ค้นหาและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวในไทย ลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
 
"น้ำตกสายรุ้งละอองดาว" | น้ำตกใหญ่ในป่าใต้ น้ำตกสายรุ้งละอองดาว จ.ระนอง
    • โพสต์-1
    Namee •  กันยายน 11 , 2563

    น้ำตกใหญ่แห่งขุนเขาป่าใต้

    "น้ำตกสายรุ้งละอองดาว" | น้ำตกใหญ่ในป่าใต้
    [21-23 ธันวาคม 2561]
    แบกเป้เข้าป่าออกตามหาน้ำตกใหญ่ในป่าใต้ ถือเป็นการเดินป่าผจญภัยแบบครบรส
    มีทั้งเดินป่า ลุยน้ำ ลุยดงทาก แช่น้ำตก นอนเปล
    #รีวิวช้าไปหน่อย #บันทึกไว้ในความทรงจำ

     

    "น้ำตกสายรุ้งละอองดาว"

     

    ::พิกัด::
    "น้ำตกสายรุ้งละอองดาว" ตั้งอยู่ในตำบลบ้านนา อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง น้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกแห่งดินแดนแทบป่าใต้ น้ำตกแห่งนี้อยู่ในเขตป่าสงวน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา

     

    ::การเดินป่าทริปนี้ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน:: 
    Day 1 : เดินเท้าเข้าป่าไปยังจุดตั้งแค้มป์ (เวลาที่เหลือของวันนี้จะได้ชิลๆ พักผ่อน พักขาเพื่อเตรียมความพร้อม)
    Day 2 : เดินเท้าลุยน้ำ เลาะขอบหิน เดินข้ามลำธาร เดินเข้าป่ามาทั้งปีนและไต่ ทำเอาเหงื่อตกกว่าจะถึงเป้าหมาย 
    Day 3 : เดินเท้ากลับจร้า มาทางไหนกลับทางนั้น  

    ปล. หากไปทริปแบบ 2 วัน 1 คืน ก็จะเหนื่อยหนักหน่อยอาจจะโหดไปสำหรับใครหลายๆ คน เพราะถ้าไปช่วงหน้าฝนน้ำเยอะแค่เดินเท้าวันแรกก็เหนื่อยหนักแล้ว กว่าจะไปจุดตั้งแค้มป์ก็ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงกว่าแล้ว บางกลุ่มใช้เวลานานกว่านั้นไปอีก และจากจุดพักแรมไปยังน้ำตกก็ 2 ชั่วโมงกว่า ไหนจะต้องเผื่อเวลาเดินกลับมาอีก จะทำให้มีเวลาน้อยนิดกับการได้ชมวิวน้ำตก เพราะเวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการเดินเท้าล้วนๆ เลย
     

    ::เส้นทางการเดินป่า::
    >> จุดเริ่มต้นเดินเท้า : จากฝายชะลอน้ำคลองแพรกขวา
    >> ลักษณะการเดิน : เดินเข้าป่า เดินลุยน้ำข้ามลำธาร เดินเลาะชายเขา เดินขึ้นเขาทางชัน เจอหมดครบทุกรูปแบบ
    >> ลักษณะเส้นทาง : มีทั้งพื้นที่ราบเป็นหินซะส่วนใหญ่ (ควรระวังหินที่มีตะไคร่น้ำซึ่งมีเยอะ) ส่วนทางชันเส้นเดินเลาะเขาก็จะเป็นพื้นดิน สภาพป่าใต้เป็นป่าดิบชื้น เส้นเดินเท้าก็จะเละๆ หน่อย
    >> ช่วงฤดูแห่งการท่องเที่ยว : ถ้าอยากเจอช่วงน้ำตกฟูแบบเต็มที่ ให้เที่ยวช่วงเดือน กรกฎาคม - ตุลาคม แต่การเดินทางไปยังเป้าหมายก็จะลำบากและโหดหน่อยเพราะน้ำเยอะ ถ้าไปช่วงปลายปีก็ตามที่เห็นในรูปเลยความโหดก็จะลดลงมาหน่อย
    >> ระยะเวลาในการเดิน : ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง ไปยังจุดพักแรม และเดินเท้าไปยังน้ำตก ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า (ระยะเวลาการเดินขึ้นอยู่กับฝีเท้าของแต่ละคน แต่ละกลุ่ม)
     


    ::การเตรียมตัว::
    1. ต้องมีใจก่อนเลย มีใจรักในการเดินป่า รักความเหนื่อยล้า รักการใช้ชีวิตแบบง่ายๆ ที่ไม่มีอะไรอำนวยความสะดวกเลย (ไม่ใช่เห็นแค่เพียงจากภาพถ่ายแล้วสวยจึงอยากไปบ้าง) 
    2. ต้องมีขาและสุขภาพที่แข็งแรง ขยันออกกำลังกายเวลาเดินจะไม่ได้เหนื่อยหนักมาก (บางคนใจพร้อมแต่กายไม่พร้อมไม่ควรนะ ไม่งั้นทีมสตาฟจะต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็นแน่)
    3. ต้องมีอุปกรณ์ในการเดินป่าที่พร้อม เลือกอุปกรณ์ที่เหมาะและซับพอร์ตกับร่างกายของเรา ไม่ว่าเรื่องเป้เดินป่า รองเท้า เสื้อผ้า และอื่นๆ ทุกอย่างถือเป็นเรื่องสำคัญนะ

     

    ปล. สิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับคนกลัวทาก เตรียมอุปกรณ์กันทากไปให้พร้อม ที่นี่ทากดุมากมีอยู่ทั้งในลำธาร ในป่า มีอยู่ทุกจุดรอบๆ ตัวเรา  555++ ก็แค่โดนกัดไป 4 ตัว แบบไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง

     

    ::อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมไป::
    - ถุงกันน้ำ (ห่อเสื้อผ้าใส่ถุงพลาสติกก่อนใส่ในกระเป๋าเป้)
    - ถุงกันทาก (ทากดุมีตลอดทั้งปีเพราะเป็นป่าดิบชื้น)
    - ไฟฉาย (แบบคาดหัวสะดวกสุด)
    - เปลนอน + ฟรายชีท + กราวชีท (ไม่มีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์เท่าไร)
    - ชุดลำลอง (ไม่ต้องนำมาเยอะใส่ซ้ำๆ เอา)
    - รองเท้าเดินป่า (แนะนำสตั๊ดดอย)
    - ยาสามัญประจำตัว
    - ถุงทะเล (ไว้ใส่ของที่จำเป็นและสำคัญๆ)

     

     

    >> นักเดินป่าส่วนใหญ่ต้องแบกสัมภาระส่วนตัวกันเอง ถ้าใครไม่ไหวจริงๆ ก็จ้างสตาฟช่วยแบกได้อยู่นะ แต่ต้องสอบถามรายละเอียดก่อนไปนะเพราะบ้างทีก็ไม่รับจ้างแบก และบางที่ไม่มีสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวกใดๆ เลยไม่มีลำธารใดๆ ทั้งสิ้น แต่ที่นี่ดีหน่อยมีลำธารที่ใช้ในการอาบและดื่มไม่ต้องแบกน้ำให้หนัก 

    ก็เหนื่อยอยู่นะ แต่เรากับมีความสุข

     

    >> บริเวณจุดตั้งแค้มป์ ซึ่งจะอยู่ติดกับริมลำธาร ที่นี่มีน้ำให้อาบทุกวันนะคะ ส่วนน้ำกินไม่ต้องพกน้ำมาเยอะพกแค่ตัวกรองน้ำมาก็พอ เอามากรองน้ำในลำธารกิน หรือไม่ก็เอาน้ำจากลำธารมาไปต้มไว้กินได้เช่นกันค่ะ หรือถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องสุขอนามัยมากก็กินน้ำลำธารโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการใดๆ เลยก็ได้เช่นกันค่ะ

    • โพสต์-2
    Namee •  กันยายน 11 , 2563

    พิชิตน้ำตกสายรุ้งละอองดาว

    วันที่ 2 

    >> ด้วยเวลาที่มีอย่างเพียงพอพวกเราเริ่มออกเดินเท้ากันเกือบ 9 โมง จากจุดตั้งแค้มป์ไปยังน้ำตกก็ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า วันนี้ก็อาจจะเดินสบายกว่าวันแรกหน่อยเพราะเราไม่ต้องแบกสัมภาระใด นอกจากตัวเราเอง กล้องถ่ายรูป และก็มื้อกลางวันเท่านั้น 

    >> ส่วนการเดินเท้าจากจุดตั้งแค้มป์ไปน้ำตกจะว่าเดินสบายๆ มันก็ไม่ใช่อะเนอะ เพราะต้องเดินเลาะลำธาร ปีนโขดหิน เดินลุยน้ำข้ามลำธาร เดินเข้าป่าไต่ระดับความสูงของเขาขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วก็ไต่เขาลงมา กว่าจะเจอน้ำตกเล่นเอาเหนื่อยกันเลยจร้า ก็ถือว่าโหดระดับหนึ่งแต่ไม่มาก

     

    #ให้ภาพเล่าเรื่อง

     

    >> เสียงน้ำตกที่ได้ยินระหว่างที่เดินอยู่ในป่านั้น ทำให้พวกเรากระชุ่มกระชวยกันมากถึงแม้จะเหนื่อย แต่เดินเท่าไรก็ยังไม่เจอน้ำตกซะทีได้ยินแต่เสียง โค้งสุดท้ายบอกเลยเล่นเอาเหนื่อย แต่พอได้เห็นน้ำตกก็คุ้มค่าเหนื่อยเลย ถึงแม้จะเป็นช่วงปลายปีแต่น้ำตกก็ยังมีให้เห็นกันอยู่ ถึงแม้จะไม่ฟูและเยอะสู้ช่วงหน้าฝนไม่ได้ก็ตาม

     

    >> ที่นี่คือจุดชมวิว จุดพักผ่อน จุดพักกินข้าวกลางวัน เป็นจุดสันทนาการของทุกคน

    หนึ่งในทีมสตาฟของพวกเรา

     

    ทีมที่ทำให้รู้ว่าอายุมันก็เป็นแค่เพียงตัวเลข

     

    และนี่คือเราที่แอบหลงรักเขามาตลอด

     

    >> ลำธารนี้คือจุดผ่านที่ต้องเดินข้ามเพื่อเดินเข้าป่า ซึ่งเป็นการเดินเข้าป่าแบบไล่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ หลังจากที่ได้พิชิตน้ำตกกันมาแล้ว ประมาณ 3 โมงกว่าๆ ได้มั้งที่พวกเราเดินกลับลงมาจากเขาและมีเวลาได้นั่งเล่นน้ำกันต่อตรงลำธารนี้ พวกเราเดินเท้ากลับไปถึงจุดตั้งแค้มป์ ประมาณ 4 โมงกว่า ก็เล่นน้ำอาบน้ำกันต่อแถวที่ตั้งแค้มป์

     

    ::ค่าใช้จ่ายตลอดทั้งทริป:: 
    - เที่ยวแบบจอยทริป 3,900 บาท  (ถ้าจำไม่ผิดนะนานจัดจนลืม) ไม่รวมพวกของใช้ส่วนตัวนะจ๊ะ

     

    By : Namee Be Bear

    #เที่ยวให้มีความสุขและสนุกกับสิ่งที่ทำ

    ขออภัยหากมีข้อมูลส่วนใดผิดพลาดไป
    Fanpage : www.facebook.com/KanXengStudio