ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
2วัน1คืน ม่อนคลุย-กลอเซโล โอโห้เด็ดจัง ทะเลหมอกปังอลังการ กลอเซโล
    • โพสต์-1
    Boy •  กุมภาพันธ์ 13 , 2565

    สวัสดีจ้าเจอกันอีกแล้วครอบครัวตะลอนเที่ยว ทริปนี้ส่งท้ายปี 2564 ต่อจากเชียงใหม่รอบก่อนเจอทะเลหมอกยังไม่ฟิน รอบนี้เลยหาสถานที่ที่เขาว่าหมอกปังอลังการสุดๆ ฮอตฮิตช่วงนี้นั้นก็คือ ทะเลหมอกกลอเซโล สบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หมอกจะปังแค่ไหนไปชมกันได้ครับ  พร้อมเส้นทางการไปเส้นทางใหม่ไม่ยาก

    ออเดิฟก่อน

    ทะเลหมอกมีให้ชมตั้งแต่ 5 ทุ่มยัน 11โมงเช้า

    ตารางทริปนี้

    26-27/12/64

    วันแรก ออกแต่เย็นมาถึงม่อนคลุย ตี 3 เช้าชมหมอกแล้วเดินทางต่อไปกลอเซโลกางเต็นท์

    วันที่สองชมทะเลหมอกยันเกือบเที่ยงแล้วลงกลับกทม. 

     

    รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D7200 tokina 11-20 fix35 tamron 70-300 vc
    และคลิปจาก Iphone 12

    คลิปเต็ม

    • โพสต์-2
    Boy •  กุมภาพันธ์ 13, 2565
    • โพสต์-3
    Boy •  กุมภาพันธ์ 13 , 2565

    และคลิปเส้นทางขึ้นเต็มๆทาง ขึ้นจากฝั่งสบเมย ทางนี้ง่ายไม่โหดและวิวสวยมากๆเป็นทางใหม่ ปกติเขาจะขึ้นทางแม่สามแลบครับ ไปชมได้ไม่หลงแน่นอน

    • โพสต์-4
    Boy •  กุมภาพันธ์ 13, 2565
    • โพสต์-5
    Boy •  กุมภาพันธ์ 13 , 2565

    เริ่มออกเดินทางเย็นวันที่ 25 คริสต์มาสพอดี  เลิกงาน 5 โมงออกทันทีมารับสมาชิกอีก2 คนจังหวัดนนท์แล้วก็ออกเดินทาง

    แวะเติมน้ำมันถังแรกก่อนฟ้ามืด  

    OMG เต็มถัง 2000 แล้วววน้ำมันแพงมากก

    จากนั้นก็ยิงยาวมาเตฺมอีกที บางจากก่อนจะเลี้ยวซ้ายมาทางแม่สอด ผ่านแม่สอดประมาณเที่ยงคืน

    เส้นทางจากแม่สอดมาท่าสองยางปลายทางของเราวันนี้ม่อนคลุย อีก160 โล ทางสวนสองเลนรถแทบไม่มีนานๆจะเจอรถคอกสักคัน แต่ระหว่างทางจะเจอด่านตรวจทหารตลอดทางไม่ต้องห่วงครับวิ่งได้สบาย รถน้อยกว่า 

     

    มาถึงปากทางเข้าม่อนคลุยตี2 กว่า เหลือระยะทางดินอีกประมาณ 8 โล โชคดีว่าเคยมาแล้วรอบนึงตอนกลางวันเมื่อสามปีก่อน ก็เลยกล้าเข้าตอนกลางคืนเพราะทางเป็นป่ามืดๆไม่มีไฟ ขับๆไปเจอฝูงควายสีดำตัวใหญ่มาก ทำเอาหลอนเหมือนกัน มาหากินอะไรกันดึกป่านนี้เจ้าควายจ๋า ค่อยๆคลานมามันมืด

    เส้นทางช่วงนี้ทางแห้งค่อนข้างง่ายเลย รถขับ4ขับ2 มาได้ทุกคัน เส้นทางเป็นดินหนังหมูบางช่วงที่ชันๆ และเป็นหินลอยบางส่วนแต่ส่วนใหญ่จะทางลูกรังอัดแน่นไม่ยากครับ แต่ถ้าฝนตกเมื่อไหร่เนินหนังหมูนั้นบอกเลยไม่หมูแน่นอน  

    แล้วก็มาถึงยอดม่อนคลุย ตี 3.10 วันนี้มีคนมากางหลายเต็นท์พอสมควรค่อยอุ่นใจนึกว่าจะเหงาเสียแล้ว

    มาถึงก็เจอทะเลหมอกทะเลดาวให้ชื่นใจกันเลยทริปนี้ จัดแจงถ่ายรูปสักหน่อยก่อนจะนอนเอาแรง

    ทะเลหมอกไกลๆ

    ในเวลาตี 3 กับแสงดาวและพระจันทร

    จากนั้นก็นอนกันในรถอากาศตอนนั้นหนาวแบบเยือกนิดๆ ต้องใส่เสื้อกันหนาวนอน อากาศถือว่าฟินเลยทีเดียว

    นอนถึง 6.30 ได้งีบไป 3 ชั่วโมงตื่นมาดูแสงเช้า

    

    ฝั่งนู้นมีคนกางอีกเยอะเลยวันนี้

    ทะเลหมอกสวยแต่ถ่ายไม่ชัดมันขาวนัวๆไปหมดครับ

    พระอาทิตย์เริ่มมาแล้วเวลา 7 .00

    ค่อยโผล่ขึ้นมาแสงแรกของทริปนี้

    ทองฟ้าสวยงาม

    

    

    พระอาทิตย์ค่อยๆทำหน้าที่ของเขา อากาศค่อยๆอุ่นขึ้นกำลังดีตอนนี้ 

    

    ขับลงไปดูห้องน้ำ

    ที่ม่อนคลุยนี้น่าเสียดายอย่างคือไม่มีคนดูแลปรับปรุง ห้องน้ำทั้งสองจุด ไม่มีน้ำและสกปรกขาดคนดูแล ขยะก็มีค่อนข้างเยอะในรอบๆครับ ถ้ามีหน่วยงานมาดูแลปรับปรุงนักท่องเที่ยวคงจะมากันเยอะกว่านี้ครับ เพราะสถานที่ค่อยข้างสวยงามเลยทีเดียว 

    ถ่ายกับป้ายม่อนคลุยหน่อย

     Good morning ไอหมูเกลของพ่อตื่นแล้ว 

    

    กองหินเรียงรายไม่รู้ว่าวางมานานกันแค่ไหนแล้ว น้องเกลอย่าเผลอไปโดนเขาล่มนะลูกเดี่ยวเผื่อเป็นของคู่รักเขาทำไว้555

    ทะเลหมอกจุดเดิมเพิ่มขึ้นมาชัดหน่อย แต่ถ่ายแล้วมัวๆครับ

    

    ถ่ายรูปกันอยู่สักพักก็เดินทางต่อเตรียมลงกัน

    ขยับกลับมามุมเดิมแดดเริ่มส่องเห็นทะเลหมอกชัดขอถ่ายกับพี่ไทรทันหล่อๆหน่อย

    เอา70-300ซูมไปดึงหมอกให้มาใกล้ๆ

    

    จากนั้นก็ขับออกมาขาออกใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที ทางสั้นๆครับ

    แวะถ่ายรูปข้างทางระหว่างไปสบเมย

    สองข้างทางยามเช้าสวนงามบางช่วงก็วิ่งทะลุหมอก

    จนเรามาถึงสบเมยปากทางที่เราจะขึ้นบ้านแม่คะตวน 

    

    บางรูปแคปจาก VDO เพราะไม่ได้ถ่ายไว้นะครับ ทางขึ้นนี้อยู่ตรงสบเมยเข้าทางบ้านแม่คะตวน ถ้ามาจากท่าสองยางคุณจะผ่านทางนี้ก่อนขึ้นจากตรงนี้เลยจะถึงไวกว่าเพราะไม่ต้องอ้อมไปถึงแม่สามแลบครับ แต่หากมาจากฝั่งแม่เสรียงขึ้นทางแม่สามแลบเลยอาจจะไวกว่าหรือเวลาพอๆกัน เพราะทางที่ผมจะไปนี้ทางไม่โหดวิ่งง่ายครับ ระยะทางประมาณ 50 โลจากถนนดำ 105 นี้ ไปดูกันเลย   อ้ออย่าลืมตุนเสบียงจากสบเมยไปเลยนะครับผมกินข้าวเช้าและตุนของ เริ่มเข้าเส้นนี้เวลาประมาณ 11 โมงตรง  และหลังจากป้ายนี้สัญญาณมือถือก็จะไม่มีแล้วนะครับ มีแค่บางจุดน้อยๆ ฉนั้น GPS Google map อาจจะใช้ไม่ได้เพราะจัยสัญญาณไม่ตรง และเส้นทางที่จะไปนี้ก็ยังไม่มีในแผนที่นำทาง ต้องอาศัยดูถามทางหรือดูตามผมนี้ได้เลยนะครับ

    เส้นทางช่วงแรกประมาณ 20โล ยังเป็นทางดำอย่างดี ตรงตามทางหลักมาเรื่อยๆ 

    ยังมีทะเลหมอกไกลๆให้เห็นน่าจะแถวๆกลอเซโลหรือป่าวนะ

    เส้นทางลัดเลาะเขาไปเรื่อยๆวิวสวยไม่เบา

    

    วิ่งมาตามทางล้านเลโค๊ะ จนเรามาถึงสามแยกนี้จพให้ดีอย่าขี่เพลิน ให้เราเลี้ยวขวา ถ้าตรงไปเห็นว่าไปได้แต่อ้อมมากๆและทางโหดไปอี้ก อย่าหลงเข้าไปนะครับ  ดูคลิปเส้นทางประกกอบนะครับมีบอกไว้ทุกแยกและสภาพเส้นทาง

    หฃั

    จากเลี้ยวเข้ามานิดเดียวก็จะเจอเส้นทางความสนุกสุดหรรษาเริ่มขึ้นเป็นทางปรับเกรดใหม่ สดๆร้อนๆต้อนรับ นทท กันเลย ทางเรียบมาก

    แต่ฝุ่นแบบว่าอย่างกับผงแป้งคุณจะได้อารมณ์เหมือนไปแข็งแลลี่ดาร์การ์กลางทะเลทราย 

    แต่ต้องบอกเลยว่าคุณจะว้าวมากๆกับเส้นทางถนนลอยฟ้า วิวมันเด็ดมากๆ 

    ตลอดสองข้างทางจะเจอวิวว้าวๆให้จอดถ่ายรูปจนเหนื่อยครับ

    ขับตามทางไปเรื่อยๆจะเจอหมู่บ้านเรื่อยๆและมมีเด็กน้อยหากมีขนทก็ติดไม้ติดมือให้เด็กๆได้ครับ

    ลังจากผ่านหมู่บ้านมาเรื่อยๆจะเจอสามแยกที่มีศาลานี้ครับ หากเลี้ยวขวาจะลงไปบ้านแม่สามแลบ  หรือคนที่ขึ้นทางฝั่งมาสามแลบ จะมีเส้น 18 โลทางโหด กับเส้น 22 โลจะมาเจอกับเราที่ขึ้นจากแม่คะตวนตรงสามแยกนี้

    

    ฉนั้นเราต้องเลี้ยวซ้ายไปต่อครับ

    ไปตามทางยาวๆ

    จนทะลุถนนลาดยางบ้านห้วยแห้วครับ วิ่งจากลาดยางมาไม่ไกลก็จะเจอ แยกให้เบี่ยงขวาที่มีป้ายว่าบ้านบุญเลอ เบี่ยงขวาเข้ามาเลยครับ

    

    เส้นทาง15โลนี้จะดุกว่าที่ผ่านมานิดหน่อยครับทางแคบๆบ้างช่วงและมีชันหักศอก แต่ไม่ยากอะไรครับมาได้สบายๆ

    แล้วก็จะมาเจอสามแยกศาลานี้ให้เลี้ยวขวาครับ

    และเราก็จะมาถึงสามแยกบ้านบุญเลอ หากเราตรงไปจะเป็นม่อนเดียวดาย และจุดชมวิวทะเลหมอกสองแผ่นดินและก๋วยเตี๋ยวน้องนัด กางเต็นท์ได้เหมือนกัน แต่เดี่ยวผมจะมาพรุ่งนี้ เราจะไปกลอเซโลต่อ เลี้ยวขวาได้เลย 

    เลี้ยวขวามาอีกไม่ไกล ประมาณ 2 โลเราก็จะเจอแยกเบี่ยงซ้ายขึ้นมาจุดกางเต็ฯท์ของเราคืนนี้ที่ขุนกลอเซโล 

     

    โดยผมใช้เวลาไปทั้งหมด 2.20 ชั่วโมงรวมจอดถ่ายเรื่อยๆตลอดทางครับ สรุปว่าเส้นทางนี้รถขับสี่ขับชิลๆ รถขับสองก็ไม่ค่อยน่าห่วง ส่วนรถเก๋งรถโหลดไม่ค่อยอยากแนะนำแต่ก็เห้นหลายคันเอาขึ้นมาได้แต่ก็สงสารช่วงล่างรถครับ เอาเป็นว่าเลือกไลน์ดีๆไปได้ทุกคันที่ไม่โหลดมากครับ

    ที่นี้ค่ากางคนละ 100 ไม่รับจองเพราะไม่มีสัญญาณใครมาก่อนเลือกที่ลงได้เลย ขอบริมว่างเราเลยจัดแจงกางเต็นท์ทันทีตอนนี้เวลา บ่ายโมงกว่า

    ลูกสาวจอมป่วนขอตอกสมอให้พ่ออีกแล้ว

    โอ้ยๆฆ้อนมันหนักยกม่ายไหว

    กางเสร็จแล้วบ่ายสองช่วงนี้แดดยังแรงร้อนมาก ต้องหาผ้ามาบังแดด

    มาดูวิวกันบ้าง ที่ขุนกลอเซโลที่นี้จะอยู่สูงรองจากม่อนเดียวดาย และสูงกว่าอีก 3 จุดที่เรามองเห็นด้านล่างนี้ 

    ซูมไปจุดของที่กางของหมู่บ้าน

    โดยแต่ละจุดจะเห็นทะเลหมอกเดียวกันหมด แต่มุมมองความกว้างแคบจะต่างกันไป ขุนกลอเซโลจะกว้างกว่าจุดด้านล่าง แต่จุดด้านล่างจะอยู่ต่ำทำให้เวลาถ่ายทะเลหมอกจะดูอยู่ใกล้กว่า ทำให้ทุกจุดมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป เลือกหากางได้ตามชอบ รับประกันว่าสวยทุกจุดครับ 

    มาต่อที่ขุนกลอเซโลมีลานกว้างพอสมควรและมีชั้นลดหลี่นลงให้ให้กางได้ ที่นี้มีห้องน้ำไม่เยอะแต่ห้องน้ำสะอาดกว้างน้ำเย็นสดชื่นมีน้ำใช้ตลอดโอเคมากๆเลย และมีพวกเครื่องดื่มขายไม่ต้องกลัวอด แต่อาหารจะไม่มีเหมือนจะมีแค่พวกมาม่าต้องเตรียมกันมานะครับของกิน

    จิบน้ำเย็นๆชมวิวสวยๆให้ชื่นใจ

    ให้สมกับที่เดินทางมาไกล

    บ่ายแก่ๆชักง่วงปูเสื่อนอนเล่นสักงีบ แต่นอนไม่ค่อยหลับน้องเกลวิ่งไปมาสนุกเขาล่ะ555

    ตกเย็นตั้งวงหมูกระทะ หิ้วมาเองจาก กทม. อัดน้ำแข็งมา

    แดดอ่อนๆควันหอมๆ

    

    มาดูแสงยามเย็นที่นี้กันบ้าง

    พระอาทิตย์กำลังจะหลบหลังเขา

    แสงเย็นของจริงที่นี้สวยกินบรรยาย

    แสงสีทองตัดกับสันเขาทอดแนวยาว

    รูปจากไอโฟนนี้ไม่ได้สวยเกินจริง ผมว่ากล้องไอโฟนนี้เขาพัฒนาได้ฉลาดมาก ค่อนข้างใกล้เคียงกับตาเราที่มองเห็นจริงๆครับสวยมากๆ

    วันนี้คนไม่แน่นแต่ก็โดยรอบมีคนกางหมด และยังมีคนเข้ามาเรื่อยๆยันมืดครับวันนี้

    ภูเขาสลับซับซ้อนเป็นเลเยอร์ๆ

    

    เป็นช่วงเวลาที่สวยงามจริงๆ

    อากาศเริ่มลดลงแต่ยังไม่ถึงกับหนาวนั้งสบายๆ

    จนในที่สุดแสงสุดท้ายของวันก็หมดไป 

    เมื่อสิ้นแสงอาทิตย์ดับลงในความมืดมิด เราก็จะได้เห็นดวงดาวสว่างสไหว

    ผมถ่ายดาวช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มแสงรบกวนจาก ทุกคนยังเยอะเลยทำให้ดาวอาจจะยังไม่ชัด

    จากนั้นผมก็ซัดหมูกระทะและหมูอีกโลที่ซื้อมาเพิ่ม จนอิ่มแปล้ อากาศที่นี้ไม่ได้หนาวมากลมสงบนิ่ง

    จนถึงเวลา 5 ทึ่มกว่าเดินถ่ายอีกรอบ

    หลายๆเต็นท์ตอนนี้ปิดไฟนอนหมดแล้วที่นี้ค่อนข้างเงียบมากหรือทุกคนอาจจะเหนื่อยจากการเดินทางไม่เจอคนกินเหล้าเสียงดังเลย

    ทำให้ดวงดาวตอนนี้ชัดเจนแจ่มจรัสมากๆเป็นอีกที่ที่เห็นดาวชัดสุดๆแบบเต็มท้องฟ้า

    เปิดไฟเก๋งในรถไว้หน่อยให้ภาพไม่มืดจนเกินไป

    และที่สำคัญทะเลหมอกค่อยๆเริ่มมาตั้งแต่ 5 ทุ่มแล้วครับ แต่สายตาเราอาจจะมองยังไม่ชัดเพราะมืดมาก แต่ในกล้องมองเห็นแล้วครับทำให้เราได้ทั้งดาวได้ทั้งหมอก แล้วจากนั้นผมก็นอน

    ในตอนแรกกะนอนยันเช้า แต่ด้วยความกินเยอะไปหน่อยมั้งหรือว่าโชคช่วยพอดี ตี 3 ก็ปวดท้องหนักจนต้องลงมาเข้าห้องน้ำ พอเอาหมูกระทะออก เดินออกจากห้องน้ำมาต้องร้องว้าวมากเพราะดาวโคตรชัดแจ่ม และตอนนี้ ตี3.45 หมอกมาแน่นแล้วมองด้วยตาเปล่ายังเห็นเพราะตอนนี้มีแสงพระจันทรช่วย

    ก็เลยเอากล้องออกมาถ่ายอีกรอบขยันสุดๆ

    เดินไปถ่ายรอบฟินสุดๆครับคืนนี้ ต้องขอบคุณขี้ที่ทำให้ผมตื่น 5555

    เวลานั้นมองด้วยตาเปล่าชัดมากๆครับดวงดาว

    และมาตั้งถ่าย Time laps จากในคลิปอีก 100 ใบ นั้งนอนรออีก ครึ่งชั่วโมงอยากถ่ายยันเช้าแต่แบตจะไม่พอไว้มีแบตสองก้อนก่อนรอบหน้า กว่าจะได้นอนอีกทีก็ตี4.30

    

    • โพสต์-6
    Boy •  กุมภาพันธ์ 13 , 2565

    อรุณสวัสดิ์ทะเลหมอกแบบนี้แหละที่ตามหา

    ลูกสาวยิ่มร่าเลยสวยไหมลูก

    ลงไปเดินเล่นถ่ายรูปกันดีกว่า

    ทะเลหมอกเต็มๆแน่นๆ

    ตอนนี้แดดยังไม่มาพระอาทิตย์กำลังจะขึ้น

    ทะเลหมอกที่นี้สวบเต็ม10ไปเลย 

    

    สุดลูกหูลูกตา

    มุมไหนก็สวยเพราะหมอกมาแน่นๆ ที่กลอเซโลนี้มีทะเลหมอกแน่นๆเพราะว่าด้านล่างมรแม่น้ำสาละวินที่เหมือนเป็นเครื่องทำเวลาหมอกชั้นดี มีให้ชมแน่นๆทุกวันถ้ามาช่วง ปลาย พย.จนถึงปลายมกรา น้อยคนนักที่จะผิดหวังในช่วงนี้ถ้าไม่ได้เป็นคนบาปจริงๆ555 ส่วนช่วงอื่นก็มีทะเลหมอกทั้งปีแต่อาจจะไม่ได้มีทุกวันและแน่นๆแบบช่วงหน้าหนาวนี้ต้องลุ้นกันดูครับ

    ฟินจริงๆ

    น้องเกลได้เพื่อนมากางเต็นท์เหมือนกันทักทายตามประสาเด็กๆ

    มาดูทะเลหมอกกันต่อยาวๆไปเลยจะถ่ายไปเรื่อยนะครับจากที่กางเต็นท์ของเรานี้

    

    สวยมากครับสุดยอดปิดจ็อบทะเลหมอกปี 64ได้ดีทีเดียว

    เริ่มทยอยเก็บเต็นท์ คนอื่นเก็บออกไปหลายเต็นท์แล้วแต่ผมยังไม่รีบรอเต็นท์แห้งสักหน่อย

    แดดเริ่มแรงทะเลหมอกยิ่งฟูแน่นขึ้นมาอีกนิด

    ถ่ายจนเหนื่อยก็ทยอยเก็บของเตรียมกลับ

    ดูพายุหมอกไฟฃฝั่งไกลๆบ้าง

    ไหลเป็นน้ำตกสายหมอกเลย

    

    เป็นจุดกงาเต็ฯท์วิวที่กว้างสวยงามครับ

    ลูกสาวอาบน้ำแล้ว

    เครียดอาไยหย่อลูกสาว

    รูปหมู่ก่อนกลับ

    

    

    ว่าไงอ่ะจิ๊กโก๋

    

    ระวังลอยนะเกล

    

    คุณพ่อช่วยด้วยเกลจะลอยแล้วว

    ได้เวลาไปต่อ

    

    วิวระหว่างทางกลับไปทางสามแบกบ้านบุญเลอเราจะไปม่อนเดียวดายชมวิว

    แสนกิโลแตกที่กลอเซโลครับ ทริปนี้ผมใส่ 4H flulltime ตอลดทาง มีใส่ 4HLC ตอนทางดินที่มายยี้ครับ ใช้งานขับ 4 บ้างเดี่ยวไม่คุ้ม

    มาถึงสามแยกบ้านบุญเลอขับเข้ามาไม่ไกลก็จะถึงจุดชมวิวทะเลหมอกสองแผ่นดิน 

    ตรงนี้ก้วิวดีมากๆๆ เป้นทะหมอกผืนเดียวกันหมดแต่มุมแตกต่างกันไปครับ

    

    เป็นทริปที่ใช้คำว่า สวย ได้เปลืองมาก หรือต้องใช้คำอื่นว่า ปังมาก ปั๊วมาก แจ่มมาก ว้าวมากดี555

    จากนั้นขยับมาอีกหน่อยก็ถึงจุดสูงสุด ณ ตอนนี้ที่ม่อนเดียวดายจุดชมวิวสูงสุด 180 องศา สามารถกางเต็นท์ได้ด้วยแต่พท้นที่จะน้อยหน่อย

    คือวิวแจ่ม แหล่มมาก 

    

    CRF Rally อย่่างเท่ สักวันคงได้ขี่แลลี่ของเรามาจอดบ้างครับ

    

    เป็นอีกจุดที่วิวงามไม่น้อย ตอนนี้จุดนี้มีไวไฟด้วยนะครับถ้าใครต้องการมานอนที่นี้ได้จุดกางอื่นยังไม่มี

    ขับกลับออกมาใกล้ป้ายทะเลหมอกสองแผ่นดินก็จะเจอก๋วยเตี๋ยวน้องนัด

    คู่แข่งก๋วยเตี๋ยวห้อยขาจ่าโบเลย วิวเด็ดดวงมากๆราคาก็แสนถูก เติมพลังก่อนเดินทางกลับมื้อเช้าวันนี้

    จากนั้นก็เดินทางกลับเวลาเดิม 11 โมงผมกลับทางเดิมเพราะว่าขี้เกียจย้อนไปลงแม่สามแลบเพราะผมจะกลับกทม เลยเล้นทางก็ตามเดิมเลยครับ

    เจอน้องๆหนูยังมีขนมก็แบ่งให้น้องกันได้ครับ

    ระหว่างทางยังคงมีทะเลหมอกสวยๆให้ชมตลอดทางทริปนี้หายเหนื่อยเลยจริงๆครับ ทะเลหมอกจุใจ

    หายอยากไปอีกนาน

    

    ในส่วนขาลงนั้นเส้นทางเดิม ผู้โดยสารคนเดิม แต่ร่างกายน่าจะไม่เหมือนเดิม เลยเกิดอาการเมารถไปชุดใหญ่ 555

    เจอเจ้าอแวนซ่าถมพี่เขาบอกจะไปม่อนเดียวดาย สบายๆไปได้เลย เห็นพี่เขาไปถึงสบายอยู่นะครับ

    ยังคงแวะจอดไปเรื่อย

    

    ในที่สุดเราด็ออกมาสู่ถนนดำ

    ป้ายนี้นะครับอย่าเลยย้ำอีกครั้ง ขามาเจอป้ายนี้เลี้ยวเข้ามาเลย

    แวะจุดชมวิวบ้านห้วยกองมูล

    ก่อนจะออกมาปากทางแม่คะตวนโดยใช้เวลาจาลงไป 1.45 ชม 

    จากนั้นก็ไม่ได้แวะไหนอีกเลยยิวยาวๆกลับ กทม

    เส้นทางสวยๆเส้นแม่สอด

    ถนนดีมากเคยมานานแล้วตอนกำลังสร้างตอนนี้เส้นหมดแล้ววิ่งง่ายเลย

     ถึงบ้าน 5 ทุ่มทริปนี้ทำเวลาได้ดี

    สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากค่าน้ำมัน กะค่าหมูกระทะของกินทั่วไปครับ

    น้ำมันหมดไป

    1860  68.08 ลิตร

    1075   37.19ลิตร

    1800  61.90 ลิตร

    =4735 บาท  167.17ลิตร

    กับระยะทาง 1550 โล  เท่ากับ 9.27 โลละ 3.05 บาท  กับความเร็วพอสมควร 120-140 และเ้นทางบนเขาความเร็วปกติ ใช้ 4H Full time ตลอดทางครับ

     

    เป็นทริปที่ประทับใจมากๆยกให้เป็นทะเลหมอกที่สวยอันดับต้นๆที่เคยเจอมาเลยครับ อยากให้ทุกคนไปลองสัมผัสกันนะครับ รับรองฟินแน่นอนขอให้เจอทะเลหมอกกันนะครับ

    แล้วพับกันใหม่กับครอบครัวตะลอนเที่ยวจ้า