" ห น า ว น้ อ ย . . . ห น า ว ใ ก ล้ ก ท ม . . . "


        ปลายเดือนพฤศจิกา ต้นเดือนธันวา หลายๆจังหวัดเริ่มมีอากาศเย็น เว้น...แต่ กทม.ที่ยังมีอากาศร้อนเช่นเดิมเหมือนทุกๆ วัน ผมจึงพยายามมองหาพื้นที่ที่มีอากาศเย็นบ้างถึงหนาวได้ยิ่งดี และใกล้ๆ กทม.หน่อย เพราะมีวันหยุดพักผ่อนที่จำกัด และแล้วก็ได้พิกัดสถานที่จะสูดอากาศสัมผัสอากาศหนาวนิดๆ ที่ใกล้ๆ กทม.หน่อยๆ นั้นก็คือ จังหวัดนครนายกนั้นเอง
         สถานที่แรกที่จะแนะนำคือร้านกาแฟเล็กๆ  ที่อยู่บนถนนเรียบคลอง15 [**ถ้ามาจากรังสิตวิ่งเส้นรังสิต-นครนายก**]

   ร้านกาแฟร้านนี้ก็คือ   " ร้านกาแฟกับต้นไม้ "  นับว่าไม่เป็นการเสียเวลาแน่ๆที่จะยอมสละเวลาอันน้อยนิดแวะมาชิม มาชมบรรยากาศอันร่มรื่น           พอเดินเข้าไปในร้าน จะต้องตะลึงกับ ป้านข้อความจำนวนมหาศาล ที่ผู้ที่ได้ผ่านแวะเวียนมาได้บันทึกความทรงจำไว้ ณ ที่แห่งนี้ ทั้งนี้เราสามารถสั่งกาแฟรสชาติเข้มข้นหรือจะเป็นเมนูชาเขียวโกโก้และอื่นๆมากมายให้คนที่แวะเวียนมาได้ลิ้มรส


                   ทั้งนี้ร้านแห่งนี้ยังมีปากกาและกระดาษไว้ค่อยบริการ ให้ทุกๆคนที่ได้ผ่านเข้ามาได้ฝากความทรงจำดีๆ วลีเด็ดๆ ให้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้ทราบถึงความสุขที่เราได้มาเยือน ณ ที่แห่งนี้ ที่ . . " ร้ า น ก า แ ฟ กั บ ต้ น ไ ม้ "

             หลังจากได้แวะเติมน้ำตาลลงในร่างกาย ถึงแม้จะเป็นร้านกาแฟเล็กๆ แต่ก็ทำให้ผมหมดเวลาไปเป็นชั่วโมงแบบไม่รู้ตัว...ถือว่าเด็ดครับร้านนี้
             สถานที่ต่อไป ที่นี่เลยครับ คนเริ่มรู้จักและไปกันเยอะแล้ว อุโมงค์ไผ่ วัดจุฬาภรวนาราม...       พอดีวันที่ผมไปเป็นวันปกติ ไม่ตรงวันหยุด จึงทำให้มีคนน้อยมาก เหมาะแก่การถ่ายรูปมากครับ ***ขอบอกของจริงเห็นด้วยตาสวยกว่าในรูปเยอะครับ แต่ทำไมพอถ่ายมามันดูธรรมดามาก***   ที่นี่จะเงียบครับ
ถนนเข้ามาจะลึกหน่อยจากทางหลัก แต่เดินทางสะดวกครับเพราะเป็นทางคอนกรีตอย่างดี  


แนะนำให้มาเที่ยวช่วงวันธรรมดานะครับ เพราะจะทำให้ถ่ายรูปได้ง่าย แต่ถ้าวันหยุดผมว่าคนคงเยอะ ถ่ายมุมไหนก็ต้องติดคนอื่นมาด้วยแน่ๆ แต่ถ้าใครเก่งรีทัช ก็สบายครับ  . . . "อุโมงค์ไผ่ วัดจุฬาภรวนาราม . . . " ต้องมาเยือน

 

      แป๊ปๆหมดเวลาไปจะครึ่งวันแล้วยังเที่ยวไม่ถึงไหนกันเลย ต้องรีบหาที่พักสำหรับคืนนี้ สำหรับที่พัก 1 คืนที่ได้เลือกไว้ เป็นที่พักที่ไม่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก ใกล้ที่เที่ยวที่ได้วางแพลนไว้ ที่พักที่ได้เลือกไว้...ก็คือนี่เลยครับ
" . . . มี น า วิ ล ล่ า . . . "          ที่พักมีหลายเรทหลายราคา สามารถโทรสอบถามหรือค้นหาข้อมูลในเน็ตได้เลยครับ รับรองหาง่ายเพราะจะขึ้นหน้าแรกๆครับ ช่วงผมไปคนจะน้อยหน่อยเลยเงียบๆ ที่นี่เป็นเป็นธรรมชาติดีครับ มีสระว่ายน้ำ แอร์เย็นสบาย สะอาด มีอาหารเช้าคอยบริการ [ข้าวต้มกับชุด breakfast] ลองๆดูครับ ไว้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งได้เลยครับ

           หลังจากได้เช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา รีบไปเที่ยวสถานที่ธรรมชาติที่ต่อไปเลยครับ
สถานที่แห่งนี้เหมาะแก่การถ่ายรูปช่วงสายๆ หรือยามเย็นมาก ถ้าช่วงเที่ยงหนะร๋อ....ร้อนโครตๆร้อนบรรลัยเลยครับ
 ที่แห่งนี้ก็คือ " เขาหล่น " นั้นเอง

 
    เขาหล่น สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำ MV ของวงดนตรีวงหนึ่งด้วย เขาหล่นจะเป็นเนินเขาไม่สูงมากนัก มีความชัดระดับหนึ่งแต่ไม่มาก พอเดินได้ แต่ที่อันตรายคือจะลื่นมากเพราะพื้นจะเป็นหินแตกๆขรุขระ บวกกับมีหญ้าขึ้นสูงทำให้มองไม่เห็นพื้นได้ชัดเจน  ถ้าใครไปเที่ยวระวังจุดนี้ด้วยครับ  แต่ยอมรับเลยว่าสวยมาก มีหญ้าขึ้นยาวๆมีลมพัดพริ้วปริวไสว สวยงามมาก







                      เป็น location หนึ่งครับที่ไปแล้วน่าจะได้ภาพประทับใจมาเก็บไว้ชมได้หลายภาพอยู่ครับ ณ ที่แห่งนี้ " เขาหล่น " นครนายก

                     หลงถ่ายรูปที่เขาหล่นจนเพลินจนเกือบเลยแพลนอีกสถานที่หนึ่งเลย.... สถานที่ต่อไปสถานที่ท้ายสุดของวันนี้ต้องรีบไปก่อนจะสิ้นแสง สถานที่นี้ เป็นอ่างเก็บน้ำเล็กๆครับ  คนไปน้อยไม่เยอะเท่ากับเขื่อนขุนด่าน ความสวยก็พอได้ ถ้าใครชอบแนวโล่งๆกว้างๆ ลมเย็นๆ มีกลิ่นไอของน้ำจากเขื่อนที่ถูกลมพัดถึนมา แนะนำที่นี่ครับผม  " อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ "

            เป็นสถานที่ชิวๆ สถานที่หนึ่ง ที่มีแดดอ่อนๆยามเย็นสาดแสงมา แต่ไม่ร้อน อากาศเย็นๆไม่ถึงกับหนาว มีลมพัดเบาๆมาเรื่อยๆ รับรองชิวมาก ถ่ายรูปจนลืมเก็บบรรยากาศพระอาทิตย์ตกกันเลยทีเดียว ต้องมาสัมผัสครับ อธิบายไม่เห็นภาพแน่ๆ













ช่วงซัก 4 - 5 โมงเย็นนี้โครตเด็ดเลยครับแสงพอดีอากาศเริ่มเย็นๆมีลมหน่อยๆ ชิวมากจนบรรยายไม่ถูกครับ




             หลังจากถ่ายจนไม่มีแสงที่จะพอถ่ายรูปได้ ก็นั่งรับลมไปเรื่อยๆจนสิ้นแสง ก่อนที่จะรีบกลับมาที่พักเพื่อไปนอนเก็บแรงไว้ลุยต่อในวันรุ่งขึ้นครับ 
             ยอมรับว่ายังไม่เต็มอิ่มกับบรรยากาศอ่างเก็บน้ำ คิดว่าช่วงเช้าคงแวะมาเก็บแสงยามเช้าและนั่งชิวๆก่อนไปสถานที่อื่นๆครับ  ติดใจ!!!

             พอมาตอนเช้าแอบผิดหวัง...  เพราะว่า ลมแรงมากกกกกกกก  แรงจนถึงที่สุด ลมแรงจนหนาว แรงจนใช้ขาตั้งกล้องตั้งกล้องไว้ยังมีอาการสั่น  แบบผมกระจุยครับงานนี้











              ช่วงเช้ารีบไปอ่างเก็บน้ำห้วยปรือแต่เช้า แต่แอบผิดหวังมากครับ เพราะลมแรง แรงมาก แรงจนไม่ได้รูปเลย รีบกลับที่พักเพื่อไปเช็คเอ้าท์ไปเก็บภาพที่ทุ่งบัวแดงดีกว่าครับ
             ระหว่างทางกลับที่พักแอบเห็นที่ที่โล่งๆ เป็นทุ่งสีเขียวๆ จอดเก็บภาพซักหน่อย เผื่อมันจะโอเครเพื่อไม่ให้เสียเที่ยวที่ขับรถมาอ่างเก็บน้ำห้วยปรือเมื่อช่วงเช้านี้

         ระหว่างทางกลับไปที่พัก สองข้างทางจะเขียวขจีไปด้วยต้นข้าวและต้นหน้า   อากาศหนะร๋อ เย็นๆสบาย สูดหายใจได้ไอเย็นที่สดชื่นเข้าเต็มปอดเลยที่เดียวเชียว






แดดอ่อนๆสาดส่องมากระทบพื้นหญ้ากับทุ่งข้าวบวกกับอากาศที่เย็นนิดๆไม่ถึงกับหนาว ฟินสุดๆครับ อากาศแบบนี้



 
            รีบเก็บภาพแล้วรีบกลับที่พักโดยด่วน!!!   เก็บข้าวของด้วยความรวดเร็ว  เพราะต้องรีบไปเก็บภาพบัวบานที่
ทุ่งบัวแดง เพราะเคยอ่านเจอว่าบัวแดงนั้นจะบานแค่ช่วงเช้าๆ ซัก 7-8 โมง และ 9-10 โมง บัวจะเริ่มหุบ  ถ้าไปไม่ทันต้องรอในวันใหม่           มาถึงทุ่งบัวแดงช่วงเวลาประมาณ 9 โมงกว่า บัวแดงเริ่มทะยอยหุบลงแต่ยังไม่มาก  ภาพรวมๆยังสวยอยู่ ถ้ามาช้ากว่านี้เสียดายแน่นอนครับ   ถ้าใครจะมา กะเวลาดีๆนะครับไม่งั้น   ได้มาถ่ายที่ทุ่งบัวหุบแน่ๆ







               ทุ่งบัวแดงนี้จะอยู่ติดถนนเลยนะครับสังเกตุง่ายมาก  และในทุ่งบัวแดงนี้จะมีเรือเทียบท่าอยู่ 2 จุด สามารถลงไปนั่งเก็บบรรยากาศได้ด้วยครับ จุดแรกจะอยู่ด้านหน้าของบึงบัว  จุดที่ 2 เรือจะจอดเทียบอยู่หลังบึงบัวครับ   ในบึงจะมีสะพานไม้ไผ่ยื่นออกไปในน้ำ ให้ไปนั่ง ยืน นอน ได้ตามใจเลยครับผม






               กว่าจะชมทุ่งบัวแดงบันทึกความทรงจำดีๆเสร็จ บัวก็เกือบหุบหมดแล้ว และต่อไปก็จะเป็นสถานที่ท้ายสุดของทริปนี้ครับ นั้นก็คือ  " ฟาร์มเมล่อน "  งั้นรีบไปกันเลยครับ
              " ฟาร์มเมล่อน "  จะอยู่ไกลหน่อยจากตัวจังหวัดนครนายกครับเยื้องๆออกไปทางสระบุรี                  ฟาร์มเมล่อนนี้เป็นฟาร์มเล็กๆครับ น่าจะธุรกิจครอบครัว ที่นี่ไม่ได้ปลูกเฉพาะเมล่อนอย่างเดียวนะครับ
เท่าที่ดูๆมาก็มี เมล่อน, ฟักทองญี่ปุ่น, แตงกวาญี่ปุ่นครับ แต่ละชนิดก็แยกไว้แต่ละโรงเรือนครับ  สามารถเข้าไปชมข้างในได้ครับ แต่จะได้เป็นบางโรงเรือนเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ลองสอบถามเจ้าของสถานที่ดูครับผมมม













           ในฟาร์มจะมีทางเดินเชื่อมมายังร้านค้าของฟาร์ม ซึ่งจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ได้จากในฟาร์มนี้ครับ








            ระหว่างทางเดินมีเครืออัญชัญขึ้นสวยงามตามแนวทางเดิน  และผลิตภัณฑ์ที่นี่เขามีแบบแปลรูปไว้หลายอย่างด้วยนะครับไม่ว่าจะเป็น ไอศครีมเมล่อน เต้าหู้เมล่อนนมสด สาคูเมล่อน ยำและตำเมล่อน   ไอศครีมกับตำเมล่อนอร่อยมากกกครับ  ต้องลอง

               หลังจากกินจนอิ่มก็เดินทางกลับ กทม ด้วยความฟินเต็มอิ่มพร้อมจะกลับไปลุยกับงานในวันข้างหน้า
ทริปเล็กๆทริปนี้ได้มาสัมผัสกับอากาศเย็นๆไม่ถึงกับหนาว ก็ถือว่าคุ้มมากกับระยะทางที่ไม่ไกลจาก กทม.มาก หวังว่ารีวิวครั้งนี้พอจะเป็นแนวทางของใครหลายๆคนที่จะมาเยือน ณ ที่ แห่งนี้ ที่ที่ไม่ไกลจาก กทม. ไม่มากก็น้อย 

              ขอบคุณมากครับที่ทนชมจนจบรีวิว   See u . . .