<เที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า> น่านฤดูฝน สะปัน อ. บ่อเกลือ, ดอยสกาด อ.ปัว

                สวัสดีฤดูฝน ฤดูสีเขียว หน้าฝนเป็นช่วงที่เราชอบออกไปเที่ยวมาก เพราะชอบที่ต้นไม้เขียวอิ่มน้ำ ชอบหมอกหน้าฝน ชอบคนน้อย ๆ อาจจะเจอฝนบ้างท้องฟ้าอาจปิดบ้างก็ถือว่าวัดดวงกันไป ทริปนี้ ไป 3 วัน 2 คืน (22-24 ก.ค.61) ไปเครื่องบิน เช่ารถยนต์ที่สนามบินขับเที่ยวเอง แพลนเดิมคร่าว ๆ วันแรก เที่ยวเมืองในเมือง ถนนคนเดิน พักในเมือง วันที่สอง เที่ยว ท่าวังผา ปัว พักสกาดดีโฮมสเตย์ แต่เมื่อใกล้วันเดินทางทางเพจจังหวัดน่านได้แจ้งการปิดถนนคนเดินในช่วงสัปดาห์นี้ เพราะพายุเข้า อาจมีฝนตกหนัก เราจึงตัดสินใจเปลี่ยนแพลนวันแรกไปบ่อเกลือ โทรจองที่พัก “สายหมอก บอกฮัก บ้านสะปัน” อ.บ่อเกลือ โชคดีที่พักว่าง พี่เจ้าของให้ใช้เส้นทางสันติสุข-บ่อเกลือ เพราะเส้นดอยภูคา-บ่อเกลือมีดินสไลด์

                เส้นทางสันติสุข-บ่อเกลือ สวยมาก ปกติไปแต่เส้นดอยภูคา เพราะคิดว่าใกล้กว่า แต่จริง ๆ ก็ไม่ต่างกันมาก โดยส่วนตัวคิดว่าเส้นสันติสุขถนนกว้างกว่า ขับง่ายกว่า วิวสวย ๆ เยอะกว่าด้วย แต่บางคนก็ชอบเส้นทางดอยภูคา เพราะแวะเที่ยวปัวก่อน และยังผ่านถนนลอยฟ้าดอยภูคา ถ้ามุ่งตรงไปบ่อเกลือเลยแนะนำเส้นสันติสุขนี่แหละ มีถนนลอยฟ้าเช่นกัน

 

 

           “สายหมอก บอกฮัก บ้านสะปัน” จะเลยบ่อเกลือไปทางอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จะมีทางแยกเข้าหมู่บ้านสะปัน เส้นทางเดียวกับไปอุ่นไอมาง แต่เลยอุ่นไอมางเลี้ยวซ้ายไปตามสะพาน และขึ้นเนินไปอีกนิดหน่อยก็ถึงแล้วค่ะ สองที่นี้เดินเล่นถึงกันได้

             เนื่องจากที่พักอยู่ที่สูงจึงทำให้เห็นวิวได้กว้าง สวยงาม ที่พักมี 3 แบบ เป็นห้องน้ำรวม ไม่มีแอร์ เพราะอากาศเย็นสบาย

1.กระโจมมีระเบียงชมดาว 1,500-2,200 บาท

2. กระโจมไม่มีระเบียง 1,100-1,800 บาท

3. ห้องไม้ไผ่สำหรับเด็ก และผู้สูงอายุ 1,200-1,900 บาท

            เราเลือกพักกระโจมไม่มีระเบียง ราคาช่วง low season 1,100 บาท/คืน/2คน/รวมอาหารเช้า  อาหารเย็นเราสั่งกับทางที่พัก ราคาไม่แพง รสชาติใช้ได้ บ้านพักกระโจมเปิดหน้าต่างก็เห็นวิวเต็ม ๆ แล้ว ตอนเช้าเราเดินขึ้นไปด้านบนเพื่อเก็บภาพวิวได้กว้างขึ้น เสียดายไม่ได้นำเลนส์มุมกว้างไปถ่าย ที่เที่ยวในหมู่บ้านสะปัน ก็มีน้ำตกสะปัน สะพานแขวน ซึ่งรอบนี้เราไปถึงก็ค่ำแล้ว เคยไปรอบก่อนแล้วจึงไม่ได้ไปอีก ช่วงเช้าขอนอนดูวิวดีกว่า

           ห้องพักแบบกระโจมต้องเดินขึ้นบันได อาจไม่เหมาะกับเด็ก และผู้สูงอายุ อาจมีแมลงบ้างตามธรรมชาติของหน้าฝน กระโจมมีชั้นตาข่ายอีกชั้นกันแมลงได้ ตอนนอนปิดไฟหมดแมลงก็ไม่ค่อยมีแล้ว ที่นอนสะอาด นอนอุ่น ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมทั้งหมด สะอาด มีทั้งด้านล่าง และด้านบน ที่พักไม่ได้สะดวกสบายมาก แต่ก็ไม่ได้ลำบากมาก แต่วิวสวยมาก ๆ ค่ะ

ลิงก์เพจที่พัก https://www.facebook.com/saimokLoveyou/?ref=br_tf

 

          หลังจากเช็คเอาท์ เราไปเที่ยวบ่อเกลือสินเธาว์โบราณกันต่อ เกลือภูเขาแห่งเดียวในโลก เราไปทันช่วงยังต้มเกลืออยู่ แต่ช่วงนี้จะเข้าพรรษางดต้มเกลือนะคะ ใครไปช่วงนี้คงไม่ได้เห็น กลับมาต้มเกลืออีกทีหลังออกพรรษาไปแล้ว

           

          จากนั้นเราไปต่อที่ พระตำหนักภูฟ้า และศูนย์ภูฟ้าพัฒนา ตั้งอยู่บ้านผาสุข ต.ภูฟ้า อ.บ่อเกลือ จ.น่าน

          สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ. 2538 และโปรดเกล้า ฯ ให้ทำโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน อีกทั้งได้เสด็จมาทางติดตามงานโครงการ และทรงเยี่ยมราษฎรเป็นประจำทุกปี โปรดเกล้าฯ ให้ทำโครงการศูนย์ภูฟ้าพัฒนา กรมการผังเมืองจึงสร้างอาคารนี้ถวายชื่อ “พระตำหนักภูฟ้า”

         ภายในศูนย์ภูฟ้าพัฒนา มีร้านกาแฟ รสชาติอร่อย หากใครสนใจพักค้างคืน ก็มีห้องพักไว้บริการ

           แล้วเราก็มุ่งหน้าไปยังอำเภอปัว เพื่อไปยังดอยสกาด โดยใช้เส้นทางบ่อเกลือ-สันติสุข เช่นเดิม ตรงไปตามป้ายมาถึงอำเภอปัว แวะพักดูชุด เสื้อผ้าพื้นเมืองที่ร้านลำดวนผ้าทอ

 

                 ประมาณสี่โมงเย็นเราก็เดินทางไปดอยสกาดกันต่อ โดยใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปทางอำเภอทุ่งช้าง ตาม google maps สังเกตขวามือ เมื่อถึง อบต.สถาน อ.ปัว จ.น่าน เลี้ยวขวาไปตามแยกตรงไป แล้วจะถึงทางแยกซ้ายไปยังดอยสกาด จากจุดนี้จะเป็นเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขาประมาณ 13 กม. ลัดเลาะมาเรื่อย ๆ จนถึงหมู่บ้านสังเกตป้ายดี ๆ มีป้ายบอกทางของสกาดดีโฮมสเตย์ หากตาม google maps จะพาไปแยกขวาด้านบน จะไม่มีทางรถลงไปได้ แต่เดินใกล้กว่า ให้ไปแยกซ้ายตามป้าย รพ.สต. เข้าไปใน รพ.สต.แล้วขับขึ้นไปด้านบนอีก ทางขึ้นชันมาก ช่วงหน้าฝนระวังลื่น  หากไม่ชำนาญขออนุญาตจอดรถที่ รพ.สต. แล้วเดินขึ้นไปต่อ (ไม่แน่ใจจอดได้ไหม ต้องขออนุญาตก่อน)

             

                    "สกาดดีโฮมสเตย์" ต.สกาด อ.ปัว จ.น่าน  ที่พักวิวสวย พี่ชัยยินดิ์เจ้าของที่พักลาออกจากงานประจำ มาปลูกบ้านบนที่ดินของตัวเอง และทำเป็นโฮมสเตย์ ดูแลจัดการทุกอย่างเป็นหลัก โดยมีคุณแม่ช่วยรับแขกผู้มาเยือน และมีพนักงานต้อนรับสี่ขาน่ารัก ที่พักรับเพียงวันละ 1 กลุ่ม เท่านั้น จะมา 2 หรือ 10 ก็รับแค่กลุ่มที่จองก่อนกลุ่มเดียวเท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าพัก มีคนเข้าพักทุกวัน ด้วยจุดที่พักอยู่บนที่สูงสามารถมองวิวเบื้องหน้าได้ 180 องศา โดยไม่มีอะไรบดบัง วิวระเบียงหน้าที่พักเป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้คนอยากมาสัมผัส มาพักผ่อนเติมพลังให้ชีวิต อาหารอร่อยด้วยนะ คนทำตั้งใจทำ อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารท้องถิ่น รับประทานง่าย มะแขว่นเป็นเครื่องเทศประจำถิ่นที่มักนำมาปรุงอาหารให้ผู้เข้าพักรับประทาน มีกลิ่นที่เฉพาะ เป็นที่รู้จักทั่วไปในจังหวัดน่าน ที่นี่คือถิ่นมะแขว่น ดังคำขวัญ "ถิ่นมะแขว่น แดนหมอก ดอกเมี้ยง เสียงพิ"

 

พนักงานต้อนรับสี่ขา เจ้าตัวอ้วนสีดำชื่อ "มิกกี้" เจ้าตัวเล็กขนยุ่งชื่อ "กาโน่" น่ารักมาก ๆ

บรรยากาศยามเช้า วิวนอกหน้าต่าง

        นอกจากที่พักหลักร้อยวิวหลักล้านอาหารอร่อยแล้ว ยังมีกิจกรรมดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นดริป จิบ กาแฟสด กลางไร่กาแฟ เดินป่าขึ้นเขาลงห้วยชมน้ำตกสูง ตกปลา กินนอนกลางป่า และกิจกรรมที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มคือการเดินเที่ยวในชุมชนดอยสกาด โดยมีไกด์น้องนักเรียนพาไป การเที่ยวชุมชนทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิตของคนที่นี่

             วันนี้เราโชคดีมากที่เรามาในช่วงที่จัดประเพณีประจำปีของชาวลัวะ ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของดอยสกาด ประเพณีพิธีโสลด หรือ ตีพิ "พิ" เป็นไม้ไผ่ขนาดต่างกัน 3 ขนาด (ได้ 3 เสียง) มาเจาะรูสอดไม้ไผ่ ตีให้เกิดเสียงเป็นจังหวะ แต่ละคนถือพิ ไม้ไผ่ 3 กระบอกนี้ ตีให้เกิดเสียง เป็นจังหวะและโน๊ตตัวเดียวกันอย่างพร้อมเพรียง ประกอบกับการร่ายรำ โดยจะมีขบวนแห่ในหมู่บ้าน และหยุดเพื่อตีพิจุดใดจุดหนึ่ง เป็นประเพณีที่ทำสืบต่อกันมานาน เพื่อบวงสรวงผีสางเทวดาในช่วงฤดูเพาะปลูก การตีพิพร้อมกันหลายคน หลายตัว โดยจังหวะเดียวกัน เสียงกังวานจากไม้ไผ่ก็เกิดเป็นทำนองที่ไพเราะได้เช่นกัน ประเพณีมีที่ดอยสกาดแห่งนี้ที่เดียว 

                                                "ถิ่นมะแขว่น แดนหมอก ดอกเมี้ยง เสียงพิ"

เด็กน้อยมายืนออรอดูขบวนพิในช่วงพักกลางวัน

ร้านก๋วยเตี๋ยววิวหลักล้านในหมู่บ้าน

               

 

               นอกจากมีประเพณีที่เป็นอัตลักษณ์แล้ว การปลูกบ้านจนกลายเป็นชุมชนก็ยังแปลก และเท่มาก โดยสร้างไล่ระดับตามเชิงเขา เป็นเสน่ห์ของดอยสกาดแห่งนี้

           เราใช้เวลาเดินเล่นกันเกือบ 3 ชั่วโมง ต้องลากันแล้วนะ ขอบคุณน้อง ๆ ขอบคุณพี่ชัยยินดิ์ และคุณแม่ที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี มีโอกาสจะมาพักอีกนะคะ

                ที่พักพร้อมอาหารเย็น/เช้า กาแฟสดดริฟ ขนมและผลไม้ตามฤดูกาล และทริปท่องเที่ยวชุมชน  * รับวันกลุ่มเท่านั้น ไม่ซ้อนกลุ่ม เพื่อความเป็นส่วนตัว รายละเอียดโฮมสเตย์ตามลิงก์นี้เลยค่ะ

https://www.facebook.com/Skaddee-homestay-%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AE%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C-470540733150783/

เป็นอีกทริปที่ประทับใจมาก มีโอกาสต้องกลับมาอีกแน่นอน น่านไปกี่ครั้งก็ยังไม่เคยเบื่อ ยังมีอีกหลายสถานที่น่าไปเที่ยว และมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ และเป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นของจังหวัดน่าน แล้วพบกันใหม่ค่ะ

 

 

สรุปค่าใช้จ่าย เดินทาง 2 คน

  • ตั๋วเครื่องบน ไปกลับ คนละ            1,500 บาท
  • ค่าเช่ารถเก่ง (่1500 cc) 2 วัน         1,650 บาท
  • ที่พัก สายหมอกบอกฮัก สะปัน        1,100 บาท
  • ค่าอาหารเย็นสายหมอกบอกฮัก          530 บาท
  • เครื่องดื่มค่าอาหารกลางวัน ภูฟ้า         200 บาท
  • ค่าที่พักสกาดดีโฮมสเตย์คนละ         1,000 บาท
  • ทริปน้อง,ก๋วยเตี๋ยว                           270 บาท
  • ค่าน้ำมัน                                        630 บาท
  • อื่นชากาแฟ                                    120 บาท

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคร่าว ๆ ประมาณ 4750 บาท/คน

 

เพจเจ้าของกระทู้สอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ

เที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า https://www.facebook.com/talk2travels/

 

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ