดูแผนที่การเที่ยวซึ่งจะมีบอกระหว่างทางให้สามารถตรวจเส้นทางเพื่อดูว่าจุดที่เราอยู่นั้นคือตรงไหน และสายรถเมล์ที่วิ่งผ่านแต่ละเป้าหมายของพวกเราคือสายไหนบ้าง  เมื่อดูแผนที่และถามทางไปด้วยนั้น รถเมล์สาย 15 (ฟรี) คือสายที่เราเลือกใช้บริการ

    มีแผนที่รอบเกาะ ดูเส้นรถเมล์วิ่งผ่าน เลือกขึ้นนรถเมล์ฟรีสาย 15 ผ่านหน้าวัดพอดี

     

     “บรมบรรพต” นามพระราชทาน  ชื่อเดิมคือ “พระเจดีย์ภูเขาทอง” พระเจดีย์ภูเขาทององค์นี้สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์จะสร้างพระเจดีย์เหมือนอย่างวัดภูเขาทองที่กรุงศรีอยุธยา มีคลองมหานาคล้อมรอบวัด แต่ในปัจจุบันบรมบรรพตหรือพระเจดีย์ภูเขาทองปัจจุบันมีขนาดสูงจากฐานถึงยอด 63.6 เมตร ฐานโดยรอบมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 150 เมตร ฐานโดยรอบยาว 330 เมตร มีบันไดทอดขึ้นเป็นบันไดเวียน 344 ขั้น เมื่อเดินขึ้นสู่ยอดเขาบนลานพระเจดีย์สีทอง สามารถมองทัศนียภาพกรุงเทพมหานครได้รอบไกลถึงปลายขอบฟ้าได้

    ถึงเป้าหมายประมาณ 12.00 น. พอดีกำลังร้อนได้ที่

     

    พระบรมสารีริกธาตุ

     

    ทำบุญเสร็จก็ไปเป้าหมายต่อไป

     

    วิวข้างบนคือสวยงาม คืออากาศดี แต่ไม่เหมาะที่จะขึ้นไปตอนเที่ยงๆ หรือตอนช่วงที่กำลังร้อนๆ

     

    พิกัด

    ที่อยู่ : 344 ถนนจักรพรรดิพงษ์ แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
    โทรศัพท์ : 02-621-2280
    เว็บไซต์ : http://www.watsraket.com/
    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 08.00 น.- 16.00 น. 
    ค่าใช้จ่าย : คนไทยไม่คิดเงิน, ชาวต่างชาติ 10 บาท
    สิ่งที่ไม่ควรพลาด : การขึ้นไปกราบนมัสการปิดทองพระบรมสารีริกธาตุ, ชมพระบรมบรรพต ภูเขาทองที่ชั้นบนสุด, การเข้าไปชมความงามของพระพุทธรูปและภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ

     

    -------------------------------------------------------

     

    สถานที่ 4 เสาชิงช้า และ วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร

    การเดินทาง : เดินจากวัดภูเขาทอง - จนถึงเป้าหมาย (แวะถามทางมาเรื่อยๆ) ส่วนรถเมล์ที่วิ่งผ่าน : สาย 12, 35, 48 และ 508

    พวกเราเลือกที่จะเดินเพราะมันทำให้เราได้เห็นอาคารสถานที่ที่แปลกตาและเก่าแก่
    ซึ่งการนั่งรถทำให้เราพลาดสิ่งเหล่านี้เสมอ อีกอย่างพวกเราชิล ไม่รีบ สบายๆ รักการเดินเท้ามากกว่าการนั่งรถ
    แต่ถ้าจะให้ถึงขั้นเดินกลับบ้านก็คงไม่ไหว

     

    ภาพมุมกว้างด้านหน้าของเสาชิงช้า และวัดสุทัศนเทพวราราม

     

     

    “เสาชิงช้า” เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีโล้ชิงช้า ในพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวายของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เสาชิงช้าที่ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ และตั้งอยู่หน้าวัดสุทัศน์เทพวราราม และลานหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ลานคนเมือง) ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงเทพมหานคร

     

    “วัดสุทัศนเทพวราราม” เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 2350 เดิมพระราชทานนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” ภายในวัดสุทัศนเทพวรารามเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และได้อัญเชิญ พระบรมราชสรีรางคารของพระองค์ มาบรรจุที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนี ส่วนในพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ จัดว่าเป็นพระอุโบสถที่ยาวที่สุดในประเทศไทย พระประธานภายในพระอุโบสถ คือ “พระพุทธตรีโลกเชษฐ์” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย

    ใช่ว่าเราจะมาแค่ถ่ายรูป บุญเราก็ทำ

     

    อยู่ ณ ตรงนี้กันสักพักใหญ่ พวกเราก็เดิน เดินๆ ไปเป้าหมายที่ 5 ต่อ

     

    พิกัด

    ที่อยู่ : 146 ถนนตีทอง แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ
    โทรศัพท์ : 02-224-9845, 02-222-9632
    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา  8.00 - 17.00 น. โบสถ์ เวลา  8.00 - 17.00 น. วิหารหลวง เวลา 7.00 - 21.00 น. 
    สิ่งที่ไม่ควรพลาด : มีพระวิหารขนาดใหญ่ และพระอุโบสถขนาดใหญ่ยาวสวยงามที่สุดในประเทศไทย ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม และมีพระประธานที่สำคัญ คือ "พระศรีศากยมุนี" ในพระวิหารหลวง "พระพุทธตรีโลกเชษฐ์" ในพระอุโบสถ และ "พระพุทธเสรฏฐมุนี" ในศาลาการเปรียญให้กราบไหว้สักการบูชา

    -------------------------------------------------

     

    อ๋อ! ลืมแนะนำมาย่านนี้อย่าลืมแวะไปชิมน้ำกะขนมร้านนี้กันนะคะ "ร้านนมต์นมสด"

    ร้านนี้เขาขึ้นชื่อ มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่องของรสชาติ และความอร่อย
    วันที่ไปคนเยอะมากแน่นร้านเลย คิวยาว คนเยอะ โอ้ยความอร่อยมักมาพร้อมกับความวุ่นวาย
     

    --------------------------------------------------

     

    สถานที่ 5 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

    การเดินทาง : เดินจากวัดสุทัศนเทพวราราม - จนถึงเป้าหมาย (แวะถามทางมาเรื่อยๆ)

     

    เดินค่ะเดิน การเดินทางของฉันคือการเรียนรู้

     

    “วัดโพธิ์” หรือนามทางราชการว่า  “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร” เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1  แห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งภายใต้ของพระแท่นประดิษฐาน พระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ท่านไว้ด้วย

    ไม่ต้องกลังรองเท้าหาย เพราะที่วัดนี้มีถุงสำหรับให้นักท่องเที่ยวใส่รองเท้าเพื่อพกติดตัวเข้าไปได้

     

    พิกัด

    ที่อยู่ : 2 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
    วัดโพธิ์ ตั้งอยู่ริมถนนสนามไชยและถนนมหาราช ติดกับพระบรมมหาราชวัง เวลา
    โทรศัพท์ : 0-2226-0335, 0-2225-9595, 0-2221-9449
    เว็บไซต์ : http://www.watpho.com/
    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00 - 18.30 น.   
    ค่าใช้จ่าย : คนไทยไม่คิดเงิน, ชาวต่างชาติจะต้องซื้อบัตรเข้าชมคนละ 200 บาท 
    สิ่งที่ไม่ควรพลาด : สักการบูชา  พระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานภายในพระอุโบสถ, พระวิหารพระพุทธไสยาส หรือวิหารพระนอน, จิตรกรรมในพระวิหารพระพุทธไสยาส, พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล, เขามอและเขาฤาษีดัดตน และอื่นๆ

    ---------------------------------------------------------

     

    สถานที่ 6 สวนสันติชัยปราการ (ป้อมพระสุเมรุ)

    การเดินทาง : เดินจากวัดโพธิ์ - จนถึงป้ายรถเมล์แถวสนามหลวง นั่งรถเมล์ฟรี สาย 15 ไปลงที่ป้อมพระสุเมรุ ตั้งอยู่บนถนนพระอาทิตย์ ติดย่านร้านอาหารอร่อย

    ทางผ่าน (เหมือนฝนกำลังจะมา ฮึๆ อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน)

     

    รถแถวนี้ติดหนักมาก เดินไปยังเร็วกว่า ก็เดินกันไปขึ้นรถเมล์ฟรีสาย 15 ต่อ ซึ่งอยู่แถวสนามหลวงของอีกฝั่งหนึ่ง

     

    >> ป้อมพระสุเมรุตั้งอยู่บริเวณมุมที่ถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุเชื่อมต่อกัน ติดแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองบางลำพูหรือคลองรอบกรุงด้านเหนือ เกาะรัตนโกสินทร์ชั้นนอก ปัจจุบันได้จัดทำเป็นสวนสาธารณะสำหรับชุมชน ชื่อว่า “ สวนสันติชัยปราการ”

     

    “ป้อมพระสุเมรุ” เป็นป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ป้อมพระสุเมรุเป็น 1 ใน 2 ป้อมที่ยังคงเหลืออยู่ และได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อถนนพระสุเมรุ ปร้มปราการมีลักษณะที่สวยงาม  เป็นป้อม 3 ชั้นมีบันไดขึ้นป้อมจากด้านในกำแพงจำนวน 3 บันได มีเชิงเทิน ช่องยิงปืน ห้องเก็บกระสุนดินดำ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ 


    พิกัด
    ที่อยู่ : ถนนพระอาทิตย์ แขวงบางลำพู ชนะสงคราม พระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

    -------------------------------------------------

     

    ปิดทริปมื้อเย็นด้วยร้านอาหารย่านถนนพระอาทิตย์

    “ร้านคุณแดงก๋วยจั๊บญวน”  หรือเรียกอีกชื่อว่า “ข้าวเปียก” สำหรับร้านนี้เป็นร้านกวยจั๊บญวนร้านดังแถวถนนพระอาทิตย์มีความพิเศษโดดเด่นกว่าร้านอื่นๆ ตรงที่เครื่องที่ใส่มาในกวยจั๊บญวนนั้นมีมากมายหลายอย่าง จนเรียกได้ว่าเป็นกวยจั๊บญวนทรงเครื่องก็ว่าได้ โดยกวยจั๊บญวนของที่นี่จะใช้เส้นกวยจั๊บญวนสดๆ เหนียวนุ่ม ที่สั่งมาจากอุบลราชธานี เสิร์ฟมาในชามร้อนๆ พร้อมเครื่องมากมาย ทั้งหมูยอเนื้อพริกไทยดำจากอุบลราชธานี หมูตุ๋น หมูเด้ง ไข่นกกระทา เห็ดหอม หอมใหญ่ ผักชีฝรั่ง ต้มหอม และหอมเจียวหอมๆ ทั้งหอม และรสชาติกลมกล่อม ทำเอาใครหลายคนที่ได้มาลองลิ้มต่างติดใจกันมาหลายราย 

    ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติเลยต้องมาลอง ความอร่อยอยู่ที่รสชาติของนํ้าซุปก๋วยจั๊บญวนเข้มข้นอร่อย
    มีกลิ่นของพริกไทยที่สามารถสัมผัสถึงรสชาติอย่างชัดเจน ส่วนยำนั้นรสชาติแซ่บได้ที่กำลังพอดี

     

    พิกัด

    ที่อยู่ : 32 ถ.พระสุเมรุ, แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร, กรุงเทพมหานคร 10200
    โทรศัพท์ : 085-246-0111
    เวลาเปิดบริการ : จ. - ส. : 11:00 - 21:30

    -------------------------------------------------

     

    สุดท้ายท้ายสุดด้วยของหวานปิดงานก่อนกลับ

    “ร้านโรตีมะตะบะ”  เป็นร้านอาหารอิสลามเก่าแก่ตั้งอยู่ตรงข้ามสวนสันติชัยปราการหรือป้อมพระสุเมรุ ตรงหัวมุมถนน ร้านเล็กๆ ที่มีผู้คนเข้าออกร้านตลอดทั้งวัน  อาหารอิสลามของที่นี่มีทั้งมีเมนูเด่นก็คือโรตีมะตะบะ ซึ่งจะมีให้เลือกหลากหลายเมนูด้วยกัน ทั้งโรตีมะตะบะเนื้อ มะตะบะไก่  หากใครไม่ชอบกินโรตีที่ร้านก็ยังมีเมนูอื่นๆ  อาทิเช่น แกงเนื้อ แกงเขียวหวานไก่ ซุปไก่ ซุปเนื้อ ซุปหางวัว แกงมัสมั่น ข้าวหมกไก่ ข้าวหน้าเนื้อ แกงกะหรี่ไก่ ข้าวหมกไก่ ข้าวหน้าเนื้อ สตูว์ลิ้นวัว อร่อยเข้มข้นให้ได้ลิ้มลองกันด้วย  ส่วนใครที่ชอบกินโรตีแบบธรรมดาราดนม น้ำตาล มีให้ได้เลือกกันตามชอบใจจ๊ะ รวมถึงเมนูประเภทน้ำสั่งมากินควบคู่กันไป

    พิกัด

    ที่อยู่ : 136 ถ.พระอาทิตย์ ตรงข้ามป้อมพระสุเมรุ, แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร, กรุงเทพมหานคร 10200
    โทรศัพท์ : 02-282-2119, 02-621-2612
    เวลาเปิดบริการ : อ. - อา. : 09:00 - 21:30

    --------------------------------------------------

     

    **ค่าใช้จ่ายทริปนี้ประหยัดสุดหมดไปคนละ  600 บาท กับ 6 สถานที่เที่ยว และ 2 ร้านอาหารขึ้นชื่อย่านดัง

    ปล. หากรีวิวนี้ทำให้ท่านเมื่อยมือจากการรูดเมาส์ก็ต้องขอโทษทีจ๊ะรูปเยอะไปหน่อย

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเข้ามาชมกันนะจ๊ะ ขอบคุณก๊าบบบบบ

     

    By Namee Be Bear

    ขอฝากเพจน้องใหม่ของเจ้าของรีวิวด้วยนะจ๊ะ ถ้าชอบให้กดไลน์ ถ้าถูกใจช่วยกดแชร์

    Fanpage : https://www.facebook.com/KanXengStudio/

     

    • Namee  @Sittipong ขอบคุณค่ะที่เข้ามาชม ใช้โปรแกรม Lightroom ในการแต่งภาพ ส่วนโทนสีปรับโหมดสีเองตามสไตล์ที่ชอบอะคะ 24 มิถุนายน 2560 09:02:06
    • Sittipong  ภาพสวยดีคับ ใข้โปรแกรมอะไรอ่าคับ ชอบมากเลย โหมดไหน 22 มิถุนายน 2560 13:35:03
    • โพสต์-2
    Moonoi Aek-Udom •  กันยายน 22, 2560