ตรัง เมืองต้องห้ามพลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องยุทธจักรความอร่อย และมีประวัติเก่าแก่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ในอดีตเป็นเมืองท่าค้าขายกับต่างประเทศ เป็นเมืองแรกที่มีการปลูกยางพาราที่เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยด้วย ส่วนแม่น้ำสำคัญนั้น คือ แม่น้ำตรัง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาหลวง และ แม่น้ำปะเหลียน จากเทือกเขาบรรทัด พอพูดถึงแม่น้ำปะเหลียนในอำเภอปะเหลียนแล้ว ก็มีประวัติที่น่าสนใจ และมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้เราได้เที่ยวชม หนึ่งในนั้นคือ สันหลังมังกร นี่เอง

จริง ๆ แล้ว สันหลังมังกร ในจังหวัดตรังนั้น มีทั้งหมด 6 ที่ แต่ละที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป ทั้งเป็นสันเนินทราย สันเปลือกหอย รวมถึงสันโคลน ตั้งชื่อตามลักษณะทางกายภาพที่พบเห็น เช่น สันหลังมังกรเหลือง, สันหลังมังกรเกล็ดทองคำ, สันหลังมังกรหยก, สันหลังมังกรทับทิมสยาม, สันหลังมังกรนิล และ สันหลังมังกรเผือก
ส่วนสันหลังมังกรที่เราไปนั้นคือ สันหลังมังกรเหลือง เป็นสันหาดทรายคล้ายทะเลแหวกกลางทะเล ระยะทางยาวประมาณ 2.8 กิโลเมตร อยู่ในเขตหมู่ที่ 2 บ้านหยงสตาร์ ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน ฝั่งด้านหนึ่งจะเป็นทะเล อีกฝั่งของสันหลังมังกรจะเป็นโคลนแบบป่าชายเลน

การเดินทางนั้นต้องลงเรือที่ท่าเรือด่านศุลกากรหยงสตาร์ มีค่าบริการลำละ 1200-1500 บาท พร้อมเสื้อชูชีพ และน้ำดื่มระหว่าทาง เรือแต่ละลำนั่งได้ไม่เกิน 10 คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที

การเตรียมตัวก่อนไปนั้น เราควรเช็คเวลาน้ำขึ้น-ลง ไปก่อน เพราะแต่ละวันระดับน้ำจะไม่เท่ากัน สามารถสอบถามจากชาวประมงแถวนั้นก่อนลงเรือได้ หรือใครเกรด 4 วิชาวิทยาศาสตร์ทุกเทอม ก็อาจจะเช็คล่วงหน้าได้จากแอพลิเคชั่นในมือถือของเรา โดยเราจะดูจากวันที่ไปเป็นช่วงข้างขึ้น - ข้างแรม และสภาพอากาศในวันนั้น ๆ

อีกสิ่งที่อยากแนะนำเมื่อมาถึงสันหลังมังกรเหลืองนี้คือ ควรมาถึงก่อนเป็นกลุ่มแรก ๆ เพราะสันดอนทรายที่สวยงามนี้เมื่อมีคนมาเหยียบย่ำ จะเห็นเป็นรอยเท้ามากมายนับไม่ถ้วนมาแทนที่ริ้วคลื่นที่โค้งตามกระแสน้ำที่ซัดจากทะเลอันสวยงาม แต่มองอีกมุม การมีรอยเท้าบนพื้นทรายนั้น ก็ทำให้รู้สึกไม่เหงา เพราะเหมือนกับว่ามีเพื่อนร่วมเดินทางนั่นเอง

สิ่งมีชีวิตที่เราจะพบเห็นที่สันหลังมังกรนี้ ก็มี ปูก้ามดาบ ที่ขุดหลุมเป็นรูไว้สำหรับหลบภัย บางทีก็เห็นมันเอาก้ามมาสู้วัดพลังกันด้วย อีกตัวคือเจ้าหนอนทะเลที่มักถูกคลื่นซัดเข้ามายังสันดอนทราย แต่ถึงมันจะถูกซัดขึ้นมาก็ยังไม่ตายเพราะอีกสักพักก็จะเห็นมันมุดตัวเข้าไปใต้ทรายอยู่ดี 

ในวันที่เรามาเที่ยวนั้นเป็นช่วงบ่ายที่น้ำลด ขากลับเรือจึงไม่สามารถเข้ามาจอดติดริมฝั่งได้ ทำให้ต้องเดินลงทะเลเพื่อไปขึ้นเรือด้วยความลำบาก เพราะพื้นดินใต้ทะเลนั้นเป็นดินโคลนปนทราย ใครออกแรงเดินหนักไปละก็ได้โดนดินดูดแน่นอน  และนอกจากสันหลังมังกรเหลืองนี้แล้ว ยังมีแหล่องท่องเที่ยวใกล้ ๆ สามารถนั่งเรือไปต่อได้เพียงไม่กี่นาที

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เมื่อมาเยือนสันหลังมังกรเหลืองนี้ คือ

1. เกาะเหลาตรง เป็นแหล่งวัฒนธรรมโบราณ ในอดีตเป็นที่พักอาศัยอาศัยของชาวจีนอพยพ และเป็นอู่ซ่อมเรือสำเภาที่เก่าแก่ มีศาลเจ้าโบราณที่ปัจจุบันถูกรื้อ และอัญเชิญสร้างใหม่บนแผ่นดินตรัง ที่เกาะนี้เองเราจะพบเศษถ้วยชามเครื่องปั้นดินเผาโบราณที่ขนมาทางเรือขนสินค้า และใช้งานจริงในอดีตตามหาดทราย หรือตามซอกหินต่าง ๆ บนเกาะ

2. แหลมหยงสตาร์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง เป็นแหลมที่ยื่นลงไปในทะเล พื้นน้ำท่าหยงสตาร์มีลักษณะเป็นอ่าว มีสะพานเทียบเรือที่ยื่นลงไปในอ่าวประมาณ 200 เมตร บางครั้งจะเห็นฝูงโลมามาว่ายวนกระโดดเล่นน้ำ ยามเย็นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม

3. หินหัวช้าง มีลักษณะเป็นกลุ่มหินริมทะเลที่วางเรียงรายทับซ้อนกัน บางก้อนมีลักษณะเป็นตะคุ่มคล้ายหลังช้างหรือหัวช้าง และมีพันธุ์ไม้ป่าชายเลนโดยรอบ สามารถเที่ยวชมได้ตลอดปี

ก่อนกลับเรามีโอกาสได้แวะทานอาหารทะเลสด ใหม่ สะอาด ที่แหลมตันหยงสตาร์นี้ด้วย อิ่มท้องอิ่มใจก็ทำให้การท่อเที่ยวสมบูรณ์แบบที่สุดเลยครับ 

นอกจากนี้ชุมชน “หยงสตาร์” ยังมีแหล่งเรียนรู้ศึกษา ภูมิปัญญาชาวบ้าน ประวัติศาสตร์ยาวนาน และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงชุมชนที่ผลิตสินค้าชั้นนำของชุมชนไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย

ที่อยู่ : ม.2 บ้านหยงสตาร์ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง

GPS : 7.116590, 99.665960 (ท่าเรือหยงสตาร์)

เบอร์ติดต่อ : อบต.ท่าข้าม โทร 075 288 593 หรือ 084 3062 697

เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน   

ช่วงเวลาแนะนำ : เที่ยวได้ตลอดปี ขึ้นอยู่สภาพอากาศแต่ละวัน ควรเช็คระดับน้ำก่อนเดินทาง

ไฮไลต์ : สันดอนทรายระยะทางกว่า 2.8  กิโลเมตร โค้งเหมือนมังกรเลื้อยกลางทะเล

กิจกรรม : เดินชมความงดงามและมหัศจรรย์ของสันหลังมังกร และเยี่ยมชมเกาะเหลาตรงที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์น่าสนใจ

ข้อแนะนำ : นักท่องเที่ยวควรเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางและติดต่อมายังท่าเรือก่อนล่วงหน้า

จากตัวเมืองตรังไปท่าเรือด่านศุลกากรหยงสตาร์ใช้ทางหลวงหมายเลข 404 (ตรัง-หยงสตาร์) ผ่านที่ว่าการอำเภอปะเหลียน ข้ามสะพานท่าข้ามแล้วตรงไปตลอดจนสุดถนนก็จะถึงท่าเรือ ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตรหรือสามารถใช้บริการรถตู้โดยสารสายตรังได้