DAY 1 :: วัดพระธาตุแก่นนคร - วนพรรณฟาร์ม - The Little Box - จุดชมวิวหินช้างสี
หากเรามีวันหยุดไม่มาก แต่อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศไปไกลจากกรุงเทพมหานคร เมืองรถติดที่แสนวุ่นวายนี้สักหน่อย รอบนี้เราขอแนะนำจังหวัดขอนแก่นให้เป็นหนึ่งในลิสต์เดินทางไปพักผ่อนเลย จริง ๆ แล้วขอนแก่นเป็นเมืองใหญ่ของภาคอีสานบ้านเราที่มีบรรยากาศการท่องเที่ยวคึกคักที่สุด และยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรมที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวจึงมีมากมายหลายรูปแบบ รวมถึงที่เที่ยวตามอำเภอต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติก็สวยงามไม่แพ้ในเมือง จึงเรียกได้ว่าไปเที่ยวขอนแก่นครั้งเดียวก็ได้เที่ยวครบแบบหลากหลายรสชาติเลย




ตามแพลนเราตั้งใจมาดูพระอาทิตย์ตกดินที่ "หินช้างสี" ในอุทยานแห่งชาติน้ำพอง ซึ่งเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติที่วิจิตรตระการตา แต่ด้วยอากาศที่แปรปรวนบ่อยยิ่งกว่าใจคนอีกนั้น ทำให้จุดชมวิวที่เราตั้งใจมาดูพระอาทิตย์ตกดินนั้นกลายเป็นมาดูฝนตั้งเค้าแทน ส่วนที่เรียกว่าหินช้างสี มีเรื่องเล่าอยู่ว่าแต่เดิมพื้นที่ป่าแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์ มีช้างป่า และสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าเราเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติก็จะพบโป่งดินมากมาย และที่บริเวณโขดหินมีรอยแทะกินของสัตว์และร่องรอยโคลนดิน และขนช้าง ที่เกิดจากการเสียดสีผิวหนังของช้างป่า จึงเป็นที่มาของชื่อ หินช้างสี มาจนถึงปัจจุบัน จุดชมวิวที่ว่าต้องเดินเท้าต่อจากหินช้างสีไปอีกประมาณ 300 เมตร ภาพตรงหน้าก็จะเป็นวิวเขื่อนอุบลรัตน์ที่สวยงาม ถ้าในวันที่ฟ้าเปิด แดดดี ๆ ก็จะมองเห็นเทือกเขาภูเวียง และภูเก้าได้ชัดเจน
**ข้อแนะนำ** การที่เรามาเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาตินั้น ไม่ควรขีดเขียน แกะสลักหินหรือเปลือกไม้เพื่อจารึกชื่อของตัวเอง บอกรักให้โลกรู้ เพราะนอกจากจะทำให้ธรรมชาติเสื่อมโทรมแล้วยังแสดงถึงจิตสำนึกที่ไม่ดีให้คนรุ่นหลังเอาเป็นแบบอย่างด้วย




























เปลี่ยนบรรยากาศจากพิพิธภัณฑ์มาสัมผัสวิถีชุมชนหมู่บ้านดอนข่ากันบ้าง ซึ่งหมู่บ้านนี้จะเน้นภูมิปัญญาการทอผ้าไหมมัดหมี่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมากกว่า 200 ปี ผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือผ้าไหมมัดหมี่เฉลิมพระเกียรติลายนพเก้า นอกจากนี้ชุมชนยังเน้นเรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดขอนแก่นอีกด้วย กิจกรรมที่เรียกรอยยิ้มให้กับเด็ก ๆ ได้ดี และแนะนำว่าควรทำ คือยิงหนังสติ๊กปลูกป่ามะค่าโมง ต้นไม้ที่อยู่คู่กับชาวดอนข่ามาแสนนาน ส่วนกิจกรรมเวิร์คชอปที่เราได้ทำก็คงไม่พ้นเรื่องผ้าอย่างแน่นอน วันนี้เราได้ลองย้อมผ้ามัดย้อมจากวัสดุทางธรรมชาติที่ให้สีสันสบายตาแถมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย 




กลับเข้าเมืองเตรียมตัวเดินทางกลับ ว่าแล้วก็แวะไปเที่ยวแกลอรี่ที่เป็นเหมือนเครื่องเตือนความจำถึง ตั้ม พฤษ์พล มุกดาสนิท หรือ ตั้ม MAMAFAKA หลายคนคงยังจำสัตว์ประหลาดตาเดียวที่มีขนปกคลุมทั่วทั้งตัว ผลงานการออกแบบของตั้มได้เป็นอย่างดี หลังจากเสียชีวิตของตั้ม เชื่อว่าน่าจะยังมีแฟนคลับหลายคนที่คิดถึงเขาอยู่ไม่น้อย แต่ต่อไปคงไม่ต้องคิดถึงอีกแล้วเพราะที่นี่ได้รวบรวมผลงานแสดงผลงานของตั้ม MAMAFAKA เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ความรู้สึกตอนเดินภายในแกลอรี่เหมือนเดินเล่นอยู่งาน Street Art ที่โดดเด่นทั้งคอนเซ็ปต์และการออกแบบในทุกระเบียบนิ้ว หากใครชื่นชอบและคิดถึงผลงานของตั้ม ก็แวะเวียนมาชมแกลอรี่ได้ บางทีผมก็แอบรู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า ศิลปินคนนี้ไม่ได้จากเราไปไหนทุกอย่างได้ฝากฝังไว้อยู่ในทุกชิ้นผลงานที่ MAMAFAKA Gallery แห่งนี้นี่เอง 

สุดท้ายก่อนแวะเข้าสนามบิน เรามีโอกาสได้แวะ ร้านปั้นแป้ง คาเฟ่น่ารักประจำเมืองขอนแก่นด้วย ความเป็นมาของร้าน เริ่มจาก "พี่ขวัญ" เจ้าของร้านนี้ได้คลุกคลีกับการทำเบเกอรี่มาตั้งแต่เด็ก ๆ เมื่อก่อนพี่ขวัญก็จะทำเบอเกอรี่ส่งร้านขนมเป็นประจำ รวมถึงรับทำเค้กวันเกิดและในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ด้วย ทำให้พี่ขวัญมีไอเดียอยากเปิดร้านเล็ก ๆเป็นของตัวเองสไตล์โฮมเมดน่ารัก ๆ ที่ให้ลูกค้าสามารถมานั่งพักผ่อน และได้ทานเบเกอรี่อร่อยๆ จึงเกิดเป็นร้านปั้นแป้งขึ้นมา แน่นอนว่านอกจากความน่ารักของร้านแล้วขนมแต่ชิ้นก็อร่อยไม่แพ้กัน เพราะทุกชิ้นก็ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เลือกวัตถุดิบชั้นดี ผสมอย่างลงตัวจนลูกค้าพากันติดอกติดใจ มีลูกค้าประจำเยอะมาก เราเองก็คิดว่าถ้ามาขอนแก่นรอบนี้ก็คงไม่พ้นต้องแวะมาชิมขนมฝีมือพี่ขวัญอีกแน่นอนครับ....ว่าแล้ว เดี๋ยวกลับถึงกรุงเทพฯ คงต้องเปิดหาตั๋วมาขอนแก่นอีกซักรอบ 


