แฮ่! สวัสดีค่า วันนี้ทางเราจะพาทุกคนนั่งรถไฟไปอัมพวากันนนนน ง่ายๆ สบายกระเป๋ามากเวอร์

ตามไปกันเล้ยยยย

 

 

เส้นทางของเราคือวงเวียนใหญ่ กทม. - มหาชัย - บ้านแหลม - แม่กลอง - อัมพวา 

เริ่มจากนั่งรถไฟฟ้าBTSไปลงสถานีวงเวียนใหญ่ ติ๊ดบัตรออกฝั่งที่มีทางเชื่อม เดินตามทางเชื่อมไปจนสุดจะเจอป้ายเขียนว่าไปวงเวียนใหญ่ทางขวามือ ก็เลี้ยวโลดดดด (จะมีป้ายแบบรูปด้านล่างสองป้ายนะคะ ให้เลี้ยวตรงป้ายที่2น้า ถ้าลงป้ายแรกต้องไปข้ามถนนอีกทีจ้า) วางแพลนไว้จะขึ้นรถไฟรอบ7.40 และตอนนี้ก็7.40แล้ว สายแล้ววว เร่งฝีเท้าพร้อมร้องเพลง "ฉันยังรอคอยปาฏิหาริย์ เชื่อว่าวันนึงจะมาถึง" ไปด้วย ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ทันแล้ว...

หลังจากนั้นเดินลงทางเชื่อมมาก็เดินตรงไปเลี้ยวซ้ายเลาะตามถนนไปเลยจ้า เดินไปเรื่อยๆ จะเจอซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน4 หน้าซอยจะมีร้านทำฟันอยู่ เจอแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยจ้า แล้วเลี้ยวขวาอีกทีเดินตรงไปเรื่อยๆจนสุดซอยใหญ่จะเจอซอยเล็กๆ เดินเข้าซอยนั้นไปเลย ก็จะถึงสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่แล้วจ้า เดินข้ามรางรถไฟไปอีกฝั่งแล้วเลี้ยวขวาตรงไปเพื่อไปซื้อตั๋วโลดดด พอเดินไปถึงช่องซื้อตั๋วปรากฎว่ารถไฟรอบ7.40เลท!! ปาฏิหาริย์มีจริงจริงๆด้วย รถไฟรอบ7.40เลทไปเกือบ20นาที พอเราซื้อตั๋วเสร็จรถไฟก็เทียบชานชาลาพอดีเลย โกโก!!

 

ตารางเวลาเดินรถวงเวียนใหญ่ - มหาชัย

เมื่อขึ้นรถไฟมาแล้วหันหน้าไปทางหัวขบวน(ด้านที่รถไฟจะออก)แล้วเลือกนั่งทางด้านขวามือน้า แดดจะไม่ร้อนจ้า

รถไฟออกแล้วววว ไปกันเลยยยยย

วิวสองข้างทางก็จะเป็นชุมชนสลับกับต้นไม้ใบหญ้าไปตลอดทางเลย ใครหลงรักสีฟ้าขาวตัดเขียวก็จะฟินๆไปตามระเบียบ อย่างเช่นเรา ถ่ายรูปเพลินมาก

นั่งให้ลมตีหน้าพั่บๆๆๆก็ผ่านไป1ชั่วโมง ถึงมหาชัยแล้วจ้า ต่อไปเราจะไปขึ้นเรือข้ามฟากกัน Let's go! 

ลงจากรถไฟมาหันหน้าไปทางหัวขบวน(ด้านที่รถไฟจะออก) เดินตรงไปจะเจอสถานีขายตั๋วของท่ารถอยู่ทางซ้ายเลี้ยวเข้าไปในสถานีแล้วเดินทะลุมาจะเจอตลาดก็เลี้ยวขวาแล้วเดินเลาะตลาดไปเลยจ้า ตรงไปจนเจอสวนสาธารณะให้เลี้ยวซ้ายไปจะเจอท่าเรือมหาชัย สังเกตง่ายๆจะมีหอนาฬิกาสูงเด่นอยู่เลยจ้า เดินเข้าไปซื้อตั๋วแล้วรอขึ้นเรือข้ามฟากไปท่าเรือท่าฉลอมกัน ราคาตั๋วเรือ 3 บาทเท่านั้นจ้า

ขึ้นเรือแล้วก็เก็บภาพระหว่างรอกันเสียหน่อย อ้าว นั่งมายังไม่ทันหายเหนื่อยต้องลงแล้ว ถึงท่าเรือท่าฉลอมแล้วฮับ! ถึงท่าเรือแล้วก็เดินตรงออกจากท่าเรือมา หันขวา จะเจอป้ายบอกทางไปสถานีรถไฟบ้านแหลม เดินตามทางไปโลด หรือใครไม่อยากเดิน ก็มีสามล้อให้เช่าพาไปถึงสถานีได้เลย แต่ทางเรายังไหว เดินต่อ ลุย! เดินตรงมาเรื่อยๆ ผ่านโรงเรียน ทะลุวัดเข้าไป ตรงไปเรื่อยๆจนสุด พอเจอตู้รถไฟสีแดงเหลืองตั้งเด่นเป็นสง่าก็ถึงแล้วจ้า สถานีรถไฟบ้านแหลม แชะภาพเป็นที่ระลึกกันไป ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอก็ข้ามทางรถไฟไปฝั่งสถานี หันขวาแล้วเลาะตามสถานีไปก็จะเจอที่ขายตั๋วอยู่ทางซ้ายมือเลยจ้า รถไฟสายนี้ก็ราคา 10 บาทเหมือนกัน ซื้อตั๋วเสร็จก็ถ่ายรูปกันรอรถไฟกันไป วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ คนแอบเยอะนิดนึง แล้วเหมือนจะมีถ่ายรายการอะไรสักอย่างด้วยของญี่ปุ่น แต่ก็ยังพอมีที่นั่งน้า ไม่ได้แออัดแต่อย่างใด

 

ตารางรถไฟสถานีบ้านแหลม - แม่กลอง

พอรถไฟมาก็ขึ้นรถไฟกันเลยยย สองข้างทางรถไฟสายนี้ก็เป็นถนนบ้านเรือนสลับนาเกลือไปเรื่อยๆ แค่มองวิวสูดอากาศก็ฟินกันเลยทีเดียว นั่งไปสักพักพอรถไฟจอดที่สถานีลาดใหญ่ก็เตรียมมือเตรียมกล้องให้พร้อมเพราะเราใกล้ถึงตลาดร่มหุบกันแล้ว! และเมื่อได้ยินเสียงรถไฟหวีดก็เตรียมตัวกันเลย! แต่คำเตือน ระวังมือระวังหัวระวังกล้องกันด้วยน้า เพราะระยะห่างระหว่างตัวรถไฟกับตลาดนั้นแคบมาก 

และในที่สุด! เราก็ถึงแล้วตลาดร่มหุบ!

เราถ่ายคนข้างล่างคนข้างล่างก็ถ่ายเรา พลัดกันถ่ายไปเรื่อยๆ

มาดูดีกว่าว่าเขาขายอะไรกันบ้าง

พอถึงตัวสถานีก็เดินออกจากสถานี เราก็จะไปขึ้นรถสองแถวไปอัมพวากัน! หันหน้าไปทางหัวขบวน(ทางที่รถไฟจะออก) แล้วเลี้ยวซ้ายออกมาเดินตรงมานิดนึงจะเจอสี่แยกให้เลี้ยวขวา เดินตรงมาเรื่อยๆ(ไกลนิดนึง) จะเจอเซเว่นอยู่ทางซ้ายมือ ตรงข้ามกับธนาคารธนชาติ ถ้าเจอสองอย่างนี้แสดงว่ามาถูกทางแล้วจ้า เดินไปขึ้นรถโลด ขึ้นรถที่เขียนว่าโรงเจ-อัมพวา ค่ารถ 8 บาทตลอดสายจ้า พอขึ้นรถไปนั่งไป 10-15 นาที สองแถวก็จะจอดให้เราลงตรงธนาคารธนชาติ ทริคง่ายๆในการจำทางของเราคือเริ่มที่ธนชาติจบที่ธนชาติ ถึงแล้วก็ลุยเลย! เรามาแบบ2วัน1คืน ฉะนั้นลุยของเราคือลุยหาที่พักก่อนเลยจ้า เพราะกระเป๋าหนัก+อากาศร้อนมาก ไม่ไหวแล้ว อัมพวานี่ร้อนแรงกว่ากรุงเทพฯอีก พ่ายแพ้จริงๆ มาอัมพวาก็อย่าลืมพกหมวกมาด้วยนะทุกคน

ที่พักที่เราจะพักในทริปนี้คือ บ้านรักอัมพวา ราคาดีแถมยังใกล้ตลาดน้ำสุดๆ พี่ที่ดูแลน่ารักเป็นกันเองทุกคน เลิฟมั่ก

เราเดินมาถึงที่พัก พี่ที่ดูแลเห็นเราเดินทางมาเหนื่อยๆ ก็หาน้ำหาท่ามาให้ดื่ม น่ารักมากๆ (ที่เหนื่อยคือเราเดินไปผิดทาง เปิดแมพเดินตามทางถนน ซึ่งทางนั้นมันอ้อมนั่นเอง เด๋อสุด) ตอนเราไปถึงห้องที่เราจองยังจัดไม่เสร็จและยังไม่ถึงเวลาเช็คอินเลยนั่งกินลมชมวิวรอ ที่นี่จะมีที่ให้นั่งริมแม่น้ำเลย บรรยากาศดีมากๆ นั่งไปสักพัก พี่ที่ดูแลก็เรียกให้ไปเช็คอิน พี่ที่ดูแลก็จะถามว่าจะไปดูหิ่งห้อยมั้ย คนละ 60 บาท ไปตอนสองทุ่ม ทางเราก็เอาค่ะ เป็นคนเมืองไม่เคยเห็นเลยค่ะ และก็มีชุดตักบาตรพระตอนเช้าด้วยชุดละ 50 บาท ก็จ่ายเงินเรียบร้อย รับกุญแจเข้าห้องพักเลยจ้า ห้องที่เราไปพักก็จะประมาณนี้ มีทีวี ตู้เย็น แอร์ ไดร์เป่าผม เครื่องทำน้ำอุ่นพร้อม คืนละ 1,000 บาทค่ะ แอบเก่านิดนึง แต่พักสบายมากค่ะ แนะนำให้จองกับทางที่พักโดยตรงราคาจะถูกกว่าจองผ่านเว็บเอเจนท์ค่ะ(เฟสบุคที่พักแปะไว้ท้ายบทความค่ะ) เก็บของเรียบร้อยก็ถึงเวลาไปลุยจริงๆแล้ว โกโก! อย่างแรกเลยต้องหาของกินก่อนค่ะ เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนอกจากชานมไข่มุกหนึ่งแก้ว ฉะนั้นก็ลุยหาของกินกันเลย!

เดินออกจากที่พัก เลาะริมน้ำมาเรื่อยๆ ก็จะเจอตลาดน้ำ คนพลุกพล่านมากกกกกก! (คราวนี้ไม่เดินอ้อมแล้ว เพราะพี่ที่ดูแลให้แผนที่ที่พักพร้อมอธิบายทางไปตลาดให้เรียบร้อย55555555) เดินมาเรื่อยบๆจนสุดตลาด เราก็ตกลงปลงใจกับก๋วยเตี๋ยวเรือกะลา ชามละ 20 บาทเท่านั้น รสชาติใช้ได้ ธรรมดาๆ ไม่ได้หวือหวาค่ะ

และใช่ค่ะ เราไม่อิ่ม เดินหาของกินต่อค่ะ ก่อนมาที่นี่เราได้อ่านรีวิวมาและเขามากินผัดไทยกัน ตอนเดินดูก็เห็นเมนูแต่ละร้านมีผัดไทยทั้งนั้น  เราก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องผัดไทย แต่ไหนๆก็มาแล้ว ก็กินเสียหน่อย ส่วนรสชาติเฉยๆเหมือนเดิมค่ะ จานนี้ 30 บาทจ้า กินเสร็จก็เดินดูนั่นนี่ไปเรื่อย เจอร้านน้ำมะพร้าวก็จัดเสียหน่อย ลูกละ 15 บาทค่ะ  และอีกร้านหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลย คือ...ร้านสมานการค้า กาแฟโบราณ  เขาว่ากันว่าร้านนี้ทาร์ตไข่เด็ดมาก ทางเราสายขนมหวานไม่พลาดแน่นอนค่ะ จัดทาร์ตไข่มาเลย 6 ชิ้น 150 บาท ส่วนตัวเราว่ารสชาติจืดไปนิด เพราะเราติดหวานค่ะ ใครไม่ชอบทานหวาน แนะนำเลยค่ะ และอีกอย่างร้านนี้ที่เขาว่าเด็ดคือพิซซ่า แต่เราไม่ได้ลอง ใครมาอย่าลืมลองแล้วแวะมาบอกกันด้วยน้า พอเดินเล่นกันจนทั่วตลาดก็เริ่มเหนื่อย เลยแวะมานั่งเล่นที่โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ ด้านในร่มรื่นมากค่ะ แวะนั่งพักถ่ายรูปเล่นกันเพลินๆเลยค่ะ นั่งเล่น เดินเล่นกันสักพักก็เริ่มหิวเลยกลับที่พัก คิดว่าจะไปฝากท้องที่ที่พัก เพราะมีร้านอาหารในตัวเลยค่ะ พอไปถึงที่พัก พี่ที่ดูแลก็บอกว่าเดี๋ยวมีอาหารเย็นให้ นั่งรอเลยจ้า อาหารเย็นก็จะเป็นน้ำพริกกะปิกับต้มยำปลาทูค่ะ(ฟรีค่ะ) ใครกินเผ็ดไม่เผ็ดยังไงบอกพี่เขาได้เลยจ้า น้ำพริกกะปิเติมได้ไม่อั้น ถ้าอยากสั่งอะไรเพิ่มก็สั่งได้เลยค่ะ เราสั่งไข่เจียวใบชะครามมากินคู่กับน้ำพริก อร่อยมากเวอร์ นั่งกินไปดูบรรยากาศริมน้ำยามเย็นไป ผ่อนคลายสุดๆเลยค่ะ พอทานอาหารเย็นเสร็จสักพัก สองทุ่มก็มีเรือมาจอดเทียบท่าที่พักไปชมหิ่งห้อยกันเลยจ้า ไม่รอช้า ขึ้นเรือแล้วเลือกนั่งหน้าสุดเลยจ้า ขึ้นเรือครบแล้วก็ออกเดินทางกันเล้ย! นั่งไปตลอดทางลุงคนขับก็จะอธิบายสองฝั่งข้างทางไปเรื่อยๆค่ะ คุณลุงอธิบายดีมาก บอกว่านี่แม่น้ำอะไรจะทะลุไปไหน แม่น้ำนี้ไปไหนได้บ้าง บลาๆ และใช่ค่ะ พอเจอหิ่งห้อยก็ตื่นเต้นจนจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ แหะๆ หิ่งห้อยเยอะมากกกก กระพริบเหมือนไฟคริสต์มาสเลย สวยมาก ตื่นตาตื่นใจสุด ต้องมาดูเองเลยค่ะ แนะนำ

ออกไปตอนสองทุ่ม สามทุ่มกว่าก็กลับมาแล้วค่ะ อ้อมรอบเกาะเลย สนุกมากยังไม่อยากลงเลยค่ะ กลับมาในเขตตลาดน้ำ ร้านต่างๆก็ทยอยปิดหมดแล้วค่ะ

และลุงก็ส่งเราขึ้นที่พัก จบไปอีกวันหนึ่ง เจอกันใหม่พรุ่งนี้เช้าค่ะ...

เช้าแล้ว ณ เวลา 6 โมงเช้า เราก็ออกมาตักบาตรพระ พระท่านจะพายเรือมารับบาตรถึงที่พักเลยค่ะ

เวลา 7 โมงครึ่ง อาหารเช้าก็เริ่มวางค่ะ อาหารเช้าจะเป็นบุฟเฟต์ค่ะ ตักได้ไม่อั้น มีข้าวต้มให้ด้วยนะคะ พี่เขาจะเสิร์ฟให้ที่โต๊ะเลยค่ะ ด้านนี้จะเป็นขนมหวานค่ะ (แอบกระซิบว่าข้าวเหนียวมะม่วงอร่อยมากกกกกกกกกกกกก วุ้นเป็ดก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ)
ขนมปังปิ้ง ปาท่องโก๋ กาแฟ โอวัลตินก็มีนะคะ ทางเราก็ไม่แน่ใจว่าไปหิวโซมาจากไหน ตักลืมคิดกันเลยทีเดียว (มื้อนี้อิ่มจนถึงเย็นเลยค่ะ สุดมากจริงๆ)

ทานข้าวเช้าเสร็จก็เก็บของเตรียมเช็คเอ้าท์ตอนสิบโมงจะได้ถึงกรุงเทพฯไม่เย็นเกินไปค่ะ ออกจากที่พักไปขึ้นรถสองแถวตรงโรงเจซำเป้ากลับไปลงตลาดร่มหุบ เป็นอันจบทริปอัมพวาค่ะ

ส่วนตัวคิดว่าตลาดน้ำอัมพวานี้สามารถมาเที่ยววันเดียวไปกลับได้ แต่อยากแนะนำให้ค้างคืนเพราะอยากให้ไปนั่งเรือชมหิ่งห้อยกัน เราว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาอัมพวา หรือแค่ไปนั่งเรือรอบเกาะให้ลมตีหน้าพึ่บพั่บๆๆ ถึงแม้จะมืดไม่ค่อยเห็นวิวรอบข้างแต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบนึงค่ะ ตื่นเต้นเร้าใจ อยากให้ไปลองดูค่า

ลาก่อนอัมพวา...ไว้เจอกันใหม่....กลับมาซ้ำแน่นอน

 

สรุปค่าใช้จ่ายในทริปนี้ค่ะ (ไม่รวมค่าอาหาร)

- ค่าที่พัก 1,000 บาท

- ค่ารถไฟวงเวียนใหญ่ - มหาชัย (ไป-กลับ) 20 บาท

- ค่ารถไฟบ้านแหลม - แม่กลอง (ไป-กลับ) 20 บาท

- ค่าเรือมหาชัย - ท่าฉลอม (ไป-กลับ) 6 บาท

- ค่ารถสองแถวแม่กลอง - อัมพวา (ไป-กลับ) 16 บาท 

- ค่าเรือชมหิ่งห้อย 60 บาท 

- ค่าชุดตักบาตรพระ 50 บาท 

ทั้งหมด 1,172 บาท หารสองตกคนละ 586 บาทค่ะ

เฟสบุคบ้านรักอัมพวา https://www.facebook.com/baanrakamphawahomestay/

ใครสนใจพักที่นี่ลองโทรไปสอบถามได้เลยค่ะ ห้องราคาไม่แพง ใกล้ตลาดน้ำ บริการดี อาหารอร่อยมากกกกกก แนะนำค่ะ

ปล. เราถ่ายด้วยกล้องIphone7 กับ Nikon D5100 มีชัดบ้างไม่ชัดบ้างปะปนกันไป ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่า

ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้นะคะ เจอกันใหม่ทริปหน้าค่า (ถ้ามีนะคะ555555555)