ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
    • โพสต์-1
    Kamonrat •  มกราคม 22 , 2559

    “แข่งเรือลือเลื่อง  เมืองงาช้างดำ  จิตรกรรมวัดภูมินทร์  แดนดินส้มสีทอง  เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง”

    คำขวัญเมืองยอดฮิตอีกเมืองในตอนนี้ 

    เมืองที่เราเห็นภาพความสวยงามของสถาปัตยกรรม 

    และความโดดเด่นของธรรมชาติที่สรรสร้าง “น่าน” 

    เมืองที่เราเคยคิดไว้ว่าเป็นอีกลิสต์นึงที่น่าสนใจ และฝันก็เป็นจริง 

    เมื่อเราได้มีโอกาสไปเยือน สัมผัสความเป็นล้านนาที่มีมนต์ขลัง 

    กับการออกไปเที่ยวเปิดโลกของเรา เอาล่ะ เกริ่นละเนาะ มาเริ่มกันเลย

    ทริปนี้ออกเดินทางกันวันอาทิตย์ที่ 17  มกรา ตามแพลนทริปนี้วางไว้ 3 วัน 2 คืน 

    ไม่นับคืนเดินทางค่ะ กับผู้ร่วมเดินทาง  4 ชีวิตค่ะ 

    เป้าหมายหลักของทริปนี้คือการไปแหงนคอดูดาว กันที่ดอยเสมอดาวค่ะ 

    เพราะดูจากรีวิวหลายๆ ตัวแล้ว มันดึงดูดให้ไปมาก แต่ก่อนขึ้นดอย 

    เราแวะเที่ยวและนอนค้างในตัวเมืองน่านก่อน 1 คืนนะคะ

     

    • โพสต์-2
    Kamonrat •  มกราคม 22 , 2559

    อย่างที่บอกว่าเราออกเดินทางกันตั้งแต่ 1 ทุ่มของวันที่ 17 มกรา 

    ระยะทางจากโคราช ก็ประมาณ 500 กว่าโล  เวลาประมาณ 7-8 ชม. 

    แต่ด้วยความที่คุณสามีเป็นคนไม่ชอบการเร่งรีบ อยากไปเรื่อยๆ 

    ง่วงไหนอาจจะแวะพัก ก็เลยล้อหมุนกันไวหน่อยค่ะ พาหนะครั้งนี้เราใช้ vios 

    ขนของกันแน่นมาก จนนั่งกันเกือบไม่ได้ ฮ่าฮ่า  แวะพักจุดแรกกันแถวลพบุรี 

    หาข้าวกินกันก่อน ออกเร็ว ข้าวมื้อเย็นยังไม่ตกถึงท้องจ้ะ 

    อาหารมื้อแรกของเราทริปนี้ก็คือ ... ผัดกะเพรา เจ้าเก่าเจ้าเดิม  

    เมื่อท้องแน่นกันแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อค่ะ คนขับก็ขับไป คนหลับก็หลับกันไปค่ะ 

    ฮ่าฮ่า..ที่เที่ยวของเราตามแพลนจุดแรกคือ ที่วัดพระธาตุช่อแฮค่ะ 

    เนื่องด้วยคุณสามีเป็นคนปีขาล  เลยพาคุณเค้าไปสักการะพระธาตุประจำปีเกิดกันซะหน่อย 

    แต่.... มันเพิ่งตี 4 อยู่เลยค่ะ ปราศจากผู้คน ถนนหนทางเงียบเชียบ วัดมืดมาก รู้สึกอันตรายเกินไป 

    ถ้าจะจอดนอนรอเวลาในรถ เลยตัดสินใจงั้นไปตลาดดีกว่า 

    ดูมาว่าที่แพร่มีตลาดเช้า แต่.... ยังเงียบค่ะ มีพ่อค้า แม่ค้า เริ่มมาขายของแล้วบางส่วน 

    หันไปด้านขวาของตลาด เห็นมีลานจอดรถอยู่  เอาตรงนี้แหละ ใช้เวลานี้ หลับค่ะ พร้อมกับที่ท้องก็ร้องไปด้วย

    เอ๊ะ !!! เหมือนเพิ่งกินมาไม่กี่ชั่วโมงเองเนอะ  หลับได้ไม่นานก็ได้เวลาตื่นค่ะ ตี 5 กว่าแล้ว 

    เห็นมีร้านโจ๊กอยู่ร้านนึง น่าจะพร้อมขายแล้ว  ลงไปกินกันค่ะ เปิดประตูปุ๊บ 

    หนาวปั๊บ คือ.. นี่แหละ สิ่งที่รอคอย โคราชนั้นไม่หนาวเลยค่ะ แต่อากาศที่แพร่ 

    สุดยอดมาก ขนาดไม่ได้ขึ้นดอยอะไร ยังเย็นบาดใจกันขนาดนี้   

    ร้านโจ๊กยังไม่มีคนเลยค่ะ แม่ค้าต้อนรับเราด้วยภาษาเหนือ โอย ชอบมาก 

    เป็นภาษาที่เราปลื้ม ชอบฟัง แม้จะฟังไม่ออกก็ตาม

    รูปโจ๊กที่เราจัดไปค่ะ

     

     

    • โพสต์-3
    Kamonrat •  มกราคม 22 , 2559

    หลังจากจัดการกับมื้อเช้ากันแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปที่เดิมค่ะ วัดพระธาตุช่อแฮ 

    ก็ยังคงมืดอยู่ดี แม้จะ 6 โมงกว่าแล้วก็ตาม แต่ก็นะ รอละกัน ท้องฟ้าเริ่มเห็นสีส้มๆ 

    มาแล้ว จัดการล้างหน้า แปรงฟัน แล้วขึ้นไปสักการะพระธาตุกันค่ะ 

    มีลิฟต์ให้ขึ้นด้วยนะคะ แต่เห็นว่าไม่สูงมากเท่าไหร่ เดินค่ะเดิน

     

     

    ช่วงที่เราไป เหมือนทางวัดกำลังบูรณะรอบๆ องค์พระธาตุนะคะ

    ไหว้พระในโบสถ์แล้ว ก็ออกมาไหว้พระธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตกันค่ะ

    รอบๆวัดมีจุดให้ทำบุญหลายจุดค่ะ มีจุดให้คนปีขาลมาทำบุญสะเดาะเคราะห์ด้วยนะคะ

     

    • โพสต์-4
    Kamonrat •  มกราคม 22 , 2559

    ออกจากวัดพระธาตุช่อแฮที่แพร่แล้ว ก็เดินทางต่อไปที่น่านค่ะ

    วัดพระธาตุเขาน้อยคือเป้าหมายต่อไป ระยะทางประมาณ 125 กิโลค่ะ 

    ทางขึ้นมี 2 ทางนะคะ จะเดินขึ้นบันได้ 303 ขั้น หรือขับรถก็ได้  ทางชันนิดหน่อย 

    แต่ไม่ยากค่ะ รถเก๋งธรรมดาขึ้นได้ค่ะ  ขึ้นมาถึงก็ไปไหว้พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน กันค่ะ 

    เป็นพระพุทธรูปปางประทานพร ตั้งตระหง่านสวยงาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ถ้าส้มเห็นก็รู้เลยว่าเป็นจังหวัดน่านค่ะ

    จุดนี้จะมีพื้นที่ให้เราชมวิวเมืองน่านได้วิวกว้างเลย เมืองน่านยามเช้าสวยงาม สงบดีมากค่ะ

    ที่วัดยังมีพระธาตุที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และหลวงพ่อทันใจให้ได้กราบไหว้กันด้วยค่ะ

     

     

    ภาพนี้ส้มถ่ายจากมุมบน ทางขึ้นวัดพระธาตุเขาน้อยนะคะ 

     

     

    บันไดทางขึ้นวัดพระธาตุเขาน้อยค่ะ แต่ภาพนี้ส้มถ่ายจากด้านบนนะคะ บันไดที่นี่ 303 ขั้นค่ะ เดินคงขาลากเนอะ


    ลานจอดรถด้านบนค่ะ 

     

     

    หลังจากเดินชมจนทั่วแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไปกันที่วัดหนองบัว ที่ท่าวังผาค่ะ 

    ระยะทางประมาณ 46 โลนะคะ 

    • โพสต์-5
    Kamonrat •  มกราคม 22 , 2559

    วัดหนองบัว ตั้งอยู่ใน อ. ท่าวังผา จ. น่านค่ะ เป็นวัดเก่าแก่ ของชุมชนไทลื้อค่ะ

    ภายในวัดร่มเย็น สวยงามไม่ต่างจากที่อื่นๆ

    และที่นี่ยังมีคุณลุงมาขับกล่อมดนตรีพื้นเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ฟังด้วย

    ที่นี่มีจิตรกรรมฝาผนังที่สะท้อนชีวิตของชาวบ้านไทลื้อไว้ด้วยค่ะ ใครสนใจแวะเวียนไป

    จะมีคุณลุงคอยให้ความรู้อยู่ด้วยนะคะ ด้านหลังวัดยังมีชุมชนที่ชาวบ้านจัดเป็นศูนย์ไว้ทอผ้า

    และมีงานจัดจำหน่วยด้วยนะคะ หากได้ผ่านไป ก็อย่าลืมไปอุดหนุนงานดีๆ กันนะคะ 

     

     

    • โพสต์-6
    Kamonrat •  มกราคม 22 , 2559

    จากวัดหนองบัว เรามุ่งหน้าไปที่ปัวค่ะ เพราะสมาชิกของเราทำฟาร์มเห็ดอยู่เลยสนใจไปดูที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ

    ที่นี่มีฟาร์มเห็ด ร้านอาหาร รีสอร์ทพร้อมค่ะ 

    จากภาพที่เราเห็นถ้ามาหน้าฝนที่ปลูกข้าวกันเยอะ คงจะได้วิวทุ่งนาเขียวๆ เพลินสายตากัน

    แต่เราไปช่วงนี้ก็ยังพอได้เห็นค่ะ เพราะไม่ได้ปลูกข้าว แต่ชาวบ้านก็นำผักมาปลูดทดแทนค่ะ 

    ทางเข้าค่อนข้างยากสักหน่อยค่ะ ที่จอดรถจัดให้จอดแถวป่าไผ่ ถ้าคนมาเยอะ ๆ ไม่แน่ใจว่าจะพอหรือเปล่า 

    เดินผ่านรีสอร์ท น่าพักค่ะ ราคาน่าคบหา แต่ห้องน้ำเป็น  open air ทริปนี้มีแม่มาด้วย

    อาจไม่เหมาะเท่าไหร่ เลยไม่ได้เลือกที่นี่ 

    อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าที่นี่มีร้านอาหารด้วย เท่าที่ดูมาเหมือนจะเด่นเรื่องพิซซ่าเห็ดหรืออาหารที่ทำจากเห็ด

    แต่เราของ่ายๆ ค่ะเป็นผัดพริกแกงหมูไข่ดาว จัดมา 3 จาน ของคุณสามีเป็นข้าวผัด

    สำหรับเราแล้วนี่อาจเป็นเมนูธรรมดา รสชาติเลยธรรมดาค่ะ มีนักท่องเที่ยวเข้ามากินเรื่อยๆ ค่ะ ไม่ขาดเลย

    พนักงานวิ่งกันวุ่น  ได้ชามะนาวมาหนึ่งแก้ว รสชาติดีค่ะ  ไม่ผิดหวังเหมือนรีสอร์ทบางที่ที่เคยกินมา

     

    • โพสต์-7
    Kamonrat •  มกราคม 22 , 2559

    ออกจากที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำแล้ว เราก็ไปต่อกันที่ร้านลำดวนผ้าทอค่ะ

    ระยะทางประมาณ 2 กิโล ที่นี่มีร้านกาแฟตั้งอยู่กลางทุ่งนาด้วยนะคะ  ชื่อร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

    ถ้ามาหน้าฝนที่ทุ่งนาเขียวขจี นั่งจิบกาแฟกันไปก็คงเพลินดีนะคะ 

    ที่ร้านลำดวนผ้าทอมีเสื้อผ้าเยอะมากค่ะ ทั้งเสื้อ กระโปรง ผ้าทอ ชุดแซก กระเป๋า 

    สำหรับส้มแล้วคิดว่าราคาถูกอยู่ค่ะ ราคาอยู่ที่ 150-200 โดยประมาณ

    แต่ถ้าผ้าทอก็คงราคาสูงอยู่ ส้มไม่ได้สนใจเลยไม่ได้ถามราคามา

     

    • โพสต์-8
    Kamonrat •  มกราคม 22 , 2559

    จับจ่ายสินค้ากันแล้ว เราก็มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองน่านกันอีกครั้งค่ะ

    จากร้านลำดวนผ้าทอมาที่ น่านลานนา ระยะทางประมาณ 58 กิโลนะคะ

    ทริปนี้เราจองที่พักไว้ที่ น่านลานนาค่ะ 2 ห้อง

    1 ห้องเป็นเตียง king 1 เตียง อีกห้องเป็นเตียง king 1 เตียง และเตียงเดี่ยวอีก 1 เตียง สำหรับ 3 คน ค่ะ

    ราคา 690 และ 890 ตามลำดับ ตอนจองเราจ่ายมัดจำ 1000 และมาจ่ายเพิ่มส่วนที่เหลือวันเช็คอินค่ะ

    น่านลานนาเรียกว่าอยู่ในกลางเมืองเลยสำหรับเราค่ะ เพราะอยู่ติดกับวัดข่วงเมือง เข้ามาในซอย 100 เมตร

    ไม่มีรั้วนะคะ จอดรถหน้าที่พักได้ประมาณ 4-5 คัน เป็นอาคาร 2 ชั้น มี 10 ห้องค่ะ

    ราคาหลักร้อยเท่านั้น  มาถึงที่พักแล้วชอบค่ะ เงียบ สงบดีแม้จะอยู่ในเมือง  

    ห้องพักที่ส้มได้วันนี้อยู่ ชั้น 2 นะคะ 2 ห้องติดกันค่ะ

     

    ตามมาชมห้องพักกันค่ะ ภายในห้องพักมีเตียง ทีวี ตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง แอร์ น้ำอุ่น  พร้อมค่ะ

    ในห้องมี ผ้าเช็ดตัว เช็ดหน้า 2 ผืน สบู่ แชมพู ในตู้เย็นมีน้ำ 2 ขวดนะคะ 

     

    ส้มชอบที่นี่มาก ถึงขนาดบอกว่าถ้าไปน่านอีก จะพักที่เดิม

    เพราะนอนหลับสบาย ที่พักเงียบสงบ และไปไหนมาไหนสะดวก

    ขับออกไปไม่ไกลก็เจอพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน วัดภูมินทร์ วัดช้างค้ำ

    ถัดไปจะเป็นวัดศรีพันต้น ร้านของหวานป้านิ่ม ร้านเฮือนฮอม

    คืออยู่ในจุดน่าเที่ยวๆ ทั้งหมดของตัวเมืองน่านค่ะ

    ที่พักจะมีจักรยานให้ด้วยนะคะ ส้มลืมถามมาว่ามีค่าใช้จ่ายหรือเปล่า

    แล้วก็ด้านนอกจะมีมุมกาแฟไว้บริการฟรีค่ะ 

     

    • โพสต์-9
    Kamonrat •  มกราคม 22 , 2559

    รอแดดร่มลมตก เราก็เดินทางไปวัดภูมินทร์กันค่ะ ระยะทางประมาณ 300 เมตร

    จริงๆ อยากปั่นจักรยานอยู่ แต่ดูแล้วน่าจะเหนื่อยอยู่นะ ปั่นไปปั่นกลับ ฮ่าฮ่า

    ไปถึงหน้าวัด จอดรถด้านนอกค่ะ อากาศเย็นสบาย แดดร่มๆ นักท่องเที่ยวไม่แน่นมาก

    รถราไม่แน่นขนัดไปทุกหนแห่งอย่างโคราช เห็นแล้วอยากย้ายมาอยู่น่านเลย

    ส้มชอบมาก ผู้คนยังพูดภาษาถิ่นกันอยู่ 

    เข้าไปในวัดไปเจอน้องมัคคุเทศน์น้อยที่เคยเห็นในรายการเทยเที่ยวไทย

    เสียงดังฟังชัด เจื้อยแจ้วดีทีเดียวค่ะ 

    ภายในประดิษฐานองค์พระประธานที่หันหน้าออกทั้ง 4 ทิศ

    เข้ามาจากทางไหน ก็ไหว้พระประธานได้จากทุกมุมเลยค่ะ 

     

     

    ที่วัดภูมินทร์ยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่โด่งดังมาก นั่นคือ กระซิบรัก ปู่ม่าน ย่าม่านค่ะ 

    จุดอื่นๆ ก็สวยงามไม่แพ้กัน ชมความงามและฟังน้องมัคคุเทศก์น้อยบรรยายเพลินเลยค่ะ 

     

    • โพสต์-10
    Kamonrat •  มกราคม 22 , 2559

    ข้ามถนนมาจะเห็นซุ้มลีลาวดีขนาดใหญื่ที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันค่ะ

    อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านค่ะ ใช้เวลาถ่ายภาพกันแค่แถวซุ้มลีลาวดีค่ะ

    ไม่ได้เดินเข้าไปดูในพิพิธภัณฑ์ ไม่แน่ใจว่าแล้วเสร็จหรือยัง 

     

    ฝั่งตรงข้ามกันเป็นวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหารค่ะ เข้าไปชมความงามของวัดกันนะคะ

    ภายในวัดจะมีเจดีย์ที่ด้านล่างมีช้างเป็นฐานค้ำไว้ค่ะ 

    นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปทองคำปางลีลา คือ พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี ภายในโบสถ์ด้วยค่ะ

     

  1. โหลดเพิ่ม