ปราณบุรีแบบเบาๆ กับพวกเรา..ปวงสุข

  4 พ.ค. 57...

...ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ไม่ง่ายนักสำหรับครอบครัวเล็กๆ ที่ต่างคนต่างมีหน้าที่การงาน การเรียนของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ทริปการรวมตัวในครอบครัวจึงหาเวลาได้ยากนักสำหรับการเที่ยวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาเพียงแค่ 2 วันหนึ่งคืน....

...ทริปนี้เกิดขึ้นจากการชักชวนของพี่สาวหัวหอกของบ้าน "ปวงสุขแฟมิลี่" โดยการเดินทางครั้งนี้ใช้ยานพาหะนะทั้งหมดสองคัน เวลาของการเริ่มหมุนล้อออกจากบ้านคือประมาณ 8.30 น. ขับกันแบบงมทางไปเรื่อยๆ จากชานเมืองกรุงเทพฯ วิ่งเข้าสู่ถนนพระรามสอง ตรงไปเรื่อยยังเส้นทางสู่ภาคใต้ของประเทศ และแวะพักหาของกินเติมพลังยามเช้าบริเวณเขาย้อย เพชรบุรี เมื่อรถมีน้ำมันเต็มถัง คนก็มีอาหารเต็มท้อง การเดินทางก็เริ่มต้นต่อไป...

เราขับรถกันไปเรื่อยๆ ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอย่างซานโตรินี่, swiss sheep farm และวิ่งไปตามเส้นทางสายเก่าโดยเลี่ยงการผ่านตัวเมืองหัวหิน...

ณ เวลา 12.00 น.โดยประมาณ เราได้ถึงจุดหมายที่พัก โดยพี่สาวของเราได้เลือกพักที่ โรงแรมแพนโดเรีย ปากน้ำปรานเป็นที่พักที่ราคาประหยัดและห่างจากทะเลแค่ข้ามถนน... 

 

...เมื่อถึงที่พักแล้ว เราต่างก็แยกย้ายกันเลือกสรรห้องนอนตามความสะดวกและพักผ่อนกันตามอัธยาศัย ห้องนี้ใหญ่กว่าใครเลยจ้า...

 

 

...วิวที่มองออกจากห้อง สวยงาม....

 

 

 

 

 

...พี่สาวเราก็ฟิตค่ะ นางขับรถแล้วยังไม่ยอมพัก มาถึงก็เที่ยวเลย เดินดูโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ดูการทำปลาหมึกตากแห้งของชาวประมงในย่านนั้น มีปลาหมึกสดของโปรดของครอบครัวด้วย ได้แต่ดูนะคะ ไม่ได้ซื้อมานั่งทำกินเลย เพราะมันยุ่งยาก คิดว่าสั่งในร้านกินน่าจะดีกว่า....ส่วนเราไม่ต้องถามถึงค่ะ นอนสิคะนอน อยู่บ้านไม่ค่อยนอน มีโอกาสพักต้องพักให้อิ่มจนอืด.....

 

 

.....ก่อนแสงใกล้จะหมด แล้วเราเริ่มมีพลังแล้ว จากนี้พวกเราก็พากันขับรถจากที่พัก วิ่งเรียบชายหาดไปเรื่อยๆ จนไปถึงเขากระโหลก และแวะถ่ายรูปบริเวณนั้นอย่างสนุกสนานท้าแดดอันแรงกล้า สีของเรือประมงเหล่านั้น มันสะท้อนให้เห็นถึงความสดใส บวกกับธรรมชาติของสีฟ้า ที่พยายามจะบอกว่า ความสุขมันมีได้ทุกที่ที่เราอยากจะมี...

...เมื่อแดดเริ่มอ่อนแรง พลังของเราก็มากขึ้น ถึงเวลาแล้วสินะ เล่นน้ำกันสิคะรออะไร

 

 

...การได้ลงทะเล คือความสุขที่สุดของผู้ชายที่เรารักที่เรียกว่าพ่อ...

 

 

...ภาพนี้สะท้อนความรู้สึกลึกๆ ของพ่อว่าคงกำลังคิดถึงใครสักคนที่จากเราไป

 

 

 

...หลังจากพลังหมดไปกับการเล่นน้ำ ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว เติมอาหารกันหน่อยก็ดีนะ มื้อนี้สั่งกินที่ร้านใกล้กับที่พักเลย จำชื่อไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าอร่อยมาก หิวด้วยมั้ง (ภาพค่อนข้างเบลอเนื่องจาก coppy มาจากวิดีโอที่ถ่ายเก็บไว้ค่ะ)

...เมื่อหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนมาเลยค่ะ หมดทริปไปหนึ่งวันแบบชิลๆ ซึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา มันยากมากสำหรับการได้ทำแบบนี้กับครอบครัว มีเสียงบ่น ร้อน หิว ง่วง มีเสียงหัวเราะดังๆ ตอนถ่ายรูป ตอนเล่นน้ำ และก็มีเสียงท้องร้องตอนกินข้าวด้วยกัน ตักข้าวให้กัน ตักกับข้าวให้กัน....นานมากแล้วที่ไม่ได้เป็นแบบนี้ และนี่คืออีกวันแห่งความสุขของพวกเรา............... 

 

 

  เช้ารุ่งขึ้นของวันที่ 5 พ.ค. 57...เมื่อความต้องการเห็นแสงแรกเกิดขึ้น.....

การรอคอยไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเรา การเริ่มต้นใหม่เกิดขึ้นได้เสมอ เหมือนพระอาทิตย์ที่กำลังเริ่มต้นลอยขึ้นจากเส้นขอบฟ้าแสนไกลตรงนั้น...

เช้านี้ความสดใสกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม เราก็พากันเดินหาของอร่อยๆ กิน จนมาสะดุดที่ร้านกาแฟชื่อดังในที่คิดว่าใครหลายคนน่าจะรู้จักถึงความชิลล์และน่านั่งของร้านนี้ ....ชาบาร์.....

 

 

....ร้านนี้น่ารักมาก ชิลล์มาก นั่งจนไม่อยากกลับบ้านเลย อยากเป็นเจ้าของร้านกาแฟซะเอง....

 

 

 ....ความสุขความสนุก การพักผ่อนและผ่อนคลาย เดินทางมาถึงนาทีสุดท้ายที่ต้องเตรียมตัวเดินทางกลับบ้าน ทุกอย่างทุกความรู้สึกที่ได้สัมผัสในทริปวันนั้น ไม่เคยเลือนหายไปเลย ความทรงจำต่างๆ ยังคงอยู่ รอยยิ้มของพ่อ เสียงหัวเราะของพี่ ความสุขของลูก ความอร่อยของเรา และกาแฟรสชาติเดียวกับกรุงเทพฯ เพียงแค่ต่างสถานที่นั่งจิบก็แค่นั้น

.....หลังจากเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมแล้ว ยานพาหะนะทั้งสองคันก็ขับตามกันออกมาตามเส้นทางเดิมเหมือนตอนที่วิ่งมา และมุ่งเป้าหมายสู่ตัวเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อกลับมาทำหน้าที่ของแต่ละคนอย่างเต็มที่และสมบูรณ์แบบ

....มันเป็นเพียงทริปเรียบง่ายๆ สั้นๆ แต่ให้ความทรงจำที่ยาวไกลจนไม่มีวันลืม ...ครอบครัวฉัน ไม่ได้มีเพียงแค่ พ่อ แม่ ลูก ....แต่คือทุกคนที่ฉันรักและทุกคนที่รักฉัน ทุกคนคือครอบครัว 

........รีวิวนี้แด่ครอบครัวเล็กๆ แต่หัวใจยิ่งใหญ่..........ปวงสุขแฟมิลี่

     ปล. นี่คือการเขียนรีวิวครั้งแรก เขียนจากหัวใจ ภาพอาจไม่สวยเหมือนใครๆ แต่มันสวยที่สุดในใจของเรา.....