ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
"ชุมชนเกาะกลาง" สัมผัสวิถีชาวเลเมืองกระบี่ กับ 3 สิ่งที่มาแล้ว...ต้องห้ามพลาด! ชุมชนเกาะกลาง กระบี่ จ.Chang Wat Krabi
    • โพสต์-1
    theTripPacker •  กรกฎาคม 25 , 2559

    หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ว่าเมืองกระบี่นอกจากจะมีแหล่งท่องเทียวทางทะเลที่สวยงาม มีหมู่เกาะต่าง ๆ ที่น่าหลงใหลแล้ว  ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวชมวิถีชุมชน และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าค้นหา และน่าแวะไปเยี่ยมเยือน นั่นคือ "ชุมชนเกาะกลาง" ตำบลคลองประสงค์ ชุมชนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ผู้คนที่นี่ใช้ชีวิตอย่างสงบ ชุมชนเกาะกลางตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำกระบี่ ซึ่งถูกห้อมล้อมด้วยป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์

    เนื่องจากชุมชนเกาะกลางนั้นอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกระบี่ สามารถนั่งเรือเพื่อข้ามฟากจากฝั่งตัวเมืองมายังเกาะได้เลย โดยมีท่าเรือให้ใช้บริการได้ 2 ท่าคือ ท่าเรือสวนสาธารณะธารา (ตัวเมือง) มายัง ท่าเรือท่าเล (เกาะกลาง) ใช้เวลาประมาณ 5 นาที และจากท่าเรือเจ้าฟ้า (ตัวเมือง) มายัง ท่าเรือท่าหิน (เกาะกลาง) ใช้เวลาประมาณ 15 นาที โดยจะมีเรือให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปจนถึง 3 ทุ่ม เมื่อมาถึงแล้วก็สามารถเลือกได้ว่าจะเช่าจักรยาน หรือใช้บริการรถสามล้อ จากบริเวณท่าเรือท่าเล เพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวจุดต่าง ๆ ในชุมชนรอบเกาะได้ โดยมีระยะทางรอบเกาะประมาณ 11 กิโลเมตร

     

    • โพสต์-2
    theTripPacker •  กรกฎาคม 25 , 2559

    เมื่อมาถึงเกาะกลาง สิ่งแรกที่ทำให้เราประทับใจในทันทีคือความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติบนเกาะ ทั้งทุ่งนาที่เขียวขจี มองเห็นเจ้าทุยกำลังเล็มหญ้าอย่างเพลิดเพลิน บ้านเรือนของชาวมุสลิมที่เรียงรายริมถนน ชาวบ้านที่อาศับบนเกาะนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมถึง 98% ซึ่งบนเกาะมีทั้งหมด 3 หมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านก็จะมีมัสยิดไว้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ชาวบ้านที่นี่จะทำอาชีพประมงชายฝั่งเป็นส่วนใหญ่ และทำเกษตรกรรมบนเกาะ 

    ส่วนกิจกรรมแรกที่อยากแนะนำว่าห้ามพลาด และนับเป็นสิ่งขึ้นชื่อของที่นี่เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ การปลูกข้าวสังข์หยด  เป็นข้าวนาปีที่ปลูกกันปีละครั้ง มีคุณค่าทางอาหารสูง และยังเป็นข้าวอินทรีย์ที่มีคุณภาพ ตั้งแต่กระบวนการปลูก การเก็บเกี่ยว และการสีข้าวก็ทำกันบนเกาะด้วยมือของชาวบ้านเอง ข้าวสังข์หยดที่ปลูกที่นี่จึงมีจำนวนจำกัด เพราะชาวบ้านปลูกไว้กินเอง มีขายบ้างก็เฉพาะบนเกาะ ใครอยากลองไปชิมต้องไปที่เกาะกลางเท่านั้นนะครับ เพราะความพิเศษที่ทำให้ข้าวของที่นี่ไม่เหมือนที่ไหน ๆ คือดินที่ใช้ปลูกมีความเค็มของน้ำทะเลปนอยู่ จึงได้ข้าวที่นุ่มและรสชาติดีกว่าที่อื่นนั่นเอง แต่ถ้าหากอยากเห็นทุ่งข้าวสังข์หยดในช่วงที่เขียวขจีเต็มทุ่ง อาจต้องเช็คช่วงเวลาหรือฤดูกาลที่ปลูกข้าวก่อนเดินทางด้วยนะครับ

    • โพสต์-3
    theTripPacker •  กรกฎาคม 25 , 2559

    จากนั้นเราก็ขึ้นรถสามล้อพ่วงเพื่ออไปต่อกันที่  “กลุ่มเรือหัวโทงจำลอง” กิจกรรมที่สองที่ห้ามพลาด ที่นี่จะมีการสร้างเรือหัวโทงจำลอง ผลิตเป็นสินค้าที่ระลึกเพื่อจำหน่าย จนกลายเป็นสินค้า OTOP ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกระบี่

    สมัยก่อนนั้น เรือหัวโทง เป็นพาหนะสำคัญในการออกเรือหาปลาของชาวประมง เรือหัวโทงดั้งเดิมมีขนาดตั้งแต่ 7-10 เมตร หัวเรือจะงอนสูงขึ้นเพื่อสู้กับคลื่นลมแรงในทะเล และด้วยภูมิปัญญาของช่างต่อเรือจึงออกแบบหัวเรือให้แอ่นงอนเชิดสูงเพื่อแหวกคลื่นได้ดีและน้ำทะเลไม่ทะลักเข้าเรือ อีกทั้งยังใช้เป็นอุปกรณ์บอกทิศทางสำหรับคนขับเรือเพื่อให้พุ่งตรงไปยังเป้าหมายได้ดี ถือเป็นสินค้า OTOP ระดับ 4 ดาวเลยทีเดียว ที่นี่จะสาธิตวิธีการประกอบเรือแต่ละขั้นตอน พร้อมเล่าประสบการณ์การออกเรือไปในทะเลของชาวประมงไปด้วย ทำเอาเราเพลิดเพลิน ตื่นเต้น และสนุกสนานไปพร้อม ๆ กัน

    เมื่อยุคสมัยผ่านไป เรือหัวโทงก็ยังคงมีความสำคัญกับชาวประมงอยู่ไม่น้อย และยังเพิ่มประโยชน์ใช้สอยในการนำมาเป็นเรือรับ-ส่งนักท่องเที่ยวจากฝั่งมายังเกาะกลาง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวที่เกาะกลางก็จะได้สัมผัสกับเรือหัวโทงอย่างใกล้ชิดด้วยนั่นเอง ส่วนเรือหัวโทงจำลอง ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อเป็นของที่ระลึก และสืบสานเรือหัวโทงให้ยังคงอยู่ต่อไป ซึ่งหากนักท่องเที่ยวเข้ามาเรียนรู้ที่นี่ ก็จะได้ทดลองประดิษฐ์ด้วยตัวเอง พร้อมซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย 

    • โพสต์-4
    theTripPacker •  กรกฎาคม 25 , 2559

    มาถึงกิจกรรมสุดท้ายของวันนี้ที่เราจะพาไปชม คือ “กลุ่มแม่บ้านผลิตผ้าปาเต๊ะ” ที่มารวมกลุ่มกันเพื่อผลิตผ้าปาเต๊ะส่งขายเป็นการหารายได้เสริมให้กับครอบครัว โดยได้แนวคิดและวิธีการทำผ้าปาเต๊ะมาจากจังหวัดปัตตานี มีการผสมผสานกันระหว่างการทำผ้าปาเต๊ะของชาวมาเลย์ กับการทำผ้าบาติค จึงได้ผ้าที่มีสีสัน และลวดลายที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หากมาที่นี่จะได้เรียนรู้ขั้นตอนการผลิตผ้าปาเต๊ะตั้งแต่เริ่มต้น เริ่มจากการนำผ้าสีขาวผืนใหญ่มาปั้มลายจากบล๊อคโลหะที่ทำขึ้นมาเป็นลวดลายตามที่อยากได้ ต้มเทียนให้ร้อน จุ่มบล๊อคโลหะลงในเทียนที่ร้อน แล้วกดหรือพิมพ์ลงบนผ้าให้เป็นลวดลาย จากนั้นก็ลงสีสันแต่งแต้มให้งดงาม เมื่อสีแห้งแล้วจะพิมพ์ทับด้วยบล๊อคโลหะแบบปิดซึ่งจุ่มเทียนที่ร้อน เพื่อเป็นการปิดลาย จากนั้นนำผ้าไปย้อมสีพื้นต่อ ส่วนที่ถูกเทียนกันไว้ก็จะย้อมสีไม่ติดในบริเวณนั้น สุดท้ายก็นำไปต้มเพื่อนำเทียนออกจากผ้า แช่น้ำยากันสีตก ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงให้สีแห้งดี ก่อนจะนำไปย้อมทั้งผืนแล้วผึ่งให้แห้งอีกครั้ง

    งานศิลปะบนผืนผ้าที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน และใส่ใจในการทำ ที่นี่พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเรียนรู้ และทดลองทำผ้าปาเต๊ะด้วยมืองตัวเอง และยังมีจำหน่ายสินค้าที่ทำจากผ้าปาเต๊ะ เช่น ผ้านุ่ง ผ้าคลุมไหล่ ผ้าเช็ดหน้า อีกด้วย

    ไม่น่าเชื่อว่า...ชุมชนที่เงียบสงบ และเต็มไปด้วยความสวยงามของทรัพยากรธรรมชาติทั้งทะเล และป่าชายเลนแห่งนี้จะอยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่แค่ไม่กี่อึดใจ แค่ข้ามฝั่งมาเราก็จะได้พบธรรมชาติ และวิถีชีวิตที่แตกต่างไม่เหมือนใคร อีกทั้งที่ ชุมชนเกาะกลาง ก็ยังคงรักษาและสืบทอดเอกลักษณ์ของท้องถิ่นไว้ได้เป็นอย่างดี

    • โพสต์-5
    theTripPacker •  กรกฎาคม 25, 2559

    Editor's Comment

    • จุดเด่น:
    • เพลิดเพลินกับการได้เรียนรู้วิถีชีวิตแบบท้องถิ่นที่ชุมชนเกาะกลาง ทั้งการทำผ้าปาเต๊ะ ทำเรือหัวโทง การปลูกบ้านเรือนด้วยไม้ และการปลูกข้าวสังข์หยด พร้อมชมธรรมชาติของป่าชายเลน และการทำประมงของชาวเล
    • จุดด้อย:
    • สิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะ เช่น ห้องน้ำ ยังไม่ค่อยมีให้บริการ นักท่องเที่ยวควรเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนข้ามไปเกาะกลาง
    • ข้อสรุป:
    • หากใครเบื่อที่จะเที่ยวทะเลกระบี่แล้ว สถานที่นี้อาจจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แนวสโลว์ไลฟ์ ที่ได้ทั้งใกล้ชิดธรรมชาติและผู้คนเมืองกระบี่ อีกทั้งยังได้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้คนที่แตกต่างจากชุมชนในเมือง
    คะแนน
    • โพสต์-6
    theTripPacker •  กรกฎาคม 25 , 2559

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : บ้านเกาะกลาง ตำบล คลองประสงค์ อำเภอเมืองกระบี่ กระบี่
    GPS : 8.06603 , 98.92732
    เบอร์ติดต่อ : สามล้อบริการ ติดต่อ บังสมบูรณ์ 081-569-0224 , กลุ่มแม่บ้านผลิตผ้าปาเต๊ะ ติดต่อ ป้าประจิม 089-875-0697
    เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน  เวลา 09.00 -  19.00  น. 
    ช่วงเวลาแนะนำ : เที่ยวได้ตลอดปี
    ไฮไลต์ : ชมธรรมชาติบนเกาะที่มีท้องนา และป่าชายเลนกลางแม่น้ำกระบี่
    กิจกรรม : เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านชุมชนเกาะกลางทั้งการทำผ้าปาเต้ะ การทำเรือหัวโทงและ ชมนาข้าวสังข์หยด
    ข้อแนะนำ : การเดินทางภายในเกาะค่อนข้างลำบาก ถนนเล็กและขรุขระ หากใครไม่ขี่จักรยานไม่แข็งไม่ควรเช่ารถ แนะนำให้เหมาสามล้อรับจ้างบนเกาะ และควรเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทาง เพราะถ้ามาในวันที่ฝนตกจะเดินทางลำบากทั้งทางเรือ และบนเกาะ
    • โพสต์-7
    theTripPacker •  กรกฎาคม 25 , 2559

    วิธีการเดินทาง

    จากฝั่งตัวเมืองสามารถนั่งเรือข้ามฟากมายังเกาะได้ โดยสามารถใช้บริการได้ 2 ท่าคือ ท่าเรือสวนสาธารณะธารา (ตัวเมือง) มายัง ท่าเรือท่าเล (เกาะกลาง) ใช้เวลาประมาณ 5 นาที และท่าเรือเจ้าฟ้า (ตัวเมือง) มายัง ท่าเรือท่าหิน (เกาะกลาง) ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

    • โพสต์-8
    theTripPacker •  กรกฎาคม 25, 2559
    • โพสต์-9
    theTripPacker •  กรกฎาคม 25, 2559