ครั้งนี้เราจะไปปลดล็อคความกลัว กับกิจกรรมโรยตัวสุดท้าทาย กันที่ “ถ้ำน้ำบ่อผี” อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าของสถิติหลุบยุบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีความกว้างกว่า 100 เมตร และลึกถึง 160 เมตร โดยขนาดเทียบเท่ากับสนามฟุตบอล 2 สนาม ที่ถูกมองลงมาจากตึกสูงเกือบ 60 ชั้น กันเลยทีเดียว
โดยทั่วไปแล้ว "หลุมยุบ" จะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ใต้ดินเป็นหินตะกอน เมื่อเกิดการไหลเวียนของน้ำใต้ดิน จะทำให้ชั้นดิน และหินในบริเวณนั้นเปราะบางไม่หนาแน่นเท่าที่ควร จนเกิดการหลวมตัวเป็นโพรงช่องว่าง กระทั่งเมื่อพื้นผิวส่วนบนไม่สามารถต้านทานน้ำหนักของแรงกดทับเอาไว้ได้ จึงเกิดการพังทลาย และกลายเป็นหลุมยุบในที่สุด
จากธรณีพิบัติล้านปี สู่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสุดตื่นตาตื่นใจ จุดเช็คอินอันเลื่องชื่อแห่งหมู่บ้านลุกข้าวหลาม หมู่บ้านท่ามกลางหุบเขาของพี่น้องชาวลาหู่ดำ
ถ้ำน้ำบ่อผี อยู่ในพื้นที่การดูแลของเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย หากจะขึ้นไปยังถ้ำน้ำบ่อผีจะต้องผ่านตัวหมู่บ้านไปอีก 3 กิโลเมตร โดยเป็นทางดินลาดชัน จำเป็นจะต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
ในช่วงตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ได้มีนักสำรวจโรยตัวลงไปเพื่อเก็บข้อมูลทางธรณี พืชพรรณ และสัตว์ป่า นำมาสู่การท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มจนกลายเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในแวดวงของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย และกิจกรรมอันท้าทาย
สำหรับค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมโรยตัวต่อทริปถือว่าค่อนข้างสูง (ประมาณ 14,000 บาท) แต่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าอุปกรณ์เซฟตี้ระดับมืออาชีพ และประสบการณ์ของทีมงานคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับกิจกรรมในลักษณะนี้ ทีมงานยืนยันอย่างหนักแน่นเรื่องความปลอดภัยคือต้อง 100% เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เชือกที่ใช้โรยตัวแบบไร้รอยต่อ ซึ่งจะต้องเปลี่ยนเส้นใหม่ทุกทริป, จุดยึดเชือกกว่า 6 จุด ที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 10 ตัน, ก่อนนักท่องเที่ยวโรยตัวจะต้องผ่านการอบรมระยะสั้น ทำการทดสอบจนมีความเข้าใจในเทคนิค และอุปกรณ์ที่จำเป็น รวมถึงการโรยตัวทุกครั้งจะมีทีมงานมากประสบการณ์คอยประกบอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอนอย่างรัดกุม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง เพื่อให้ทุกคนได้รับความปลอดภัยแบบสูงสุดนั่นเอง
การจะโรยตัวลงไปเบื้องล่าง จำเป็นต้องใช้แรงกายพอสมควร เฉพาะแค่น้ำหนักของชุดเซฟตี้ก็ประมาณ 3 กิโลกรัมแล้ว โดยเราจะต้องค่อยๆ ดึง และรูดเงื่อนพรูสิค (Prusik Hitch) อย่างค่อยเป็นค่อยไป ครั้งละประมาณ 1 เมตร ทิ้งตัวให้ตรง เหยียดขาให้สุด และที่สำคัญมากที่สุดคือแรงใจ พี่ๆ ทีมงานแนะนำว่าให้เชื่อใน 2 สิ่ง คือ เชื่อมั่นในอุปกรณ์ และเชื่อในตัวทีมงาน คอยฟังคำสั่งอย่างเคร่งครัด สงสัยอะไรให้ถาม จะทำอะไรให้บอก นั่นคือหลักใหญ่ใจความที่จะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้แบบราบรื่นปลอดภัย
ช่วงที่หวาดเสียวที่สุดจะเป็นจุดที่เรียกว่า “Overhang” จุดที่อยู่ปลายสุดบริเวณหินย้อยของปากถ้ำ ซึ่งหลังจากนี้เราจะต้องเตรียมถอนเท้าออกจากการยันพื้นผิวหน้าผาแล้วทิ้งตัวอิสระเต็มรูปแบบ หากผ่านจุดนี้ไปได้ อีก 120 เมตร ที่เหลือจะเริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนเหยียบพื้นดิน โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้เวลาตั้งแต่เริ่มโรยตัวจนถึงเบื้องล่างประมาณ 45 นาที
บรรยากาศเมื่อลงมาถึงจะรู้สึกได้ถึงความร่มรื่นจากไม้ยืนต้นที่สูงใหญ่ และหนาแน่น อาทิ ต้นปาล์ม และกลุ่มเฟิร์นที่แทรกอยู่ทั่วบริเวณ แต่งเติมให้ผืนป่าเบื้องล่างแห่งนี้ดูคล้ายกับโลกดึกดำบรรพ์ ส่วนที่เป็นพื้นราบจะอยู่ใจกลางก้นหลุมที่มีความกว้างเพียงไม่กี่สิบเมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่ใช้พักแรมแคมป์ปิ้งสำหรับโปรแกรมค้างคืน
สำหรับการกลับขึ้นไปยังด้านบนจะมีด้วยกัน 2 ระดับ คือ ระยะ 70 เมตร กับ ระยะ 90 เมตร ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบปีนขึ้นด้วยตัวเอง กับการชักรอกดึงขึ้นไป ซึ่งในครั้งนี้เราขอเลือกอย่างหลัง โดยจะใช้รอกกำลังคน (6 คน) ค่อยๆ ดึงตัวเราขึ้นไปทีละระดับ ครั้งละประมาณ 5 เมตร ซึ่งเราเองมีหน้าที่คอยประคองทั้งมือ และขา ระวังไม่ให้ตัวเองกระแทกกับหิน ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที ก็ขึ้นมาถึงข้างบนกันแล้วครับ
ใครที่สนใจอยากจะลองมาสัมผัสประสบการณ์โรยตัวท้าความกล้าแบบเรา ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณเป็ก Zteam โทร. 081 403 5229 หรือ ติดต่อ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 053 612 982 - 3 ได้เลยครับ