ดอยหลวงตาก l Rainy Season

 

ด อ ย ห ล ว ง ต า ก l R a i n y   S e a s o n

Rainy Season หรือ "ฤดูฝน" หลายๆคนคงส่ายหน้าเมื่อนึกถึงการเดินทางหรือแม้แต่การเดินป่าหน้าฝน แต่หากใครต้องการสัมผัสกับธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเข้าป่าช่วงนี้ เพราะฤดูฝนเป็นช่วงที่ป่าเข้าสู่ความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด

จุดหมายปลายทางของเราคือ "ด อ ย ห ล ว ง ต า ก " ตั้งอยู่ที่ วนอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยแม่ไข อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก มีความสูง 1,175 เมตร จากระดับน้ำทะเล

เวลา 00.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม หลายคนกำลังเตรียมตัวเข้านอน หลายคนกำลังสนุกสนานกับงานปาร์ตี้เนื่องจากวันหยุดยาว และอีกหลายคนกำลังออกเดินทาง สำหรับพวกเรา 8 คน คือกลุ่มคนประเภทหลัง รถตู้ขนาดสิบที่นั่งเริ่มเคลื่อนอออกจาก จังหวัดสระบุรี จริงๆแล้วทริปของเราเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ แต่สมาชิกส่วนใหญ่อยู่ที่สระบุรีกัน จึงถือว่าที่นี่คือจุดเริ่มต้น ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมงเศษ ก็มาถึงเทศบาลตำบลทุ่งกระเชาะ อำเภอบ้านตาก จุดเริ่มต้นของทริปเรา

เวลา 08.00 น. เช้าวันนี้อากาศขมุกขมัว ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆฝน ปลายฟ้าอีกด้านฝนเริ่มตั้งเค้า รถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ ด้านหลังติดราวเหล็กดัดแปลงเพื่อบรรทุกผู้โดยสาร คือพาหนะที่จะนำเราจากเทศบาลตำบลทุ่งกระเชาะ ไปยังจุดเริ่มเดิน

เส้นทางตัดผ่านบ้านเรือนผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ลัดเลาะออกไปทางไร่นา เนื่องจากเรานั่งกระบะหลังจึงสามารถสัมผัสกับบรรยากาศที่สดชื่นได้เต็มปอด อากาศเย็นที่ประทะใบหน้าทำให้เราสดชื่นแตกต่างจากบรรยากาศเมืองที่เราจากมา ระยะเวลาเพียงอึดใจเดียวเราก็มาถึงจุดเริ่มเดิน

 

--------------------------------------------------------------

 

จุดเริ่มเิดน

"เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ดอยหลวงตาก ระยะทาง 11 ก.ก." ระยะทาง 11 ก.ม. โชว์หลาบนป้ายไม้ขนาดใหญ่เพื่อตอกย้ำว่าการเดินป่าครั้งนี้ไม่ได้ง่ายเลยนะ อย่าประมาทชั้นนะ

พี่คมกฤช เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลกลุ่มเราเริ่มเดินนำเป็นคนแรก การเดินช่วงนี้เป็นลักษณะการเดินในพื้นราบ เลาะเลียบไปกับธารน้ำ ป่าสองข้างทางเป็นป่าโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี เดินไม่ยากมากนัก

 

 

--------------------------------------------------------------

 

ครึ่งทางแล้วนะ

ใช้เวลาเดินทางราบมาพอสมควร เส้นทางเริ่มไต่ระดับขึ้นแต่ทางยังไม่ชันมากเท่าไหร่ จากจุดนี้เราสามารถมองเห็นยอดดอยหลวงตากได้ แต่วันนี้ขี้อายไปหน่อยหลบอยู่ในเมฆนั่นไง

ทางเดินช่วงนี้แบ่งออกเป็นสามช่วงหลักๆ ช่วงแรกทางไต่ระดับขึ้นเหมือนเดินตามไหล่เขาไปเรื่อยๆ ช่วงที่สองเป็นลักษณะเดินบนสันเขา เจ้าหน้าที่เรียกสันคมมีด ตรงจุดนี้เราจะพักทานข้าวเที่ยงกัน เพราะตรงจุดนี้บรรยากาศรอบๆ เราสามารถมองเห็นวิวได้ทั้งสองด้าน หลังจากทางข้าวเสร็จทางช่วงที่สามจะเริ่มชันขึ้นไปอีก ป่าเริ่มรกทึบบริเวณพื้นชื้นแฉะเพราะปกคลุมไปด้วยละอองฝน

 

 

--------------------------------------------------------------

 

ป่าสนและลมฝน

หลังจากเดินผ่านป่าทึบที่ชื้นแฉะไปด้วยละอองฝน ไต่สันเข้าขึ้นมาก็มาพบกับความอลังการของแนวป่าสนยืนต้นตระหง่านท้าลมฝน ที่พัดมาประทะอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นภาพบรรยากาศที่แปลกตามากๆ เหมือนเดินหลุดเข้ามายังป่าดึกดำบรรพ์

บริเวณรอบด้านเป็นพื้นราบ มีต้นสนสูงตระหง่านแงนคอตั้งบ่าขึ้นอยู่เต็มไปหมด พื้นดินปกคลุมไปด้วยพืชคลุมดินจำพวกเฟิร์นและปาล์ม ลมค่อนข้างแรง บางครั้งพัดหอบเอาละอองฝนเข้ามาด้วย

 

 

--------------------------------------------------------------

 

ม่อนนางพญา

หลังจากเดินผ่านดงหญ้าคลุมดินและดงพืชตระกูลปาล์มมาก็พบกับที่ราบโลง ด้านหน้าเป็นหุบเขา ลึกเท่าไหร่ไม่ทราบได้เพราะปกคลุมไปด้วยเมฆที่พัดเข้ามาขาวโพลนไปหมด

นั่งพักถ่ายรูปกันสักพัก สิ่งที่ไม่คาดฝันก็บังเกิด นั่นคือช่วงเวลาที่ลมหอบพัดเอาเมฆที่คลุมอยู่ในหุบออกไป เผยให้เห็นบรรยากาศด้านล่างหุบที่เป็นเวิ้งเขาลงไป สามารถมองเห็นวิวของม่อนนางพญาได้แบบ 360 องศาสวยงามมาก

 

 

--------------------------------------------------------------

 

ดอยหลวงตาก

บรรยายากาศหน้าฝนช่างเป็นฤดูการที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย เดี๋ยวฟ้าเปิด ประเดี๋ยวฟ้าปิด ลุ้นกันไปตลอดทางว่าจะเจอกับสภาพอากาศแบบไหน

หลังจากที่เราชื่นชมกับบรรยากาศที่ม่อนนางพญาได้สักพัก ลมก็พัดเมฆเข้ามาปกคลุมไว้อีกครั้ง เราจึงจำใจต้องเดินต่อไปยังจุดกางเต็นท์ของเรา ซึ่งเส้นทางหลังจากนี้ต้องเดินลัดเลาะผ่านป่ากล้วย พื้นเป็นดินโคลนที่ทั้งลื่นและแฉะ ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาทีเราก็มาถึงจุดกางเต็นท์

ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง นี่เวลา 15.00 น. เองนะ บริเวณรอบที่พักเมฆเข้ามาคลุมไว้หมด มองไปทางไหนก็เห็นเป็นเงาตะคุ่มๆ ความตั้งใจว่าจะเดินขึ้นไปยังยอดดอยหลวงตากก็ริบหรี่ลงเรื่อยๆ เราจึงตัดสินใจตั้งเต็นท์ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ชื้นไปด้วยละอองฝนออก และเตรียมตัวเพื่อทำอาหาร

 

 

หลังจากทานข้าวเสร็จเวลายังเหลืออีกนานกว่าจะค่ำ เราจึงตัดสินใจว่าเป็นไงเป็นกันจะต้องเดินไปยอดดอยหลวงตากให้ได้ แม้สภาพอากาศจะไม่เป็นใจ

 

 

และแล้วโชคชะตาก็ไม่โหดร้ายกับเราเกินไปนัก ลมได้หอบเอาเมฆที่ปกคลุมทั้งบริเวณออกไป เผยให้เราสามารถมองเห็นบรรยากาศโดยรอบได้ เหตุการณ์เกิดสลับกับแบบนี้ตลอดเวลา เดี๋ยวฟ้าปิดเดี๋ยวฟ้าเปิด ทำให้เราต้องใช้เวลาอันน้อยนิดตอนฟ้าเปิดในการเก็บภาพบรรยากาศ สามารถมองเห็นยอดดอยหลวงตากได้เป็นพักๆ

 

 

--------------------------------------------------------------

 

เช้าวันใหม่กับฟ้าสดใสที่หายไป

เช้าวันที่ 13 สิงหาคม เวลา 05.00 น. เช้านี้บริวเณที่พักก็ยังคงปกคลุมไปด้วยหมอก ความหวังจะชมพระอาทิตย์ขึ้นเป็นอันหมดไป ที่ตื่นเช้าขนาดนี้เพราะเมื่อคืนเหมือนไม่ได้นอน ลมพัดแรงมาก เต็นท์ที่พักสั่นสะเทือนเหมือนคนมาคอยเขย่าตลอดเวลา ผ่านมาเช้านี้ได้เหมือนผ่านมรสุมมาเลยทีเดียว

เวลา 9.00 น. หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็เตรียมเก็บของ และเดินขึ้นไปชมบรรยากาศยอดดอยหลวงตากอีกครั้ง ถึงแม้ความหวังที่ฟ้าจะเปิดมีน้อยเต็มที

 

 

--------------------------------------------------------------

 

กลับ

เดินลงมาได้สักพัก เวลา 11.00 น. ที่ม่อนนางพญา เมฆก็ยังคงไหลเข้ามายังหุบเยอะเหมือนเดิม เราพักกันที่นี่จุดสุดท้าย เพราะหลังจากนี้เราจะเดินกันยาวๆลงไปที่จุดเริ่มเดินเพื่อนั่งรถกลับกันเลย

ใช้เวลาเดินลง 2 ชั่วโมงเศษเราก็มาถึงด้านล่าง

 

 

"ด อ ย ห ล ว ง ต า ก" ไม่ได้เดินง่ายอย่างที่คิด แต่ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับคนที่มีใจ การเดินป่าหน้าฝนถึงแม้เราจะไม่สามารถคาดหวังได้อย่างที่คิด แต่เสน่ห์คือเราความแปลกใหม่ของธรรมชาติที่จะรังสรรค์ออกแบบให้เราเจอกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนใคร บางครั้งเราก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น แม้มันจะไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวัง . . .

 

--------------------------------------------------------------

 

Not :

- เบอร์ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อจองขึ้นดอย พี่นพดล 085-566-3202

- ร้านข้าวพี่หนาสำหรับอาหารทุกมื่อเพื่อความสะดวก 087-844-1675

- Facebook : https://www.facebook.com/sangchantravel